FxPro ดีไหม 2025: รีวิวฉบับเต็ม
FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ไทย โดยคุณจะได้รับการกำกับดูแลจาก FSA (Seychelles) ในด้านความปลอดภัยในการซื้อขาย และที่น่าสนใจคือ FxPro เป็นโบรกเกอร์รายแรกที่เสนอการซื้อขายด้วย cTrader ทำให้แพลตฟอร์มการเทรดของที่นี่มีความหลากหลายอย่างมาก
ในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปวิเคราะห์ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น สเปรด, การฝากถอนเงิน, ตลาดการเงินที่รองรับและพอร์ทัลการศึกษา เพื่อการตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูลที่ครบถ้วน

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site. For more information, visit our About Us page.
ข้อมูลทั่วไป FxPro ดีไหม 2025
🏛️ การกำกับดูแล | บาฮามาส (SCB), ยุโรป (CySEC), UK (FCA) |
💰 สเปรด | สเปรดไม่คงที่ |
📊 แพลตฟอร์ม | MT4, MT5 , cTrader, FxPro Trading Platform |
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $100 สำหรับบัญชี Standard |
💰 ค่าธรรมเนียมถอนเงิน | $0 |
🛍️ ตลาดการเงิน | FX, ฟิวเจอร์ส, ดัชนี, หุ้น, โลหะ, คริปโต, พลังงาน |
💳 ฝากผ่านบัตรเครดิต | มี |
ทำไมถึงต้องเลือก FxPro
FxPro ดีไหม ? แน่นอนว่า โบรกเกอร์นี้อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่ของคุณ หากคุณมองหาตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่น ที่คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายยอดนิยมได้หลายตัว เช่น MT4, MT5 และ cTrader รวมถึงแพลตฟอร์มการซื้อขาย FxPro ของพวกเขาเอง นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกเปิดบัญชีได้ทั้งแบบบัญชี Standard และบัญชี RAW หรือเลือกข้อเสนอเงินคืนในบัญชี Elite (เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ โดยต้องฝากเงินขั้นต่ำ $30,000) ได้ด้วย
แต่ข้อเสียที่ผมคิดว่าอาจจะกระทบต่อเทรดเดอร์ไทย แม้ FxPro จะเหมาะกับผู้เริ่มต้น แต่ก็อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพที่ใช้กลยุทธ์การเทรดแบบสั้น (Scalping) เพราะคอมมิชชันแบบคงที่ $3.50 ต่อ 1 ล็อต จะทำให้ต้นทุนการซื้อขายของคุณสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย
- แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
- ครอบคลุมตลาด CFD มากถึง 2100 รายการ
- มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม
- มีค่าธรรมเนียมสูงในหลายด้าน
- ข้อกำหนดยอดฝากขั้นต่ำที่สูง
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย FxPro
FxPro นำเสนอบัญชีทั้งหมดสี่ประเภทสำหรับนักเทรดในไทย หากคุณใช้แพลตฟอร์ม MT4/MT5 เพื่อการเทรดฟอเร็กซ์ คุณสามารถเลือกใช้บัญชี Standard ที่มีสเปรดเริ่มต้น 1.2 Pip หรือบัญชี RAW+ และบัญชี Elite ที่ทั้งสองบัญชีมีค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อฝั่ง (ต่อล็อต) และสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips ความแตกต่างหลักคือบัญชี Elite มีโปรแกรมเงินคืนและมีเงินฝากขั้นต่ำที่ $30,000 ส่วนการเทรดด้วย cTrader คุณสามารถใ ใช้บัญชี cTrader ที่มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.2 pips และค่าคอมมิชชัน $35 ต่อการเทรด $1,000,000 ได้
และจากการทดสอบของผม FxPro ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากและถอนเงิน แต่คุณจะต้องจ่ายค่าสวอปและค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานรายเดือน $10 (หรือ 320 บาทไทย) หลังจากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 6เดือน โดยค่าธรรมเนียมสวอปจะแตกต่างกันไปตามสกุลเงิน แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมเหล่านี้ได้โดยการใช้บัญชีแบบไร้ค่าสวอป (แม้ว่าจะมีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้น หากคุณถือครองตำแหน่งในบางผลิตภัณฑ์เกินระยะเวลาที่กำหนด)
นี่คือข้อสรุปที่ผมได้จากการลองใช้งานบัญชีเทรด FxPro:
โปรดทราบว่า ปัจจุบัน FxPro ไม่ได้ให้บริการบัญชีแบบสเปรดคงที่ (Fixed Spreads) หรือ การส่งคำสั่งแบบทันที (Instant Execution) แก่ลูกค้าใหม่อีกต่อไปแล้ว บัญชีลักษณะดังกล่าวจะให้บริการเฉพาะกับลูกค้าเก่าที่มีบัญชีอยู่ก่อนหน้านี้เท่านั้น
สเปรดของบัญชี Standard (MT4/MT5)
บัญชี Standard เป็นบัญชีมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ไม่ซ้ำซ้อน เพราะไม่มีค่าคอมมิชชันและใช้ระบบสเปรดลอยตัว ซึ่งจากการทดสอบของผม สเปรดเฉลี่ยสำหรับคู่เงิน EUR/USD อยู่ที่ประมาณ 1.4 pips นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ แต่เทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงอาจพบว่าค่าใช้จ่ายนี้ส่งผลต่อกำไรอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อย่าง Pepperstone โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน สเปรดของ FxPro อาจพุ่งขึ้นถึง 2.2 pips เลยทีเดียว
Standard Acount Spreads | EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | AUD/USD | USD/CAD | EUR/GBP | EUR/JPY | AUD/JPY |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
FxPro Average Spread | 1.4 | 1.4 | 1.7 | 1.9 | 1.7 | 1.4 | 1.8 | 2.2 |
Industry Average Spread | 1.2 | 1.4 | 1.6 | 1.5 | 1.8 | 1.5 | 1.9 | 2.1 |
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้คือ FxPro กำหนดระยะห่างขั้นต่ำของคำสั่ง Stop/Limit ไว้ที่ 1 pip จากราคาปัจจุบันหรือราคาที่ตั้งไว้สำหรับคู่เงินหลักส่วนใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นข้อจำกัดที่ค่อนข้างแปลก ดังนั้น ผมไม่แนะนำให้คุณใช้บัญชีประเภทนี้ หากคุณเป็นสาย Scalping ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง แต่สำหรับเทรดเดอร์ทั่วไปที่ให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายของค่าธรรมเนียม และไม่ติดปัญหาเรื่องสเปรดที่กว้างขึ้นเล็กน้อย บัญชีก็นี้ถือว่าเหมาะสมและใช้งานได้สะดวก
สเปรดบัญชี RAW+ และ Elite
หากคุณต้องการใช้งานบัญชี RAW+ คุณสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 (เช่นเดียวกันกับการใช้บัญชี Elite) โดยบัญชีทั้งสองแบบมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมสำหรับการเทรดคู่เงินหลัก (Major FX Pairs) เริ่มต้นที่ 0 pip บวกกับค่าคอมมิชชั่น $3.5 ต่อฝั่ง และยังมีสินทรัพย์บางประเภทที่สามารถเทรดได้โดย ไม่เสียค่าคอมมิชชันอีกด้วย
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับผมคือ การเทรดทองคำ ในบัญชี RAW+ และ Elite คุณจะได้รับสเปรดที่แคบกว่าบัญชีทั่วไป คือ ประมาณ 10 เซนต์ บวกกับค่าคอมมิชชั่น $3.5 ต่อฝั่ง
Raw Account Spreads | FxPro | Average Spread |
---|---|---|
Overall | 1.08 | 0.72 |
EUR/USD | 0.2 | 0.28 |
USD/JPY | 0.31 | 0.44 |
GBP/USD | 0.21 | 0.54 |
AUD/USD | 0.31 | 0.45 |
USD/CAD | 0.5 | 0.61 |
EUR/GBP | 0.28 | 0.55 |
EUR/JPY | 0.25 | 0.74 |
AUD/JPY | 0.5 | 0.93 |
USD/SGD | 7.19 | 1.97 |
บัญชี cTrader
บัญชี cTrader เหมาะกับคนที่ชอบเทรดสั้นๆ (scalping) หรือผู้ที่เทรดในปริมาณสูง (แต่ต้องเทรดด้วย USD) เพราะคุณสามารถเข้าถึง “Raw Spread” เริ่มต้นที่ 0.0 pips ซึ่งตอนที่ผมทดสอบ EUR/USD อยู่ที่ 0.2–0.5 pips จุดที่ควรระวังคือ ทุกคำสั่งซื้อขายจะมีค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อล็อต (คิดทั้งสองฝั่ง) และเรียกเก็บเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่เนื่องจาก ผมเทรดคู่เงิน GBP ดังนั้น ผมจึงเสียเงินจากค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินไปบ้าง
ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับต้นทุนการเทรด
ผมให้คะแนนต้นทุนการเทรดของ FxPro อยู่ที่ 5.0 จาก 10 คะแนน เนื่องจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อนและบางครั้งมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ชัดเจน ในฐานะเทรดเดอร์ที่อยู่ในเม็กซิโก ส่วนนี้ถือว่าสำคัญมาก จึงจะนำมาคิดรวมในคะแนนโดยรวม
แพลตฟอร์มการเทรดของ FxPro
FxPro มีแพลตฟอร์มที่หลากหลายถึงห้าแพลตฟอร์ม ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader และแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยโบรกเกอร์เอง ซึ่งเรียกว่า FxPro Trading Platform (หรือ FxPro Edge) โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะเหมาะกับเทรดเดอร์ชาวไทยที่มีประสบการณ์และสไตล์การเทรดที่แตกต่างกันดังนี้
MetaTrader 4
ในฐานะเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายและความน่าเชื่อถือ ผมชื่นชอบการใช้งาน MetaTrader 4 (MT4) บน FxPro ด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย, มีความสมดุลที่ลงตัวระหว่างฟังก์ชันการใช้งาน และความง่ายต่อการใช้ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
เหตุผลที่ผมแนะนำ MT4 ของ FxPro:
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่: ไม่มีปัญหาในการเปิดกราฟ, การใส่ตัวชี้วัด หรือเปิดคำสั่งซื้อขาย
- ปรับแต่งได้ตามต้องการ: มีตัวชี้วัดทางเทคนิคในตัวกว่า 30 ตัวและกรอบเวลา 9 แบบ รวมทั้งรองรับ Expert Advisors (EAs) สำหรับระบบเทรดอัตโนมัติอีกด้วย
- ทรัพยากรชุมชนขนาดใหญ่: ด้วยจำนวนผู้ใช้ MT4 ที่มาก ทำให้มีเครื่องมือฟรีให้ใช้ไม่จำกัด และผมสามารถดาวน์โหลด EAs และสคริปต์จากฟอรัมเพื่อทดสอบกลยุทธ์ได้อย่างง่าย
เหตุผลที่คุณอาจไม่เลือกใช้ MT4:
- สินทรัพย์จำกัดและฟีเจอร์ล่าสมัย: MT4 เน้นเทรดเฉพาะฟอเร็กซ์และดัชนีหุ้น อีกทั้งอาจถูกยกเลิกการให้บริการในไม่ช้า ถ้าคุณสนใจหุ้นหรือ ETFs ต้องเปลี่ยนไปใช้ MT5 หรือ cTrader ของ FxPro
สรุปความคิดเห็นของผมต่อ MT4
MT4 ของ FxPro เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณให้ความสำคัญกับความเร็ว, ความง่ายในการใช้งาน และระบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ที่ไม่ต้องการฟีเจอร์มากมาย แต่ถ้าคุณเทรดหุ้นหรืออยากได้เครื่องมือใหม่ๆ ผมแนะนำให้คุณเลือก MT5 หรือ cTrader แทน
MetaTrader 5
MT5 ของ FxPro คือแพลตฟอร์ที่ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือการซื้อขายครบครัน ในฐานะเทรดเดอร์ชาวไทย คุณสามารถเข้าถึงเลเวอเรจสูงถึง 1:200 (ผ่านบัญชี SCB) และผมขอแนะนำให้จับคู่ MT5 กับบัญชี Elite ของ FxPro เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
เหตุผลที่ผมแนะนำ MT5 กับ FxPro:
- กราฟขั้นสูง: มีอินดิเคเตอร์ให้ใช้กว่า 38 ตัว และกรอบเวลามากถึง 21 แบบ ผมสามารถวิเคราะห์ราคาได้อย่างละเอียดในระดับนาที เหมาะสำหรับการสเกลป์ อีกทั้งยังเห็นข้อมูลคำสั่งซื้อขายจริงผ่าน depth-of-market ได้ด้วย
- ระบบอัตโนมัติที่เหนือกว่า: ภาษา MQL5 ของ MT5 ช่วยให้เขียน EA ได้ซับซ้อนและรวดเร็วกว่า MQL4 ผมนำ EA วิเคราะห์ความผันผวนมาจาก Marketplace และทดสอบย้อนหลังแบบ 64-bit ได้ลื่นไหลมาก
- คำสั่งซื้อขายแบบขั้นสูง: คำสั่ง Buy-stop-limit และ Sell-stop-limit ใน MT5 ช่วยผมล็อกราคาเข้าเทรดในช่วงตลาดผันผวนได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
เหตุผลที่คุณอาจไม่เลือกใช้ MT5:
สื่อการเรียนรู้ที่ไม่หลากหลาย: เนื่องจาก MT5 ยังใหม่ในตลาด forex ทำให้ชุมชนผู้ใช้งานยังมีไม่มากนัก ทำให้แหล่งข้อมูลการเรียนรู้อาจยังไม่ครอบคลุมนัก
สรุปความคิดเห็นของผมต่อ MT5
MT5 ของ FxPro เหมาะสำหรับผู้ที่เทรดหุ้น, ETFs หรือเทรดเดอร์ที่ชอบใช้คำสั่งซื้อขายขั้นสูง รวมทั้ง เทรดเดอร์ที่ชอบระบบเทรดอัตโนมัติ เพราะ MT5 มี MQL5 และระบบ backtesting ที่ดีกว่า
แพลตฟอร์ม cTrader
หลังจากที่ผมทดสอบแพลตฟอร์ม cTrader ของ FxPro มาหลายสัปดาห์ ผมสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่านี่คือแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูงที่ต้องการเครื่องมือการซื้อขายอันซับซ้อน ซึ่งออกแบบมาเพื่อการส่งคำสั่งแบบ ECN/STP
เหตุผลที่ผมแนะนำ cTrader:
- Depth of Market (DoM): การเห็นสภาพคล่องแบบเรียลไทม์จากธนาคารกลาง (Interbank) คือจุดเปลี่ยน ผมสามารถจับจังหวะเข้าออเดอร์ GBP/USD ได้แม่นยำ โดยอิงจากคลัสเตอร์คำสั่งขนาดใหญ่ช่วงตลาดลอนดอน
- กราฟแยกหน้าต่าง + 50+ Timeframes: ผมตั้ง workspace แบบเฉพาะตัวไว้ 6 กราฟ เพื่อวิเคราะห์สินทรัพย์ข้ามตลาดได้ในหน้าจอเดียว — MT4/MT5 ทำแบบนี้ไม่ได้
- Copy Trading + Automation: ผมเชื่อมต่อกับ cTrader Copy เพื่อติดตามกลยุทธ์ที่ทำผลงานดี และใช้ cAutomate เขียนเงื่อนไขปิดออเดอร์เมื่อความผันผวนพุ่งสูง — ยืดหยุ่นมาก
เหตุผลที่คุณอาจไม่เลือกใช้ cTrader:
- ค่าคอมมิชชันแพง: ค่าคอมฯ $3.50 ต่อด้าน (คิดเป็น $7 ต่อรอบ) และคิดเป็น USD เท่านั้น ทำให้ผมเจอค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินที่ซ่อนอยู่บ่อยครั้ง
- สินทรัพย์จำกัด: cTrader เน้นหนักที่ฟอเร็กซ์และโลหะเท่านั้น ถ้าเน้นเทรดหุ้น CFD ควรไปใช้ MT5 ดีกว่า
สรุปความคิดเห็นของผมต่อ cTrader
FxPro cTrader คือ แพลตฟอร์มในฝันของสาย Scalping โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สกุล USD และไม่กังวลกับค่าคอมมิชชันที่ต้องได้รับ เพราะผมเคยทำกำไร 1.8 pip จากเป้าหมาย 2 pip ได้จากการซื้อขาย EUR/USD ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย หากคุณใช้บัญชี Standard
FxPro WebTrader
หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบดาวน์โหลดหรือติดตั้งซอฟต์แวร์เหมือนผม FxPro WebTrader จะกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เมื่อต้องการดูสถานะการเทรดแบบเร่งด่วน ซึ่งผมทดสอบผ่าน Chrome, Safari และเบราว์เซอร์บน Linux
เหตุผลที่ผมแนะนำ WebTrader:
- ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์: ใช้งานได้ทันทีผ่านเบราว์เซอร์บนทุกอุปกรณ์ (Windows, Mac, Linux) เพื่อติดตามสถานะ GBP/USD โดยไม่มีปัญหาความปลอดภัย เพราะระบบไม่จัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่อง
- เบาและเร็ว: โหลดได้เร็วกว่า MT4/MT5 บนโน้ตบุ๊กรุ่นเก่าของผม เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้เครื่องที่มีพื้นที่จำกัดหรือสิทธิ์จำกัด เช่น คอมพิวเตอร์สำนักงาน
- เครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐานเพียงพอ: มี Timeframe ให้เลือก 9 แบบ และ Indicator มากกว่า 20 ตัว เช่น Bollinger Bands และ MACD ซึ่งเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์เบื้องต้น
เหตุผลที่คุณอาจไม่เลือกใช้ WebTrader:
- ไม่มีเครื่องมือขั้นสูงและการปรับแต่งที่จำกัด เช่น Expert Advisor (EA) และไม่มี Depth of Market (DoM) แบบ cTrader
สรุปความคิดเห็นของผมต่อ WebTrader
FxPro WebTrader เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเข้าออกออร์เดอร์ด่วนหรือเช็กสถานะการเทรดขณะเดินทาง แต่ไม่ควรใช้เป็นแพลตฟอร์มหลักในการวิเคราะห์เชิงลึก ผมแนะนำให้ใช้ควบคู่กับ MT4/MT5 หรือ cTrader เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเทรด
แอปพลิเคชัน FxPro Mobile
ในฐานะเทรดเดอร์ที่เคยขาดทุนจากการเทรดบนมือถือ ผมขอพูดตรงๆ ว่า แอปพลิเคชัน FxPro Mobile เหมาะสำหรับการติดตามมากกว่าใช้งานเทรดจริงจัง โดยแอพมีดีไซน์ที่เรียบง่ายบนทั้ง iOS และ Android โดยเวอร์ชันเว็บใช้ API ของ TradingView ซึ่งช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น
ทำไมผมใช้แอปของ FxPro:
- แจ้งเตือนแบบเรียลไทม์: ตั้งเตือนได้ เช่น “แจ้งเตือนเมื่อทองแตะ $2,050” ช่วยให้ไม่ต้องนั่งเฝ้ากราฟทั้งวัน
- คำสั่ง One-Click ใช้งานง่าย: คำสั่ง Market Order ที่ตอบสนองไว แต่คำสั่ง Limit มีดีเลย์ 0.3 วินาที ทำให้เสียเปรียบ 0.8 pip บนคู่ USD/CAD
- จัดการบัญชีสะดวก: ฝาก-ถอน หรืออัปโหลดเอกสารผ่านแอพได้ในคลิปเดียว
เหตุผลที่คุณอาจไม่เลือกใช้แอปของ FxPro:
- เสี่ยงต่อ Latency สูง: ระหว่างข่าว NFP คำสั่ง Stop-Loss ของผมถูก Fill ต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้ถึง 2 pip — ไม่แนะนำให้เทรดช่วงข่าวแรงผ่านมือถือ
สรุปความคิดเห็นของผมต่อแอปของ FxPro
แอปของ FxPro เหมาะกับการติดตามสถานะหรือจัดการบัญชีเท่านั้น ไม่ควรใช้เทรดแบบจริงจัง โดยเฉพาะถ้าคุณมีแนวโน้ม FOMO
ความเร็วในการส่งคำสั่ง
ในฐานะเทรดเดอร์ที่เคยผ่านทั้ง Flash Crash และข่าวแรงๆ มาแล้ว ผมยืนยันได้ว่า “ความเร็วในการส่งคำสั่ง” คือสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแผนเทรดจากกำไรเป็นขาดทุนได้ จากการทดสอบของผม โมเดล No Dealing Desk (NDD) ของ FxPro ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในสภาวะปกติ แต่มี Slippage เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดผันผวนรุนแรง
Broker | Execution Type | Overall Speed Ranking | Limit Order Speed (ms) | Market Order Speed (ms) |
---|---|---|---|---|
Blackbull Markets | ECN | 1 | 72 | 90 |
Fusion Markets | ECN | 2 | 79 | 77 |
Pepperstone | ECN | 3 | 77 | 100 |
OANDA | Market Maker | 4 | 86 | 84 |
Octafx | ECN | 5 | 81 | 91 |
Exness | Market Maker | 6 | 92 | 88 |
Blueberry Markets | ECN | 7 | 88 | 94 |
FOREX.com | Market Maker | 8 | 98 | 88 |
Global Prime | ECN | 9 | 88 | 98 |
Tickmill | ECN | 10 | 91 | 112 |
TMGM | ECN | 11 | 94 | 129 |
City Index | Market Maker | 12 | 95 | 131 |
Trading.com | Market Maker | 13 | 98 | 138 |
FBS | ECN | 14 | 135 | 118 |
Axi | ECN | 15 | 90 | 164 |
Eightcap | ECN | 16 | 143 | 139 |
IC Markets | ECN | 17 | 134 | 153 |
FxPro | ECN | 18 | 151 | 138 |
Go Markets | ECN | 19 | 144 | 145 |
Markets.com | Market Maker | 20 | 150 | 141 |
ความเร็วในแต่ละแพลตฟอร์มที่ผมได้ทดสอบ:
- cTrader: 25–50 มิลลิวินาที พร้อม Raw Spread ที่ 0.0–0.5 pip และเชื่อมต่อตรงกับผู้ให้สภาพคล่อง (Liquidity Providers) คำสั่งแบบ Limit ถูกส่งและจับคู่เกือบจะทันทีในช่วงตลาดสงบ
- MT4 / MT5 (บัญชี Standard): เฉลี่ย 100–300 มิลลิวินาที เหมาะสำหรับกลยุทธ์ Swing Trade แต่ในช่วงเหตุการณ์ข่าวแรง เช่น แถลงการณ์ ECB ผมสังเกตเห็นว่าคำสั่งมีดีเลย์บ้าง
- บัญชี FxPro Edge: เฉลี่ย 150–400 มิลลิวินาที และมีข้อดีเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษี (เฉพาะในบางประเทศ) แต่แลกมาด้วยความเร็วที่ช้ากว่า cTrader ราว 0.3 วินาที
ข้อสรุปเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดที่ FxPro
ผมให้คะแนน FxPro ในด้านประสบการณ์การเทรดที่ 4.0/10 คะแนน เนื่องจากพบความล่าช้าในการดำเนินการคำสั่งระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการซื้อขายของผม
FxPro ปลอดภัยไหม
จากการประเมิณของทีมงาน Compareforexbrokers ของเราพบว่า FxPro ได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือรวม 60/100 (อ้างอิงจาก การกำกับดูแล, ชื่อเสียง และรีวิวจากผู้ใช้งาน)

การกำกับดูแล
FxPro ได้รับการกำกับดูแลโดย
- FxPro UK Limited ได้รับใบอนุญาตหมายเลขทะเบียน 509956 จาก Financial Conduct Authority (FCA)
- FxPro Financial Services Limited ได้รับใบอนุญาตหมายเลขทะเบียน 45052 จาก Financial Sector Conduct Authority (FSCA)
- FxPro Global Markets Limited ได้รับใบอนุญาตหมายเลขทะเบียน SIA-F184 จาก Securities Commission of The Bahamas (SCB)
- Invemonde Trading Ltd ร่วมกับ FxPro Global Markets Ltd ได้รับใบอนุญาตหมายเลขทะเบียน SD120 จาก Financial Services Authority of Seychelles (FSA)
ชื่อเสียงของ FxPro
ด้วยประวัติยาวนานถึง 22 ปี FxPro ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและได้สร้างชื่อเสียงที่มั่นคงตลอดมา ซึ่งเห็นได้จากการที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำสองแห่ง คือ FSCA และ FCA ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าโบรกเกอร์มีมาตรฐานการเทรดที่สูง มีระดับความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสสูง
คะแนนรีวิว
FxPro ได้รับคะแนนรีวิวที่สูงมากถึง 4.4/5 คะแนน จากรีวิวกว่า 900 รายการบน Trustpilot ในปี 2025 โดยส่วนใหญ่เป็นรีวิวในแง่บวก เทรดเดอร์ชื่นชอบการบริการลูกค้าที่ดีและความรวดเร็วในการดำเนินคำสั่ง แต่ก็มีข้อร้องเรียนบางส่วน ที่มักเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงินและโครงสร้างค่าธรรมเนียมกับสเปรดที่สูง
ข้อสรุปเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย
ผมให้คะแนนความน่าเชื่อถือของ FxPro อยู่ที่ 6.0/10 คะแนน เพราะโบรกเกอร์ขาดการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับ Tier 2 อย่างไรก็ตาม รีวิวจากแหล่งภายนอกส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก ซึ่งผมก็ให้ความสำคัญกับจุดนี้เป็นหลัก
ความนิยมของ FxPro ในไทย 2025
หากพูดถึงโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมในระดับสากล FxPro คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ จากข้อมูลบน Google ผมพบว่า FxPro ถูกใช้เป็นคำค้นหามากถึง 60,500 ครั้งต่อเดือน ตัวเลขนี้ทำให้ FxPro กลายเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อันดับที่ 25 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และจากข้อมูลของ Similarweb ยังพบว่า FxPro ครองตำแหน่งที่ 34 ของโบรกเกอร์ที่มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์มากที่สุด จากสถิติการเยี่ยมชม 412,000 ครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024
ส่วนกระแสในประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้า โบรกเกอร์ FxPro อยู่ในอันดับที่ 21 ด้วยการค้นหาจำนวน 1,600 ครั้งต่อเดือน (ข้อมูลจาก google 2024) ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความนิยมที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของโบรกเกอร์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
Country | 2024 Monthly Searches |
---|---|
South Africa | 9,900 |
Vietnam | 3,600 |
Malaysia | 2,400 |
India | 1,900 |
Nigeria | 1,900 |
United States | 1,900 |
United Kingdom | 1,900 |
Turkey | 1,900 |
Kenya | 1,600 |
Egypt | 1,600 |
Thailand | 1,600 |
Indonesia | 1,600 |
Argentina | 1,600 |
Pakistan | 1,300 |
Brazil | 1,300 |
United Arab Emirates | 1,000 |
Germany | 1,000 |
Italy | 1,000 |
Cyprus | 1,000 |
Mexico | 880 |
France | 880 |
Colombia | 880 |
Japan | 880 |
Spain | 720 |
Morocco | 590 |
Tanzania | 590 |
Netherlands | 480 |
Peru | 480 |
Ecuador | 480 |
Poland | 480 |
Australia | 390 |
Uganda | 390 |
Uzbekistan | 390 |
Canada | 320 |
Singapore | 320 |
Venezuela | 320 |
Hong Kong | 260 |
Saudi Arabia | 260 |
Ghana | 260 |
Botswana | 260 |
Algeria | 210 |
Taiwan | 210 |
Philippines | 210 |
Greece | 210 |
Chile | 210 |
Bangladesh | 170 |
Cambodia | 170 |
Portugal | 170 |
Sweden | 170 |
Jordan | 140 |
Dominican Republic | 140 |
Switzerland | 140 |
Mauritius | 140 |
Austria | 110 |
Ireland | 110 |
Costa Rica | 110 |
Sri Lanka | 90 |
Panama | 90 |
Bolivia | 70 |
New Zealand | 70 |
Mongolia | 70 |
Ethiopia | 50 |
สถิติการค้นหาโบรกเกอร์ FxPro บนอินเตอร์เน็ตในแต่ละประเทศ (ค่าเฉลี่ยต่อเดือน ประจำปี 2024)
![]() |
9,900
1st
|
![]() |
3,600
2nd
|
![]() |
2,400
3rd
|
![]() |
1,900
4th
|
![]() |
1,900
5th
|
![]() |
1,900
6th
|
![]() |
1,900
7th
|
![]() |
1,900
8th
|
![]() |
1,600
9th
|
![]() |
1,600
10th
|
การฝากและถอนเงิน
FxPro มอบความยืดหยุ่นในวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต, กระเป๋าเงินดิจิทัล, สกุลเงินดิจิทัล และวิธีการโอนเงินท้องถิ่น เมื่อผมเปิดบัญชี พบว่าการฝากและถอนที่ FxPro จะได้รับการประมวลผลค่อนข้างรวดเร็ว และไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์โดยตรง
ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ FxPro
จากการทดสอบของผม หากคุณใช้ช่องทางการฝากเงินในประเทศ เช่น QR code หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร โบรกเกอร์กำหนดยอดฝากขั้นต่ำอยู่ที่ 2,000 บาทและไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก แต่หากคุณเลือกใช้วิธีอื่น เช่น การฝากผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต ยอดขั้นต่ำจะลดลงอย่างมาก โดยเริ่มต้นที่ USD10 หรือเทียบเท่า เป็นต้น โปรดทราบว่า วิธีการฝากเงินที่แตกต่างกัน จะมียอดขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไปด้วย
แต่ในกรณีที่คุณต้องการฝากเงินเพื่อเปิดบัญชีเทรด จะมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้
- บัญชี Standard: $100
- บัญชี RAW+: $1000
- บัญชี Elite: $30,000
- บัญชี cTrader: $100
สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี
ในฐานะที่เป็นเทรดเดอร์ชาวไทย คุณสามารถเปิดบัญชีและฝากเงินเข้าบัญชีของคุณด้วยสกุลเงินพื้นฐานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น USD, EUR, GBP, CHF, AUD, PLN, ZAR หรือ THB ของไทย
ช่องทางการฝากเงินและค่าธรรมเนียม
FxPro มีช่องทางการฝากเงินที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ไทย รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร, การโอนระหว่างโบรกเกอร์, บัตรเครดิต/เดบิต, Skrill และ Neteller ไม่มีค่าธรรมเนียมและใช้เวลาประมาณ 10 ถึง 15 นาทีในการฝากเงิน ซึ่งผมคิดว่าค่อนข้างรวดเร็ว
ช่องทางการถอนเงินและค่าธรรมเนียม
หากคุณต้องการทำการถอนเงิน คุณสามารถใช้ตัวเลือกเดียวกันกับตัวเลือกการฝากเงินที่กล่าวถึงข้างต้น นอกจากนี้ ผมยังพบว่า FxPro มักจะระบุว่าใช้เวลาขั้นต่ำหนึ่งวันทำการในการประมวลผลการถอนเงินบนเว็บไซต์ของตน ทั้งยังไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนเงิน แต่หากคุณทำการถอนเงินโดยที่ยังไม่มีการเทรดใดๆ ระบบจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม สูงสุดถึง 2.6% จากจำนวนเงินที่ถอน
ข้อสรุปเกี่ยวกับวิธีการชำระเงิน
สำหรับผม FxPro ได้คะแนน 8.0/10 ในแง่ตัวเลือกของการฝากถอนเงิน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการที่ไม่มีค่าธรรมเนียมและช่องทางการทำธุรกรรมที่หลากหลาย (ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและภูมิภาคที่คุณอยู่) อย่างไรก็ตาม FxPro เงื่อนไขในรายละเอียดเล็กน้อยที่ไม่ได้เขียนให้ชัดเจน เช่น การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ในบางกรณี และนี่เองที่ทำให้คะแนนของพวกเขาต่ำลง
ความสะดวกในการเปิดบัญชี
การเปิดบัญชีกับ FxPro ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที แต่กระบวนการยืนยันตัวตนทั้งหมดใช้เวลานานถึง 2 วันทำการ ซึ่งถือว่าช้ากว่า Pepperstone ที่ใช้เวลาเพียงประมาณ 4 ชั่วโมง
การเปิดบัญชีกับ FxPro เริ่มต้นด้วยขั้นตอนการลงทะเบียน 3 ขั้นตอน ได้แก่
- กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ โดยให้ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ประเทศที่คุณอาศัยอยู่, อีเมล และสร้างรหัสผ่าน จากนั้นจึงใส่ข้อมูลตามที่ระบบร้องขอ เช่น ชื่อสกุล, อาชีพ, รายได้ และเงินที่คาดว่าจะใช้ในการลงทุน
- ส่งเอกสารสำหรับการยืนยันตัวตน ซึ่งได้แก่:
- บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
- เอกสารยืนยันที่อยู่ เช่น บิลค่าสาธารณูปโภคหรือใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร ที่ออกไม่เกิน 3 เดือน
- และในบางกรณีอาจต้องใช้ เอกสารยืนยันฐานะทางการเงิน สำหรับบัญชีประเภทพิเศษ
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ FxPro
FxPro มีพอร์ตสินทรัพย์ให้คุณเลือกเทรดได้มากกว่า 2,100 รายการ ครอบคลุมทั้งตลาด Forex, CFD และสินทรัพย์จริง ตอบโจทย์กลยุทธ์การเทรดและระดับความเสี่ยงที่หลากหลายของนักลงทุนชาวไทยได้เป็นอย่างดี
สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFDs)
การเทรด CFD กับ FxPro ครอบคลุมสินทรัพย์ 6 ประเภทหลัก:
- Forex CFDs: เทรดได้กว่า 70 คู่สกุลเงิน ทั้งกลุ่ม Major (เช่น EUR/USD), Minor (เช่น AUD/NZD) และ Exotic (เช่น USD/ZAR)
- หุ้น CFDs: เทรดหุ้นทั่วโลกกว่า 2,000 ตัว เช่น Tesla, Apple และ Amazon พร้อมเลเวอเรจสูงสุด 1:5 (EU/UK) หรือ 1:10 (บัญชีนอกอาณาเขต)
- ดัชนี CFDs: เลือกเทรดได้มากกว่า 18 ดัชนี เช่น S&P 500, FTSE 100 และ Nikkei 225 พร้อมสเปรดเริ่มต้นเพียง 0.5 pip (เช่น US30)
- สินค้าโภคภัณฑ์ CFDs: รวมถึงทองคำ, น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ และฟิวเจอร์สการเกษตร เช่น ข้าวโพด และดัชนี US Dollar โดยมีสเปรดเริ่มต้นเพียง 0.25 pip
- คริปโต CFDs: เทรดคริปโตได้มากกว่า 39 คู่สกุล เช่น BTC/USD, ETH/USD, XRP/USD สเปรด Bitcoin เริ่มที่ $15 ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับโบรกเกอร์ที่เน้น Forex เป็นหลัก
- สินค้าโภคภัณฑ์ (รวมโลหะ 12 ชนิด): ไม่ว่าจะเป็นโลหะมีค่า 12 รายการ , พลังงาน เช่น น้ำมันดิบ Brent (สเปรดเริ่มต้น 3 pip) และก๊าซธรรมชาติ และสินค้าเกษตร เช่น าวโพด และข้าวสาลี โดยมีขนาดสัญญาเริ่มต้นเพียง 0.5 ล็อต
สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดการเงิน
ผมพบว่านี่คือหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของ FxPro ทำให้โบรกเกอร์ได้คะแนนสูงถึง 9.0/ 10 ด้วยจำนวน CFD ที่มากกว่า 2,100 รายการ ซึ่งมากกว่าโบรกเกอร์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นมา FxPro ยังมีการขยายรายการสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคริปโต ซึ่งน่าสนใจมาก
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
การสนับสนุนลูกค้าของ FxPro มีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วัน ผ่านการแชทสด, โทรศัพท์ และอีเมล รวมถึงการสนับสนุนแชทในหลากหลาย รวมถึงภาษาไทย สำหรับการติดต่อทุกช่องทาง ผมพบว่าเวลาในการรอรับบริการนั้นไม่นาน และที่สำคัญ คือ เจ้าหน้าที่มีความรู้และตอบสนองได้อย่างมืออาชีพ
อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าการติดต่อเจ้าหน้าที่ด้วยภาษาไทยในช่องทางแชทอาจใช้เวลาที่นานหลายนาที (ผมรอมากกว่าครึ่งชั่วโมง) กว่าที่แชทจะถูกส่งต่อ ดังนั้น ผมแนะนำให้คุณเลือกเพิ่ม FxPro ในแอปพลิเคชัน Line ดีกว่า เพราะสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ชาวไทยได้ทันที
บทสรุปเกี่ยวกับฝ่ายบริการลูกค้า
ทีม Live Chat และ Line ของ FxPro ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่ตอบกลับเร็วและมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการเป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์เจ้าใหญ่ๆ ที่มักจะให้คำตอบที่เหมือนคัดลอกมา แต่การให้บริการทางช่องทางอีเมลที่ช้าและไม่ได้ให้บริการในทุกวัน ทำให้ผมให้คะแนนการบริการลูกค้าของ FxPro 6 เต็ม 10 เท่านั้น เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ “เชื่อถือได้” แต่มีบางจุดที่ยังสามารถปรับปรุงได้ในอนาคต
การวิเคราะห์ตลาดและพอร์ทัลการศึกษา
FxPro โดดเด่นในด้านการวิเคราะห์และพอร์ทัลการศึกษา โดยมีการวิเคราะห์ภายในที่มีคุณภาพสูงและเครื่องมือทั้งที่เป็นกรรมสิทธิ์และจากผู้ให้บริการบุคคลที่สามอีกมากมาย ผมพบว่าสื่อการเรียนการสอนสามารถตอบสนองความต้องการของทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี และมีการอัพเดทอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
พอร์ทัลการศึกษา
FxPro มี โมดูลการเรียนรู้พื้นฐานทั้งหมด 6 หัวข้อ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านหมวด FxPro Academy โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ตลาด
- พื้นฐานการเทรด (Basics of Trading): ครอบคลุมคำสั่งซื้อขายประเภทต่างๆ การใช้เลเวอเรจ และการจัดการความเสี่ยงแบบเป็นขั้นตอน
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): อธิบายบทบาทของตัวชี้วัดเศรษฐกิจ เช่น CPI และ NFP รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งกรณีศึกษาหัวข้อ “Interest Rate Cycles” ช่วยให้ผมเข้าใจว่าธนาคารกลางมีผลต่อทิศทางตลาดอย่างไร
- บทความใหม่ 3–5 เรื่องต่อสัปดาห์: FxPro เผยแพร่บทความเกี่ยวกับข่าวสารตลาด, กลยุทธ์การเทรด และแนวโน้มต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
- สัมมนาสด (Live Webinars): จัดขึ้นทุกสัปดาห์ มีความยาวประมาณ 45 นาทีต่อครั้ง ให้ข้อมูลเชิงลึกและตอบคำถามสดได้ดี
- วิดีโอสำหรับผู้เริ่มต้น: ความยาว 5–10 นาทีต่อคลิป เช่น “Pip คืออะไร?” แสดงผลด้วยภาพคมชัด, เข้าใจง่าย
อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าตัวอย่างในวิดีโอบางส่วนยังอิงข้อมูลปี 2022 ซึ่งควรได้รับการอัปเดตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ตลาด
FxPro มีโดเมนแยกสำหรับข่าวสารและการวิเคราะห์ตลาดที่ชื่อว่า fxpro.news (สามารถเข้าถึงได้ที่ เมนู Markets & Tools > Market news) โดยข่าวจะถูกแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่: ภาพรวมตลาด, สกุลเงินดิจิทัล, และการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีการอัพเดทอยู่เสมอ
อีกสองจุดเด่นในด้านการวิเคราะห์คือการเข้าถึง Trading Central และ FxPro Squawk ภายในพอร์ทัลของลูกค้า Trading Central เป็นเครื่องมือที่ดีในการให้คำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ได้ โดยให้การคาดการณ์ราคาและระดับแนวรับแนวต้านเฉพาะขณะทำการเทรด
ข้อสรุปเกี่ยวกับพอร์ทัลการศึกษา
ชุดเนื้อหาการศึกษาของ FxPro เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยหลักสูตรที่เป็นระบบและการอธิบายคำศัพท์ที่เข้าใจง่าย ขณะที่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์อาจรู้สึกอยากได้เนื้อหาที่ลึกและก้าวหน้ามากขึ้น เช่น การประยุกต์ใช้ Python หรือการวิเคราะห์ความผันผวน ด้วยเหตุนี้ ผมจึงให้คะแนนส่วนการศึกษาของ FxPro อยู่ที่ 8.0/10 ถือว่าเป็นจุดแข็งที่น่าชื่นชมของโบรกเกอร์รายนี้
ข้อสรุป: FxPro 2025
จากประสบการณ์ในการใช้งาน FxPro ของผมในปี 2025 ผมให้คะแนนโบรกเกอร์โดยรวมที่ 59/100 ถือเป็นคะแนนระดับปานกลางสำหรับโบรกเกอร์ที่มีพื้นฐานด้านการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง และการมีแพลตฟอร์มเทรดให้เลือกหลากหลาย (MT4, MT5, cTrader) ที่ต้องแลกมาด้วยค่าธรรมเนียมการเทรดที่สูงและเครื่องมือบางส่วนที่ล้าสมัย
แม้ว่าบัญชี Elite จะมีค่าคอมมิชชันที่ต่ำ $2.50 ต่อล็อต และแพลตฟอร์ม cTrader จะโดดเด่นด้วยสเปรดต่ำสุดที่ 0.0 pips แต่บัญชี Standard มีสเปรดเฉลี่ยถึง 1.4 pips ยังทำให้ภาพรวมแล้ว FxPro ยังตามหลังคู่แข่งอย่าง Pepperstone อยู่ไม่น้อย
คำถามที่พบบ่อย: รีวิว FxPro 2025
FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลหรือไม่?
ใช่ FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Financial Conduct Authority (FCA), หน่วยงานบริการทางการเงินของดูไบ (DFSA) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งบาฮามาส (SCB)
แพลตฟอร์มการเทรดใดบ้างที่มีให้บริการบน FxPro?
FxPro มีแพลตฟอร์มการเทรดหลากหลายให้เลือกใช้ ซึ่งรวมถึง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader และ FxPro Webtrader ทั้งหมดนี้มีฟีเจอร์ที่รองรับการเทรดในหลากหลายรูปแบบและเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ตลาด
FxPro มีบริการลูกค้าแบบใดบ้างสำหรับเทรดเดอร์ในไทย?
FxPro มีบริการลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แชทสด, ไลน์และอีเมล ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์จึงสามารถให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือโดยตรง
ทางเลือกแทน FxPro
หากคุณมองหาทางเลือกแทนการใช้งาน FxPro คุณอาจมีตัวเลือกหลายแห่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้ สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย