GOFX ดีไหม: เสี่ยงเกินไปหรือไม่กับโบรกเกอร์หน้าใหม่ 2025

ค่าธรรมเนียมการเทรด

จากประสบการณ์ตรงของผม GoFX เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีตัวเลือกบัญชีเทรดที่หลากหลายที่สุดในตลาด forex โดยมีทั้งหมด 5 ประเภทบัญชี ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นในบัญชีใดก็ได้ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์ ส่วนความแตกต่างหลักจะอยู่ที่ เลเวอเรจ ขนาดการเทรดขั้นต่ำ สเปรด และค่าคอมมิชชั่น ของแต่ละบัญชีที่คุณต้องการใช้งาน ดังตัวอย่างด้านล่างนี้

• บัญชี GO-MINI เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ให้คุณใช้เลเวอเรจสูงสุด 1:500 และเทรดด้วยสเปรดเริ่มต้น 1 pip ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
• บัญชี GO-STANDARD สเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip และไม่มีค่าคอมมิชชั่นเช่นเดียวกับบัญชี MINI แต่เลเวอเรจที่คุณจะได้รับ สูงสุดถึง 1:3000
• บัญชี GO-LOW SPREAD มาพร้อมกับเสปรดที่ต่ำกว่า เริ่มต้นเพียง 0.6 pip ไม่มีค่าคอมมิชชั่น และให้เลเวอเรจสูงสุด 1:500 จึงเหมาะกับเทรดเดอร์สาย Scalping หรือ Day Trading อย่างยิ่ง
• บัญชี GO-PRO รองรับการให้ราคาแบบ ECN จึงให้สเปรดต่ำสุดที่ 0.2 pip แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อ Lot พร้อมกับเลเวอเรจเริ่มต้นที่ 1:100 เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง
• บัญชี GO-INTER เพื่อการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่าน CFD ด้วยข้อเสนอเลเวอเรจสูงสุด 1:100 ส่วนสเปรดจะขึ้นอยู่กับตลาดจริง และไม่มีค่าคอมมิชชั่น

นอกจากความหลากหลายข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญที่ผมสังเกตุได้จาก GoFX คือ โบรกเกอร์ให้คุณสามรถเทรดได้ด้วยขนาดคำสั่งซื้อขายที่ต่ำมาก โดยเริ่มตั้งแต่ 0.01–0.1 Lot และมีฟีเจอร์ Stop Out เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนเกินเงินทุน ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ GoFX น่าสนใจทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์สูงในตลาดการเงินนี้

สเปรดในบัญชี Raw

จากการทดสอบของผม บัญชี GO PRO ถือเป็นบัญชีที่ใกล้เคียงกับบัญชี Raw มากที่สุด เนื่องจากให้สเปรดที่ต่ำที่สุด โดยสเปรดเริ่มต้นที่ 0.2 pips สำหรับคู่เงินหลัก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาย Day Trader และ Scalper

อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าสเปรดเฉลี่ยในตลาดจริงจะสูงกว่าที่โบรกเกอร์ระบุไว้เล็กน้อย เช่น คู่ GBP/USD มีสเปรดอยู่ที่ 1.3 pips และ EUR/AUD มีสเปรดอยู่ที่ 1.7 pips แต่ผมยังมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อดีคือ GO PRO ใช้เทคโนโลยี ECN ในการซื้อขาย ทำให้คุณได้ราคาที่แม่นยำที่สุดระหว่างการเทรดนั่นเอง

ค่าคอมมิชชั่นในบัญชี Raw

สำหรับผมแล้ว บัญชี Raw หรือ บัญชี GO PRO นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ไทย เพราะมันมาพร้อมสเปรดที่ต่ำและค่าคอมมิชชั่นที่ $3.5 ต่อด้าน ต่อ 1 Lot หรือ $7 ต่อรอบการเทรด (Round Turn) ซึ่งถือว่าแข่งขันได้ เมื่อจับคู่กับข้อเสนอสเปรดที่ต่ำเป็นพิเศษของโบรกเกอร์

ค่าธรรมเนียมในบัญชี Standard

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ชาวไทยที่ชื่นชอบโครงสร้างค่าธรรมเนียมแบบตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ผมว่า บัญชี GO STANDARD ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด โดยคุณสามารถเข้าถึงสเปรดเริ่มต้นเพียง 1 pip ในบัญชีนี้

ค่าธรรมเนียมในบัญชี Swap-Free

หากคุณเป็นชาวไทยมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลาม ทาง GoFX ก็มีตัวเลือกบัญชี Swap-Free ให้คุณได้เลือกใช้งาน ให้สอดคล้องกับหลักศาสนาของคุณ โดยบัญชีนี้ตัดค่าธรรมเนียม Swap หรือค่าธรรมเนียมการถือครองตำแหน่งข้ามคืนออกไป และแทนที่ด้วยค่าธรรมเนียมการบริหาร (Administration Fee) ในบางสินทรัพย์ หากคุณถือออเดอร์ข้ามคืนเกินระยะเวลาที่กำหนด

สำหรับการเข้าถึงสิทธิ์การใช้งาน คุณจำเป็นต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์โดยตรงเพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งอาจมีการร้องขอให้คุณส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้อง

ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ

จากที่ผมเห็น ทางโบรกเกอร์ GoFX ไม่ได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมเทรด รวมทั้ง ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี (Inactivity) เมื่อคุณหยุดเทรดอีกด้วย และนี่เป็นสิ่งที่ผมประทับใจอย่างมาก เพราะโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มักมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแฝงนี้อยู่

สรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเทรดของ GoFX Markets

โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนน 8/10 สำหรับค่าธรรมเนียมและประเภทบัญชีเทรดของ GoFX Markets เนื่องจาก โบรกเกอร์เสนอบัญชีเทรดหลากหลายประเภท พร้อมสเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ โดยเฉพาะ การเลือกใช้บัญชี GO PRO ที่ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก

นอกจากนี้ ด้วยข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์ หรือประมาณ 33-34 บาท ยังทำให้เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถเข้าถึง GoFX ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

แพลตฟอร์มการเทรด

สำหรับผมแล้ว การที่ GoFX เลือกที่เน้นความเรียบง่ายและน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มการเทรดนั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็อาจทำให้ตัวเลือกที่มีขาดความหลากหลายและไม่ตอบโจทย์เทรดเดอร์บางรายได้
โดยแพลตฟอร์มที่คุณสามารถใช้ได้บน GoFX ได้แก่

• MetaTrader 4 (MT4)
• MetaTrader 5 (MT5)

ก่อนที่จะไปการวิเคราะห์เกี่ยวกับการทำงานของแพลตฟอร์มเทรดบน GoFX ผมอยากแนะนำให้คุณลองทำแบบสอบถามเพื่อวิเคราะห์แพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมสำหรับคุณเสียก่อน เพราะมันจะทำให้การเลือกใช้แพลตฟอร์มของคุณง่ายขึ้นมาก

โดยเครื่องมือ Trading Platform Finder ของ CompareForexBrokers จะวิเคราะห์ตัวเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับสไตล์การเทรดของคุณ ผ่านแบบสอบถามสั้น ๆ เพียง 5 ข้อเท่านั้น

MetaTrader 4

ในการเทรดตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา MetaTrader 4 (MT4) ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ผมเลือกใช้ ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่น เช่น

• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ที่ไม่ต้องการปวดหัวกับหน้าจอกราฟที่วุ่นวาย
• ชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลการเรียนรู้ และเครื่องมือที่จำเป็น เช่น อินดิเคเตอร์แบบกำหนดเอง และระบบ Expert Advisors (EA) ได้มากขึ้น
• เครื่องมือวิเคราะห์กราฟ ไม่ว่าคุณเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ 31 แบบ, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 30 ตัว หรือกรอบเวลาให้เลือกทั้ง 9 แบบ
• รองรับคำสั่งซื้อขายรอดำเนินการ คุณสามารถเข้าถึงคำสั่งได้ทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ Buy Stop, Buy Limit, Sell Limit และ Sell Stop

แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ MT4 ก็ข้อจำกัดที่คุณควรระวัง เช่น

