โบรกเกอร์ Doo Prime ดีไหม สำหรับการเทรดในไทย

ค่าธรรมเนียมการเทรด

ทุกครั้งที่ต้องเทรด สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะนำมาพิจารณาคือ ค่าใช้จ่ายในการเทรด เพราะต้นทุนเหล่านี้สามารถสะสมเพิ่มขึ้นได้ทุกครั้งที่คุณเปิดออเดอร์ และแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อกำไรโดยรวมในท้ายที่สุด

ดังนั้น ผมจึงลองเปิดบัญชีจริงกับ Doo Prime ทั้ง 3 แบบที่มีให้บริการสำหรับคนไทย เพื่อดูข้อเสนอที่แต่ละบัญชีมีให้ และสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้

• บัญชี Cent – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 5 ดอลลาร์ สามารถเทรดในขนาดไมโครล็อตได้ โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่สเปรดจะเริ่มต้นที่ 1.0 pip
• บัญชี Standard (STP) – เป็นบัญชีที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1.0 pip เช่นกัน
  จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ทั่วไป
• บัญชี ECN – ออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง และต้องการสเปรดที่แคบมาก โดยสปรดเริ่มต้นที่มีการกล่าวไว้ในเว็บไซต์จะเริ่มตั้งแต่ 0.0 pip และมีค่าคอมมิชชั่น 3.50 ดอลลาร์ต่อ 1 ล็อต

สเปรดของบัญชี Raw

โบรกเกอร์ Doo Prime ระบุว่า บัญชี ECN (Raw) ของพวกเขาใช้รูปแบบราคาแบบ ECN market-maker ทำให้สเปรดที่เสนอแก่ลูกค้านั้นต่ำจนแทบจะเป็น 0.0 pip จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์สายสเกลเปอร์ (Scalper) และผู้ที่ทำการเทรดในปริมาณที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบของผม ตัวเลขนี้เป็นเพียงสเปรดที่ต่ำสุด ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยจริงที่เทรดเดอร์ชาวไทยจะได้รับเสมอไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว สเปรดที่ได้มักจะกว้างกว่าที่โฆษณา เช่น GBP/USD อยู่ที่ 1.3 pip และ EUR/AUD อยู่ที่ 1.7 pip ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง “สเปรดเริ่มต้น” ที่โฆษณา กับสเปรดจริงโดยเฉลี่ยในตลาดได้เป็นอย่างดี

ค่าคอมมิชชั่นบัญชี Raw

แต่หากมองในมุม ค่าคอมมิชชั่นบัญชี ECN (Raw) ผมกลับพบว่า Doo Prime ทำได้ดีตามมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยพวกเขาจะคิดค่าคอมมิชชั่นตามปริมาณการเทรด ซึ่งแตกต่างจากบัญชี Standard หรือ Cent ที่ไม่เก็บค่าคอมมิชชั่น

และตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ ค่าคอมมิชชั่นที่คุณต้องจ่ายจะอยู่ที่ $3.50 ต่อ 1 ล็อต

ค่าธรรมเนียมบัญชี Standard

มาดูที่บัญชี Standard (STP) ของ Doo Prime กันบ้าง จากการทดสอบ ผมพบว่าบัญชนี้ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ต้นทุนการเทรดรวมทั้งหมดอยู่ในสเปรดแล้ว จึงเหมาะกับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นเทรด ที่อาจจะยังไม่ชอบการคำนวณต้นทุนที่ซับซ้อน

แต่หากคุณอยากเทรดในล็อตที่เล็กกว่า ผมว่าบัญชี Cent ซึ่งไม่มีค่าคอมมิชชั่นและมีสเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าก็ได้

ค่าธรรมเนียมบัญชี Swap-Free

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ทาง Doo Prime ก็มีบัญชีแบบ อิสลาม (Swap-Free) รองรับเช่นกัน ตามความคิดเห็นของผม บัญชีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับหรือจ่ายค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยข้ามคืนได้เป็นอย่างยิ่ง

ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ

นี่คือจุดที่ผมประทับใจ เพราะ Doo Prime ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมกรณีไม่มีการใช้งาน (Inactivity Fee) ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น อีกทั้งยังโฆษณาว่า “ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากหรือถอน” อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำให้คุณตรวจสอบกับผู้ให้บริการทางการเงินของคุณอีกครั้ง เพราะอาจจะมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินภายนอกแทน

สรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเทรดของ Doo Prime

โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนนในแง่ต้นทุนและค่าธรรมเนียมการเทรดของ Doo Prime อยู่ที่ 6.0/10 นั่นก็เพราะสเปรดจริงที่ได้จากการทดสอบของผมนั่นมีค่าที่กว้างกว่าสเปรดที่โบรกเกอร์ได้โฆษณาไว้ในบางกรณี ทำให้ข้อมูลที่ปรากฎอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจคาดเคลื่อนได้

แพลตฟอร์มการเทรดจาก Doo Prime

จากการสังเกตุของผม Doo Prime เสนอแพลตฟอร์มการเทรดทั้งหมด 4 รูปแบบที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

1. Meta Trader 4
2. Meta Trader 5
3. TradingView
4. Doo Prime InTrade app

แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าแพลตฟอร์มใดที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ลองดูเครื่องมือค้นหาแพลตฟอร์มของเรา จากด้านล่างนี้

การใช้งาน Platfrom Finder ของเราสามารถทำได้ง่ายมาก คุณเพียงต้องทำแบบสอบถามสั้น ๆ เพียง 5 ขั้นตอน จากนั้นระบบจะทำการวิเคราะห์และส่งผลลัพธ์ให้คุณในทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย คุณจะได้คำตอบว่าแพลตฟอร์มฟอเร็กซ์ใดเหมาะกับคุณมากที่สุด ก่อนที่จะไปเจาะลึกรายละเอียดแต่ละแพลตฟอร์มที่ Doo Prime นำเสนอต่อไป

MetaTrader 4

สำหรับผมแล้ว MT4 บน Doo Prime ยังเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในด้านความเร็วและความเสถียร แถมยังเป็นแพลตฟอร์มแบบคลาสสิกที่ผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายกับเครื่องมือการเทรดที่จำเป็นทั้งหมดได้อย่างลงตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวและความแม่นยำในการซื้อขาย

คุณสมบัติหลักของ Doo Prime

• ความเร็วในการประมวลผลคำสั่งต่ำกว่าหนึ่งมิลลิวินาที เพื่อสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ยอดเยี่ยม
• รองรับ EA เต็มรูปแบบ ทำให้คุณสามารถวางกลยุทธ์และทำการซื้อขายแบบอัตโนมัติได้ทันที
• เทรดได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันมือถือที่เชื่อถือได้ทั้ง iOS และ Android หรือจะเข้าผ่านเว็บเบราว์เซอร์ก็ได้เช่นกัน
• ความปลอดภัยสูง ด้วยระบบเข้ารหัสขั้นสูง (สำหรับ MT4 และ MT5) ที่มีมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะเพื่อรักษาข้อมูลของลูกค้าอย่างเข้มงวด

MetaTrader 5

แต่ถ้าคุณต้องการเวอร์ชันที่อัพเกรดแล้ว ผมว่า MT5 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะแพลตฟอร์มรองรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายรายการ รวมถึง หุ้น ที่ MT4 ไม่มี

โดยสิ่งที่คุณจะได้รับจากการใช้ MT5 บน Doo Prime ได้แก่

• การเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น ด้วยสินทรัพย์มากกว่า 10,000 รายการ รวมถึงหุ้นและดัชนีจากหลากหลายตลาด
• กรอบเวลาที่มีให้เลือกมากกว่า 21 แบบ (เทียบกับ 9 แบบใน MT4) และอินดิเคเตอร์ในตัว 38 ตัว (มากกว่า MT4 ที่มี 30 ตัว) ทำให้คณสามารถวิเคราะห์ได้ทั้งการเคลื่อนไหวระยะสั้นและแนวโน้มระยะยาวได้อย่างอิสระ
• คำสั่งซื้อขายล่วงหน้าที่หลากหลาย รองรับคำสั่ง Pending Order ได้ถึง 6 ประเภท ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดเข้าและออกจากตลาดได้เป็นอย่างดี
• ฟังก์ชันการวิเคราะห์เชิงพื้นฐานในตัวแพลตฟอร์ม ที่มาพร้อมปฏิทินเศรษฐกิจและฟีดข่าวการเงินแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณทันทุกข่าวสารสำคัญในทางการเงิน

TradingView

หากคุณเป็นเทรดเดอร์สายกราฟ Doo Prime ก็ไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะโบรกเกอร์รองรับแพลตฟอร์มการเทรด TradingView ด้วย

สำหรับผมแล้ว TradingView ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างเครื่องมือกราฟขั้นสูงและฟีเจอร์โซเชียลเทรดดิ้ง

