IC markets ดีไหม และเหมาะสำหรับการเทรดในไทยหรือไม่

ค่าธรรมเนียมของ IC Markets

ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเทรดเดอร์ทุกคนคือ ค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ นั่นเพราะค่าใช้จ่ายสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างง่ายดาย หากคุณไม่ติดตามการซื้อขายของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ ผมจึงทำการทดสอบอย่างครอบคลุมเพื่อดูและเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของ IC Markets

ก่อนอื่น ผมขออธิบายก่อนว่าโบรกเกอร์ IC Markets มีบัญชีสองประเภท ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่คน แต่ละประเภทมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของบัญชี Standard และ Raw:

• บัญชี Standard มาพร้อมกับสเปรดแคบเริ่มต้นที่ 0.8 pip โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน
• บัญชี Raw มาพร้อมกับสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip บวกค่าคอมมิชชัน
  • บัญชี MT4/MT5 RAW มีค่าคอมมิชชัน $3.5 ต่อล็อต ต่อฝั่ง
  • บัญชี cTrader/TradingView RAW มีค่าคอมมิชชัน $3.0 ต่อ $ 100,000

เพื่อดูความสามารถในการแข่งขัน ผมได้ทดสอบทั้งสองบัญชีและเปรียบเทียบสเปรดของพวกเขากับโบรกเกอร์รายอื่นในอุตสาหกรรม

สเปรดบัญชี Standard

IC Markets อ้างว่าบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชันของพวกเขามีสเปรดที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม และนี่คือผลการทดสอบจากผม

ก่อนอื่น หากเราดูที่สเปรดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ IC Markets สเปรดสำหรับ EUR/USD จะอยู่ที่ 0.62 pips และคู่สกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น USD/JPY, GBP/USD, AUD/USD และ USD/CAD ทั้งหมดมีสเปรดต่ำกว่า 1.0 pips ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมากสำหรับประเภทบัญชีนี้

เมื่อเปรียบเทียบกับผลลัพธ์จริงของผม คุณจะเห็นว่าสเปรดซึ่งถูกเผยแพร่กับผมทดสอบไม่แตกต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จริงของผมทั้งหมดก็ยังพบว่าสเปรดจริงสูงกว่าที่เผยแพร่อยู่ แต่ถ้าคุณมองภาพรวม จะเห็นว่าสเปรดของโบรกเกอร์นี้ ยังมีค่าต่ำอยู่ในสามคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, USD/CAD และ USD/JPY

ผมได้สร้างตารางนี้เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ผมพูดถึงอะไร จากตารางนี้ คุณจะเห็นว่า IC Markets เป็นผู้นำอุตสาหกรรม เนื่องจากมีสเปรดที่ต่ำสุดสำหรับสามคู่สกุลเงินหลัก สำหรับ EUR/USD สเปรดของโบรกเกอร์อยู่ที่เพียง 0.73 pips – ต่ำกว่าของ Admiral Markets ที่ 0.74 pips

รูปแบบเดียวกันนี้สามารถถูกสังเกตได้ใน USD/CAD และ USD/JPY ซึ่งโบรกเกอร์เสนอสเปรดที่ 1.0 pips และ 1.09 pips ตามลำดับ จึงสรุปได้โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่า IC Markets มีสเปรดที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับบัญชี Standard

สเปรดบัญชี Raw

เมื่อทำการเทรดเป็นปริมาณมาก คุณจะต้องการให้สเปรดต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (หรือไม่มีเลย) เนื่องจากความแตกต่างเล็กน้อยของค่าสเปรดก็สามารถนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายที่มากขึ้นได้ ในการทดสอบนี้จะเห็นว่า แม้จะมีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมนอกเหนือจากสเปรด แต่บัญชี RAW spreads ยังมีการตั้งราคาได้ดีที่สุดอยู่

สเปรดที่ถูกเผยแพร่โดย IC Markets (จากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์)

จากการทดสอบสเปรดของบัญชี Raw ผมรู้สึกประทับใจที่เห็นว่าสเปรดสำหรับ EUR/USD อยู่ที่ 0.02 pips ถือว่าต่ำที่สุดในตลาด ส่วนคู่สกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น USD/JPY, GBP/USD และ AUD/USD มีสเปรดต่ำกว่า 1.0 pips

สเปรดจริงในบัญชี Raw ไม่ได้ต่ำเท่าที่มีการเผยแพร่ แต่ก็ใกล้เคียงกันมาก ตัวอย่างเช่น สำหรับ USD/JPY มีสเปรดอยู่ที่ 0.19 pip ซึ่งใกล้เคียงกับค่า 0.14 pips ที่ระบุไว้บนเว็บไซต์

ค่าคอมมิชชันบัญชี RAW

โบรกเกอร์นี้ยังเสนอค่าคอมมิชชันที่คุ้มค่าที่ $3.50ต่อล็อตที่ทำการเทรดด้วยบัญชี Raw ดังที่พบในโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ เช่น Pepperstone และ Eightcap

