โบรกเกอร์ Tradingview

Eightcap เป็นโบรกเกอร์ TradingView อันดับต้นๆ ของเราสำหรับการวิเคราะห์ตลาด เนื่องจากมีทรัพยากรภายในบริษัท รวมถึง Eightcap Labs และ Flashtrader ผมยังแนะนำโบรกเกอร์สำหรับการซื้อขาย CFD, Forex และ crypto ในประเทศไทยด้วย โบรกเกอร์นำเสนอคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์มากกว่า 50 คู่และสกุลเงินดิจิทัล 95 สกุล รวมถึงเหรียญหลักๆ เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin พร้อมด้วยอัลท์คอยน์ที่มีให้เลือกมากมาย

Eightcap ก่อตั้งขึ้นในออสเตรเลีย โดดเด่นด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่ดีที่สุดเพื่อเสริมข้อเสนอ TradingView เมื่อใช้แพลตฟอร์ม คุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลาย รวมถึงคู่สกุลเงิน Forex โลหะ และดัชนี 56 คู่ จุดแข็งหลักของโบรกเกอร์คือความหลากหลายของสกุลเงินดิจิทัลถึง 95 รายการเมื่อเทรดบน TradingView

นอกจาก TradingView แล้ว Eightcap ยังรองรับทั้งแพลตฟอร์ม MetaTrader พร้อมด้วยแพลตฟอร์มอัลกอริทึมแบบไร้โค้ดอย่าง Capitalise.ai และมีสเปรดที่น่าสนใจอีกด้วย

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คุณจะได้รับการดูแลโดย SCB และโบรกเกอร์รายนี้ยังถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำ เช่น ASIC, FCA และ CySEC Eightcap ทำให้พวกเขาเป็นโบรกเกอร์ระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือและมีรากฐานด้านกฎระเบียบที่แข็งแกร่ง

ผู้นำสำหรับการซื้อขายคริปโต

Eightcap เป็นโบรกเกอร์ที่ผมชื่นชอบในแง่การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะในประเทศไทย เนื่องจากเสนอ CFD สำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย

ด้วย CFD ของสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 95 รายการ รวมถึงเหรียญหลักๆ เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin และอัลท์คอยน์ที่มีให้เลือกมากมาย Eightcap ช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนและสภาพคล่องของตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้เป็นอย่างดี หากคุณใช้ TradingView (หรือ MT5) คุณจะสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์ crypto ได้กว่า 95 รายการ และมีเพียง 79 เท่านั้นที่ใช้งานได้ผ่าน MT4

นอกเหนือจากสกุลเงินดิจิทัลแล้ว Eightcap ยังเสนอการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ CFD มากกว่า 600 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย:

• ฟอเร็กซ์ – 56
• สินค้าโภคภัณฑ์พลังงาน – 2
• ดัชนี – 16
• สกุลเงินดิจิตอล – 95
• หุ้น.- 586
• โลหะ – 6

หากต้องการซื้อขายสินทรัพย์เหล่านี้ คุณจะต้องลงทะเบียนบัญชี Standard หรือบัญชี RAW บัญชี Standard มีสเปรดฟอเร็กซ์ตั้งแต่ 1 pip ในขณะที่บัญชี RAW มีสเปรดตั้งแต่ 0.6 pip หากต้องการเปิดบัญชีใดบัญชีหนึ่ง คุณจะต้องฝากเงินขั้นต่ำ 100 เหรียญสหรัฐ

เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดอันทรงพลัง

เมื่อซื้อขายกับ Eightcap ผมพบว่าแหล่งข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดภายในทำให้โบรกเกอร์นี้แตกต่างจากที่อื่น โดยเฉพาะ Eightcap Labs, Trade Zone และ FlashTrader

Eightcap Labs มอบทรัพยากรทางการศึกษาที่มีคุณค่าแก่เทรดเดอร์ชาวไทย รวมถึงบทความการซื้อขาย หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และคำแนะนำเชิงลึกเพื่อสนับสนุนการพัฒนากลยุทธ์ของคุณ ผมพบว่าคำแนะนำเฉพาะของ TradingView มีประโยชน์อย่างยิ่ง ผ่านตัวอินดิเคเตอร์กราฟจำนวนหนึ่ง รวมถึง Zig Zag, Donchian Channel และ Envelopes

Trade Zone ของ Eightcap เป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ที่ผมใช้ร่วมกับ TradingView ซึ่งมีวิดีโอสดในสัปดาห์การซื้อขายล่วงหน้า แนวโน้มการซื้อขายจากนักวิเคราะห์ประจำ Joe Jeffries และบทความต่างๆ พร้อมการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

