Tickmill ดีไหม 2025: รีวิวฉบับเต็ม
โบรกเกอร์ Tickmill เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดของผม ด้วยเลเวอเรจที่สูงมากสำหรับเทรดเดอร์ในไทย นอกจากนี้ Tickmill ยังมีบัญชี Raw ที่ยอดเยี่ยม เพราะมีสเปรดแคบและค่าคอมมิชชันต่ำ พร้อมตัวเลือกสำหรับแพลตฟอร์มการซื้อขาย MT4 หรือ MT5 ที่รองรับการเทรดคู่สกุลเงินมากกว่า 60 คู่

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site. For more information, visit our About Us page.
ข้อมูลทั่วไป Tickmill ดีไหม 2025
🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล | UK, ยุโรป, แอฟริกาใต้, มาเลเซีย และเซเชลส์ |
💰 สเปรด | สเปรดต่ำ |
📊 แพลตฟอร์มการเทรด | MT4 |
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $100 |
💰 ค่าธรรมเนียมฝาก | $0 |
🛍️ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน | ฟอเร็กซ์, CFDs, พันธบัตร และโลหะ |
💳 ฝากผ่านบัตรเครดิต | มี |
ทำไมถึงเลือก Tickmill
Tickmill ดีไหม ? โบรกเกอร์ Tickmill เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ และผู้ที่ให้ความสำคัญกับสเปรดแคบและต้นทุนที่ต่ำ มากที่สุด เพราะเสนอค่าคอมมิชชันและสเปรดต่ำในบัญชีประเภท Raw ซึ่งทำให้ Tickmill มีความได้เปรียบในแง่การแข่งขัน
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ รวมถึง การรองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแอปพลิเคชันบนมือถือ, การสนับสนุนลูกค้าเป็นภาษาไทย ที่มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี และวิธีฝากเงินที่หลากหลายโดยไม่มีค่าธรรมเนียม
แม้ว่าโดยรวม Tickmill จะเป็นโบรกเกอร์ที่ดี แต่พวกเขาก็ยังก็มีจุดอ่อนบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สเปรดของบัญชี Standard ที่สูง และไม่มีบัญชีสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดในปริมาณสูง และฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียมต่ำในบัญชี RAW
- การดำเนินการที่รวดเร็ว
- มีการกำกับดูแลที่ดี
- เลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 บน MT5
- ทรัพยากรการศึกษาที่ครบถ้วน
- พอร์ทัลการศึกษาและข่าวสารยังไม่ครอบคลุม
- แพลตฟอร์มการเทรดมีให้เลือกจำกัด
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียม Tickmill
โบรกเกอร์นี้มีบัญชีให้เลือก 2 ประเภทหลัก ได้แก่ บัญชี Classic และ บัญชี Raw ซึ่งบัญชี Classic จะมีสเปรดเฉลี่ยที่สูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบัญชีประเภทอื่น ส่วนบัญชี Raw มีสเปรดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.10 pips สำหรับคู่ EUR/USD ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแคบและน่าสนใจสำหรับนักเทรดที่มองหาโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในแง่ต้นทุนต่ำ
สเปรดบัญชี Raw
คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานบัญชี Raw ได้ด้วยเงินฝากเริ่มต้นเพียง $100 โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าบัญชีนี้ให้ข้อเสนอสเปรดแคบที่สุดสำหรับเทรดเดอร์รายย่อย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในบัญชี ECN ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดอีกด้วย ตารางด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงสเปรด Tickmill ที่แคบกว่าโบรกเกอร์รายอื่นในตลาด forex ในไทย โดยเฉพาะในคู่สกุลเงิน EUR/USD และ AUD/USD
สเปรดบัญชี Standard
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
1.60 | 1.60 | 1.60 | 1.60 | 1.60 |
![]() |
1.10 | 1.20 | 1.40 | 1.40 | 1.40 |
![]() |
0.62 | 0.77 | 1.27 | 0.83 | 0.74 |
![]() |
1.10 | 1.20 | 1.30 | 1.30 | 1.30 |
![]() |
1.00 | 1.20 | 1.00 | 1.00 | 1.10 |
![]() |
1.00 | 1.00 | 1.50 | 2.00 | 1.00 |
![]() |
1.00 | 1.40 | 1.60 | 1.20 | 1.10 |
![]() |
1.60 | 1.60 | 1.80 | 1.90 | 1.50 |
![]() |
1.32 | 1.95 | 1.37 | 1.70 | 1.40 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 06/01/2025
ค่าธรรมเนียมของบัญชี RAW
ตารางต่อไปนี้ ผมจะเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมเฉลี่ยในบัญชี RAW ของ Tickmill ในฐานะเทรดเดอร์ในประเทศไทย ค่าคอมมิชชันของการซื้อขายจะอยู่ที่ $3.00 สำหรับการเทรดแต่ละรอบ แต่ละล็อต ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเล็กน้อย และด้วยสเปรดและค่าคอมมิชชันที่ต่ำ ผมจึงคิดว่าบัญชี Raw ของ Tickmill เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ทำการเทรดบ่อยและซื้อขายในปริมาณสูง
ค่าธรรมเนียม | USD | AUD | GBP | EUR |