ใน cTrader และ TradingView ค่าคอมมิชชันจะถูกคิดต่อฝั่งสำหรับทุก ๆ การซื้อขาย ในอัตรา $3 USD ต่อ 100,000 USD (ค่าธรรมเนียมจะถูกแปลงเป็นค่าเงินสกุลพื้นฐานในแต่ละบัญชี) ซึ่งแตกต่างจาก MT4 ที่ใช้ค่าธรรมเนียมคงที่ต่อล็อต

บัญชีไร้ค่าสวอป

ผมได้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์เพื่อยืนยันว่าพวกเขามีบัญชีที่ไร้ค่าสวอปหรือไม่ หากคุณต้องทำการเทรด CFDs และปฏิบัติตามกฎหมายชะรีอะห์ โบรกเกอร์นี้มีบัญชีอิสลามที่ไม่มีค่าสวอปสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย

แทนที่จะเป็นอัตราสวอปตามดอกเบี้ย โบรกเกอร์กลับเลือกใช้ค่าธรรมเนียมการจัดการแบบอัตราคงที่เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการทางการเงินอิสลาม ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกเรียกเก็บตั้งแต่การซื้อขายข้ามคืนครั้งที่ 6 เป็นต้นไป สำหรับ EUR/USD ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ $3 และแตกต่างออกไปในคู่การซื้อขายแต่ละคู่ โดยตัวเลือกนี้มีให้สำหรับทั้งบัญชี Standard และ Raw รวมถึงแพลตฟอร์ม MetaTrader4, MetaTrader5 และ cTrader

นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการถือครองยังถูกเรียกเก็บทุกวันรวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งค่าธรรมเนียมในวันหยุดสุดสัปดาห์จะถูกเรียกเก็บในวันทำการถัดไป ส่วนตำแหน่งใหม่จะได้รับช่วงเวลาผ่อนผัน 5 วันก่อนที่การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจะเริ่มต้น

ข้อสรุปเรื่องค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ IC Markets

จากประสบการณ์ของผม โบรกเกอร์นี้ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในด้านค่าธรรมเนียมการเทรด โดยบัญชี Standard เสนอสเปรดซึ่งต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับคู่สกุลเงินหลักบางคู่ ขณะที่บัญชี Raw ยังมีความสามารถในการแข่งขันที่สูง มีค่าคอมมิชชันที่เท่ากับเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ $3.50 สิ่งที่ผมชอบที่สุดเกี่ยวกับ IC Markets คือ การที่บัญชีทั้งสองประเภทมีข้อเสนอที่ไม่น้อยหน้าใครเลย

ความเร็วในการดำเนินการ

IC Markets มีความเร็วในการดำเนินการที่พอใช้ได้ แตกต่างจากโบรกเกอร์ที่ดำเนินการซื้อขายเร็วที่สุดเพียง 60 หรือ 70 มิลลิวินาที ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมาก

จากการทดสอบของผม สำหรับคำสั่ง Limit โบรกเกอร์นี้ทำความเร็วได้ที่ 134 มิลลิวินาที ขณะที่คำสั่ง Market ทำความเร็วได้ที่ 153 มิลลิวินาที

ตารางผมการทดสอบของผม จะแสดงให้เห็นถึงความเร็วในการดำเนินการของโบรกเกอร์ชั้นนำทั้งหลาย คุณจะเห็นว่า BlackBull Markets และ Pepperstone เป็นผู้นำทั้งในคำสั่ง Limit และ Market ขณะที่ IC Markets อยู่ที่อันดับ 9 สำหรับคำสั่ง Limit และอันดับ 13 สำหรับคำสั่ง Market

ผมยังคงถือว่าผลลัพธ์นี้ค่อนข้างน่าประทับใจ เนื่องจาก IC Markets อยู่ที่อันดับ 10 โดยรวม ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายฟอเร็กซ์

เยี่ยมชม IC Markets

แพลตฟอร์มการเทรด

IC Markets เสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายยอดนิยม ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader และ TradingView ถือว่าหลากหลายกกว่าโบรกเกอร์อีกหลายแห่ง

การเข้าถึงแพลตฟอร์มทั้งหมดนี้ทำได้ผ่านโบรกเกอร์เดียวเป็นข้อได้เปรียบที่หาได้ยาก และเป็นสิ่งที่คุณจะชื่นชอบหากคุณให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นในการเทรด นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม:

• MetaTrader4 – หากคุณเป็นเทรดเดอร์ Forex มือใหม่ นี่คือแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับคุณ มันมาพร้อมกับเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่ตรงไปตรงมา แม้จะมีข้อจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกที่มีความก้าวหน้ามากกว่าเช่น MT5 และ cTrader
• MetaTrader5 – หากคุณทำการเทรดสินทรัพย์อื่นนอกเหนือจาก Forex คุณจะพบว่า MT5 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มันมาพร้อมกับเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่ทันสมัยกว่า MT4 พร้อมด้วยภาษาการเขียนโปรแกรมที่อัปเกรดเป็น MLQ5 แต่ก็ซับซ้อนมากขึ้นที่จะต้องปรับตัว
• cTrader – มีอินเตอร์เฟซที่ดีที่สุดในความเห็นของผม คุณจะสนุกกับการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น ‘cBots’ ซึ่งเป็นระบบการเทรดอัตโนมัติของ cTrader สำหรับประสบการณ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• TradingView – เครื่องมือสร้างกราฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งคุณสามารถเทรดได้ทุกอย่าง ตั้งแต่หุ้นไปจนถึง Forex ตอนนี้คุณสามารถรวมบัญชีโบรกเกอร์กับ TradingView ได้อย่างง่ายดาย รวมถึง IC Markets ด้วย