สุดท้ายนี้ พวกเขายังให้บริการ FlashTrader ซึ่งเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีประโยชน์สูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผมสามารถกำหนดเป้าหมายกำไรได้หลายรายการ คำนวณขนาดตำแหน่ง และตั้งค่า Stops และ Limits ทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยการคลิกที่ตั๋วซื้อขายเพียงครั้งเดียว

และประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับปรุงนี้ช่วยให้เเทรดเดอร์ชาวไทยมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์สามารถมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การซื้อขายของตนได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องคำนวณด้วยตนเองที่ซับซ้อน โปรดทราบว่าคุณสามารถใช้ Flashtrader ได้กับบัญชี MT5 เท่านั้น

แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีและข้อเสนอการซื้อขายอัลกอริทึม

หากคุณต้องการเปลี่ยนเส้นทางจาก TradingView ผมขอแนะนำให้ใช้ MT4 หรือ MT5 ซึ่งมีคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยม เช่น ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เครื่องมือวาดภาพ และกรอบเวลามากกว่า 30 ตัว (9 รายการสำหรับ MT4, 21 รายการสำหรับ MT5) คุณยังสามารถสร้างตัวบ่งชี้ลูกค้าและสคริปต์อัตโนมัติด้วยที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อทดสอบแพลตฟอร์มพร้อมกับเครื่องมือการซื้อขาย MT4 มาตรฐาน ผมประทับใจที่ Eightcap นำเสนอการผสานรวมกับ Capitalise.ai ซึ่งช่วยให้ผมทำการซื้อขายอัตโนมัติได้โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเอง ทำให้กลยุทธ์การซื้อขายแบบอัลกอริทึมของผมคล่องตัวขึ้น

ผมอยากแนะนำ Pepperstone ในฐานะโบรกเกอร์ TradingView โดยรวมที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย Pepperstone มีเครื่องมือการซื้อขายมากมาย ได้แก่ คู่ฟอเร็กซ์ 93 คู่, สกุลเงินดิจิทัล 26 รายการ, โลหะ 15 รายการ, ดัชนี 23 รายการ และ ETF มากกว่า 100 รายการ อีกทั้งยังมีความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็วและเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลาย

ปัจจัยเหล่านี้ควบคู่ไปกับการสนับสนุนลูกค้าที่ได้รับรางวัล และนี่คือเหตุผลที่เราให้คะแนน Pepperstone ถึง 97/100 สำหรับประสบการณ์ TradingView โดยภาพรวมที่ดีที่สุด

Pepperstone โบรกเกอร์ชาวออสเตรเลียที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 เป็นโบรกเกอร์ TradingView โดยรวมที่ดีที่สุดของเรา เนื่องจากมีเครื่องมือสร้างกราฟที่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย และตลาด forex และ CFD ที่หลากหลายถึง 1,200 รายการ

จากประสบการณ์ของเรา โบรกเกอร์มีทีมนักวิเคราะห์วิจัยผู้เชี่ยวชาญ มีอัตราการส่งคำสั่งซื้อที่น่าประทับใจถึง 99.60% และมีความน่าเชื่อถือสูง โดยได้รับการควบคุมใน 7 เขตอำนาจศาล รวมถึงการควบคุมดูแลโดย SCB ที่เป็นหน่วยงานสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ตลอดจนกฎระเบียบระดับสูงใน สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี และไซปรัส

ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับ TradingView

TradingView ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกแพลตฟอร์มชั้นนำของเราอย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณชุดเครื่องมือที่ครอบคลุม อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคมากกว่า 100 ตัว รวมถึง Bollinger Bands และ MACD พร้อมด้วยเครื่องมือการวาดกราฟขั้นสูง เช่น Anchored Volume Profiles

ในการทดสอบแพลตฟอร์มของผม ผมพบว่า TradingView ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับการวิเคราะห์ตลาด คุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างยิ่งช่วยให้เครื่องมือวาดภาพสามารถคลิกเข้ากับราคาได้โดยตรง ทำให้ง่ายต่อการวางภาพวาดบนแผนภูมิอย่างแม่นยำ

การเพิ่มอินดิเคเตอร์ก็ราบรื่นพอๆ กัน และผมพบว่าตัวเลือกในการบันทึกเทมเพลตเริ่มต้นทำให้การสลับระหว่างตลาดกว่า 1,200 แห่งของ Pepperstone เป็นเรื่องง่าย โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดค่าอินดิเคเตอร์หรือประเภทแผนภูมิใหม่

หากคุณต้องการทดลองใช้แพลตฟอร์มอื่น ผมว่าแพลตฟอร์ม MetaTrader ทั้งสองแบบ (MetaTrader 4 + MetaTrader 5), cTrader และแอพการซื้อขายของ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ดี

การดำเนินคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว

เพื่อยกระดับประสบการณ์การซื้อขาย TradingView ของผม ผมพบว่า Pepperstone มีความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็ว

เมื่อทีมของผมได้ทำการทดสอบความเร็วในการดำเนินการของโบรกเกอร์ 20 อันดับแรก Pepperstone มีความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุดเป็นอันดับสามโดยรวม ด้วยความเร็วเฉลี่ย 77 มิลลิวินาทีสำหรับคำสั่งซื้อ limit และ 100 มิลลิวินาทีสำหรับคำสั่งซื้อ market โบรกเกอร์จึงช่วยลดเวลาแฝงในการซื้อขายของผมลงอย่างมาก (เวลาระหว่างการวางคำสั่งซื้อและการดำเนินการ) และทำให้ต้นทุนการซื้อขายโดยรวมของผมลดลง

เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของโบรกเกอร์ 20 รายของเรา ผมพบว่าการใช้เวลาน้อยกว่า 100 มิลลิวินาทีนั้นถือเป็นเวลาที่รวดเร็วมาก และมีเพียงสามโบรกเกอร์เท่านั้นที่บรรลุความเร็วนี้

ตารางความเร็วในการดำเนินการ

สเปรด 0 พิป 100%

เพื่อเปิดบัญชี TradingView ผมต้องเปิดบัญชี Razor ของ Pepperstone และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มกราฟฟิก

แม้ว่า Pepperstone จะมีบัญชีการเทรดสองประเภท คือ บัญชี Standard ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม และบัญชี Razor ที่มีสเปรด 0 พิป แต่จากการทดสอบของผม บัญชี Razor มีสเปรดที่ต่ำกว่า โดยเฉลี่ยแล้ว EUR/USD มีสเปรด 0.19 พิป เทียบกับ 0.26 พิปในบัญชี Standard

ผมยังประทับใจที่ Pepperstone สามารถเสนอสเปรด 0 พิปสำหรับคู่เงินหลักทั้ง 6 คู่ (AUD/USD, EUR/USD, GBP/USD, USD/CAD, USD/CHF และ USD/JPY) ได้ตลอดเวลา 100% ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีสเปรด 0 พิป ค่าธรรมเนียมเดียวที่ต้องจ่ายคือคอมมิชชันคงที่ที่ $3.50 ต่อล็อต ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ไทยได้รับโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่มั่นคง ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด

ผมยังพบว่าบัญชี Standard ของ Pepperstone มีสเปรดที่แข่งขันได้ โดยเฉลี่ยแล้ว EUR/USD มีสเปรด 1.12 พิป ซึ่งถือว่าดีกว่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.24 พิป

เราแนะนำ IC Markets ในฐานะโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำที่สุดสำหรับ TradingView จากการทดสอบของเรา IC Markets ยังโดดเด่นด้วยความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรด (MT4, MT5, cTrader และ TradingView) และเครื่องมือคัดลอกการเทรดที่ยอดเยี่ยม เช่น ZuluTrade, Myfxbook และ cTrader Copy

การวิเคราะห์ของทีมงานของผมแสดงให้เห็นว่า IC Markets เสนอสเปรดที่ต่ำที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในบัญชี CFD ทั้งสองประเภทของโบรกเกอร์ โดยบัญชี Standard ที่ไม่มีคอมมิชชันมีสเปรดเฉลี่ยที่ 0.73 พิป สำหรับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นตัวเลือกที่แข่งขันได้มากที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ทั้ง 20 แห่งในรายการของเรา

เมื่อเราดูสเปรดเฉลี่ยสำหรับคู่เงินหลักต่างๆ (AUD/USD, EUR/USD, GBP/USD, USD/CAD, USD/CHF) จะพบว่า IC Markets มีสเปรดเฉลี่ยที่ 1.03 พิป ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.48 พิป อย่างมาก

โมดูลสเปรดของบัญชี Standard

เพื่อค่าธรรมเนียมที่ต่ำยิ่งขึ้น บัญชี RAW ของ IC Markets มีสเปรดเฉลี่ยที่ 0.32 พิป สำหรับคู่เงินหลักที่เกี่ยวข้องกับ USD ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมที่ 0.42 พิป นี่ทำให้ IC Markets ติดอันดับที่ 3 ในการเปรียบเทียบบัญชี RAW/ECN ของเรา รองจาก Fusion Markets (0.22 พิป) และ City Index (0.25 พิป)