---|---|---|---|---|
Tickmill | $3.00 | N/A | £2.00 | €2.00 |
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม | $3.44 | $3.32 | £2.44 | €2.91 |
สเปรดบัญชี Classic
บัญชี Classic คือชื่อเรียกของ บัญชีมาตรฐาน (Standard account) ของ Tickmill โดยบัญชีประเภทนี้จะมีการเรียกเก็บเฉพาะสเปรด เริ่มต้น 1.6 (โดยไม่มีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม) แต่เนื่องจากไม่มีค่าคอมมิชชัน สเปรดจึงจะสูงกว่าบัญชี RAW อย่างมีนัยสำคัญ
ผมคิดว่าบัญชี Classic เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับนักเทรดรายมือใหม่ เพราะโครงสร้างค่าธรรมเนียมเข้าใจง่ายและคำนวณได้ง่าย และหากคุณเทรดในปริมาณที่ต่ำ สเปรดสูงกว่าบัญชี Raw เล็กน้อยจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวมมากนัก
สเปรดบัญชี Standard | EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | AUD/USD | USD/CAD | EUR/GBP | EUR/JPY | AUD/JPY |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Tickmill | 1.6 | 1.6 | 1.6 | 1.6 | 1.6 | 1.6 | 1.6 | 1.9 |
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม | 1.2 | 1.4 | 1.6 | 1.5 | 1.8 | 1.5 | 1.9 | 2.1 |
บัญชีปลอดค่าสวอป
Tickmill นำเสนอบัญชีปลอดค่าสวอป (อิสลาม) สำหรับเทรดเดอร์ที่ปฏิบัติตามกฎหมายชารีอะห์ ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมข้ามคืน โดยโบรกเกอร์อนุญาตให้คุณเลือกได้ระหว่างบัญชี Classic และ Raw แต่คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการบัญชี ซึ่งจะเริ่มต้นเมื่อคุณเปิดตำแหน่งต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ถึง 6 วัน และในแต่ละวันหลังจากเวลาที่กำหนด
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คุณสามารถขอเปิดบัญชีปลอดค่าสวอปได้โดยการส่งอีเมลไปยังฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Tickmill และอาจต้องมีหลักฐานการปฏิบัติตามศาสนา เมื่อได้รับการอนุมัติ คุณจะสามารถใช้งานบัญชีได้ทันที
ข้อสรุปเรื่องค่าธรรมเนียมของ Tickmill
Tickmill มี spread ที่โดดเด่นและค่าธรรมเนียมต่ำเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นที่ผมได้รีวิวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งโดยรวมแล้ว ผมให้คะแนน Tickmill ที่ 9.5/10 สำหรับความคุ้มค่าในด้านต้นทุนการเทรด และผมขอแนะนำให้เลือกบัญชี Raw แทนบัญชี Classic เพื่อต้นทุนการต่ำกว่า
แพลตฟอร์มการซื้อขาย
สำหรับแพลตฟอร์มของ Tickmill จะรองรับเพียง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแอพการซื้อขายบนมือถือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาอย่าง Tickmill Trader เท่านั้น
MetaTrader 4
หากคุณเทรดกับ Tickmill คุณสามารถใช้งาน MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งเป็นทั้งแพลตฟอร์มที่มอบความยืดหยุ่นและตัวเลือกการซื้อขายที่หลากหลายให้กับเทรดเดอร์ทั่วโลกมาอย่างยาวนาน โดยคุณสามารถเข้าใช้งาน MT4 ได้ทั้งในรูปแบบแอปพลิเคชันสำหรับ Windows, Mac, iOS และ Android หรือใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้โดยตรง
เหตุผลที่ผมแนะนำให้ลองใช้ MT4 ในฐานะผู้ใช้งานมายาวนาน:
- ตลาด EA ขนาดใหญ่: MT4 มีตลาดสำหรับ Expert Advisors (EAs) สำเร็จรูปให้เลือกมากมาย ช่วยให้ง่ายต่อการทำกลยุทธ์เทรดแบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งรองรับการคัดลอกการเทรดผ่านฟีเจอร์ Signals
- มีแหล่งข้อมูลมากมาย: ในฐานะแพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยม MT4 มีทรัพยากรฟรีและหลากหลายในโลกออนไลน์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเป็นอย่างยิ่ง
- เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค: แพลตฟอร์มมาพร้อมอินดิเคเตอร์มากกว่า 30 ตัว, กราฟที่ปรับแต่งได้ และความสามารถของการเทรดอัตโนมัติ
- รองรับเครื่องมือภายนอก: MT4 สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือยอดนิยมอย่าง Myfxbook สำหรับการติดตามผลการเทรด อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ MT4 ไม่รองรับ DupliTrade โดยตรง ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำหรับผู้ที่ชอบการเทรดแบบโซเชียลได้
เหตุผลที่ผมไม่แนะนำ MT4 สำหรับเทรดเดอร์บางราย:
- MT4 ถูกออกแบบมาสำหรับการเทรด Forex เป็นหลัก จึงขาดฟีเจอร์ขั้นสูง
- เนื่องจากโบรกเกอร์หลายแห่งเริ่มเอา MT5 เริ่มเข้ามาแทนที่ ทำให้ในอนาคตอาจไม่สามารถใช้ MT4 ได้
สรุปความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ MT4