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ บัญชีทดลองฟรีสำหรับการเทรด ซึ่งคุณสามารถใช้ได้กับทุกประเภทบัญชี แพลตฟอร์ม และผลิตภัณฑ์ที่โบรกเกอร์รองรับ กระบวนการขอรับบัญชีทดลองนั้นง่ายมาก เพียงแค่คุณลงทะเบียนด้วยข้อมูลพื้นฐาน แล้วคุณจะได้รับรายละเอียดการเข้าสู่ระบบทางอีเมลทันที

MetaTrader4

หากคุณชื่อชอบการเทรด Forex การใช้งาน MetaTrader 4 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แพลตฟอร์มนี้มีกรอบเวลาต่างๆ ประเภทคำสั่ง และอินดิเคเตอร์ในตัวที่ยอดเยี่ยมและสามารถทำงานได้อย่างดี ผมขอแนะนำ MT4 หากคุณเพิ่งเริ่มต้นซื้อขาย เพราะผมพบว่ามันใช้งานง่าย และภาษาการเขียนโปรแกรม MLQ4 ก็เข้าใจง่าย และนี่คือฟีเจอร์ที่น่าสนใจบางประการ:

• MT4 มี Expert Advisors (EAs) จำนวน 20 ตัวที่คุณสามารถใช้เพื่อทำการเทรดอัตโนมัติได้
• สำหรับการใช้งาน MT4 คุณจะได้รับเลเวอเรจสูงถึง 1000:1 พร้อมกับตัวเลือกขนาดล็อตที่ยืดหยุ่นเริ่มต้นที่ 0.01 ล็อต (ไมโครล็อต) ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่มีทุนน้อย
• เซิร์ฟเวอร์ MetaTrader 4 ของ IC Markets Global ตั้งอยู่ที่ศูนย์ข้อมูล Equinix NY4 ในนิวยอร์ก เพื่อให้แน่ใจว่ามีการดำเนินการคำสั่งอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการราคา 25 ราย เพื่อรับประกันว่าคุณจะได้รับสเปรดซึ่งต่ำที่สุดในตลาด
• ไม่มีข้อจำกัดในการเทรดบน MT4 ของ IC Markets ทำให้คุณสามารถทำการเก็งกำไร ป้องกันความเสี่ยง และเทรดด้วยความถี่สูงในประเทศไทยได้
• ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ โบรกเกอร์ยังไม่รองรับสินทรัพย์บางประเภทอื่น เช่น CFDs โดยเฉพาะ CFDs หุ้น

MetaTrader5

สำหรับใครที่ชอบเวอร์ชันที่พัฒนาแล้วของ MT4 การใช้งาน MetaTrader 5 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดย MT5 มาพร้อมกับการประมวลผลแบบ 64 บิต ซึ่งสามารถรองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีการสร้างกราฟที่ดีกว่า เครื่องมือจัดการคำสั่ง การเพิ่มเครื่องมือ Depth of Market ได้ดีกว่า ช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของตลาดได้ดียิ่งขึ้น และนี่คือฟีเจอร์สำคัญบางอย่างของ MT5:

• ในขณะที่คุณถูกจำกัดไม่ให้เทรด CFDs บน MT4 แต่คุณสามารถทำการซื้อขายที่ว่านี้บน MT5 ได้ เนื่องจาก MT5 ถูกสร้างขึ้นสำหรับการเทรดทั้งในตลาดที่มีการรวมศูนย์และไม่มีการรวมศูนย์นั่นเอง
• หากคุณชอบความโปร่งใสของการเทรดของคุณ MT5 มีเครื่องมือ Depth of Market ซึ่งจะแสดงราคาจริงจากผู้ให้บริการสภาพคล่องแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมมองว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการระบุกลไกลของอุปสงค์และอุปทาน และการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากให้ข้อมูลปริมาณคำสั่งซื้อขายจริงในแต่ละระดับราคา
• เซิร์ฟเวอร์ MT5 ของ IC Markets ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูล Equinix NY4 ในนิวยอร์ก และด้วยฟีเจอร์การโฮสต์เสมือน (Forex VPS) คุณจะได้รับการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วเป็นพิเศษ ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น และความหน่วงต่ำที่สุดในคราวเดียว
• การทดสอดย้อนหลังทำได้ง่ายขึ้นมากด้วยฟีเจอร์ Strategy Tester ของ MT5 ผมสามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดกับคู่สกุลเงินหลายคู่ได้พร้อมกัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมเลย มันช่วยประหยัดเวลาได้มากจากวิธีการลองผิดลองถูกแบบเดิมๆ และให้ภาพรวมที่ชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการทำงานของกลยุทธ์ในตลาดต่างๆ
• นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อการติดตามเหตุการณ์ได้ดียิ่งขึ้น โดย MT4 ต้องใช้ add-on ผ่าน smart trader tools เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์นี้