เมื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม ผมพบว่าสเปรดต่ำเหล่านี้เกิดจากการที่ IC Markets ใช้ผู้ให้บริการสภาพคล่องมากกว่า 25 ราย ซึ่งหมายความว่า พวกเขามีสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น และช่วยให้ค่าธรรมเนียมในการเทรดต่ำลง

ค่าคอมมิชชันต่ำกับ cTrader

IC Markets มีโครงสร้างค่าคอมมิชชันที่แตกต่างกันตามแพลตฟอร์มที่คุณใช้ หากคุณต้องการค่าคอมมิชชันที่ต่ำที่สุด คุณจะต้องใช้ TradingView (หรือ cTrader)

สำหรับบัญชีที่มีค่าคอมมิชชัน ค่าธรรมเนียมคือ $3.00 ต่อล็อต ต่อฝั่งบน TradingView ขณะที่บนแพลตฟอร์ม MetaTrader ทั้งสอง (MT4 และ MT5) ค่าธรรมเนียมคือ $4.50 ต่อล็อต ต่อฝั่ง จากประสบการณ์ของผม การมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม $1 ต่อการเทรด round turn (การเปิดและปิดคำสั่ง) ช่วยลดต้นทุนการเทรดโดยรวมได้อย่างมาก

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ผมชื่นชอบจาก IC Markets คือการที่ไม่มี ข้อจำกัดระยะห่างของคำสั่ง ซึ่งทำให้คุณสามารถวางคำสั่งใกล้กับราคาในตลาดปัจจุบันได้ ทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสการเทรดที่ดีได้ทันที ก่อนที่ตลาดจะเคลื่อนตัวไปไกล

เราเลือก FP Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนต่ำที่สุดสำหรับ TradingView เนื่องจาก ความเร็วในการดำเนินการตลาดที่รวดเร็ว สเปรดที่แข่งขันได้ และ ค่าคอมมิชชันที่ต่ำ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนการเทรดโดยรวมเมื่อใช้แพลตฟอร์ม TradingView ที่มีคุณภาพสูง

FP Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 พวกเขาเป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานระดับชั้นนำ เช่น ASIC, CySEC, และ FSA ของเซเชลส์ สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย นอกจากต้นทุนการเทรดที่ต่ำแล้ว โบรกเกอร์นี้ยังเสนอเครื่องมือการเทรดที่ทันสมัย เช่น Traders Toolbox ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม MT4 อีกด้วย

นอกจาก TradingView แล้ว FP Markets ยังมีแพลตฟอร์มการเทรดอื่นๆ ได้แก่ MT4, MT5 และ cTrader พร้อมทั้งสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินกว่า 850 รายการ

ต้นทุนการเทรดที่ต่ำ (สเปรด + ค่าคอมมิชชัน)

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย FP Markets เสนอ ต้นทุนการเทรดที่ต่ำ เนื่องจากมี สเปรดที่แข่งขันได้ และ ค่าคอมมิชชันที่ต่ำ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม

คุณสามารถเลือกเปิดบัญชี Standard หรือ Raw ได้ โดยบัญชี Raw มีค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้ที่ $3 USD ต่อล็อตต่อฝั่ง ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมที่ $3.50 USD

นอกจากค่าคอมมิชชันที่ต่ำแล้ว ทั้งสองบัญชียังมี สเปรดที่แข่งขันได้ เนื่องจากการตั้งราคาในลักษณะ ECN ซึ่งหมายความว่าราคาถูกอ้างอิงจากผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย เพื่อให้ได้ราคาการดำเนินการที่ดีที่สุด

จากการทดสอบบัญชี Raw ของ FP Markets พบว่า สเปรดเฉลี่ยสำหรับ EUR/USD อยู่ที่ 0.20 พิป ระหว่างเซสชั่น London และ New York ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ทดสอบไว้ถึง 0.26 พิป ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการเทรดโดยรวมต่ำลง

เครื่องมือการเทรดขั้นสูง

FP Markets ทำให้ผมประทับใจด้วย แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย รวมถึง MT4, MT5, TradingView, และ cTrader นอกจากนี้ FP Markets ยังเสนอเครื่องมือการเทรดขั้นสูง เช่น AutoChartist และ Trading Central ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์ตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างกราฟขณะเทรด

โดยเฉพาะ AutoChartist ซึ่งทำให้ผมสนใจในฐานะเทรดเดอร์ที่ใช้ TradingView เครื่องมือนี้ช่วยให้สามารถระบุรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้แบบ เรียลไทม์ ข้ามหลายกรอบเวลาและตลาดต่างๆ ผมแนะนำเครื่องมือนี้สำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น เนื่องจากมันช่วยเร่งกระบวนการวิจัยและการวิเคราะห์ ทำให้สามารถระบุโอกาสในการเทรดได้อย่างรวดเร็ว

เราแนะนำ BlackBull Markets เพราะมี ความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุด ที่เราได้ทดสอบ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการใช้งานแพลตฟอร์ม TradingView ของเรา นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ TradingView Pro ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณทำการเทรดอย่างน้อยหนึ่งล็อตต่อเดือน

BlackBull Markets ก่อตั้งขึ้นที่ ออคแลนด์, นิวซีแลนด์ และมี ความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุด ที่เราได้ทดสอบ โบรกเกอร์นี้ได้รับการควบคุมจาก FMA ของนิวซีแลนด์ แต่สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย จะได้รับการลงทะเบียนภายใต้ กฎระเบียบของเซเชลส์

นอกจากนี้ BlackBull Markets ยังมีแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย รวมถึงแพลตฟอร์มของตัวเอง BlackBull Invest และ BlackBull CopyTrader พร้อมทั้งสามารถเทรด หุ้นจริงกว่า 26,000 ตัว ซึ่งเป็นจำนวนที่มากมายและหลากหลาย

ความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุด

จากการทดสอบของเรา, BlackBull Markets มี ความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุด สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในบรรดา 20 โบรกเกอร์ชั้นนำ โดยมี ความเร็วในการดำเนินการที่ 72 มิลลิวินาที สำหรับคำสั่ง Limit และ 90 มิลลิวินาที สำหรับคำสั่ง Market

การแสดงผลที่น่าประทับใจนี้ทำให้ BlackBull Markets เป็นโบรกเกอร์เดียวในผลทดสอบของเราที่สามารถทำความเร็วการดำเนินการต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที สำหรับทั้งคำสั่ง Limit และ Market ซึ่งช่วยยืนยันสถานะของมันเป็น โบรกเกอร์ที่ดีที่สุด ของเรา

การมี ความเร็วในการดำเนินการที่เร็ว ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน TradingView ของผมกับ BlackBull Markets โดยการผสมผสานการดำเนินการที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ พร้อมการเข้าถึงเครื่องมือกราฟที่ทรงพลัง

โมดูลความเร็วในการดำเนินการ

ความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรด

นอกจาก TradingView แล้ว, ผมยังประทับใจกับความหลากหลายของ แพลตฟอร์มการเทรด ที่ BlackBull Markets นำเสนอ ซึ่งรวมถึงทุกแพลตฟอร์มยอดนิยมจากภายนอกที่มีในตลาด เช่น MT4, MT5, cTrader, TradingView และตัวเลือกการเทรดทางสังคมและการคัดลอกการเทรด เช่น Myfxbook, ZuluTrade รวมถึงแพลตฟอร์มที่พัฒนาเองของโบรกเกอร์

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผมคงเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาเองของ BlackBull Markets โดยเฉพาะ BlackBull Invest รุ่นใหม่และ BlackBull CopyTrader ที่ได้รับรางวัล ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มนี้รองรับสไตล์การเทรดที่หลากหลาย

BlackBull CopyTrader มีฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร โดยการเชื่อมต่อเทรดเดอร์กับ ผู้จัดการกองทุนชั้นนำ และเสนอเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงขั้นสูง อย่างไรก็ตาม, สำหรับการเทรดทั่วไป ผมแนะนำให้ใช้หนึ่งใน สี่แพลตฟอร์มภายนอก เว้นแต่คุณจะสนใจการเทรดหุ้น ซึ่งในกรณีนี้ BlackBull Invest เป็นแพลตฟอร์มที่จำเป็น

การเข้าถึง 26,000 ตลาด

BlackBull Markets เสนอ ตลาดทางการเงินกว่า 26,000 ตลาด รวมถึง Forex, หุ้น, ดัชนี, และสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นความหลากหลายที่มากที่สุดที่ผมเคยเห็นสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเป็นพิเศษคือการที่โบรกเกอร์นี้สามารถเทรด หุ้นจริง ผ่านแอปการเทรดหุ้นเฉพาะของตัวเอง BlackBull Invest ความสามารถในการเทรดสินทรัพย์จริงควบคู่ไปกับ CFD ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอของผม และยังเปิดโอกาสให้สามารถใช้กลยุทธ์การเทรดที่หลากหลายตามประเภทของสินทรัพย์ที่ผมเทรด