รีวิว Octa สำหรับปี 2025
โบรกเกอร์ Octa เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ หากคุณต้องการโดยไม่มีค่า swap ซึ่งในรีวิวนี้ผมได้เปรียบเทียบค่าสเปรด เงื่อนไขการเทรด และแพลตฟอร์มต่าง ๆ กับโบรกเกอร์อีกกว่า 20 แห่ง เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมในการใช้งานได้ง่ายขึ้น
เขียนโดย Justin Grossbard
Updated:
- ทีมงานของเรารีวิวโบรกเกอร์มามากกว่า 67 แห่ง
- ประสบการณ์การเทรดฟอเร็กซ์รวมกันกว่า 50 ปี
- เราใช้เวลามากกว่า 14,000 ชั่วโมง ในการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์ของโบรกเกอร์
- เรามีกรอบการประเมิณที่เป็นระบบและมีความละเอียดสูง
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site.
ข้อมูลทั่วไป Octa

| 🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล | CySEC (สำหรับ EU), FSCA, FSC, MISA (นอกเหนือ EU) |
| 📊 แพลตฟอร์ม | MT4, MT5, OctaTrader |
| 💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $50 |
| 💰 ค่าธรรมเนียมฝาก/ถอนเงิน | $0 |
| 🎮 บัญชีเดโม่ | มี |
| 🛍️ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน | CFDs (ฟอเร็กซ์, ดัชนี, โลหะ, พลังงาน) |
| 💳 ช่องทางฝากเงิน | Prompt Pay, Skrill, Neteller, คริปโต |
ทำไมถึงเลือก Octa
Octa ดีไหมสำหรับเทรดเดอร์ไทย ? จากประสบการณ์ของผม Octa เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าสนใจ เพราะมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์
จุดเด่นแรกคือ Octa ใช้เทคโนโลยี ECN ทำให้มีความเร็วในการส่งคำสั่งที่ดี และมีสเปรดค่อนข้างต่ำเฉลี่ยประมาณ 0.90 pips แถม ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ซึ่งถือว่าหาได้ยากสำหรับโบรกเกอร์ที่เป็นประเภท ECN
ประการที่สอง Octa ไม่คิดค่าธรรมเนียม Swap สำหรับการถือสถานะ CFD ข้ามคืน ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดี ซึ่งเหมาะกับการเทรด CFD หุ้น เพราะคุณจะสามารถถือสถานะต่อเนื่องได้ตามแผนการเทรดของคุณ โดยไม่ต้องกังวลว่าค่าสวอปจะกลืนกินกำไรของคุณ
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย
- ไม่มีค่า Swap ในทุกบัญชี
- สเปรดเริ่ม 0.90 pips
- เป็นโบรกเกอร์ประเภท ECN/STP
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคในตัว
- จำนวนสินทรัพย์ค่อนข้างจำกัด
- ไม่มีคำสั่งหยุดขาดทุนแบบรับประกัน
ค่าธรรมเนียม
ผมไม่แปลกใจว่าทำไม Octa จึงมีสเปรดที่แคบและความเร็วในการส่งคำสั่งที่ดี นั่นก็เพราะโบรกเกอร์นี้ดำเนินการแบบ ECN (Electronic Communications Network)
ด้วยเหตุนี้โบรกเกอร์จึงสามารถจับคู่คำสั่งของคุณกับราคาเสนอที่ดีที่สุดจากผู้เข้าร่วมรายอื่นในเครือข่าย เพื่อรับราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในขณะนั้นได้ และนี่เองที่เป็นเหตุผลให้ค่าธรรมเนียมการเทรดลดลง และมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น
สเปรด
แต่สิ่งที่ผมมองว่า Octa นั้นแตกต่างจากโบรกเกอร์ ECN ส่วนใหญ่ก็คือ บัญชี Standard แบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น ที่ใช้รูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านสเปรดเท่านั้น
เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ผมได้ลองเปิดบัญชีเทรด MT5 เพื่อทดสอบเงื่อนไขการเทรด และรู้สึกประทับใจกับสเปรดที่ Octa ให้ โดยเฉพาะ EUR/USD เริ่มต้นที่ประมาณ 0.90 pips ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสเปรดที่แคบที่สุดสำหรับบัญชี Standard ที่ผมเคยทดสอบมา
Standard Account Spreads | |||||
|---|---|---|---|---|---|
![]() | 1.00 | 1.00 | 2.00 | 1.00 | 2.00 |
![]() | 0.82 | 0.83 | 1.27 | 1.03 | 0.94 |
![]() | 1.18 | 1.45 | 1.40 | 1.49 | 1.60 |
![]() | 0.80 | 0.90 | 1.20 | 1.20 | 1.30 |
![]() | 1.10 | 1.10 | 1.60 | 1.80 | 2.20 |
![]() | 1.40 | 1.60 | 1.80 | 1.80 | 1.60 |
![]() | 0.91 | 1.47 | 1.43 | 1.66 | 1.82 |
![]() | 1.20 | 1.30 | 1.20 | 1.30 | 1.30 |
![]() | 1.70 | 1.60 | 1.70 | 2.00 | 1.60 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 11/01/2025
อีกสิ่งที่ผมประทับใจคือ สเปรดบนบัญชี MT5 มีค่าค่อนข้างนิ่งทั้งในช่วงตลาด นิวยอร์ก และ เอเชีย ซึ่งผมทดสอบต่อไป และพบว่าสเปรดของคู่เงิน EUR/USD มักแกว่งอยู่ระหว่าง 0.80 ถึง 0.90 pips ซึ่งสูงกว่าค่าสเปรดต่ำสุดที่โบรกเกอร์ระบุไว้อยู่เล็กน้อย