cTrader

cTrader ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง ในด้านการออกแบบ อินเทอร์เฟสที่โฉบเฉี่ยวของมันเป็นสิ่งที่สดใหม่เมื่อเทียบกับสองแพลตฟอร์ม MetaTrader และในขณะที่การออกแบบของมันสร้างความประทับใจ cTrader ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ที่ทำการเก็งกำไรเนื่องจากมีการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วกว่าทั้ง MT4 และ MT5 นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง cTrader bots ซึ่งเป็นระบบเทรดอัตโนมัติที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และนี่คือฟีเจอร์อื่นๆ ของ cTrader:

• เซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ที่ศูนย์ข้อมูล LD5 IBX Equinix ในลอนดอน ซึ่งช่วยให้คุณมีการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว ลดความหน่วง และการเชื่อมต่อที่วางใจได้เมื่อใช้แพลตฟอร์ม
• cTrader บน IC Markets มาพร้อมกับเครื่องมือการเทรดขั้นสูง รวมถึงประเภทคำสั่งขั้นสูงและราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณ (VWAP) เพื่อลดความเสี่ยงในการเทรดและพัฒนาผลลัพธ์การเทรดให้ดีที่สุด
• หากคุณใช้ฟีเจอร์อย่าง Smart Stop Out logic ของ cTrader ผมพบว่าคุณจะได้รับการป้องกันการเทรดที่ดีกว่า เครื่องมือนี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไป พร้อมกับรักษาโพซิชั่นที่เปิดอยู่ของคุณให้มากที่สุด cTrader ใช้อัลกอริทึมขั้นสูงกว่าใน Smart Stop Out logic เมื่อเทียบกับวิธี stop-out อื่นๆ ช่วยป้องกันการปิดโพซิชั่นทั้งหมดของคุณเมื่อระดับมาร์จิ้นลดลงมากเกินไป
• cTrader เสนอการตั้งค่ากราฟแบบถอดได้และกรอบเวลาที่หลากหลาย ช่วยให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าของคุณได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถตั้งค่ากราฟล่วงหน้าเพื่อความสะดวกหรือถอดออกเพื่อสร้างพื้นที่ทำงานสำหรับหลายจอ ทำให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับความต้องการการเทรดของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ

TradingView

ตอนนี้คุณสามารถเชื่อมโยงบัญชี TradingView ของคุณกับ IC Markets ได้อย่างง่ายดาย หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญของการผสานรวมนี้คือ คุณสามารถเทรดได้โดยตรงบน TradingView และใช้ฟีเจอร์การสร้างกราฟขั้นสูง ซึ่งช่วยให้คุณใช้แพลตฟอร์มการสร้างกราฟที่คุณคุ้นเคยอยู่แล้ว นี่คือฟีเจอร์อื่นๆ ที่คุณจะสามารถเข้าถึงได้:

• คุณจะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ IC Markets ได้ รวมถึง Forex, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ฟิวเจอร์ส และอื่น ๆ
• หากคุณต้องการเริ่มต้นด้วยจำนวนเน้อย การเทรด micro-lot สามารถทำได้ และสามารถเทรดได้โดยไม่มีขีดจำกัดสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและขยับไปสู่การเทรดเต็มรูปแบบ
• สามารถทำการเทรดด้วยคลิกเดียวได้ ช่วยให้คุณวางคำสั่งเทรดได้โดยตรงโดยไม่ต้องออกจากหน้าจอ
• แน่นอนว่าคุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครอบคลุมของ TradingView: ประเภทกราฟมากกว่า 15 แบบ, เครื่องมือวาดกราฟกว่า 110 ชนิด, และอินดิเคเตอร์ที่สร้างไว้ล่วงหน้ากว่า 400 ชนิด TradingView มอบเครื่องมือทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อทำการตัดสินใจการเทรดอย่างมีข้อมูล และปรับแต่งกราฟของคุณได้อย่างที่ต้องการ
• อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าใน TradingView คุณจะต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่าง แต่แพลตฟอร์มนี้ก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แม้จะไม่ได้สมัครสมาชิก

เครื่องมือเทรดอื่นๆ

นอกเหนือจากแพลตฟอร์มการเทรดแล้ว IC Markets ยังมีเครื่องมือเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การเทรดของคุณ ตัวเลือกโซเชียลเทรดและการ copy trade รวมถึง ZuluTrade, Signal Start (ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ Myfxbook แต่ตอนนี้เป็นเครื่องมือที่มีสถานะของตัวเอง) และแอพการ copy trade ของโบรกเกอร์เอง (IC Social ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Pelican) เครื่องมือเหล่านี้ทำให้คุณสามารถติดตามและเลียนแบบกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