• MetaQuotes จะหยุดการพัฒนาและอัปเดตแพลตฟอร์ม MT4 แล้ว ทำให้คุณจะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือไม่สามารถใช้งานได้ในอนาคต
• คุณจะไม่สามารถเข้าถึงหุ้น CFD ได้ เพราะ MT4 เน้นไปที่ฟอเร็กซ์และดัชนีเป็นหลัก

MetaTrader 5

หากคุณต้องการแพลตฟอร์มที่ครบครันและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผมว่า MT5 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง โดย MT5 คือเวอร์ชันที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4 ทำให้ศักยภาพของแพลตฟอร์มนั้นดีกว่าในแทบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกราฟ เครื่องมือวิเคราะห์ ความเร็วในการประมวลผล และที่สำคัญคือ MT5 ทำให้คุณเข้าถึงตลาดการเงินได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึง หุ้นของ CFD

ความแตกต่างระหว่าง MT5 และ MT4 ที่ผมอยากให้คุณสังเกตุ ได้แก่

• MT5 มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่มากขึ้น: เครื่องมือการวิเคราะห์ 44 รายการ, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 38 ตัว และกรอบเวลา 21 รายการ
• MT5 รองรับคำสั่งซื้อขายรอดำเนินการเพิ่มอีก 2 ประเภท: Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit
• MT5 ทำให้คุณสามารถเข้าถึง Real Volume Data: ในขณะที่ MT4 มีเพียงข้อมูล Tick Volume เท่านั้น

MT5 เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) อย่างแท้จริง ทำให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น แตกต่างจาก MT4 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเทรดในตลาดแบบกระจายศูนย์ เช่น ฟอเร็กซ์ โดยเฉพาะ

สรุปเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดของ GoFX Markets

หากจะให้ผมให้คะแนน GoFX Markets ในแง่ความพร้อมของแพลตฟอร์มการเทรด พวกเขาคงจะได้คะแนนราว ๆ 6 เต็ม 10 เนื่องจากโบรกเกอร์รองรับแพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยมอย่าง MT4 และ MT5 แต่กลับไม่มีแอปพลิเคชันของตัวเอง รวมถึงไม่มี cTrader และ TradingView ทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ไม่น้อย

GOFX Markets ปลอดภัยหรือไม่?

ผมมักจะตรวจสอบโบรกเกอร์เสมอว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ ก่อนที่จะเลือกสมัครและใช้งานจริง นั่นก็เพราะประเด็นนี้จะสะท้อนถึงความปลอดภัยของเงินทุนและความโปร่งใสในการเทรดของคุณได้ดีที่สุด
จากการตรวจสอบของผมเกี่ยวกับความปลอดภัยของ GoFX ผมพบว่า แม้โบรกเกอร์จะมีนโยบายในการปกป้องเงินทุนของคุณ แต่การดำเนินการของพวกเขายังมีหลายประเด็นที่น่ากังวล

การกำกับดูแล

ข้อมูลที่ผมสืบค้นมา ระบุว่า GoFX ดำเนินงานภายใต้ชื่อ GoFX Limited โดยจดทะเบียนและรับใบอนุญาตจาก St. Vincent and the Grenadines (SVGFSA) อีกทั้งได้รับใบอนุญาตจาก Seychelles Financial Services Authority (FSA) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์ชาวไทยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเหล่านี้ ไม่ใช่หน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA (สหราชอาณาจักร) หรือ ASIC (ออสเตรเลีย) ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier-1 นั่นหมายความว่า ระดับการคุ้มครองเงินทุนของคุณอาจไม่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลในระดับสูงกว่า

ชื่อเสียง

หากจะพูดถึงชื่อเสียงของโบรกเกอร์นี้ โบรกเกอร์ GoFX ยังไม่ได้เป็นที่นิยมในตลาดฟอเร็กซ์เท่าใดนัก หากเราลองสำรวจข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตและหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์เองจะพบว่า ไม่มีแสดงข้อมูลที่แน่ชัด ทั้งในแง่ข้อมูลผู้ใช้งานจริงและรายละเอียดการใช้งาน ทำให้ผมมองว่าชื่อเสียงของ GoFX ยังถือว่า อยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำเสียมากกว่า