แม้สเปรดของ Octa จะอยู่ที่ประมาณ 0.90 pips สำหรับคู่ EUR/USD แต่เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ผมเคยทดสอบในอุตสาหกรรมที่อยู่ราว 1.11 pips คุณจะเห็นได้ว่าสเปรดของ Octa ก็ยังถูกกว่ามากถึง 18% และทำให้ Octa กลายเป็นโบรกเกอร์สเปรดต่ำอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
บัญชีเทรด
เมื่อต้องเลือกประเภทบัญชีที่ใช้เทรด คุณจะเห็นว่าโบรกเกอร์มีตัวเลือกทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็น บัญชี Standard แบบเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ แพลตฟอร์มการเทรดที่รองรับ เท่านั้น
ด้านล่างคือ ตารางการเปรียบเทียบบัญชีเทรดแต่ละประเภท
| ฟีเจอร์ | OctaTrader | MetaTrader 5 | MetaTrader 4 |
|---|---|---|---|
| 1.สเปรดเริ่มต้น | 0.6 pips | 0.6 pips | 0.6 pips |
| 2.ประเภทสเปรด | ลอยตัว | ลอยตัว | ลอยตัว |
| 3.ค่าคอมในการเทรด | $0 | $0 | $0 |
| 4.ค่าธรรมเนียมฝาก/ถอน | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
| 5.เงินฝากขั้นต่ำ | $25 | $25 | $25 |
| 6.สินทรัพย์ทางการเงิน | 80 | 277 | 80 |
| 6.1 คู่เงินฟอเร็กซ์ | 35 | 52 | 35 |
| 6.2 ทองคำและเงิน | มี | มี | มี |
| 6.3 พลังงาน | 3 | 3 | 3 |
| 6.4 ดัชนี | 10 | 10 | 6 |
| 6.5 คริปโต | 30 | 34 | 34 |
| 6.6 หุ้น | 0 | 150 | 0 |
จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า บัญชีทั้งหมดมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมเหมือนกัน ดังนั้น หากคุณต้องการเทรด สินทรัพย์ครบทุกประเภท ที่ Octa มีให้ ผมก็คิดว่า MetaTrader 5 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
และหากคุณต้องการดูว่า สเปรดของ Octa เป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ ในไทย ทีมงาน Compareforexbrokers ของเราได้สร้างเครื่องมือคำนวณค่าใช้จ่ายการเทรดแบบง่าย ๆ ไว้ให้คุณใช้งานได้ฟรี ผ่านลิงก์ด้านล่างนี้
Calculate Your Trading Costs Below
Total Fees

Commission
Spread Costs
Total
Total Fees

Commission
Spread Costs
Total
Total Fees

Commission
Spread Costs
Total
ค่าธรรมเนียมบัญชี Swap-free
ข้อเสนอบัญชี Swap-free ของ Octa คือสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเป็นพิเศษ เพราะจะไม่มีการคิดค่า Swap ในทุกบัญชีเทรด กับผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนก็ตาม
ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถถือสถานะ CFD ข้ามคืน ได้โดยไม่ถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแบบที่บัญชีทั่วไป (ที่ไม่ใช่บัญชีอิสลาม)
ด้วยค่าใช้จ่ายโดยรวมที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ Octa จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ เทรดหุ้น CFD หรือกลยุทธ์ที่ต้องถือออเดอร์ยาว

เป็นที่น่าสังเกตุว่า Octa แตกต่างจากโบรกเกอร์ swap free ทั่วไปที่ผมเคยพบมา โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า
- ไม่มีเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมแอดมิน” แทนค่าดอกเบี้ยสวอป
- ไม่ได้ขยายสเปรดให้กว้างขึ้น
- ไม่มีการจำกัดระยะเวลาการถือครองออร์เดอร์แบบไม่มีสวอป
- ไม่มีการจำกัดผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดแบบไม่มีสวอปได้
ดังนั้น ผมจึงกล่าวได้ว่า Octa เสนอการเทรดแบบไม่มีสวอปในรูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุดเลนยก็ว่าได้
ข้อสรุปเรื่องค่าธรรมเนียม
ในระหว่างการทดสอบของผม ผมพบว่า Octa ให้สเปรดค่อนข้างคงที่อยู่ที่ประมาณ 0.80–0.90 pips บนคู่เงิน EUR/USD ผ่านบัญชี ECN โดยมีข้อดีคือ ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดจากประสบการณ์ของผมกับ Octa คือ ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมสวอปในทุกประเภทบัญชี ทำให้คุณสามารถถือออร์เดอร์ข้ามคืนได้ตามที่ต้องการ และยังลดต้นทุนการเทรดในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ

แพลตฟอร์มการเทรด
จากกากทดสอบของผม เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถเลือกแพลตฟอร์มการเทรดบน Octa ได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ OctaTrader ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบการเทรดให้เหมาะกับสไตล์ของตนเองได้อย่างยืดหยุ่น
ในกรณีที่คุณต้องการเทรดด้วยการคัดลอกกลยุทธ์ของเทรดเดอร์มืออาชีพ ผมพบว่า Octa ได้เสนอบริการ Copy Trading ที่ดีผ่านแพลตฟอร์ม Octa Copy ซึ่งเหมาะกับการผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น ฟอเร็กซ์และทองคำอีกด้วย
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปิดบัญชีเดโม่ (Demo Account) ที่มาพร้อมเงินเสมือนแบบไม่จำกัดและไม่มีวันหมดอายุ เพื่อทดลองใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มได้ด้วย ซึ่งบัญชีเดโมนี้จะให้ข้อมูลราคาตลาดแบบเรียลไทม์ เหมือนบัญชีจริง แต่ใช้เงินเสมือนในการเทรด ทำให้คุณสามารถฝึกฝนได้โดย ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง
และจากตัวเลือกทั้งหมด ผมยกให้ MT5 เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการเทรดกับ Octa เพราะมีเครื่องมือทางเทคนิคครบถ้วน และยังสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมดของโบรกเกอร์ได้ในที่เดียว
MetaTrader 4
ผมประทับใจอย่างมากที่ ผมสามารถใช้งาน MT4 บน Octa ได้ ไม่ใช่เพราะแพลตฟอร์ม MT4 เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในหมู่เทรดเดอร์รายย่อยในไทย แต่ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่ทรงพลังและใช้งานง่ายทำให้ผมเทรดได้คล่องตัวขึ้นนั่นเอง