และจากประสบการณ์ของผม TradingView เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดชาวไทยทั้งสำหรับผู้เริ่มต้น และนักวิเคราะห์สายเทคนิค ที่อยากใช้งานเครื่องมือที่ปรับแต่งเองได้ รวมทั้งต้องการแลกเปลี่ยนมุมมองกับคอมมูนิตี้ของนักเทรดทั่วโลก

จุดเด่นของ TradingView บน Doo Prime ที่ผมประทับใจ ได้แก่

• อินดิเคเตอร์กว่า 100,000 รายการจากคอมมูนิตี้ทั่วโลก เพื่อความยืดหยุ่นในทุกกลยุทธ์การเทรด
• ระบบกราฟขั้นสูง ด้วยเครื่องมือวาดกราฟอัจฉริยะกว่า 90 แบบ ที่ให้คุณสามารถเปิดกราฟได้สูงสุด 8 หน้าต่างต่อแท็บ และเลือกประเภทกราฟได้มากกว่า 15 แบบ
• คอมมูนิตี้ Social Trading ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อการเรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ ๆ หรือจะเลือกแชร์ไอเดีย และเก็บเกี่ยวความรู้จากเทรดเดอร์มืออาชีพก็ได้เช่นกัน
• ระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์มากกว่า 10 ประเภท ไม่ว่าจะอิงตามระดับราคา, อินดิเคเตอร์ หรือค่าที่คุณกำหนดเอง ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสในการเข้าตลาด

แอปพลิเคชันเทรดออนไลน์บนมือถือ

นอกจากแอพเทรดสามตัวด้านบน ทาง Doo Prime ยังมีแอปพลิเคชันเทรดออนไลน์บนมือถือ
ของตัวเองชื่อว่า D Prime InTrade ที่มีการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์กับ MetaTrader ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการบัญชี MT4/MT5 ได้จากในแอปเดียว ซึ่งถือว่าสะดวกและตอบโจทย์การใช้งานอย่างมาก โดยคุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งบน Android และ iOS

จากการทดลองใช้งาน ผมพบว่าจุดเด่นของ D Prime InTrade นี้คือ แพลตฟอร์มรองรับการเทรดตราสารหลายพันรายการ พร้อมเลเวอเรจแบบไดนามิกสูงสุดถึง 1:1000

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญคือ โซเชียลเทรดดิ้ง ที่ถูกผสานเข้ามาในแอพนี้ ทำให้คุณสามารถดูและจัดการพอร์ตตามการลงทุนของเทรดเดอร์รายอื่นได้โดยตรง

ผมมองว่าการนำเสนอแพลตฟอร์มแบบสองทางนี้ ตอบโจทย์เทรดเดอร์ 2 กลุ่มหลักได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดแบบดั้งเดิมที่คุ้นเคยกับ MetaTrader หรือเทรดเดอร์สมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานผ่านมือถือ, ความเรียบง่าย และฟีเจอร์ด้านโซเชียลเทรด

สรุปเกี่ยวกับแพลตฟอร์มของ Doo Prime

Doo Prime ทำได้ดีในแง่ความครอบคลุมของแพลตฟอร์มการซื้อขาย ผมจึงให้คะแนนพวกเขาที่ 7.5/10 การที่รองรับทั้งทั้ง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ TradingView ทำให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกที่พร้อมสำหรับการเทรดทุกรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้เครื่องมือกราฟและการเทรดโดยอัตโนมัติ

Doo Prime กับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งาน

ในการประเมิณสำหรับผมแล้ว ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการประเมินว่าโบรกเกอร์นั้นมีควา

การกำกับดูแล

จากข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์โบรกเกอร์ Doo Prime ระบุว่าบริษัทแม่ของ Doo Group จะได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับ Teir 1 หลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น US Securities and Exchange Commission (SEC) UK Financial Conduct Authority (FCA) และ Australian Securities and Investments Commission (ASIC)

ในขณะที่บริษัทย่อยในแต่ละภูมิภาคก็จะได้รับการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น

• Doo Prime Mauritius Limited อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Mauritius Financial Services Commission (MU FSC)
• Doo Prime Vanuatu Limited ภายใต้การกำกับดูแลของ Vanuatu Financial Services Commission (VU FSC)

แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป คุณจะพบว่าเทรดเดอร์รายย่อยในไทย จะไม่ได้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของ SEC หรือ FCA ดังนั้น ผมจึงอยากให้คุณระมัดระวัง และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานและกฎหมายฟอเร็กซ์ไทยเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของคุณ

ชื่อเสียง

โบรกเกอร์ Doo Prime มีชื่อเสียงที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับโลก โดยมีลูกค้ากว่า 2,000,000 ราย จากกว่า 190 ประเทศ อีกทั้งยังมีพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอล Manchester United ในฐานะ Official Online Financial Trading Platform Partner ทำให้พวกเขามีภาพลักษณ์ที่ดีในระดับโลก

รีวิว

ในส่วนของรีวิวสาธารณะ ผมมักจะอิงจากคะแนน Trustpilot ซึ่งจะแสดงผลการรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเป็นหลัก ซึ่งในกรณีของ Doo Prime ผมพบว่า โบรกเกอร์ได้รับความเห็นที่ค่อนข้างหลากหลายจากผู้ใช้งาน มีคะแนนเฉลี่ย 3.9 จาก 5 แม้จำนวนรีวิวที่ได้จะยังไม่มาก แต่เมื่อพิจารณาว่า Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ขนาดกลาง ผมว่าจำนวนรีวิวประมาณนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลจนเกินไป

แต่หากพูดถึงเสียงรีวิวในแง่ดี ผมคิดว่าประเด็นหลักที่มีการพูดถึงคือ สเปรดต่ำมาก, เลเวอเรจสูง และรองรับ FIX API อย่างเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม Doo Prime ก็ได้รับรีวิวในเชิงลบเกี่ยวกับปัญหาการถอนเงินที่ล่าช้า และพบข้อผิดพลาดของแพลตฟอร์มหรือระบบอยู่ไม่น้อย และตัว D Prime InTrade เองก็ได้รับคะแนนรีวิวบน Google Play เพียง 3/5 เท่านั้น

สรุปเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Doo Prime

ในส่วนของความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ผมให้คะแนน Doo Prime เพียง 4.0/10 นั่นก็เพราะจุดอ่อนในการคุ้มครองเทรดเดอร์รายย่อยในไทย ที่ถึงแม้ว่าบริษัทแม่ของ Doo Group จะถือใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับท็อปอย่าง FCA และ ASIC แต่สำหรับนักเทรดชาวไทย คุณจะไม่รับประโยชน์ในส่วนนี้

นั่นก็เพราะ ส่วนใหญ่แล้ว เทรดเดอร์ในไทยจะเปิดบัญชีกับบริษัทในเครือที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงาน FSC (Mauritius) และ VFSC (Vanuatu) ซึ่งเป็นเขตออฟชอร์ที่มีมาตรการคุ้มครองนักลงทุนที่ไม่เข้มงวดเทียบเท่า

การฝากและถอนเงินที่ Doo Prime

ช่องทางการฝากถอนและระยะเวลาการดำเนินการ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผมให้ความสำคัญในการคัดเลือกโบรกเกอร์ เลื่อนดูด้านล่าง สำหรับรายละเอียดการฝากถอนเงินที่ Doo Prime

เงินฝากขั้นต่ำ

เมื่อเปิดบัญชีใช้งานจริง ผมพบว่า Doo Prime ไม่ได้กำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงจนเกินไป คุณสามารถเริ่มต้นเปิดบัญชีเทรดได้ด้วยเพียง $5 สำหรับบัญชี Cent และ $100 สำหรับบัญชี STP และ ECN

อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์มีข้อกำหนดสำหรับยอดฝากขั้นต่ำในแต่ละช่องทางเพิ่มเติม ดังนั้น ผมขอแนะนำให้คุณฝากให้เพียงพอกับข้อกำหนด รวมถึวมาร์จินที่ต้องใช้เพื่อการเข้าถึง Levarge ของโบรกเกอร์

สกุลเงินหลักของบัญชี

แม้ว่าโบรกเกอร์จะรองรับสกุลเงินฝากมากกว่า 20 ประเภท รวมถึงเงินสกุลบาท (THB) แต่สกุลเงินหลักที่ใช้กันมากที่สุดคือ USD

วิธีการฝากเงินและค่าธรรมเนียม

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเป็นพิเศษสำหรับโบรกเกอร์ Doo Prime คือ ตัวเลือกการฝากเงินที่หลากหลาย โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ว่าจะเป็น โอนผ่านธนาคารภายในประเทศ, บัตรเครดิต/เดบิต และ e-wallets อย่าง Fasapay ทำให้นักเทรดชาวไทยมีตัวเลือกการในการชำระเงินที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามเข้าถึงผู้ใช้ชาวไทยของโบรกเกอร์ได้เป็นอย่างดี