• Signal Start – ซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้คุณเข้าถึงบริการสัญญาณมืออาชีพกว่า 1,000 รายการ พร้อมตัวเลือกในการติดตามและทำให้สัญญาณทำงานอัตโนมัติผ่านบัญชี MT4 ของคุณ โดยแต่ละผู้ให้บริการจะเสนอหลากหลายกลยุทธ์ ตั้งแต่บอทเทรดอัลกอริธึมไปจนถึงวิธีการวิเคราะห์ราคาด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการเลือกกลยุทธ์ที่ตรงกับระดับความเสี่ยงและแนวทางการเทรดของคุณ แพลตฟอร์มนี้ยังมีการโฮสต์อย่างเต็มที่ ซึ่งรับประกันว่าบัญชีของคุณจะเชื่อมต่ออยู่เสมอ
• ZuluTrade – อีกหนึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลเทรดและการ copy trade ที่คุณสามารถเข้าถึงผ่านบัญชี IC Markets Global ของคุณคือ ZuluTrade คุณสามารถเลือกจากเทรดเดอร์กว่า 100,000 คนและคัดลอกสัญญาณของพวกเขาฟรี นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ZULU RANK ซึ่งจัดอันดับผู้ให้บริการตามประสิทธิภาพรวม ความเป็นมืออาชีพ ความเสถียร ความเสี่ยง และทุนขั้นต่ำที่ต้องการ – ทำให้กระบวนการการ copy trade ของคุณง่ายขึ้น
• IC Social (พัฒนาร่วมกับ Pelican Inc) – นี่คือแอพโซเชียลเทรดของ IC Markets เอง ข้อดีของแพลตฟอร์มนี้คือการรวมโซเชียลเทรดเข้ากับแอปได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ผู้ให้บริการจากภายนอก นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การส่งข้อความทันทีที่ช่วยให้คุณสามารถแชทและแลกเปลี่ยนความคิดกับเทรดเดอร์คนอื่น ๆ คุณสามารถโต้ตอบระหว่างโปรไฟล์ ดูผลตอบแทนรายเดือน ความสามารถในการทำกำไร และตลาดที่เทรด

ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มเทรดของ IC Markets

โบรกเกอร์ IC Markets มีแพลตฟอร์มยอดนิยม 4 ตัวพร้อมกับเครื่องมือโซเชียลเทรดที่แข็งแกร่ง แม้ว่าโบรกเกอร์ไม่ได้เสนอตัวเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่มากสุด แต่ตัวเลือกเหล่านี้มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ ด้วยฟีเจอร์ขั้นสูง ตัวเลือกการสร้างกราฟที่ครอบคลุม และความสามารถในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาแล้ว

IC Markets ปลอดภัยไหม?

ใช่ครับ IC Markets ปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย อยู่ภายใต้การบริหารงานโดย IC Markets Global ที่ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์

Trust Score

0

regulation

0

reputation

0

reviews

0

การกำกับดูแล

แม้ว่าเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-3 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเท่า ASIC และ CySEC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-1 แต่ด้วยการกำกับดูแลจาก Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ เทรดเดอร์ชาวไทยเองจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่อย่างแน่นอน

การกำกับดูแลในเขตอำนาจศาลอื่นๆ :

Tier 1

• Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ในออสเตรเลีย
• Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ในสหภาพยุโรป

Tier 3

• Securities and Commission of the Bahamas (SCB)
• Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์สำหรับการดำเนินงานระดับโลก รวมถึงประเทศไทย

โบรกเกอร์ยังปฏิบัติตามการแยกเงินของลูกค้าเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และข้อบังคับหลักทรัพย์ (การดำเนินธุรกิจ) ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณฝากเงินเข้าบัญชีเทรด เงินของคุณจะถูกเก็บไว้ในบัญชีที่แยกออกจากกันซึ่งบริหารจัดการโดยสถาบันการเงินชั้นนำ

ชื่อเสียง

IC Markets ได้สร้างชื่อเสียงที่ดีเยี่ยมตั้งแต่เริ่มให้บริการในปี 2007 ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ โบรกเกอร์ได้รักษาสถานะที่ดีไว้ ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดจากปริมาณการเทรด โดยมีมูลค่า 1.64 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2024 ด้วยลูกค้าที่ใช้งานอยู่ 200,000 รายทั่วโลกและการเทรดมากกว่า 500,000 รายการต่อวัน IC Markets จึงเป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

คะแนน Trustpilot

IC Markets มีคะแนน Trustpilot อยู่ที่ 4.8 จาก 5 โดยได้รับการรีวิวจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเก่าจำนวน 32,475 ราย การได้รับคะแนนสูงเช่นนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยากและเน้นย้ำถึงชื่อเสียงที่ดีสำหรับความน่าเชื่อถือ

ข้อสรุปเรื่องความน่าเชื่อถือของ IC Markets

ผมคิดว่าโบรกเกอร์นี้เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย โบรกเกอร์ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดจาก FSA-Seychelles หน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier-3 ที่ดูแลเทรดเดอร์ในประเทศไทย และหน่วยงานระดับ tier-1 อย่าง ASIC และ CySEC เป็นต้น