โดยปกติแล้วผมมักจะใช้อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ฝังในตัวของ MT4 ที่มีมากกว่า 30 รายการ ในการเทรดฟอเร็กซ์ ซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ Moving Average ไปจนถึง Bollinger Bands รวมถึง วัตถุวิเคราะห์กว่า 24 ประเภท ทำให้การวิเคราะห์กราฟของผมเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมาก
MT4 ยังช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งกราฟได้อย่างยืดหยุ่น โดยมี 9 ช่วงเวลา ตั้งแต่กราฟรายวันไปจนถึงกราฟแบบ tick chart และกราฟจะถูกแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ แท่ง, แท่งเทียน และเส้น ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับมุมมองให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของคุณได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา หรือการเทรดแบบ Scalping
อีกหนึ่งจุดเด่นของ MT4 คือความสามารถในการสร้างอินดิเคเตอร์หรือกลยุทธ์เฉพาะตัว ผ่าน MQL4 Library สำหรับผู้ที่มีทักษะการเขียนโปรแกรม และหากคุณไม่มีความรู้ด้านนี้ คุณก็สามารถดาวน์โหลดอินดิเคเตอร์สำเร็จรูปกว่า 10,000 รายการ ได้จาก MetaQuotes Marketplace ซึ่งเป็นคลังทรัพยากรจากชุมชนผู้ใช้ MT4 ทั่วโลก
และจุดที่ผมชื่นชอบที่สุดคือ ความสามารถในการเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading) ด้วย Expert Advisors (EAs) ซึ่งสามารถใช้ได้กับบัญชี Octa ของคุณ ตั้งแต่การวิเคราะห์จนถึงการเปิด-ปิดออร์เดอร์ ไปจนถึงการใช้ EA เพื่อบริหารความเสี่ยงในการเทรดแบบอัตโนมัติ
MetaTrader 5
หากต้องเปรียบเทียบแพลตฟอร์มทั้งหมดที่ Octa มีให้ ผมเชื่อว่า MetaTrader 5 (MT5) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยรวม เพราะ MT5 มีการพัฒนาที่เหนือกว่า MT4 ในหลายด้าน และยังช่วยให้คุณสามารถเทรดได้ทุกสินทรัพย์ รวมถึงหุ้น
ตัวอย่างการทำงานที่โดดเด่น เช่น MT5 ทำงานได้รวดเร็วกว่า เนื่องจากสร้างขึ้นใหม่ด้วยโครงสร้างแบบ 64-bit ทำให้การประมวลผลและการส่งคำสั่งเทรด (execution time) รวมถึงการอัปเดตราคาตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น และยังรองรับการเทรดหุ้นที่เพิ่มเข้ามาด้วย
แพลตฟอร์มนี้ยังมาพร้อมกับอินดิเคเตอร์กว่า 38 รายการ เช่น Ichimoku และ RSI พร้อมเพิ่มจำนวนช่วงเวลาเป็น 21 แบบ เพื่อการปรับแต่งที่ละเอียดมากขึ้น อีกทั้งยังมีเครื่องมือวาดกราฟขั้นสูงสำหรับการวิเคราะห์ราคาด้วย Price Action เช่น Fibonacci และ Gann Tools ซึ่งฉันไม่พบในแพลตฟอร์ม OctaTrader
ด้วยความที่ Octa เป็นโบรกเกอร์ประเภท ECN (Electronic Communication Network) ทำให้ผมพบว่า MT5 สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ขั้นสูงได้เต็มที่
ยกตัวอย่างฟีเจอร์ที่ผมใช้บ่อย เช่น Depth of Market (DOM) ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์คำสั่งซื้อขายในตลาดได้อย่างละเอียด เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เป็นสาย Scalping หรือ Day Trading เพราะช่วยให้มองเห็นแนวรับแนวต้านที่ซ่อนอยู่ รวมถึงโอกาสในการเทรดแบบ Breakout ได้อย่างแม่นยำ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ ปฏิทินเศรษฐกิจที่ติดตั้งมากับแพลตฟอร์ม เพราะมันช่วยแสดงเวลาการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญซึ่งอาจส่งผลต่อการเทรดได้อย่างทันท่วงที และอัปเดตแบบเรียลไทม์บนกราฟโดยตรง ทำให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการเปิดออร์เดอร์ในช่วงที่อาจมีความผันผวนสูง เช่น ช่วงที่มีประกาศเกี่ยวกับ GDP หรือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