รีวิว

ในการตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้งานจริงบน Trustpilot ผมพบว่า GoFX มีรีวิวน้อยกว่า 10 รีวิว และคะแนนเฉลี่ยเพียง 2.2 ดาว เท่านั้น ในขณะที่โบรกเกอร์รายใหญ่อื่น ๆ มักจะมีรีวิวหลายพันรายการพร้อมคะแนนที่สูงกว่า ดังนั้น ผมจึงมองว่าการแนะนำ GoFX ยังเป็นตัวเลือกยังค่อนข้างเสี่ยง

โดยข้อดีที่ผู้ใช้งานจริงได้รีวิวไว้บน Trustpilot ได้แก่ ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ไม่สูงและมีเลเวอเรจสูงในแต่ละผลิตภัณธ์ทางการเงิน

แต่ก็มีข้อเสียที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่แล้วระบุถึงปัญหาการถอนเงินและขั้นตอนการเปิดบัญชีที่ยุ่งยาก ด้วยเหตุนี้ ผมคิดว่า คุณควรใช้ความระมัดระวังให้มากในการเทรดกับ GoFX หรือคุณอาจเริ่มต้นเทรดด้วยเงินทุนจำนวนเล็กน้อยก่อน เพื่อทดสอบว่าโบรกเกอร์สามารถเชื่อถือได้จริงหรือไม่

สรุปเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ GoFX

ผมให้ 4/10 สำหรับคะแนนในแง่ความน่าเชื่อถือของ GoFX นั่นเพราะโบรกเกอร์ได้รับการกำกับดูแลจริง แต่หน่วยงานที่มีอำนาจกลับเป็นหน่วยงาน Teir 3 และยังไม่ได้รับการควบคุมดูแลโดยตรงจากหน่วยงาน Teir 1 ที่มีความเข้มงวดเป็นพิเศษ แถมยังมีการรีวิวในเชิงลบจากผู้ใช้งานจริงอยู่บ่อยครั้ง เกี่ยวกับปัญหาในการถอนเงินอีกด้วย

การฝากและการถอนเงินกับ GOFX

แม้ว่า GoFX จะเสนอยอดฝากขั้นต่ำที่ต่ำกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป แต่สิ่งที่ผมสังเกตได้คือ เว็บไซต์ของพวกเขายังให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีถอนเงินและค่าธรรมเนียมไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ผู้ใช้งานใหม่อาจรู้สึกไม่มั่นใจและกังวลในการใช้งานได้

ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ GoFX

ในฐานะเทรดเดอร์จากประเทศไทย คุณสามารถเริ่มต้นเทรดกับ GoFX ได้ด้วยเงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในขั้นต่ำที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม นี่เป็นข้อดีหลักของโบรกเกอร์ที่ผมมองเห็น เพราะมันทำให้เทรดเดอร์ทุกระดับสามารถเข้าถึงการใช้งานโบรกเกอร์ได้ง่ายขึ้น

สกุลเงินหลักของบัญชี

จากข้อมูลในเว็บไซต์ GoFX ผมพบว่าตัวโบรกเกอร์เองไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเราสามารถเลือกใช้สกุลเงินหลักอะไรได้บ้าง แต่จากการลองสมัครใช้งานจริง ผมกลับมีตัวเลือกแค่เพียงสกุลเงิน USD เท่านั้น

แน่นอนว่าการที่โบรกเกอร์ไม่ได้รองรับสกุลเงินบาทโดยตรงนั้นเป็นข้อเสียที่เห็นได้ชัดสำหรับนักเทรดชาวไทย เพราะคุณจำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน THB ไปเป็น USD เมื่อต้องทำการเทรด

ช่องทางการฝากเงินและค่าธรรมเนียม

เป็นที่น่าสังเกตุว่าโบรกเกอร์ไม่ได้มีการระบุข้อมูลการฝากถอนโดยตรงที่น่าเว็บไซต์ แต่กลับไปพบว่าหน้า “ช่วยเหลือ” แทน อย่างไรก็ตามจากการทดลองใช้งานจริงและสอบถามกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าชาวไทยของ GoFX พบว่า เทรดเดอร์ชาวไทยจะมีตัวเลือกในการฝากเงินดังนี้

1. ฝากเงินผ่าน QR Code: ยอดปรับภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นต่ำ $1
2. ฝากเงินผ่านการโอนเงินภายในประเทศ: ยอดปรับภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นต่ำ $1

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการฝากเงินที่ GoFX คือ คุณจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการฝากเงินในทุกกรณี

ช่องทางการถอนเงินและค่าธรรมเนียม

เช่นเดียวกันกับการฝากเงิน คุณไม่สามารถหาข้อมูลช่องทางการถอนเงินได้จากหน้าหลักของโบรกเกอร์ แต่คุณสามารถพบตัวเลือกที่ได้ที่หน้า “ช่วยเหลือ” ซึ่งผมได้ลองเปิดบัญชีและพบว่า เทรดเดอร์ชาวไทยมีตัวเลือกเพียงการถอนเงินผ่านบัญขีธนาคารภายในประเทศ ที่คุณได้ลงทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งการถอนจะมีข้อกำหนดขั้นต่ำที่ USD5 แต่ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ความสะดวกในการเปิดบัญชี

โดยส่วนตัวแล้ว การเปิดบัญชีเทรดกับ GoFX ค่อนข้างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการรอการตรวจสอบที่ค่อนข้างนานหน่อย หากเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นในตลาด

ส่วนที่ผมชอบเป็นพิเศษคือ โบรกเกอร์นำเสนอเว็บไซต์ในเวอร์ชันภาษาไทยที่ได้รับการตรวจสอบจริง ๆ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ในการแปลทั่วไป ทำให้ผมรู้สึกว่าขั้นตอนทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์นักเทรดชาวไทยโดยเฉพาะ

หลังจากกรอกข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ เบอร์โทร และที่อยู่แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือ อัปโหลดเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน (KYC Verification) และเมื่อผ่านขั้นตอนนี้ ระบบจะให้คุณเลือกตอบคำถามสั้น ๆ เพื่อประเมินความเหมาะสมในการให้บริการ และด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง $1 ผมก็สามารถทดสอบการใช้งานแพลตฟอร์มที่ให้บริการบนโบรกเกอร์ได้ทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมากสำหรับผม

สรุปเกี่ยวกับช่องทางฝากถอนเงินที่ GoFX

ผมให้คะแนน 5/10 สำหรับช่องทางการฝากถอนเงินที่ GoFX นั่นเพราะโบรกเกอร์รองรับช่องทางการฝากและถอนที่เหมาะกับชาวไทย อย่าง QR code และ การโอนเงินผ่านมือถือโดยไม่มีค่าธรรมเนียม

แต่สิ่งที่ผมต้องหักคะแนน คือ ความหลากหลายของช่องทางการฝากและถอนที่ควรมากกว่านี้ เพราะเทรดเดอร์บางคนก็อาจชื่นชอบการใช้บัตรเครดิต หรือ e-wallet มากกว่า และอีกข้อเสียคือ การถอนเงินที่ใช้เวลาจริงค่อนข้างนาน

ตลาดการเงินที่ซื้อขายได้บน GoFX

จากการทดลองเปิดบัญชีเทรดจริงของผม พบว่าผมมีตัวเลือกในการเทรดที่หลากหลาย แต่ยังอยู่ในระดับปานกลาง หากเราเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ใหญ่ ๆ โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนใหญ่มาในรูปแบบของ CFDs (Contract for Difference)

ผมขอแยก CFDs ที่มีให้บริการออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

• ฟอเร็กซ์: ประมาณ 26 คู่ ที่ครอบคลุมคู่เงินหลัก (Major), คู่เงินรอง (Minor) และคู่เงินแปลกใหม่ (Exotic) บางคู่
• โลหะ: ทองคำและเงิน
• ดัชนี: ประมาณ 18 ดัชนี ครอบคลุมตลาดหลักทั่วโลก
• หุ้น: ประมาณ 30 ตัว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นสหรัฐ เช่น Amazon และ Google
• พลังงาน: น้ำมันและก๊าซ
• คริปโตเคอร์เรนซี: ไม่มีให้บริการในรูปแบบ CFD

สรุปเกี่ยวกับความหลากหลายของตลาดการเงินบน GoFX

หากจะถามถึงความหลากหลายของตลาดที่ GoFX เปิดให้บริการ ผมให้คะแนน 6/10 เพราะพวกเขาให้บริการครอบคลุมทั้งฟอเร็กซ์, โลหะ, ดัชนี, หุ้น และพลังงาน แต่ยังมีจำนวนผลิตภัณฑ์ในแต่ละประเภทไม่มากนัก ทำให้อาจจะยังไม่ตอบโจทนย์การเทรดของเทรดเดอร์ที่นินมกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์บางราย

ศูนย์บริการลูกค้า GoFX

จากการทดลองใช้งานจริงของผม GoFX ให้บริการซัพพอร์ตลูกค้าชาวไทยตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น

• อีเมล
• แชทสด
• แอปพลิเคชัน Line

โดยรวมแล้วการให้บริการของฝ่ายบริการลูกค้าชาวไทยนั้นน่าประทับใจมาก โดยเฉพาะแชทสดและไลน์ ที่ผมได้รับการตอบกลับภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาทีหลังจากพิมพ์คำถามไป ซึ่งพวกเขาอธิบายข้อสงสัยได้อย่างกระชับและครบถ้วน พร้อมทั้งมีการส่งตัวอย่างเพื่อการอธิบายเพิ่มเติมอีกด้วย

สรุปเกี่ยวกับการบริการลูกค้า GoFX

ผมให้คะแนน 8 เต็ม 10 สำหรับการบริการลูกค้าชาวไทยของ GoFX Markets เนื่องจากโบรกเกอร์มีเจ้าหน้าที่ชาวไทยคอยให้บริการ 24/7 พร้อมการตอบคำถามที่รวดเร็วและตรงไปตรงมา ทำให้ผมสามารถแก้ข้อสงสัยได้ในทันที และยังมีช่องทางการติดต่อผ่าน Line App ที่ง่ายต่อการติดต่อและติดตามผลอีกด้วย

พอร์ทัลการวิจัยและการศึกษา

นี่คือสิ่งที่ผมเสียดายมากสำหรับโบรกเกอร์นี้ เพราะทรัพยากรด้านการศึกษาและการวิเคราะห์ตลาดของ GoFX นั้นมีอย่างจำกัด และไม่มีแหล่งข้อมูลยอดนิยมอย่าง เว็บบินาร์, วิดีโอสอนทรด หรือบทความที่ให้ความรู้แบบละเอียด

ข้อมูลหลักที่คุณจะพบที่นี่ ได้แก่

• บทความทั่วไปเกี่ยวกับตลาดการเงิน รวมทั้งระบบการเงิน
• การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานในทางเทคนิค
• ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกและบทวิเคราะห์ประจำวัน
• ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาซื้อขาย

แม้จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ครอบคลุมมากพอ โดยเฉพาะในฐานะเทรดเดอร์ที่ต้องการพัฒนาความรู้เชิงลึกหรือใช้เป็นแหล่งข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างจริงจัง

สรุปเกี่ยวกับพอร์ทัลการศึกษาของ GOFX

ในฐานะเทรดเดอร์ที่อยู่ในวงการ Forex มานาน ผมให้คะแนนสำหรับด้านการศึกษาของ GOFX เพียง 3 เต็ม 10 เนื่องจากพวกเขายังขาดสื่อการเรียนรู้เชิงลึกสำหรับเทรดเดอร์ระดับกลางและผู้มีประสบการณ์สูง เช่น เว็บบินาร์ วิดีโอสอน หรือบทความแนววิเคราะห์เชิงลึก

และเทรดเดอร์มือใหม่เองก็ไม่ได้ประโยชน์จากพอร์ทัลการศึกษานี้มากนัก เพราะข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลโดยทั่วไปที่คุณสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ต