เยี่ยมชม IC Markets

การฝากเงินและการถอนเงิน

โบรกเกอร์ IC Markets ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน แต่อาจมีค่าธรรมเนียมบางอย่างที่เรียกเก็บจากผู้ให้บริการทางการเงินของคุณ เช่น ค่าธรรมเนียมตัวกลาง การไม่มีค่าธรรมเนียมเช่นนี้ช่วยประหยัดต้นทุนการซื้อขายได้เป็นอย่างมาก และการฝากถอนเงินที่ไม่มีค่าธรรมเนียมนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบที่มีค่า สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้งานบ่อย

จากประสบการณ์ของผมพบว่า โบรกเกอร์มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยคุณสามารถเลือกใช้ Visa หรือ Mastercard (รองรับในสกุลเงิน AUD, USD, JPY, EUR, NZD, SGD, GBP และ CAD) รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร, PayPal, Neteller, Skrill, UnionPay และ Wire Transfer

เงินฝากขั้นต่ำ

ข้อกำหนดขั้นต่ำในการฝากเงินสำหรับเทรดเดอร์ไทยคือ $ 200 แต่ไม่ได้มีการบังคับอย่างเคร่งครัด

สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี

ในการฝากเงิน จะต้องใช้สกุลเงินหลักซึ่งประกอบไปด้วย 10 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, USD, EUR, GBP, SGD, JPY, CHF, NZD, CAD และ HKD ซึ่งการเลือกสกุลเงินหลักอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะเป็นตัวกำหนดวิธีการคำนวณค่าคอมมิชชัน เมื่อสกุลเงินหลักถูกเลือกแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คุณสามารถเปิดบัญชีใหม่ได้หากต้องการเลือกสกุลเงินที่แตกต่างออกไปได้

ความสะดวกในการเปิดบัญชี

หลังจากลองเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการมากกว่า 20 แห่ง ผมจึงได้ข้อสรุปว่าการเปิดบัญชีเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่บอกถึงความมุ่งมั่นของโบรกเกอร์ในการมอบประสบการณ์การเทรดที่ราบรื่น และเมื่อเปรียบเทียบกับประสบการณ์ของผมกับ Pepperstone ซึ่งผมให้คะแนนเต็ม 15/15 สำหรับความสะดวกของการสร้างบัญชี ผมก็พบว่าการเปิดบัญชีที่โบรกเกอร์ IC Markets นั้นใช้เวลานานกว่าเล็กหน่อย

โบรกเกอร์ขอข้อมูลส่วนตัวของผมตามที่คาดไว้ และได้เพิ่มคำถามเพิ่มเติม เช่น ระดับประสบการณ์ของผม แม้ว่าคำถามเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปรับแต่งบัญชี แต่ผมพบว่ากระบวนการนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน และรู้สึกว่าคำถามบางข้ออาจไม่จำเป็น โดยสรุปแล้วผมให้คะแนนพวกเขาที่ 8/15 สำหรับประสบการณ์การเปิดบัญชี

ข้อสรุปเรื่องการชำระเงินของโบรกเกอร์ IC Markets

ผมชื่นชมที่ IC Markets ไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ตายตัว ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากเงินและถอนเงิน ทำให้เทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก โบรกเกอร์ยังมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลายซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย และกระบวนการจัดการเงินของพวกเขาโดยรวมแล้วก็ดีเยี่ยม

ความหลากหลายของตลาด

โบรกเกอร์นี้นำเสนอ CFDs (Contracts for Differences) ที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงคู่สกุลเงิน 61 คู่, หุ้นกว่า 1600 ตัว (รวมถึงตลาด ASX, NYSE, และ NASDAQ), สกุลเงินดิจิทัลไม่ต่ำกว่า 18 สกุล, ดัชนีไม่ต่ำกว่า 25 ตัว, โลหะมีค่า 4 ชนิด, สินค้าโภคภัณฑ์พลังงานไม่ต่ำกว่า 5 ชนิด, ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไม่ต่ำกว่า 17 ชนิด, พันธบัตร/ทรัพย์สินของรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 11 ตัว และฟิวเจอร์ส 4 ประเภท

CFDs และเลเวอเรจ

การเทรด CFDs หมายถึงว่า คุณจะสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ในขณะเดียวกัน เลเวอเรจช่วยให้คุณควบคุมจำนวนเงินมากขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง โดยมีอัตราส่วนที่แตกต่างกันตั้งแต่ 5:1 ถึง 1000:1 ขึ้นอยู่กับที่ตั้งและกฎระเบียบที่บังคับใช้ในเขตอำนาจศาล สินทรัพย์ที่คุณเทรด และประเภทบัญชีที่คุณใช้

IC Markets มีความหลากหลายของตลาดและเลเวอเรจที่น่าสนใจ ซึ่งทำให้กระจายความเสี่ยงและจัดการความเสี่ยงเป็นโดยง่าย พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรได้ด้วย

Forex

คุณจะสามารถเข้าถึงคู่เงินกว่า 61 คู่ รวมถึงคู่เงินหลัก, รอง และคู่เงินพิเศษ รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์จากค่าสเปรดต่ำของโบรกเกอร์เพื่อทำการเทรดได้ด้วย

ในฐานะลูกค้าในประเทศไทย คุณสามารถเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจสูงถึง 1000:1 ทั้งในบัญชี Standard และ Raw ซึ่งเลเวอเรจที่สูงนี้อาจเป็นประโยชน์หากคุณเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อยและต้องการเพิ่มทุนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่น้อยและระมัดระวังเสมอเมื่อเทรดด้วยเลเวอเรจ เนื่องจากโอกาสขาดทุนก็สูงเช่นกันเมื่อใช้สัดส่วนที่สูงขนาดนี้

สินค้าโภคภัณฑ์

เมื่อทำการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์กับ IC Markets คุณจะมีตัวเลือกหลากหลาย ได้แก่ โลหะมีค่า 4 ชนิด (ทองคำ, เงิน, แพลตตินัม และพัลลาเดียม), ผลิตภัณฑ์พลังงานไม่ต่ำกว่า 5 ชนิด (BRENT, WTI, XBRUSD, XNGUSD และ XTIUSD), และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไม่ต่ำกว่า 17 ชนิด (โกโก้, กาแฟ, ข้าวโพด, ฝ้าย, น้ำส้ม, ถั่วเหลือง, น้ำตาล, ข้าวสาลี ฯลฯ)

เลเวอเรจสำหรับโลหะมีค่าเช่น ทองคำ, เงิน, แพลตตินัม และพัลลาเดียม เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหรือยูโรจะถูกตั้งไว้ที่ 1000:1 อย่างไรก็ตาม สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เลเวอเรจจะต่ำกว่า โดยมีขีดจำกัดที่ 100:1 สำหรับผลิตภัณฑ์พลังงาน คุณสามารถทำการเทรดสัญญาพลังงานแบบสปอต แต่จะทำได้เฉพาะเมื่อมันมีการจับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี

โบรกเกอร์มอบโอกาสที่ดีในการเริ่มต้นซื้อขายดัชนี ซึ่งการเข้าถึงนี้ไม่ค่อยพบได้จากแพลตฟอร์มการเทรดทั่วไปในประเทศไทย ทำให้คุณจะได้พบกับดัชนีตลาดหุ้นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในระดับโลก เช่น ดัชนี S&P200 ของออสเตรเลีย, ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักร, ดัชนี E-mini S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา และดัชนีอุตสาหกรรม DJIA ของสหรัฐอเมริกา โดยเลเวอเรจของการเทรดดัชนีจะอยู่ที่ 200:1

สกุลเงินคริปโต

หากคุณรับความความเสี่ยงของการลงทุนได้ โบรกเกอร์นี้เสนอตัวเลือก CFD ของสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย นอกจากนี้คุณยังสามารถเทรดผลิตภัณฑ์คริปโตได้ลอดทั้งสัปดาห์ ไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จำกัดเพียงห้าวันต่อสัปดาห์ เลเวอเรจสำหรับคู่สกุลเงินดิจิทัลเช่น BTCUSD, ETHUSD, LTCUSD และ BCHUSD อยู่ที่ 200:1 หากคุณใช้ MT4/MT5 และลงทะเบียนกับ Raw Trading ในขณะที่เลเวอเรจจะถูกจำกัดที่ 5:1 หากคุณใช้ cTrader หรือ TradingView

นอกจากคริปโตหลักเช่น Bitcoin และ Ethereum CFDs แล้ว คุณยังสามารถเทรด CFD ของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น Dash, Litecoin, Bitcoin Cash, Ripple, EOS, Emercoin, NameCoin, PeerCoin, Polkadot, Stellar, Chainlink, Dogecoin, Tezos, Uniswap, Cardano, Binance Coin, Avalanche, Moonbeam และ Kusama

หุ้น

คุณสามารถเทรด CFD ของหุ้นได้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ตัวได้บนแพลตฟอร์ม MT5 ของ IC Markets ซึ่งรวมถึงหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงเช่น ASX (ออสเตรเลีย), EURONEXT AMSTERDAM (เนเธอร์แลนด์), Xetra (เยอรมนี), LSE (ลอนดอน), NYSE (สหรัฐอเมริกา) และ NASDAQ (สหรัฐอเมริกา) เป็นต้น

พันธบัตร

มีพันธบัตรไม่ต่ำกว่า 9 รายการจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยุโรป และญี่ปุ่นให้คุณในฐานะเทรดเดอร์รายย่อย พันธบัตร CFD ของโบรกเกอร์อิงตามหลักทรัพย์หนี้ที่มีรายได้คงที่ ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับการจ่ายด้วยคูปองปกติใน exchange สำหรับการลงทุนของคุณ เนื่องจากพวกมันถูกเสนอในรูปแบบ CFD ขนาดการซื้อขายจึงยืดหยุ่น ทำให้คุณสามารถคาดเดาเกี่ยวกับราคาโดยการซื้อ (long) หรือขาย (short) และเลเวอเรจถูกจำกัดที่ 200:1

ฟิวเจอร์ส

มีสัญญา CFD ฟิวเจอร์ส ให้เทรดทั้งหมด 4 รายการ คุณสามารถเลือกเทรดระหว่าง ICE Dollar Index Futures, CBOE VIX Index Futures, Brent Crude Oil Futures และ WTI Crude Oil Futures โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน ค่าธรรมเนียมทางการเงิน เนื่องจากทั้งหมดนี้ได้รวมอยู่ในค่าสเปรดแล้ว เลเวอเรจถูกจำกัดที่ 200:1

ข้อสรุปเรื่องความหลากลายของตลาดของ IC Markets

IC Markets เสนอผลิตภัณฑ์ CFD ที่หลากหลายอย่างน่าประทับใจ ซึ่งให้คุณเทรดได้เกินกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมมาก ด้วยการเข้าถึงตัวเลือกที่หลากหลายเช่น สกุลเงินคริปโต, พันธบัตร, และ CFD ฟิวเจอร์ส ทำให้พวกเขาโดดเด่นเป็นโบรกเกอร์อันดับต้นๆ สำหรับการซื้อขายหลายประเภททั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้ผ่านแพลตฟอร์ม MT5 เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ครบครัน

เยี่ยมชม IC Markets

การบริการลูกค้า

สิ่งแรกที่ผมสังเกตเกี่ยวกับความพร้อมของการให้บริการลูกค้าคือ เว็บไซต์ที่รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ซึ่งจะเป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ โดยเฉพาะเมื่อคุณชอบใช้ภาษาท้องถิ่นขณะใช้งานเว็บไซต์

จากประสบการณ์ของผมกับการบริการลูกค้าของโบรกเกอร์นี้ พวกเขาตอบสนองและมีประสิทธิภาพ พวกเขามีปุ่มแชทสดบนเว็บไซต์ ซึ่งทำให้การสลับไปยังการบริการโดยเจ้าหน้าที่จริง

ผมถามเกี่ยวกับเงื่อนไขค่าสวอปสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ตอบกลับผมอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาเปลี่ยนคำตอบ ซึ่งเป็นการตอบสนองที่ไม่ค่อยดีนักในส่วนของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ผมทำเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการบริการลูกค้าของพวกเขาและพบว่ามันมีประสิทธิภาพจริง

ปัจจัยสำคัญของการบริการลูกค้าของ IC Markets customer:

• การบริการตลอด 24 ชั่วโมง
• การเปลี่ยนจากระบบตอบรับอัตโนมัติไปเป็นเจ้าหน้าที่ตอบแชทสด (อย่างรวดเร็ว)
• สนับสนุนหลายช่องทาง (อีเมล, โทรศัพท์, ฟอร์มติดต่อ และศูนย์ช่วยเหลือ)
• หน้าคำถามที่พบบ่อยที่มีรายละเอียดครบถ้วน

ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้าของ IC Markets

ผมพบว่าการให้บริการลูกค้าของ IC Markets น่าประทับใจมาก เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ การขอรับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บริการแชทสดเป็นเรื่องที่ง่ายมาก และเป็นประโยชน์เมื่อพบปัญหาเร่งด่วน พวกเขายังมีช่องทางการสนับสนุนหลายช่องทาง รวมถึงอีเมลและโทรศัพท์

การวิจัยและการศึกษา

ผมพบว่าพอร์ทัลการศึกษาของโบรกเกอร์นี้ยังขาดข้อมูลที่สำคัญบางประการ เนื่องจาก โบรกเกอร์นี้มีเนื้อหาการเรียนรู้ที่เน้นไปที่ผู้เริ่มต้นเท่านั้น เช่น ‘ข้อดีของ Forex’ และ ‘ข้อดีของ CFDs’ พร้อมกับวิดีโอที่พูดถึงผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นหลัก

ในฐานะเทรดเดอร์มืออาชีพ ผมมองว่าข้อมูลที่ได้ยังไม่มีประโยชน์เท่าใดในแง่การพัฒนาทักษะการซื้อขายโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายอื่นที่ให้บริการในไทย

ข้อสรุปส่วนการศึกษาของ IC Markets

พอร์ทัลการศึกษาของโบรกเกอร์ยังสามารปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มได้ เพื่อให้ตอบสนองทั้งเทรดเดอร์มือใหม่ และผู้ที่มีประสบการณ์การซื้อขายในตลาดที่ต้องการบทความ เครื่องมือ การสัมนาที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับการซื้อขายของพวกเขา

เยี่ยมชม IC Markets

ข้อสรุปสุดท้าย – โบรกเกอร์ IC Markets

หลังจากการทดสอบของผม ผมพบว่า IC Markets เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ Forex ชาวไทย โบรกเกอร์นี้โดดเด่นในการเสนอราคาสเปรดที่ต่ำที่สุด โดยเฉพาะในบัญชี Standard และให้บริการการเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น MetaTrader4, MetaTrader5, cTrader และ TradingView รวมถึงสินทรัพย์หลายประเภท เช่น Forex สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินดิจิทัล และดัชนี

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ แหล่งข้อมูลการศึกษาของ IC Markets ที่ยังไม่ครอบคลุมผู้ใช้เท่าใดนัก ดังนั้น ผมให้คะแนน IC Markets โดยรวมที่ 85/100 สำหรับความคุ้มค่า ช่วงตลาดการซื้อขายที่กว้างขวาง และบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

เยี่ยมชม IC Markets