นอกจากฟีเจอร์ข้างต้น คุณก็ยังสามารถใช้งาน Expert Advisors (EAs) เพื่อเทรดอัตโนมัติได้เหมือนเดิม แต่ที่เหนือกว่าคือ คุณสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการเทรดหุ้น CFD (Share CFDs) ได้นั่นเอง
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับสไตล์ของคุณ ทีมงาน Compareforexbrokers ของเราได้สร้างแบบสอบถาม 5 ขั้นตอน ที่ช่วยวิเคราะห์คำตอบของคุณ ก่อนจะจับคู่กับแพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์ที่เหมาะที่สุด ลองใช้งานฟรีจากลิงก์ด้านล่าง
OctaTrader
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า OctaTrader ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายที่สุดในบรรดาทั้งสามแพลตฟอร์ม เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ เพราะมีอินเทอร์เฟซที่ดูทันสมัยและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
จุดที่โดดเด่นของ OctaTrader คือมีเครื่องมือที่เรียกว่า Pattern Tool ซึ่งสามารถวิเคราะห์รูปแบบทางเทคนิคบนกราฟให้แบบอัตโนมัติ เช่น รูปแบบสามเหลี่ยม, หัวและไหล่ หรือช่องต่าง ๆ ทำให้คุณสามารถเข้าใจแนวโน้มของราคาได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องวิเคราะห์เองทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์ม OctaTrader มีตัวเลือกด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคน้อยที่สุด โดยมีอินดิเคเตอร์เพียง 19 ตัว เช่น Volume และ Moving Averages รวมถึงเครื่องมือ Fibonacci Retracement ส่วนเครื่องมือวาดกราฟมี 11 แบบ และกรอบเวลา 7 ช่วง
แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจกลับอยู่ที่ฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Spaces ที่ทำให้คุณปรับแต่งพื้นที่ใช้งานได้เอง โดยสามารถเพิ่มการแจ้งเตือนการเทรดและข่าวสารแบบเรียลไทม์ได้ด้วย
อีกหนึ่งจุดเด่น คือ คุณสามารถเลือกรูปแบบของการแจ้งเตือนที่ต้องการได้ เช่น สัญญาณแท่งเทียนหรือรูปแบบกราฟอย่าง Head and Shoulders โดยสัญญาณที่แสดงนั้นอธิบายแนวคิดการเทรดได้อย่างชัดเจน และมีคำอธิบายตลาดเพิ่มเติมที่ช่วยให้เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาได้ดีขึ้น

และฟีเจอร์ที่ฉันชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ หน้าต่างคำสั่งซื้อขายที่แสดงให้เห็นทั้งผลกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในหน่วยเงิน ไม่ใช่แค่ในหน่วย pips เหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ทำให้ผมเข้าใจความเสี่ยงในรูปของจำนวนเงินจริงได้ทันที

แอพ Social และ Copy Trading
Octa มีบริการ Octa Copy สำหรับการเทรดแบบคัดลอก (Copy Trading) ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงเทรดเดอร์กว่า 1,500 ราย บนแพลตฟอร์มของ Octa
อย่างไรก็ตาม ระบบค้นหาเทรดเดอร์ผู้ให้สัญญาณเทรดยังค่อนข้างธรรมดา โดยคุณสามารถกรองผู้เทรดได้ด้วยฟิลเตอร์แค่ 4 ตัวเลือกหลัก ได้แก่
- ระดับความเสี่ยง
- เงินลงทุนขั้นต่ำ
- ช่วงเวลาในการเทรด
- ระดับความเชี่ยวชาญของเทรดเดอร์

เมื่อคลิกที่โปรไฟล์ของเทรดเดอร์แต่ละราย คุณจะพบรายละเอียดมากขึ้น โดยหน้าจอจะแสดงข้อมูล กำไรและขาดทุน (Profit and Loss), ระดับการดรอดดาวน์ (Drawdown) และ การเติบโตของจำนวนผู้ติดตาม (Copy Follower Growth) ซึ่งผมมองว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของเทรดเดอร์
นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการสั่งซื้อขาย (Order History) ของเทรดเดอร์แต่ละราย ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบผลงานและความโปร่งใสในการเทรดเป็นไปได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า Octa Copy เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลาเรียนรู้การเทรดด้วยตนเอง อย่างน้อยวิธีนี้คุณสามารถ คัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ และได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น ฟอเร็กซ์, คริปโต, หรือ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ ได้ง่ายขึ้น
แอพเทรดบนมือถือ
ผมพบว่าแพลตฟอร์มทั้งหมดที่ Octa ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น MetaTrader 4, MetaTrader 5, OctaTrader หรือ Octa Copy ต่างก็รองรับการใช้งานในรูปแบบแอปพลิเเคชันเทรดบนมือถือ ทั้ง iOS และ Android โดยคุณสามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มการเทรด
ผมชื่นชอบที่ Octa มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกหลากหลาย ซึ่งเหมาะกับเทรดเดอร์ทุกสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่พึ่งเริ่มต้น ที่ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดของ OctaTrader, เทรดเดอร์สายอัตโนมัติ ที่ใช้ EA บน MT4 หรือ สายเดย์เทรด (Day Trader) ที่ใช้ Depth of Market บน MT5
นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Copy Trading ยังถือเป็นจุดเด่นอีกประการที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันช่วยให้คุณสามารถคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์กว่า 1,500 ราย และใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของพวกเขาเพื่อสร้างกำไรจากตลาดที่มีเลเวอเรจได้จริง

โบรกเกอร์ Octa ปลอดภัยไหม?
ใช่ จากการค้นคว้าหาข้อมูลของผมพบว่า Octa เป็นโบรกเกอร์ที่มีความปลอดภัย เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 12 ปี และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานดังต่อไปนี้
- FSC (Financial Services Commission) ประเทศมอริเชียส
- Mwali International Services Authority (MISA)
- CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission)
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไทยจะไม่ได้รับการคุ้มครองโดยตรงจากหน่วยงานเหล่านี้ เนื่องจากหน่วยงานการกำกับดูแลข้างต้นไม่ได้มีเขตความรับผิดชอบในไทย ดังนั้น ใบอนุญาตข้างต้นจึงเป็นเพียงเครื่องมือช่วยยืนยันมาตรฐานการดำเนินงานในระดับสากลเท่านั้น