MT4 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นในการเทรดฟอเร็กซ์ ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย, แหล่งข้อมูลมากมาย และความสามารถของการเทรดอัตโนมัติ แถมยังเรียนรู้การใช้งานได้อย่างไม่ยาก อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากขึ้น คุณอาจรู้สึกถึงข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม เช่น การขาดคำสั่งซื้อขายขั้นสูงและการไม่รองรับการเทรดหุ้น
MetaTrader 5
สำหรับผม MT5 แตกต่างจาก MT4 ตรงที่ MT5 รองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท และมีฟีเจอร์ที่มากกว่า เช่น กรอบเวลา 21 แบบ และระบบอัตโนมัติขั้นสูงผ่านภาษา MQL5 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรันกลยุทธ์ที่ซับซ้อนหรือระบบอัลกอริธึม
แต่สิ่งที่ผมพบว่าเป็นปัญหาคือ แหล่งข้อมูลการเรียนรู้ของ MT5 นั้นยังค่อนข้างจำกัด อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปหรือเทรดเดอร์มือใหม่ขาดข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวิจัยและการศึกษาได้
เหตุผลที่ผมอยากแนะนำให้ลองใช้ MT5:
- การตอบที่รวดเร็ว: MT5 ไม่มีอาการสะดุด แม้ในช่วงตลาดผันผวนสูง โดยเฉพาะเวลาทำสเกลป์คู่ EUR/USD อีกทั้งยังสามารถทำ backtesting ในสินทรัพย์ได้หลายประเภท เช่น CFDs, ทองคำ หรือฟิวเจอร์ส DAX ของเยอรมนี ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก
- ครอบคลุมสินทรัพย์มากกว่า: MT5 รองรับการเทรดมากกว่า Forex และ CFDs ขยายไปถึงหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, ฟิวเจอร์ส และออปชันที่ซื้อขายในตลาดกลาง
- การปรับแต่งกราฟและอินดิเคเตอร์ที่เหนือกว่า: พร้อมความภาษา MQL5 เพื่อการเทรดแบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง MT5 และ MT4:
เหตุผลที่ผมไม่แนะนำ MT5 สำหรับเทรดเดอร์บางราย:
- MT5 ซับซ้อนและยังไม่การเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้งานในโลกออนไลน์มากนัก
- โดยทั่วไปแล้ว MT5 เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการทำ Scalping, Hedging, หรือการกระจายพอร์ตแบบ Multi-Asset มากกว่า
สรุปความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ MT5
สำหรับผมแล้ว MT5 คือทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเครื่องมือการซื้อขายขั้นสูง, ความยืดหยุ่นในการจัดการพอร์ต และรองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท
Tickmill Mobile App
แอพเทรดบนมือถือของ Tickmill ได้คะแนนเฉลี่ย 3.8 จาก 5 บน Google Play Store ซึ่งผมสังเกตเห็นว่ามีเทรดเดอร์จำนวนมากแสดงระบุว่า Tickmill Mobile App ยังมีปัญหาในการใช้งานอยู่ โดยเฉพาะบางครั้งที่คำสั่งซื้อขายไม่ถูกดำเนินการตามที่ควรจะเป็น
เหตุผลที่ผมอยากแนะนำให้ลองใช้ Tickmill Mobile App :
- สามารถฝากและถอนเงินได้จากมือถือ และตรวจสอบยอดคงเหลือในบัญชี Tickmill ได้สะดวก
- เข้าถึงฝ่ายสนับสนุนทางแชทผ่านแอพเทรดได้โดยตรง
- การอัปโหลดและจัดการเอกสาร ขณะเดินทางสะดวกกว่าการเข้าใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์
เหตุผลที่ผมไม่แนะนำ Tickmill Mobile App สำหรับเทรดเดอร์บางราย:
- กราฟและเครื่องมือวิเคราะห์จำกัด เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น
- ฟีเจอร์บางตัวไม่ตอบสนองหรือค้าง ในขณะใช้งาน
สรุปความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ Tickmill Mobile App
ผมขอแนะนำให้คุณใช้ Tickmill Mobile App หากคุณแค่ต้องการเช็กสถานะคำสั่งซื้อขายหรือยอดเงินในบัญชีขณะเดินทางเท่านั้น ส่วนการซื้อขายจริงๆ ควรทำผ่าน MT4 หรือ MT5 ซึ่งมีความเสถียรและฟังก์ชันที่ดีกว่า
Myfxbook Copy Trading
หากคุณต้องการคัดลอกการเทรดของนักเทรดมืออาชีพ Myfxbook เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานบน MetaTrader 4 ของTickmill โดยคุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือการค้นหาและติดตามเทรดเดอร์คนอื่นๆ ภายในเครือข่ายโซเชียลของ Myfxbook จากนั้นคุณก็แค่ต้องตั้งค่าฟิลเตอร์ เพื่อคัดลอกการเทรดของทรดเดอร์เหล่านั้น ภายใต้เงื่อนไขที่คุณกำหนดเองได้
เครื่องมือของผู้ให้บริการภายนอก
ลูกค้าของ Tickmill ยังสามารถเข้าถึง Autochartist ได้ฟรี ทั้งในรูปแบบปลั๊กอินของ MT4 และเวอร์ชันเว็บแอปพลิเคชันแยกต่างหาก เครื่องมือนี้ขึ้นชื่อในด้านประสิทธิภาพการซื้อขายที่ทรงพลังที่สุดในวงการฟอเร็กซ์ เพราะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดย้อนหลัง และระบุโอกาสในการเทรดแบบเรียลไทม์ ทั้งยังครอบคลุมเครื่องมือ CFD หลายประเภท
ฟีเจอร์เด่นของ Autochartist ได้แก่
- การแจ้งเตือนการเทรดแบบอัตโนมัติ
- การวิเคราะห์ความผันผวน เพื่อช่วยปรับระดับ Stop Loss และ Take Profit ให้เหมาะสม
- การตรวจจับรูปแบบฟีโบนักชี (Fibonacci patterns)
- รายงานตลาด 3 ครั้งต่อวัน
- สถิติผลลัพธ์ย้อนหลัง เพื่อวัดความแม่นยำของการวิเคราะห์
VPS จาก Tickmill
ในมุมมองของผม บริการ VPS ของ Tickmill ซึ่งขับเคลื่อนโดย BeeksFX ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติ เพราะระบบสามารถรัน Expert Advisors (EAs) ได้อย่างราบรื่น, การตั้งค่าก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และมีบริการแชทสด 24/7 ซึ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงดึกที่ผมมีคำถามเกี่ยวกับการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ในระหว่างการทดสอบนั้นผมพบว่า การใช้งานมีความหน่วงที่ต่ำมาก (negligible latency) ทำให้คำสั่งเทรดของผมถูกดำเนินการแทบจะในทันที ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่เซิร์ฟเวอร์ VPS ตั้งอยู่ใกล้กับระบบเทรดของ Tickmill โดยตรง
เหตุผลที่ผมอยากแนะนำให้ลองใช้ VPS จาก Tickmill:
- สามารถทำให้ EAs หรือกลยุทธ์สเกลปทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก จึงเหมาะสำหรับนั Algorithmic traders และผู้ที่อาจไม่มีเวลาในการนั่งเฝ้าหน้าจอตลาดเวลาตลาด
- ความเร็วในการส่งคำสั่งสูง ทำให้เหมาะกับการเทรดของเทรดเดอร์แบบความถี่สูง (HFT)
เหตุผลที่ผมไม่แนะนำ VPS จาก Tickmill สำหรับเทรดเดอร์บางราย:
- หากคุณเป็นเทรดเดอร์ทั่วไปที่มีงบจำกัด หรือเทรดเป็นครั้งคราว ค่าใช้จ่ายของ VPS (แม้จะมีส่วนลด) อาจไม่คุ้มค่านัก
- ผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองอยู่แล้วและต้องการการปรับแต่งเต็มรูปแบบจะไม่ได้รับประโยชน์จาก VPS นี้
ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มการเทรดของ Tickmill
โดยรวมแล้ว Tickmill มีตัวเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยปัจจุบันรองรับเฉพาะ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมระดับโลก ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องมือเสริมอย่าง Autochartist และการสนับสนุนการคัดลอกการเทรดผ่าน Myfxbook ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
อย่างไรก็ตาม Tickmill ยังขาดแพลตฟอร์มยอดนิยมอื่น ๆ เช่น cTrader และ TradingView ด้วยข้อจำกัดนี้ ผมจึงให้คะแนน 7.0 เต็ม 10 สำหรับหมวดแพลตฟอร์มการเทรด
Tickmill ปลอดภัยไหม
หลังจากการประเมินประวัติการทำงานของพวกเขาอย่างรอบคอบ ผมสามารถบอกได้ว่า Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยและมีการกำกับดูแลในหลายเขตอำนาจศาล และปัจจุบันมีบัญชีที่ลงทะเบียนทั้งหมด 785,000 บัญชี ทำให้ Tickmill เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ทั่วโลก
การกำกับดูแล
เทรดเดอร์ในประเทศไทยได้รับการคุ้มครองโดยหน่วยงานกำกับดูแล FSA ของเซเชลส์ ซึ่ง FSA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ tier 3 ที่ดูแลการดำเนินงานของโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ สำหรับประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ Tickmill ยังมีการกำกับดูแลในประเทศอื่นๆ ดังนี้:
- Tier-1: หน่วยงานกำกับดูแลการเงิน (FCA) สำหรับสหราชอาณาจักร และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไซปรัส (CySEC) สำหรับสหภาพยุโรป
- Tier-2: หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินดูไบ (DFSA) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- Tier 3: หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินลาบวน (LFSA) ในมาเลเซีย และองค์การกำกับทางการเงิน (FSCA) ในแอฟริกาใต้
ฟีเจอร์จัดการความเสี่ยงและความเสี่ยงจากการใช้ Expert Advisor
ในมุมมองของผม เครื่องมือจัดการความเสี่ยงของ Tickmill นั้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเป็นพิเศษคือ ฟีเจอร์ป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection) ซึ่ช่วยผมได้มากในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก เช่น ตอนเทรด EUR/USD ที่พลาดจังหวะอย่างแรงจนเกือบล้างพอร์ต
นอกจากฟีเจอร์นี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่า คุณจะไม่สูญเสียมากกว่าจำนวนเงินที่ฝากไว้ ยังอีกหนึ่งจุดเด่นคือ ทีมตรวจสอบความเสี่ยงของ Tickmill ที่มีการติดตามพฤติกรรมการเทรดอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างเช่น เมื่อผมทดลองใช้เลเวอเรจสูงในการเทรดทองคำ ก็ได้รับอีเมลแจ้งเตือนเรื่อง “ความเสี่ยงเกินควร” ภายในไม่กี่ชั่วโมง
เหมาะสำหรับใคร?