วิธีการถอนเงินและค่าธรรมเนียม

แม้โบรกเกอร์จะมีการโปรโมตว่า “พวกเขาไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนเงิน” แต่จากการทดสอบจริงของผมพบว่า ไม่ใช่ทุกช่องทางการถอนที่จะไม่มีค่าธรรมเนียมนี้ หากคุณเลือกถอนเป็นคริปโต หรือใช้ Wire transfer คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในอัตราที่โบรกเกอร์กำหนด

ความสะดวกในการเปิดบัญชี

ในการเปิดบัญชีกับ Doo Prime ด้วยตนเอง ผมถือว่าขั้นตอนค่อนข้างราบรื่นและไม่ยุ่งยาก หลังจากคุณกรอกข้อมูลส่วนตัวและเลือกประเทศที่พำนัก ระบบจะแนะนำบัญชีที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยันตัวตน (KYC)

ส่วนตัวแล้ว ผมเลือกแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 จากตัวเลือกที่ปรากฏบนหน้าจอ หลังจากนั้น ระบบก็จะให้คุณทำแบบสอบถามสั้น ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ทางการเงินและการเทรด ก่อนที่จะสามารถใช้งานบัญชีจริง

หลังจากใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง บัญชีของผมก็ได้รับการอนุมัติ ซึ่งผมได้ทำการฝากเงินจำนวน 1,000 ดอลลาร์เพื่อทดสอบการใช้งานจริง และไม่พบปัญหาใดจากการใช้งาน

สรุปเกี่ยวกับการฝากและถอนที่ Doo Prime

ผมให้คะแนนด้านความสะดวกและฟังก์ชันการฝากถอนเงินที่ Doo Prime เพียง 3.0/10 เพราะตัวเลือกการฝากถอนที่มีให้ ถึงแม้จะมีความหลากหลาย รวมถึงการโอนผ่านธนาคารภายในประเทศที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ชาวไทยได้ดี

แต่การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินในบางกรณี และระยะเวลาที่ดำเนินการถอนจริงที่ช้ากว่าที่กล่าวไว้ในเว็บไซต์ ทำให้โดยรวมเรายังไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินบน Doo Prime

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ชาวไทยที่มองหาโบรกเกอร์ที่รองรับการเทรดตราสาร CFD ในหลากหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ภายในบัญชีเดียว ผมคิดว่า Doo Prime อาจจะเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ

นี่คือตัวอย่าง รายการสินทรัพย์ที่น่าสนใจบนโบรกเกอร์ Doo Prime

• ฟอเร็กซ์ ทั้งคู่หลักและคู่รองอย่าง EUR/USD, USD/JPY และคู่สกุลเงินแปลกใหม่
• โลหะมีค่า เช่น ทองคำและเงิน ด้วยคู่การซื้อขายหลากหลายคู่ รวมถึง XAUUSD
• สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
• ดัชนีหุ้นหลัก จากตลาดสำคัญทั่วโลก
• คริปโต ที่คุณสามารถเปิดสถานะ Long หรือ Short บนสกุลเงินดิจิทัลหลักได้

นอกจากนี้ Doo Prime ยังให้คุณเข้าถึงการเทรดหุ้นของ CFD (Share CFD) ได้อีกหลายรายการ ทั้งจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และฮ่องกง รวมถึงบริษัทชื่อดัง เช่น Apple และ Alibaba จุดที่แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นแบบดั้งเดิมคือ คุณจะทำการเก็งกำไรจากทิศทางราคาของหุ้น โดยไม่ได้ถือครองสินทรัพย์จริง

สรุปเกี่ยวกับความหลากหลายของตลาดการเงินบน Doo Prime

ผมให้คะแนน 7.0/10 หากต้องพูดถึงความหลากหลายของตลาดที่ Doo Prime นำเสนอ โดยเฉพาะเทรดเดอร์ไทยที่คุณสามารถเทรดสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และหุ้นในรูปแบบ CFD

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า Doo Prime

เพื่อประเมิณคะแนนในส่วนนี้ ผมได้ทดลองใช้ฟีเจอร์ Live Chat บนเว็บไซต์ของ Doo Prime และภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ก็สามารถเชื่อมต่อกับเจ้าหน้าได้ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตอบคำถามได้อย่างละเอียด เมื่อผมได้อธิบายกับเธอว่าผมกำลังถือสถานะข้ามคืน และต้องการทราบเหตุผลว่าทำไมค่าธรรมเนียม Swap ที่ถูกเรียกเก็บจึงแตกต่างจากที่ผมคาดไว้

และสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดคือการ ติดตามผลแบบส่วนตัว เพราะในวันถัดมาผมได้รับอีเมลจากเจ้าหน้าที่คนเดิม เพื่อตรวจสอบว่าปัญหาของผมได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วหรือไม่ และยังสอบถามเพิ่มเติมว่ามีคำถามอื่น ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลืออีกหรือเปล่า

สรุปเกี่ยวกับการบริการลูกค้าของ Doo Prime

ผมให้คะแนนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ 8.0/10 เนื่องจากฝ่ายบริการลูกค้าของ Doo Prime มีเจ้าหน้าที่คนไทยเพื่อเทรดเดอร์ชาวไทยโดยเฉพาะในหลากหลายช่องทาง รวมทั้งแชทสดและอีเมล

นอกจากนี้ ผมยังได้รับประสบการณ์ที่ดีจากเจ้าหน้าที่ในช่องทางแชทสด ที่ตอบสนองได้รวดเร็วและให้ความช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

พอร์ทัลการศึกษาและการวิจัย

ผมได้ลองใช้เวลาว่างเพื่อเข้าไปดู สื่อการเรียนรู้ (Educational Resources) ของ Doo Prime และรู้สึกประทับใจกับเนื้อหาที่มีการออกแบบไว้อย่างดีสำหรับนักเทรดมือใหม่ ข้อมูลที่นำเสนอเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่แน่นอนว่านี่อาจจะยังไม่น่าสนใจเท่าใดนัก หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูงแล้ว

หากคุณสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขาย ผมขอแนะนำให้ไปที่ศูนย์การเรียนรู้ของ Doo Prime ซึ่งถูกจัดหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระบบ แบ่งออกเป็นหลายหัวข้อหลัก ได้แก่ คู่มือการเทรด (Trading Guides), สัมมนาออนไลน์ (Webinars), และ eBooks

จากการลองอ่านบทความเหล่านี้ ผมพบหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น “การอ่านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์” และ “การเทรดคริปโตขั้นสูง” ที่จะช่วยให้คุณมีความรู้และความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ในสินทรัพย์ที่กำลังติดเทรนด์ได้ง่ายขึ้น

แต่หากคุณสนใจเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเทรดจากวีดีโอหรือการสัมนา ผมขอแนะนำคลังวิดีโอและสัมมนาออนไลน์ (Webinars) ที่อยู่ในช่อง YouTube ของพวกเขาแทน โดยเนื้อหาจะครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐาน หรือการเจาะลึกตลาด (Market Breakdowns) ก็ตาม

สรุปเกี่ยวกับพอร์ทัลและสื่อการเรียนรู้ของ Doo Prime

หากมองในภาพรวม ผมให้คะแนนพอร์ทัลและสื่อการเรียนรู้ของ Doo Prime อยู่ที่ 5.5/10 เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ เช่น คู่มือการเทรด (Trading Guides), สัมมนาออนไลน์ (Webinars) และ eBooks ยังเป็นเพียงเนื้อหาขั้นต้นที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการเรียนรู้ระบบเทรด forex เสียมากกว่า

บทสรุปสุดท้ายเกี่ยวกับโบรกเกอร์ Doo Prime

จากการประเมิณโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าใช้งานมามากกว่า 65 แห่ง ผมยังคงมองว่า Doo Prime ถืออยู่ในระดับที่ดีและน่าลองใช้งาน โดยผมให้คะแนนภาพรวมของ Doo Prime อยู่ที่ 48 จาก 100 เพราะพวกเขารองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย และมีตราสารให้เลือกลงทุนจำนวนมาก

และข้อดีที่เห็นได้ชัดสำหรับการใช้งานโบรกเกอร์นี้ในไทย คือ การมีทีมซัพพอร์ตในภาษาไทย, ข้อเสนอเลเวอเรจสูง และ บัญชี Swap-Free ในกรณีที่คุนเป็นชาวไทยมุสลิม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือ ความเสี่ยงจากการคุ้มครองที่ของหน่วยงานที่ยังไม่เข้มงวดนัก เนื่องจากบริษัทลูกที่ให้บริการแก่นักเทรดส่วนใหญ่ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงาน Teir 2 หรือ 3 เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากให้คุณลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และประเมิณความเสี่ยง พร้อมทั้งวางแผนการลงทุนส่วนบุคคลให้ดี