การกำกับดูแล
จากการตรวจสอบของผม พบว่า Octa อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น CySEC, FSC และ MISA แต่ยังไม่รับการรับรองโดยงานหน่วยงานหลักทางการเงินของไทยอย่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
โดยหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง FSC และ MISA ถือเป็นหน่วยงาน “นอกชายฝั่ง (Offshore Regulators)” ที่อนุญาตให้ Octa สามารถให้บริการทางการเงินได้ในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานในประเทศนั้นโดยตรง แต่ก็ยังมีระดับความเข้มงวดที่ต่ำมาก หากเปรียบเทียบกับการกำกับดูแลโดยตรงในประเทศที่ได้รับการคุ้มครองโดยหน่วยงาน Teir 1
ผมจึงขอแนะนำให้ เทรดเดอร์ไทยควรใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจและประเมิณความเสี่ยงก่อนการใช้งานเสมอ เพื่อควาปลอดภัยในการใช้งานของคุณเอง
ชื่อเสียง
Octa ให้บริการเทรดสำหรับรายย่อยมาตั้งแต่ปี 2011 โดยมีบัญชีเทรดมากกว่า 40 ล้านบัญชี จากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก และจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องหลังของบริษัท ผมพบว่า Octa ได้รับรางวัลมากกว่า 60 รางวัล ในหลากหลายสาขา เช่น
- Best Proprietary Trading Platform 2024 จาก FX Scouts
- Best Islamic-friendly Broker in Indonesia 2024 จาก Finance Derivative
- Most Reliable Broker Global 2024 จาก Global Forex Awards Retail
- Best Trading Conditions in Africa 2024 จาก Finance Magnates
นอกจากนี้ Octa (เดิมชื่อ OctaFX) ยังมีความนิยมสูงในโลกออนไลน์ จากข้อมูลการค้นหาบน Google ในปี 2025 พบว่า Octa ติดอันดับ ที่ 16 ของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ยอดนิยม ด้วยปริมาณการค้นหาประมาณ 165,000 ครั้งต่อเดือน และอยู่ที่อันดับที่ 29 ในไทย ด้วยปริมาณการค้นหา 480 ครั้งต่อเดือน
ในขณะที่ข้อมูลจาก Similarweb ระบุว่า Octa มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก 645,289 ครั้งในเดือนสิงหาคม 2025 อยู่ในอันดับ ที่ 29 ของโบรกเกอร์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด
รีวิว
ผมมักจะใช้เสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริงมาร่วมในการประเมิณความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ และจากข้อมูลล่าสุดบน Turst Pilot ผมพบว่า Octa ได้คะแนนสูงถึง 4.3 จาก 5 ด้วยรีวิวมากกว่า 8,500 รายการ ซึ่งถือเป็นคะแนนที่น่าประทับใจมาก เมื่อพิจารณาจำนวนเทรดเดอร์จำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น

ข้อสรุปเรื่องความน่าเชื่อถือ
ในการทดสอบความน่าเชื่อถือของผมพบว่า Octa ทำคะแนนได้ดีมาก ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 12 ปี และการได้รับใบอนุญาตจาก CySEC, FSC และ MISA ทำให้ Octa เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีความปลอดภัยและโปร่งใส
นอกจากนี้ การที่โบรกเกอร์ยังได้รับรางวัลมากกว่า 60 รางวัลในวงการฟอเร็กซ์ และมีรีวิวเชิงบวกกว่า 8,000 รายการบน TrustPilot ก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าลูกค้าของโบรกเกอร์รายนี้ มีความพึงพอใจในบริการและการดำเนินงานของบริษัทเป็นอย่างยิ่ง

การฝากถอนเงิน
Octa มีตัวเลือกการฝากเงินที่ได้มาตรฐานทั่วไป โดยรองรับทั้งวิธีการแบบดั้งเดิมและคริปโตบางประเภท ส่วนเวลาที่ใช้ในการดำเนินการฝากและถอนเงินก็อยู่ในระดับกลาง ไม่ได้มีความโดดเด่นเท่าใดนัก
ต้องใช้เงินฝากขั้นต่ำเท่าไหรเพื่อเทรดกับ Octa?
ในการเปิดบัญชีเทรดกับ Octa ผมใช้เงินฝากขั้นต่ำอยู่ที่เพียง $25 ซึ่งเพียงพอสำหรับการเปิดออร์เดอร์เมื่อใช้ เลเวอเรจ 1:1000 ตามที่โบรกเกอร์มีให้
อย่างไรก็ตาม ผมพบว่า Octa แนะนำให้เริ่มต้นฝากที่ประมาณ $100 เพื่อให้มีมาร์จินเพียงพอสำหรับการเทรดอย่างเหมาะสม
สกุลเงินหลักของบัญชี
แม้ว่าคุณจะสามารถฝากด้วยสกุลเงินท้องถิ่นได้ แต่ยอดเงินจะถูก แปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยอัตโนมัติ เพราะคุณมีตัวเลือกสกุลหลักของบัญชีเพียงตัวเลือกเดียวคือ สกุลเงิน USD
ช่องทางการฝากเงินและค่าธรรมเนียม
ตัวเลือกการฝากเงินของ Octa ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีหลายช่องทางให้เลือก และไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก
ช่องทางที่ผมใช้คือ การชำระเงินผ่านการสแกน QR code ของไทยอย่าง PROMPT PAY ซึ่งกำหนดฝากขั้นต่ำ 300 THB
นอกจากนี้ Octa ยังรองรับการฝากเงินด้วยคริปโต เช่น Dogecoin, Litecoin, Tether (ERC20), Tether (TRC20) ที่ใช้เวลาประมาณ 3–30 นาที และช่องทาง e-wallets เช่น Neteller และ Skrill ที่สามารถทำรายการฝากได้ทันทีเช่นเดียวกับ Prompt Pay

ช่องทางถอนเงินและค่าธรรมเนียม
การถอนเงินจากบัญชีของผมเป็นไปอย่างรวดเร็ว และตามข้อมูลจากผู้จัดการบัญชีของผม การถอนแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการอนุมัติ หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีคริปโตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของคุณภายใน 30 นาที ซึ่งถือเป็นบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมาก

ความยากง่ายในการเปิดบัญชีเทรด
กระบวนการเปิดบัญชีกับ Octa ของผมเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ซับซ้อน ใช้เวลาเพียงประมาณ 3 นาที ซึ่งถือเป็นขั้นตอนการสมัครเปิดบัญชีเทรดจริงที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่ผมเคยทดสอบมา
เริ่มต้นจากการกรอกข้อมูลส่วนตัวในแบบฟอร์มสมัคร และเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการใช้งานในการเทรด ในกรณีของผม ผมเลือกใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ในขั้นแรก ซึ่งสิ่งที่น่าประทับใจคือ คุณสามารถเปลี่ยนหรือเลือกแพลตฟอร์มอื่นได้ภายหลัง ผ่านทางแดชบอร์ดของบัญชีของโบรกเกอร์ Octa เอง

ข้อสรุปเรื่องการฝากถอนเงิน
ผมประทับใจกับการฝากและถอนเงินกับ Octa ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม และช่องทางการฝากเงินที่มีให้เลือกอย่างครบครัน โดยเฉพาะ PROMPT PAY สำหรับชาวไทย
นอกจากนี้ ความรวดเร็วในการดำเนินการฝาก–ถอนของ Octa ก็ยังอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม โดยธุรกรรมทั้งหมดจะได้รับการดำเนินการภายในวันทำการเดียวกันในระหว่างสัปดาห์ ซึ่งช่วยให้คุณเริ่มเทรดได้เร็วขึ้น

ตลาดการเงิน
ในการสำรวจรายการสินทรัพย์ของโบรกเกอร์ Octa ผมพบว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้บริการบน Octa จะอยู่ในรูปแบบ CFD (Contract for Difference) โดยมีประมาณ 300 รายการ มาพร้อมกับเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย
แม้จำนวนสินทรัพย์จะถือว่ามีจำกัดเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น แต่ข้อดีคือ ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมสวอป (Swap Fees) ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการถือออร์เดอร์ข้ามคืน (มากกว่า 24 ชั่วโมง) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ต่อไปนี้คือภาพรวมโดยย่อของ ประเภทสินทรัพย์ที่เทรดเดอร์ไทยสามารถเทรดได้ในแต่ละแพลตฟอร์ม
| OctaTrader | MetaTrader 4 | MetaTrader 5 | |
|---|---|---|---|
| ผลิตภัณฑ์ CFDs ทั้งหมด | 80 | 80 | 277 |
| คู่ฟอเร็กซ์ | 35 | 35 | 52 |
| เงินและทอง | Yes | Yes | Yes |
| พลังงาน | 3 | 3 | 3 |
| ดัชนี | 10 | 6 | 10 |
| คริปโต | 30 | 34 | 34 |
| หุ้น | 0 | 0 | 150 |
ฟอเร็กซ์
Octa มีคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ให้คุณเทรดทั้งหมด 52 คู่ ครอบคลุมทั้ง คู่หลัก (Majors) เช่น USD/JPY, AUD/USD, EUR/USD รวมถึง คู่รอง (Minors) และ คู่แปลกใหม่ (Exotics)
อย่างไรก็ตาม การเทรดด้วย MT5 จะทำให้คุณสามารถเข้าถึงคู่ฟอเร็กว์ได้ถึง 52 คู่ ในขณะที่การเทรดด้วย MT4 จะมีให้เทรดเพียง 32 คู่ เท่านั้น
นอกจากความหลากหลายของคู่ฟอเร็กซ์แล้ว โบรกเกอร์ยังให้เลเวอเรจสูงสุด 1:1000 สำหรับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเปิดออร์เดอร์ขนาด 1 ล็อตได้ด้วยมาร์จินเพียง $100 เท่านั้น
ดัชนี
Octa มีดัชนีหลักให้เทรดทั้งหมด 10 รายการ บนแพลตฟอร์ม OctaTrader และ MT5 ครอบคลุมทั้งตลาด เอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ ส่วนแพลตฟอร์ม MT4 มีดัชนีให้เทรดเพียง 6 รายการ ซึ่งรวมถึง S&P 500 และ FTSE 100
โบรกเกอร์นี้ยังเสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:400 สำหรับดัชนี ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐานของบัญชีเทรดรายย่อยทั่วไป
สินค้าโภคภัณฑ์
โบรกเกอร์ Octa มีสินค้าโภคภัณฑ์หลักให้เทรด 5 รายการ ได้แก่ ทองคำ (Gold), เงิน (Silver), น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent Oil), น้ำมันดิบสหรัฐฯ (WTI Oil) และก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ (US Natural Gas)
คุณสามารถสินค้าโภคภัณฑ์ได้ในทุกแพลตฟอร์ม พร้อมรับเลเวอเรจสูงสุด 1:400 ซึ่งผมมองว่าอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นเทรดระยะสั้น
คริปโตเคอร์เรนซี
Octa มีคริปโตให้คุณเลือกเทรดทั้งหมด 34 รายการ ครอบคลุมทั้งตลาดหลักอย่าง Bitcoin, Ethereum, Ripple, Litecoin และยังมี เหรียญทางเลือก (Altcoins) เช่น Dogecoin สำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง
นอกจากนี้ Octa ยังให้เลเวอเรจสูงถึง 1:200 สำหรับคริปโต ซึ่งมากกว่าหลายโบรกเกอร์ที่มักจำกัดไว้เพียง 1:10 มันจึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และต้องการเพิ่มขนาดการเทรดมากกว่าเทรดเดอร์มือใหม่
หุ้น
ในที่นี้จะหมายถึง หุ้น CFD (Share CFDs) ซึ่ง Octa ให้ตัวเลือกมากกว่า 150 รายการ เฉพาะบน แพลตฟอร์ม MetaTrader 5 เท่านั้น
ประเภทตลาดจะครอบคลุมทั้ง 16 ตลาดหลักทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ยุโรป ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เช่น Tesla, Amazon และ Apple
นอกจากนี้ การเทรดหุ้นที่ Octa ยังมีเลเวอเรจสูงถึง 1:40 ซึ่งมากกว่าหลายโบรกเกอร์ทั่วไปถึง 2 เท่า
ข้อสรุปเรื่องตลาดการเงิน
ด้วยตลาดเงินทั้งหมดกว่า 300 รายการ ไม่ว่าจะเป็น คู่สกุลเงินหลักในฟอเร็กซ์, ทองคำ, หุ้นชื่อดังอย่าง Tesla หรือ คริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin ทำให้ผมมองว่า Octa ทำได้ดีสำหรับความหลากหลายของตลาดการเงิน เว้นแต่ว่าคุณจะต้องการเทรดในตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือหุ้นรายตัวที่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก

การบริการลูกค้า
จากประสบการณ์ของฝ่ายบริการลูกค้าของ Octa สามารถติดต่อได้ผ่านทางแชทสดและอีเมล และยังไม่ได้ให้บริการในภาษาไทย ซึ่งถือว่ายังมีข้อจำกัดเล็กน้อย เพราะผมคิดว่าการเปิดช่องทางติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ อาจมีประสิทธิภาพมากกว่า ในกรณีเร่งด่วน

การใช้บริการแชทสดของ Octa เปิดให้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน (24/7) ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างมาก แต่ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมของผมก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกัน
สิ่งที่ผมชอบคือ ผมไม่ต้องกรอกแบบสอบถามก่อนเริ่มพูดคุย ระบบจะพาคุณเข้าสู่การสนทนาโดยตรงกับ AI ที่เป็นผู้ช่วยเหลืออัตโนมัติ ซึ่งต่างจากหลายโบรกเกอร์ที่มักใช้ระบบตอบอัตโนมัติแบบจำกัดคำตอบ และในกรณีของ Octa ผมรู้สึกว่า พวกเขาลงทุนในด้านนี้จริงจัง เพราะคำตอบของ AI มีความละเอียดและตอบได้ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อผมขอเปลี่ยนไปคุยกับเจ้าหน้าที่จริง กลับพบว่าคำตอบจากเจ้าหน้าที่ไม่ละเอียดเท่าที่คาด และมักใช้ข้อความตอบกลับสำเร็จรูปที่ไม่ลงลึกในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ทำให้รู้สึกค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยเฉพาะเมื่อต้องการสอบถามเรื่องบัญชีหรือบริการเฉพาะทาง
ดังนั้น หากคุณต้องการคำตอบเชิงเทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้น ผมขอแนะนำให้ติดต่อผ่านอีเมลแทน ที่อาจจะต้องใช้เวลารอการตอบกลับนานขึ้น
ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้า
ผมให้คะแนนการบริการลูกค้าของ Octa ในระดับกลาง นั่นเพราะพวกเขามี AI ที่ตอบคำถามได้ดี ติดต่อได้รวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ยังให้คำตอบได้ไม่ชัดเจนนัก และที่สำคัญ ยังไม่มีตัวเลือกในภาษาไทย ทำให้ลูกค้าชาวไทยอาจได้รับความไม่สะดวกอยู่บ้าง
พอร์ทัลการศึกษาและวิจัย
โบรกเกอร์ Octa มีบริการวิเคราะห์ตลาดที่ดีพอสมควรผ่านฟีเจอร์ “Space” บนแพลตฟอร์ม OctaTrader ซึ่งนำเสนอแนวคิดการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้ใช้ฟรี โดยครอบคลุมหัวข้อหลัก ๆ ได้แก่
- รูปแบบแท่งเทียน
- รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)
- การทะลุแนวรับและแนวต้าน
- การทะลุปริมาณการซื้อขาย
- ความผันผวนที่เพิ่มขึ้น
- โอกาสตามแนวโน้มและช่องทางราคา
- ข่าวสารและประกาศสำคัญทางเศรษฐกิจ
ผมประทับใจในฟีเจอร์นี้เป็นพิเศษ และคิดว่ามันมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นเทรด เพราะมีแนวคิดการเทรดใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมคำอธิบายตลาดที่ละเอียด เข้าใจง่าย และช่วยให้คุณ เรียนรู้ได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ คุณยังสามารถ ปรับแต่ง Space ได้เอง โดยเลือกเฉพาะตราสารที่ต้องการรับสัญญาณเทรด เช่น ในกรณีของผม ผมเลือกให้ระบบแสดงเฉพาะคู่เงิน USD/JPY, ทองคำ (Gold) และ EUR/USD เพื่อลดความซับซ้อนของข้อมูลที่แสดง

ส่วนการเรียนรู้
ในส่วนของการเรียนรู้ ผมพบว่า Octa มีการจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinars) อย่างต่อเนื่อง โดยมีเทรดเดอร์มืออาชีพเป็นผู้สอนในรูปแบบ Live Trading Session ที่เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ คุณจะได้เรียนรู้ผ่านการดูเทรดจริงบนหน้าจอ ซึ่งช่วยให้เข้าใจแนวคิดของมืออาชีพและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
ส่วนการศึกษา
สำหรับผมแล้ว เนื้อหาด้านการศึกษาของ Octa ก็ถือว่าทำได้ดี ประกอบด้วย บทความความรู้พื้นฐาน 12 บท ที่ครอบคลุมหัวข้อสำคัญของฟอเร็กซ์
แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ คอร์สเรียนฟอเร็กซ์ออนไลน์ฟรี ซึ่งมีวิดีโอทั้งหมด 11 บทเรียน ความยาวประมาณ 5–10 นาทีต่อบท ที่ให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการเทรดฟอเร็กซ์อย่างเป็นระบบ

ในกรณีที่คุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ หรือผู้เริ่มต้นที่ต้องการพัฒนาต่อ Octa ยังมีแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด 12 รูปแบบ เช่น การใช้รูปแบบกราฟในเกือบทุกรูปแบบ
สรุปเรื่องพอร์ทัลการศึกษา
ผมมองว่าการวิเคราะห์ตลาดของ Octa ทำได้ดีและมีคุณภาพ โดยมีการนำเสนอรูปแบบกราฟและแท่งเทียน เช่น Doji และ Wedge พร้อมระบุแนวรับแนวต้านที่น่าสนใจ การวิเคราะห์แสดงผลบนกราฟได้อย่างสวยงาม และคำอธิบายก็เข้าใจง่ายแม้สำหรับผู้เริ่มต้น
ส่วนด้านพอร์ทัลการศึกษา ผมคิดว่า Octa จัดทำคอร์สเรียนออนไลน์ได้ดีมาก ช่วยอธิบายแนวคิดพื้นฐานของการเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ สัมมนาออนไลน์รายวันกับเทรดเดอร์มืออาชีพ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสประสบการณ์เทรดจริง และเห็นกระบวนการวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์
ข้อสรุป รีวิว Octa 2025
โดยรวมแล้ว ผมได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างดีมากกับ Octa เนื่องจากเงื่อนไขการเทรดแบบ ECN ของโบรกเกอร์ ที่ให้สเปรดต่ำโดยเฉลี่ยเพียง 0.80 pips บนคู่เงิน EUR/USD และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดคือ Octa ไม่คิดค่าธรรมเนียมสวอป (Swap Fees) สำหรับออร์เดอร์ที่ถือข้ามคืน ซึ่งช่วยให้ผมสามารถถือหุ้นระยะยาวเพื่อเก็บกำไรได้มากขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
อีกทั้งยังมี เลเวอเรจสูงมากถึง 1:1000 สำหรับฟอเร็กซ์ และ 1:400 สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์และดัชนี (สำหรับบัญชีนอกหน่วยงานกำกับของ CySEC)
แม้ Octa จะมีแพลตฟอร์มให้เลือกเพียง 3 แบบหลัก ได้แก่ MT4, MT5 และ OctaTrader แต่ก็สามารถตอบโจทย์เทรดเดอร์ได้ทุกสไตล์ โดยเฉพาะ MetaTrader ที่เป็นมาตรฐานในวงการ และสิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ OctaTrader ที่มีฟีเจอร์น้อยกว่า MetaTrader แต่กลับมีระบบวิเคราะห์ทางเทคนิคเฉพาะตัวที่ให้ข้อมูลอย่างมืออาชีพและมีคุณภาพสูง
ส่วนการจัดการบัญชี ผมก็พบว่าการฝากและถอนเงินรวดเร็วมาก ทั้งสองกระบวนการใช้เวลาไม่เกินหนึ่งวัน และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
และทั้งหมดนี้ทำให้ Octa เป็นโบรกเกอร์ forex ที่น่าเชื่อถือ คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการให้บริการโดยรวม สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยในปีนี้
คำถามที่พบบ่อย
โบรกเกอร์ Octa ถูกกฎหมายไหม น่าเชื่อถือแค่ไหน?
Octa มีใบอนุญาตจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะป็น CySEC หรือ FSC แต่บัญชีส่วนใหญ่ที่คนไทยใช้มักถูกให้บริการผ่านบริษัทที่อยู่ภายใต้ MISA (Comoros) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับระดับ Offshore ที่ไม่ได้มีความเข้มงวดมากนัก
และโบรกเกอร์ยังไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการเงินของไทย ดังนั้น ผู้ใช้ควรพิจารณาความเสี่ยงก่อนเปิดบัญชี
Octa มีบัญชีเดโมให้ทดลองใช้งานหรือไม่?
มี Octa มีบัญชีเดโม่ให้ทดลองใช้งาน โดยมีวงเงินไม่จำกัดและไม่มีวันหมดอายุ คุณสามารถใช้บัญชีเดโม่เพื่อฝึกเทรดในสภาวะตลาดจริงได้ในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น OctaTrader, MT4 หรือ MT5
การฝากถอนเงินกับ Octa มีค่าธรรมเนียมไหม?
ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการฝากหรือถอนเงินที่ Octa จะไม่มีค่าธรรมเนียม ทั้งช่องทางคริปโต เช่น Bitcoin, Ethereum หรือ E-Wallets เช่น Skrill, Neteller แต่ระยะเวลาในการดำเนินการจะแตกต่างกัน หากคุณต้องการทำธุรกรรมโดยรวดเร็ว ช่องทาง E-Wallets หรือ PROMPT PAY ของไทยจะตอบโจทย์กว่า
Octa เหมาะกับมือใหม่ไหม?
ใช่ Octa เหมาะกับผู้เริ่มต้นเทรด เพราะระบบเทรดใช้งานง่าย, ฝาก–ถอนสะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียม, มีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 ในการเทรดฟอเร็กซ์ของชาวไทย และสเปรดอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรระวังคือ ชาวไทยไม่ได้รับการคุ้มครองโดยตรงจากหน่วยงานชั้นนำ ซึ่งอาจทำให้โบรกเกอร์นี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยระดับสูงของเงินทุน
Octa มีบัญชีอิสลามหรือบัญชีไม่มีสวอปไหม ?
มี ทุกบัญชีเทรดของ Octa เป็นบัญชีปลอดค่า swap และลูกค้าทุกคนสามารถใช้งานได้ ไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น นั่นหมายความว่า เมื่อคุณถือออร์เดอร์ข้ามคืน จะไม่ถูกคิดค่าดอกเบี้ยสวอป
ทำให้การใช้งานบัญชีเทรด Octa เหมาะสำหรับผู้ที่เทรดระยะยาว หรือผู้ที่ต้องการลดต้นทุนจากค่าถือออร์เดอร์ เป็นอย่างยิ่ง
ทางเลือกแทน Octa
หากคุณมองหาทางเลือกแทนการใช้งาน Octa ลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้ สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย
คำตัดสิน
ค่าธรรมเนียม
แพลตฟอร์มการซื้อขาย
ความปลอดภัย
การฝากเงินเข้าบัญชี
สินค้า
บริการช่วยเหลือ
การวิจัยตลาด 