- นักเทรดมือใหม่ที่ต้องการระบบป้องกันการขาดทุน
- ผู้ที่กำลังทดลองกลยุทธ์ในบัญชีเดโม ก่อนนำไปใช้จริง
ชื่อเสียง
Tickmill ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ ลอนดอน และ เม็กซิโก แม้จะดำเนินธุรกิจมานานกว่า 10 ปี แต่หากพิจารณาจากระดับความนิยมในโลกออนไลน์ Tickmill ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก
ซึ่งตัวเลขที่อาจเป็นผลมาจาก Tickmill ให้บริการเฉพาะกลุ่มนักเทรดที่ต้องการต้นทุนการเทรดต่ำ เช่น บัญชี ECN และกลุ่มนักเทรดมืออาชีพ จึงอาจไม่ได้เน้นการตลาดที่กว้างแบบโบรกเกอร์ทั่วไป
คะแนน Trustpilot
แม้จะมีรีวิวน้อยกว่า 1,000 รายการบนเว็บไซต์ Trustpilot (ข้อมูล ณ ปี 2025) แต่ Tickmill ก็ได้รับคะแนนเฉลี่ยที่ค่อนข้างดีที่ 4.0 จาก 5 ดาว ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ “น่าเชื่อถือ” เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่มีจำนวนรีวิวมากกว่า โดยสิ่งที่เทรดเดอร์กล่าวถึงโบรกเกอร์นี้ในแง่บวก ได้แก่
- ระบบเทรดที่มีเสถียรภาพ – ไม่มีปัญหาหลุดหรือดีเลย์ระหว่างเทรด
- ฝ่ายบริการลูกค้าที่ตอบเร็วและเป็นมืออาชีพ – โดยเฉพาะช่องทางแชทสด
ข้อสรุปเรื่องความน่าเชื่อถือของ Tickmill
Tickmill ได้รับรีวิวที่ดีมากในช่องทางออนไลน์และมีความน่าเชื่อถือสูง แต่พวกเขายังขาดการกำกับดูแลที่เข้มงวดจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออีกหลายๆ แห่ง เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ ดังนั้น ผมจึงต้องหักคะแนนในส่วนนี้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมให้คะแนนความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัย และการกำกับดูแลของ Tickmill อยู่ที่ 6.0 เต็ม 10
Tickmill โบรกเกอร์ forex ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หากเรามองถึงเส้นทางการเติบโตของโบรกเกอร์ Tickmill เราจะได้ความเติบโตที่ต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน จากข้อมูลล่าสุดของ Google พบว่า Tickmill มีผู้ค้นหาบนอินเตอร์เน็ตมากถึง 49,500 ครั้งต่อเดือนทั่วโลก เป็นโบรกเกอร์ Forex อันดับที่ 26 ที่ถูกค้นหามากที่สุด และจากข้อมูลของ Similarweb ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2024 ก็พบว่า เว็บไซต์ของ Tickmill มีผู้เยี่ยมชมกว่า 614,000 ครั้ง (จัดให้อยู่ในอันดับที่ 26 ของโบรกเกอร์ที่มีคนเข้าเว็บมากที่สุด)
และสำหรับในประเทศไทยเอง Tickmill ก็ยังถือว่าอยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยถูกค้นหาบน Google ประมาณ 2,400 ครั้งต่อเดือน อยู่อันดับที่ 15 ในกลุ่มโบรกเกอร์ที่คนไทยค้นหามากที่สุด
สถิติการค้นหาโบรกเกอร์ Tickmill บนอินเตอร์เน็ตในแต่ละประเทศ (ค่าเฉลี่ยต่อเดือน ประจำปี 2024)
Country | 2024 Monthly Searches |
---|---|
Malaysia | 4,400 |
Brazil | 3,600 |
South Africa | 3,600 |
India | 2,900 |
Thailand | 2,400 |
Vietnam | 1,900 |
United States | 1,600 |
Colombia | 1,600 |
Argentina | 1,600 |
Turkey | 1,600 |
Nigeria | 1,300 |
Indonesia | 1,300 |
United Kingdom | 1,000 |
Egypt | 1,000 |
Germany | 880 |
Philippines | 880 |
Bangladesh | 880 |
Algeria | 880 |
Peru | 720 |
United Arab Emirates | 720 |
Poland | 720 |
Tanzania | 720 |
Mexico | 590 |
Singapore | 590 |
Spain | 590 |
Pakistan | 590 |
Italy | 590 |
Morocco | 480 |
Cyprus | 480 |
Hong Kong | 320 |
Saudi Arabia | 320 |
France | 320 |
Dominican Republic | 320 |
Uzbekistan | 320 |
Canada | 260 |
Japan | 260 |
Chile | 260 |
Netherlands | 260 |
Ecuador | 260 |
Uganda | 260 |
Taiwan | 210 |
Australia | 210 |
Venezuela | 210 |
Portugal | 170 |
Sri Lanka | 170 |
Switzerland | 140 |
Kenya | 140 |
Jordan | 140 |
Bolivia | 140 |
Botswana | 140 |
Sweden | 110 |
Ghana | 110 |
Ethiopia | 110 |
Austria | 90 |
Costa Rica | 70 |
New Zealand | 70 |
Cambodia | 50 |
Greece | 50 |
Ireland | 40 |
Panama | 30 |
Mongolia | 30 |
Mauritius | 10 |
สถิติการค้นหาโบรกเกอร์ Tickmill บนอินเตอร์เน็ตในแต่ละประเทศ (ค่าเฉลี่ยต่อเดือน ประจำปี 2024)
![]() |
4,400
1st
|
![]() |
3,600
2nd
|
![]() |
3,600
3rd
|
![]() |
2,900
4th
|
![]() |
2,400
5th
|
![]() |
1,900
6th
|
![]() |
1,600
7th
|
![]() |
1,600
8th
|
![]() |
1,600
9th
|
![]() |
1,600
10th
|
การฝากและถอนเงิน
Tickmill เสนอตัวเลือกการฝากและถอนเงินที่หลากหลาย พร้อมกับเงื่อนไขเงินฝากเริ่มต้นที่ไม่สูงเกินไป หากฝากเงินจะพบว่าเงินเข้าบัญชี Tickmill ทันที ในขณะที่การถอนใช้เวลา 24 ชั่วโมง (ในวันทำการ)
ข้อกำหนดเงินฝากเริ่มต้น
คุณต้องฝากเงินอย่างน้อย USD100 สำหรับการซื้อขาย forex ในบัญชี Classic และบัญชี RAW ที่ให้บริการสำหรับลูกค้าชาวไทย
สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี
ในฐานะเทรดเดอร์ในไทย คุณสามารถเลือกสกุลเงินพื้นฐานได้หลายตัว ซึ่งรวมถึง THB, USD, GBP และ EUR
ช่องทางการชำระเงิน
สำหรับประเทศไทย Tickmill มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการโอนเงินระหว่างประเทศ, การโอนเงินคริปโต, Sticpay, FasaPay, Skrill และ Neteller อย่างไรก็ตาม ข้อเสียที่พบคือ การชำระเงินบางรายการจะมีค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บโดยผู้ให้บริการทางการเงินบุคคลที่สาม
ตัวเลือกการฝากและถอนเงิน
Tickmill มีช่องทางการฝากและถอนเงินหลากหลาย โดยมีข้อกำหนดขั้นต่ำในการถอนเงินที่ USD100 ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
- บัตร Visa และ MasterCard
- Skrill
- Neteller
- Pefectmoey
- Finrax
ข้อสรุปเรื่องการฝากและถอนเงิน
โบรกเกอร์มีตัวเลือกช่องทางฝากถอนที่มากกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งมีความโปร่งใสเรื่องค่าธรรมเนียม ทำให้ผมให้คะแนนโบรกเกอร์สูงถึง 8.5/10 สำหรับหมวดหมู่ตัวเลือกฝากถอนนี้
ตลาดการเงินที่รองรับ
Tickmill นำเสนอทั้งคู่เงิน Forex, หุ้น รวมถึง ETFs และที่น่าสนใจคือ ในปี 2025 นี้ พวกเขาได้เพิ่มสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีบางตัวเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คุณสามารถใช้งานได้จะขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี
CFDs
จากการทดลองใช้งานของผม โบรกเกอร์ยังขาดความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ CFD ที่เสนอให้ เช่น คุณไม่สามารถเทรด CFD ยอดนิยมบางประเภทได้ ซึ่งข้อจำกัดนี้อาจทำให้คุณไม่สามารถกระจายความเสี่ยงได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ฟอเร็กซ์
Tickmill เสนอคู่สกุลเงินมากกว่า 70 คู่ ซึ่งรวมถึงคู่หลัก คู่รอง และคู่พิเศษ คู่ที่มีการซื้อขายกันมากได้แก่ EUR/USD, GBP/USD ,AUD/USD และ USD/JPY ในฐานะเทรดเดอร์ที่อาศัยในประเทศไทย การเทรดฟอเร็กซ์กับ โบรกเกอร์จะมีเลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณใช้ สำหรับ MT4 เลเวอเรจสูงสุดจะอยู่ที่ 500:1 (เลเวอเรจคงที่) และ 1000:1 สำหรับ MT5 (เลเวอเรจแบบไดนามิก)
ดัชนีหุ้น, โลหะมีค่า และ น้ำมัน
โบรกเกอร์เสนอดัชนี 19 คู่หลักและหุ้น 10,000 ตัว ทั้งยังรวมถึง สินค้าโภคภัณฑ์ให้เทรดอีกหลายรายการ โดยเปิดให้เทรดได้ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ด้วยสเปรดต่ำและมีความเร็วในการดำเนินคำสั่งที่รวดเร็ว โดยโบรกเกอร์มีตัวเลือกเลเวอจ์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 10:1 ถึง 1000:1 ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณเทรด
ตราสารหนี้และพันธบัตร
ในฐานะลูกค้ารายย่อย ผมมีตัวเลือกใช้เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:100 เมื่อต้องการเทรดพันธบัตรกับโบรกเกอร์นี้
คริปโตและคริปโต ETFs
ในปี 2025 ผมได้เห็นการขยายตัวของตัวเลือกคริปโตและคริปโต ETF บนโบรกเกอร์นี้อย่างต่อเนื่อง เพราะแสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์กำลังปรับตัวให้ทันกับความต้องการของเทรดเดอร์ในปัจจุบัน โดยเลเวอเรจสูงสุดของการเทรดคริปโตบน Tickmill คือ 1:200 และคุณสามารถเลือกเทรดคริปโตเคอร์เรนซีได้มากกว่า 12 สกุล
พวกเขามี CFD ครบ 12 รายการ แต่มีเลเวอเรจที่จำกัดเพียง 1:20 เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าโบรกเกอร์ชั้นนำรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรม ดังนั้น หากคุณเน้นการเทรด CFD ประเภทนี้ด้วยเลเวอเรจที่สูง ผมขอแนะนำให้พิจารณาโบรกเกอร์รายอื่นแทน
ข้อสรุปเรื่องความหลากหลายของตลาดการเงินของ Tickmill
ผมให้คะแนน โบรกเกอร์นี้ในแง่ของความหลากหลายของตลาด 7.5 เต็ม 10 เนื่องจาก โบรกเกอร์มีตลาดการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟอเร็กซ์, คริปโต, โลหะมีค่า, สินค้าพลังงาน และพันธบัตรรัฐบาล ยังขาด CFD ในบางกลุ่ม ส่วนเลเวอเรจก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ไม่ได้สูงหากเทียบกับมาตรฐานในอุตสาหกรรมนี้
การบริการลูกค้าของ Tickmill
จากประสบการณ์ของผมในการทดสอบฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์ ผ่านช่องทางแชทสด, อีเมล และโทรศัพท์ ผมให้คะแนนอยู่ในระดับ “พอใช้ได้” เท่านั้น แม้จะรองรับการใช้งานในภาษาไทยก็ตาม
โดยในช่วงเวลาทำการวันธรรมดา ทีมแชทสดตอบกลับภายใน 2-3 นาที (ตอบคำถามทั่วๆ ไปได้ดี) แต่เมื่อสอบถามเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น กลไกการส่งคำสั่งเทรด หรือรายละเอียดด้านกฎระเบียบ คำตอบที่ได้เหมือนคัดลอกมาและมักถูกแนะนำให้ติดต่อผ่านอีเมลเพื่อ “ตรวจสอบเพิ่มเติม”
ส่วนการติดต่อผ่านอีเมลใช้เวลาตอบกลับ 12-24 ชั่วโมง ในขณะที่การติดต่อผ่านโทรศัพท์ (ให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์) ดำเนินไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ผมสังเกตว่าบางประเทศไม่มีหมายเลขท้องถิ่นให้บริการ รวมทั้งประเทศไทย
ข้อเสียที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผมคือ การขอรับการสนับสนุนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ต้องรอนานกว่า 20 นาที และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับมาร์จิ้นได้ โดยแนะนำให้ “ติดต่อกลับมาอีกครั้งในวันจันทร์” ซึ่งไม่ค่อยตรงตามมาตรฐานของโบรกเกอร์ชั้นนำเท่าใดนัก
ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้าของ Tickmill
ผมให้คะแนนฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์นี้ เพียง 6.5/10 ถึงแม้จะติดต่อได้ง่าย แต่พวกเขาไม่ได้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวันและส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้กับบอท หากคุณประสบปัญหากับบัญชีการซื้อขายในช่วงสุดสัปดาห์ อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องเหนื่อยสักหน่อยในการรอรับความช่วยเหลือ
พอร์ทัลการวิจัยและการศึกษาที่ Tickmill
โบรกเกอร์นำเสนอพอร์ทัลการเรียนรู้ที่หลากหลายมาก โดยคุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ในหลากหลายภาษา (บางสื่ออาจไม่รองรับภาษาไทย):
- สัมมนาออนไลน์ (Webinars)
- สัมมนาแบบเข้าร่วมจริง (Seminars)
- วิดีโอสอนการใช้งาน (Video Tutorials)
- หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (eBooks) – แม้ว่าลิงก์ที่ให้มาจะพาไปยังหน้า 404 ซึ่งไม่สามารถเข้าใช้งานได้
- อินโฟกราฟิก (Infographics)
- พจนานุกรมฟอเร็กซ์ (Forex Glossary)
อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าพอร์ทัลการศึกษาของโบรกเกอร์นี้ยังมีส่วนที่ควรพัฒนาเพิ่มเติมอีกมาก เช่น พจนานุกรมฟอเร็กซ์นั้นใช้ยากเกินไปสำหรับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะมือใหม่ หรือการจัดเรียงเนื้อหา หากจัดเรียงตามหัวข้อ (เช่น เทคโนโลยี, การซื้อขาย และการวิเคราะห์) แทนการเรียงตามตัวอักษร น่าจะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานดียิ่งขึ้น
ข้อสรุปเรื่องพอร์ทัลการศึกษาของ Tickmill
ผมคิดว่า พอร์ทัลการศึกษาของโบรกเกอร์นี้มีความหลากหลายทั้งด้านเนื้อหาและภาษาที่รองรับ แต่ยังสามารถพัฒนาได้อีกมากในแง่ของการจัดระเบียบ ดังนั้น ผมจึงให้คะแนนสูงถึง 8.5 เต็ม 10 สำหรับหมวดหมู่ด้านการศึกษาของโบรกเกอร์นี้
ความสะดวกในการเปิดบัญชีเทรด
ผมใช้เวลาในการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์เพียงไม่กี่นาที เริ่มตั้งแต่การเลือกประเภทบัญชี (ระหว่างบัญชีบุคคลธรรมดาหรือบัญชีนิติบุคคล) ไปจนถึงการกรอกรายละเอียดส่วนตัว, อัปโหลดเอกสาร และรอการยืนยัน
โดยสิ่งที่ผมชอบมากระหว่างการเปิดบัญชีคือ Tickmill จะแสดงให้เห็นว่าผมกำลังจะลงทะเบียนภายใต้บริษัทนิติบุคคลใด ซึ่งถือว่าโปร่งใสและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังสามารถทดลองใช้เครื่องมือนี้เพื่อดูว่าประเทศใดอยู่ภายใต้บริษัทนิติบุคคลใดได้บ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในแบบที่คุณต้องการอีกด้วย
อีกจุดที่น่าชื่นชมคือ โบรกเกอร์จะแสดงข้อมูลเพิ่มเติม เช่น จำนวนเงินฝากที่จำเป็นเมื่อคุณเลือก CFD หรือฟอเร็กซ์ที่ต้องการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการลงทุนอย่างมาก
ข้อสรุปเรื่องความสะดวกในการเปิดบัญชีเทรด
ผมประทับใจที่ Tickmill จัดกระบวนการเปิดบัญชีได้เป็นระบบอย่างมาก พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลที่ดูแลลูกค้าในแต่ละประเทศ โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนนโบรกเกอร์นี้ในด้านความสะดวกในการเปิดบัญชีในระดับที่ยอดเยี่ยม
ข้อสรุป: Tickmill 2025
ในความเห็นของผม Tickmill เป็นตัวเลือกโบรกเกอร์ที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับต้นทุนที่ต่ำและการดำเนินคำสั่งที่เชื่อถือได้ หลังจากได้ทดสอบในหลายๆ ด้าน ผมให้คะแนน Tickmill อยู่ที่ 77 จาก 100 เพราะ Tickmill เสนอตลาดที่หลากหลายรวมถึงฟอเร็กซ์, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, พันธบัตร และสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีให้บริการโดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ เช่น พันธบัตรยุโรป
นอกจากนี้ คุณยังมีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้อย่างเพียงพอ เช่น MetaTrader, 4 MetaTrader 5 และแอพ Tickmill Trader ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของการให้บริการลูกค้า อาจเป็นสิ่งที่ยังฉุดไม่ให้ Tickmill ก้าวขึ้นเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำแบบครบวงจรได้ แต่หากคุณมุ่งเน้นที่การลดต้นทุนการซื้อขาย โดยที่สามารถทนกับความไม่สะดวกเล็กน้อยเหล่านี้ได้ Tickmill ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ
คำถามที่พบบ่อย: Tickmill รีวิว 2025
Tickmill เสนอบัญชีประเภทไหนบ้าง
Tickmill มีบัญชีหลักสองประเภท ทั้งสองบัญชีต้องการเงินฝากเริ่มต้น $100 พร้อมเลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 บน MT5 ได้แก่ บัญชี Classic มี spread เริ่มต้นที่ 1.6 pips (ไม่มีค่าคอมมิชชัน) และบัญชี Raw เสนอ spread เริ่มต้นที่ 0.0 pips (คอมมิชชัน $3 ต่อฝั่ง)
แพลตฟอร์มอะไรที่ใช้กับ Tickmill ได้บ้าง
Tickmill รองรับ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแอปมือถือของพวกเขาเอง (Tickmill Trader) แม้ว่าตัวเลือกจะจำกัดอยู่เพียงสามแพลตฟอร์ม แต่ทั้ง MT4/MT5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งยังฟีเจอร์ที่ครบครันสำหรับการสร้างกราฟ, การวิเคราะห์ และการเทรดอัตโนมัติ
Tickmill ปลอดภัยและมีการกำกับดูแลหรือไม่
ใช่ Tickmill ได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน รวมถึงสำนักงานบริการทางการเงิน (FSA) ของเซเชลส์สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย นอกจากนี้พวกเขายังมีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ ซึ่งรับประกันว่าคุณจะไม่สูญเสียมากกว่าที่เงินฝากตั้งต้น ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
ทางเลือกแทน Tickmill
หากคุณมองหาทางเลือกแทนการใช้งาน Tickmill คุณอาจมีตัวเลือกหลายแห่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้ สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย