บทสรุปเกี่ยวกับ Blackbull Markets

🗺️ การควบคุมดูแล New Zealand (FMA) และ Seychelles (FSA)
💰 ค่าใช้จ่ายในการเทรด ราคาแบบ ECN
📊 แพลตฟอร์มการเทรด MT4, MT5, cTrader, TradingView, BlackBull CopyTrader
💰 เงินฝากขั้นต่ำ $0
💰 ค่าธรรมเนียมฝาก/ถอน $0
🛍️ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน FX หุ้น ฟิวเจอร์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ CFD ของคริปโต
💳 การฝากเงินโดยบัตนเครดิต ใช่

โบรกเกอร์ BlackBull ดีอย่างไร?

BlackBull Markets นำหน้าโบรกเกอร์ไทยทั้งหมดในเรื่องดำเนินการซื้อขายที่รวดเร็ว โดยมีความเร็ว 72ms สำหรับคำสั่งแบบ Limit และ 90ms สำหรับคำสั่งแบบ Market พวกเขามีข้อเสนอที่แข่งขันได้ โดยมีสเปรด ECN Prime เฉลี่ยที่ 0.23 pip สำหรับ EUR/USD ค่าคอมมิชชัน $6 ต่อ Lot และมีแพลตฟอร์มการซื้อขายหลายตัว ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบเทคนิค Scalping

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ เลเวอเรจ 1:1,000 เครื่องมือคัดลอกการซื้อขายที่ดี และบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

โดยรวมแล้ว การเลือก BlackBull Markets ถือเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีฟีเจอร์ครบครัน แต่จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดคือ ข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำที่สูงสำหรับการเปิดบัญชี Prime ECN

ข้อดีและข้อเสียของ BlackBull Markets

ข้อดี
  • ความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุดจากการทดสอบของเรา
  • ต้นทุนการเทรดที่ต่ำกว่าในบัญชี ECN Prime และบัญชี Institutional
  • การเลือกแพลตฟอร์ม CFD และการคัดลอกการเทรดที่ดีที่สุดในประเทศไทย
ข้อเสีย
  • ข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำสูงสำหรับบัญชี ECN Prime
  • มีค่าธรรมเนียมการถอน $5
  • ไม่มีบัญชีทดลองสำหรับ BlackBull Invest หรือ CopyTrader

Our Rating

The overall rating is based on review by our experts

95
Trading Costs
8.5 / 10
Trading Experience
10 / 10
Trading Platform
9.0 / 10
Trust
5.0 / 10
Range of Markets
10 / 10
Customer Service
9.0 / 10

ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย

BlackBull Markets มีบริการ ECN ที่แข่งขันได้ โดยมีสเปรดต่ำ และนำเสนอราคาจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง 14 ราย รวมถึง Barclays และ Citibank

พวกเขามีบัญชีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ ECN Standard, ECN Prime และ ECN Institutional ซึ่งผมได้ทำการทดสอบแต่ละบัญชีด้วยตัวเองเพื่อประเมินผลการใช้งานในสถานการณ์จริง ผลลัพธ์สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้:

การเปรียบเทียบบัญชีประเภทต่างๆ

ฟีเจอร์ECN StandardECN PrimeECN Institutional
การฝากขั้นต่ำ$0$2,000$20,000
สเปรด EUR/USDจาก 0.80จาก 0.10จาก 0.00
ค่าคอมมิชชั่น (ต่อ Lot)$0.00$6.00$4.00
เลเวอเรจ17:4017:4017:40
ระดับการสนับสนุนมาตรฐานพรีเมียมลำดับความสำคัญ
ฟรีสวอปมีมีไม่มี
VPS ฟรีมีสิทธิ์*มีสิทธิ์*-
*ต้องมีการฝากขั้นต่ำ $2,000 และเทรด 20 ล็อตในคู่สกุลเงินหรือโลหะในแต่ละเดือน

1. ค่าธรรมเนียมบัญชี ECN Standard

BlackBull Markets เป็นโบรกเกอร์ ECN จริง และยังมีตัวเลือกในการใช้โครงสร้างราคาที่เป็นสเปรดเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากการดำเนินการแบบ ECN ซึ่งจุดแตกต่างหลักๆ ระหว่างบัญชีทั้งสามประเภทที่มีให้เลือกจะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างราคานั่นเอง

ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากฝ่ายสนับสนุนของ BlackBull Markets ซึ่งชี้แจงว่าแม้บัญชีที่ใช้สเปรดเพียงอย่างเดียวก็ยังคงได้รับการดำเนินการภายใต้โมเดล ECN ซึ่งถือเป็นข้อดี เพราะโบรกเกอร์อื่นๆ ที่ผมเคยใช้จะมีบัญชีแบบสเปรดเพียงอย่างเดียวที่ใช้โมเดล STP (straight-through processing) หรือตลาดผู้สร้าง (market maker) ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับทุกคน

แชทสด BlackBull

สิ่งนี้หมายความว่า คุณสามารถชำระค่าธรรมเนียมการเทรดของคุณผ่านสเปรด (โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชัน) ในขณะที่ยังได้รับประโยชน์จากความเร็วในการดำเนินการที่เร็วขึ้นจากการใช้โมเดล ECN

เพื่อดูว่าบัญชี ECN Standard ของ BlackBull Markets มีค่าธรรมเนียมสูงแค่ไหนเมื่อเทียบกับบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชันที่คู่แข่งเสนอ โดยผมได้ขอให้ Ross Collins ผู้เชี่ยวชาญของ CompareForexBrokers ทดสอบสเปรด โดย Ross พบว่า สเปรดเฉลี่ยของ EUR/USD ของ BlackBull Markets อยู่ที่ 1.34 pips ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.11 pips เล็กน้อย

สเปรดแบบ Raw ที่ได้รับการตรวจสอบโดย Ross Collins
0.46 0.85 0.96 1.04 1.01
0.19 0.19 0.41 0.36 0.61
0.19 0.23 0.27 0.24 0.24
0.20 0.48 0.44 0.47 0.64
0.20 0.31 0.31 0.39 0.51
0.15 0.37 0.59 0.67 0.50

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025

ยิ่งไปกว่านั้น ในการทดสอบบัญชี Standard, Ross พบว่า สเปรดของทุกคู่สกุลเงินทั้ง 6 คู่ที่ทดสอบกับ BlackBull Markets นั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ

การวิเคราะห์ต้นทุนของบัญชี ECN Standard

จากผลการทดสอบนี้ สเปรดของบัญชี ECN Standard ของ BlackBull Markets อาจสูงกว่าบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชันจากโบรกเกอร์คู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกบัญชีการเทรด

EUR/USD
(ต่อ 1 ล็อตการเทรด)		บัญชี BlackBull Markets
ECN Standard		ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
(บัญชี Standard)		ผลลัพธ์ของ BlackBull Markets’ เทียบกับอุตสาหกรรม
สเปรด1.341.1117.16% แพงกว่า
คอมมิชชัน$0.00$0.00
สเปรดที่มีผลทั้งหมด*$13.40$11.1017.16% แพงกว่า
*แล้วคุณจะจ่ายต่อ 1 ล็อตเท่าไหร่เมื่อรวมทั้งค่าสเปรดและค่าคอมมิชชัน

2.ค่าธรรมเนียมบัญชี ECN Prime

บัญชี ECN Prime เป็นบัญชีหลักของโบรกเกอร์นี้ ซึ่งมอบประสบการณ์ ECN ที่แท้จริง ด้วยสเปรดที่แคบกว่าและค่าคอมมิชชันต่ำที่ $3.00 ต่อการเทรด 1 ล็อต ถึงแม้คุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชันเพื่อเข้าถึงสเปรดที่แคบกว่า แต่พบว่า BlackBull Markets มีค่าคอมมิชชันที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม

เมื่อเปรียบเทียบค่าคอมมิชชัน ค่าคอมมิชชันที่ $3.00 ต่อการเทรด 1 ล็อตนั้นถูกกว่าค่าคอมมิชชันเฉลี่ยของ ECN brokers ในประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ $3.50 ต่อการเทรด 1 ล็อตถึง 15% ซึ่งส่วนลดนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างมากในระยะยาว โดยเฉพาะหากคุณเป็นนักเทรดที่มีการเทรดปริมาณมาก

โบรกเกอร์USD
BlackBull Markets$3.00
Tickmill$3.00
FP Markets$3.00
Exness$3.50
Eightcap$3.50
Pepperstone$3.50
IC Markets$3.50
FxPro$3.50

โดยการจ่ายค่าคอมมิชชัน บัญชี ECN Prime จะมีสเปรดที่แคบกว่าที่เริ่มต้นที่ 0.10 pips ซึ่งลดลงถึง 87% เมื่อเทียบกับสเปรดที่โฆษณาของบัญชี ECN Standard (ที่ 0.80 pips)

ในการทดสอบบัญชี ECN Prime ของผม พบว่าสเปรดยังคงใกล้เคียงกับอัตราที่โฆษณา โดย EUR/USD เฉลี่ยอยู่ที่ 0.23 pips

RAW Account Spread Comparison
0.14 0.43 1.10 0.75 0.87
0.10 0.20 0.50 0.20 0.71
0.02 0.03 0.50 0.27 0.30
0.06 0.27 0.23 0.49 0.59
0.00 0.20 0.20 0.30 0.20
0.10 0.10 0.90 0.40 0.50
0.52 0.80 1.41 0.86 1.11
0.10 0.00 0.50 0.60 0.50
0.10 0.20 0.50 0.30 0.50
0.30 0.50 0.60 0.50 0.50

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025

ต้องขอบอกว่า ผมต้องฝากเงิน $2,000 เพื่อเปิดบัญชี ECN Prime ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงในการเข้าถึงบริการ ECN จากประสบการณ์ของผม โบรกเกอร์ไทยรายอื่นๆ ไม่ต้องการการฝากเงินที่สูงขนาดนี้

การวิเคราะห์ต้นทุนบัญชี ECN Prime

บัญชี ECN Prime เป็นบัญชีหลักของโบรกเกอร์นี้ ซึ่งมอบประสบการณ์ ECN ที่แท้จริง ด้วยสเปรดที่แคบกว่าและค่าคอมมิชชันต่ำที่ $3.00 ต่อการเทรด 1 ล็อต ถึงแม้คุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชันเพื่อเข้าถึงสเปรดที่แคบกว่า แต่ผมพบว่า BlackBull Markets ยังมีค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม

เมื่อเปรียบเทียบค่าคอมมิชชัน ค่าคอมมิชชันที่ $3.00 ต่อการเทรด 1 ล็อตนั้นถูกกว่าค่าคอมมิชชันเฉลี่ยของ ECN brokers ในประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ $3.50 ต่อการเทรด 1 ล็อตถึง 15% ซึ่งส่วนลดนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างมากในระยะยาว โดยเฉพาะหากคุณเป็นนักเทรดที่มีการเทรดปริมาณมาก

EUR/USD
(ต่อ 1 ล็อตการเทรด)		บัญชี BlackBull Markets
ECN Prime
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
(บัญชี ECN)		ผลลัพธ์ของ BlackBull Markets’ เทียบกับอุตสาหกรรม
สเปรด0.230.22~5% แพงกว่า
คอมมิชชัน$6.00$7.00~15% ถูกกว่า
สเปรดที่มีผลทั้งหมด*$8.30$9.20~10% ถูกกว่า

หลังจากที่วิเคราะห์ต้นทุนของโบรกเกอร์จากข้อเสนอสเปรดที่มีประสิทธิภาพแล้ว ผมพบว่า บัญชี ECN Prime ของ BlackBull Markets นั้นมีต้นทุนที่ถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 10%

คุณสามารถใช้เครื่องมือที่ผมสร้างขึ้นด้านล่างนี้ เพื่อเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการเทรดของ BlackBull Markets กับโบรกเกอร์ที่คุณใช้อยู่ปัจจุบันหรือโบรกเกอร์อื่นที่คุณกำลังพิจารณาอยู่

Calculate Your Trading Costs Below

Total Fees
Visit Broker

Commission

Spread Costs

Total

Total Fees
Visit Broker

Commission

Spread Costs

Total

Total Fees
Visit Broker

Commission

Spread Costs

Total

Total Fees
Visit Broker

Commission

Spread Costs

Total

3. ค่าธรรมเนียมบัญชี ECN Institutional

บัญชี ECN Institutional มีสเปรดที่แคบที่สุดเริ่มต้นที่ 0 pips และคอมมิชชันต่ำสุดที่ $4 ต่อการเทรด 1 ล็อต ซึ่งช่วยประหยัดค่าคอมมิชชันการเทรดได้ 33% จากการวิเคราะห์ของผม พบว่าบัญชี ECN Institutional มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำสูงที่สุดที่ $20,000 เพื่อเข้าถึงต้นทุนการเทรดที่ต่ำกว่า

ด้วยการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูงเช่นนี้ จึงเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนว่าโบรกเกอร์มุ่งเป้าไปที่เทรดเดอร์ที่ทำการเทรดบ่อยหรือเทรดด้วยขนาดล็อตใหญ่ ที่ต้องการค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่า

ผมคิดว่าหากคุณสามารถฝากขั้นต่ำในจำนวนนี้ได้ บัญชีนี้ถือเป็นหนึ่งในบัญชีที่มีต้นทุนถูกที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีค่าคอมมิชชันที่ต่ำ การประหยัด 33% ในค่าคอมมิชชันจะมีผลต่อค่าธรรมเนียมการเทรดของคุณทันที และช่วยให้คุณจ่ายค่าธรรมเนียมน้อยลง จึงสามารถเก็บกำไรได้มากขึ้น

4. ค่าธรรมเนียมบัญชี Swap-Free

ผมพบว่า BlackBull Markets มีบัญชีแบบ swap-free ที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมสวอปข้ามคืนและดอกเบี้ยจากตำแหน่งที่เปิดข้ามคืน หากคุณต้องการเข้าถึงบัญชีแบบ swap-free คุณสามารถเลือกบัญชี ECN Standard ที่มีสเปรดเพียงอย่างเดียว หรือบัญชี ECN Prime ที่มีสเปรดแคบและคอมมิชชันต่ำ

หลังจากที่ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดของบัญชี swap-free พบว่า คุณไม่สามารถเปิดตำแหน่งเกิน 1 สัปดาห์ได้ หากคุณทำเช่นนั้น บัญชีของคุณจะกลับไปเป็นบัญชีที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสวอป เพราะจะถือว่าเป็นการละเมิดข้อกำหนด ซึ่งควรคำนึงถึงเมื่อเลือกใช้บัญชีนี้

ข้อสรุปของผมเกี่ยวกับบัญชีของ BlackBull Markets

สำหรับโบรกเกอร์ ECN ผมรู้สึกว่าสเปรดของพวกเขาค่อนข้างดี แต่ค่าคอมมิชชันของพวกเขาคือหนึ่งในโบรกเกอร์ดีที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเทรดของคุณได้อย่างมาก ผมชอบที่คุณยังสามารถเข้าถึงโครงสร้างราคาที่เป็นสเปรดเพียงอย่างเดียวพร้อมการดำเนินการแบบ ECN ได้ แต่ผมคิดว่าบัญชี ECN Prime ให้ต้นทุนที่ต่ำกว่าของบัญชีทั้งสองแบบสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป

หากคุณเป็นนักเทรดที่มีปริมาณการเทรดสูงและมีเงินทุน $20,000 บัญชี ECN Institutional เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณอย่างชัดเจน โดยสามารถลดต้นทุนการเทรดได้ถึง 33%

แพลตฟอร์มการเทรด

BlackBull Markets มอบแพลตฟอร์มการเทรดของบุคคลที่สามให้กับนักเทรดไทยหลายรูปแบบ รวมถึง MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader และ TradingView

สิ่งที่น่าสนใจคือ โบรกเกอร์นี้ยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆ สำหรับประเภทการเทรดเฉพาะ เช่น การลงทุนผ่าน BlackBull Invest และเครื่องมือการคัดลอกการเทรด เช่น BlackBull Copy, ZuluTrade และ Myfxbook

ด้วยแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และบัญชีทดลองให้คุณสามารถทดสอบแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อเลือกว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับคุณที่สุด คุณจะได้รับการเข้าถึงราคาจริง เพื่อทดสอบคำสั่งและกระบวนการดำเนินการด้วยเงินเสมือนจริง ในขณะเดียวกันก็สามารถทดสอบกลยุทธ์ของคุณบนแพลตฟอร์มโดยไม่มีความเสี่ยง

ผมได้ทดสอบแพลตฟอร์มทั้งหมดเหล่านี้ด้วยบัญชี ECN Prime และจะมาแบ่งปันประสบการณ์ของผมด้านล่าง

แพลตฟอร์มซื้อขายของ BlackBull Markets

MetaTrader 4

ผมพบว่าเลย์เอาต์ของ MetaTrader 4 นั้นเรียบง่ายและเรียนรู้ง่าย โดยมุ่งเน้นที่กราฟที่เป็นศูนย์กลางของแพลตฟอร์ม ไม่มีสิ่งรบกวนอย่างประกาศข่าว ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะ MT4 มีตัวชี้วัดทางเทคนิคมากกว่า 30 รายการที่ค่อนข้างดี
แม้ว่าอินเทอร์เฟสจะดูเรียบง่าย แต่แพลตฟอร์มยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้คุณปรับแต่งประสบการณ์การเทรดของคุณ ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีความหลากหลายที่สุด

ฟีเจอร์ขั้นสูงที่ผมพบว่าใช้งานได้ดีใน MT4 ได้แก่:

  • ตัวชี้วัดการเทรดแบบกำหนดเอง: ด้วยภาษาโปรแกรม MQL4 ของแพลตฟอร์มนี้ คุณสามารถพัฒนา (หรือปรับแต่งตัวชี้วัดที่มีอยู่) เพื่อปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ หากคุณไม่ชำนาญในการเขียนโค้ด คุณสามารถค้นหาตัวชี้วัดการเทรดแบบกำหนดเองมากกว่า 10,000 ตัวใน MetaQuotes Marketplace
  • การเทรดอัตโนมัติด้วย Expert Advisors: ใช้หรือสร้าง Expert Advisors (EAs) ของคุณเพื่อทำตามกลยุทธ์การเทรดและดำเนินการเทรดของคุณโดยอัตโนมัติ
  • ประเภทคำสั่งขั้นสูง: ผมพบว่า MT4 ให้คุณตั้งค่าคำสั่งซื้อ/ขายลิมิตและซื้อ/ขายสต็อป ช่วยให้คุณสามารถเปิดตำแหน่งในช่วงการเคลื่อนไหวของตลาดที่ต่างกัน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการเบรกเอาท์ (breakout) โดยสามารถตั้งคำสั่งรอบระดับการสนับสนุนหรือแนวต้านเพื่อเปิดอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่ต้องคอยเฝ้าติดตามกราฟตลอดเวลา

การใช้งาน MT4
MetaTrader 5

MetaTrader 5 เป็นการอัปเกรดจาก MT4 ที่รวมฟีเจอร์ส่วนใหญ่จากเวอร์ชันก่อนหน้า พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อรองรับการเทรด CFD หุ้นและให้ประสบการณ์การเทรดที่รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงตัวชี้วัดมากกว่า 38 รายการ ซึ่งรวมถึง Stochastics และ Moving Averages พร้อมทั้งเครื่องมือการวาดกราฟขั้นสูง เช่น Fibonacci retracement ที่เหมาะสำหรับการเทรดที่มีความสวิง

MetaTrader 5 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงเครื่องมือ Depth of Market ที่ใช้ประโยชน์จากบริการ ECN ของ BlackBull Markets เพื่อให้คุณเข้าถึงการเปลี่ยนแปลงของคำสั่งในตลาด คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการเทรดรายวันเพื่อช่วยในการเลือกจังหวะเข้าซื้อ (และออก) ได้ดียิ่งขึ้นโดยการวิเคราะห์พื้นที่ที่มีความแข็งแกร่งในการซื้อและขาย

การใช้งาน MT5

ฟีเจอร์อีกอย่างที่ผมชอบใน MetaTrader 5 คือ ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) ที่มีมาในตัว ซึ่งมีประโยชน์ในการแสดงประกาศที่จะเกิดขึ้นอนาคตบนกราฟของคุณ ช่วยให้คุณอัปเดตข่าวสารในตลาดอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการเปิดการเทรดในช่วงข่าวที่มีผลกระทบสูง เช่น NFP ที่อาจทำให้คุณสูญเสียเงินจากการเทรดได้

cTrader

สำหรับผม cTrader เป็นเวอร์ชันที่ดูดีขึ้นของ MT5 โดยมีอินเทอร์เฟสที่ทันสมัยในขณะที่ยังคงมอบเครื่องมือการเทรดและการวิเคราะห์กราฟที่ยอดเยี่ยมจากบริการ ECN ของ BlackBull Markets เมื่อทดสอบแพลตฟอร์มนี้ ผมรู้สึกว่า cTrader ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีสำหรับการเทรดแบบ scalping ด้วยฟีเจอร์การเทรดแบบคลิกเดียว (one-click trading) และการเข้าถึงเครื่องมือ Depth of Markets

แตกต่างจาก MT5 ตรงที่ cTrader มาพร้อมกับตัวชี้วัดทางเทคนิคที่มากกว่า (65+ รายการ) และช่วงเวลา (timeframe) กว่า 100 แบบ รวมถึง tick charts ที่ช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ของคุณบนกราฟที่ช่วงเวลาใดก็ได้

การแสดงผลใน cTrader
TradingView

ผมพบว่า TradingView เป็นแพลตฟอร์มที่ผมชอบที่สุด เพราะชุดเครื่องมือกราฟที่ออกแบบมาได้ดีและใช้งานง่าย โดยสามารถใช้เครื่องมือทั้งหมดเพียงกดคลิกเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ TradingView ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการอัปเดตบ่อยที่สุด โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การตั้งค่าระดับแนวรับและแนวต้านอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเร็วขึ้น

ในฐานะที่เป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์สูง TradingView ช่วยมอบฟีเจอร์มากมายที่ช่วยเร่งกระบวนการวิเคราะห์ตลาดของผมได้เป็นอย่างดี เช่น การแจ้งเตือนข่าวสาร ตัวชี้วัดที่ปรับแต่งได้ และ market scanner เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณตั้งเงื่อนไขของตลาดบางประการ (เช่น การตัดกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) แล้วจะทำการสแกนตลาดของโบรกเกอร์เพื่อหาสินทรัพย์ที่ตรงกับกฎเหล่านี้แล้วแจ้งเตือนคุณ

การใช้งาน TradingView

ผมพบว่า BlackBull Markets มอบตัวเลือกให้คุณสามารถสมัครใช้งาน TradingView แบบชำระเงิน (Essential, Plus และ Premium) ได้ฟรี ขึ้นอยู่กับกิจกรรมการเทรดของคุณ ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะมันช่วยให้คุณสามารถใช้เครื่องมือขั้นสูงของ TradingView เช่น ตัวชี้วัด volume profile ที่มีประโยชน์สำหรับการเทรดขั้นสูงได่

เพื่อให้มีสิทธิ์ใช้งาน คุณต้องมีบัญชีการเทรดจริงและต้องทำตามข้อกำหนดดังนี้:

การสมัครสมาชิดเพื่อใช้งาน TradingView
EssentialPlusPremium
ค่าใช้จ่าย$14.95 ต่อเดือน$29.95 ต่อเดือน$59.95 ต่อเดือน
ปริมาณการเทรดที่กำหนด1 ล็อต Fx หรือ Metal (ปิดแล้ว)5 ล็อต Fx หรือ Metal (ปิดแล้ว)10 ล็อต Fx หรือ Metal (ปิดแล้ว)

BlackBull Invest

หากคุณต้องการลงทุนและสร้างพอร์ตหุ้นเพื่อการเติบโตในระยะกลางถึงยาว BlackBull Markets เสนอทางเลือกนี้ผ่านแพลตฟอร์ม BlackBull Invest แอพ Invest มอบข้อมูลตลาดหุ้นแบบเรียลไทม์ และข่าวสารทางการเงินเพื่อให้คุณทันเหตุการณ์เกี่ยวกับการประกาศและรายงานของบริษัท

กราฟในแอป Invest อาจไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีอยู่ แต่ก็ยังให้เครื่องมือการเทรดที่มุ่งเน้นไปที่การเทรดหุ้น โดยตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่ผมดูข้อมูลของบริษัทอย่าง Tesla ผมสามารถเข้าถึง Analyst Ratings ซึ่งให้ภาพรวมที่รวดเร็วเกี่ยวกับคำแนะนำจากโบรกเกอร์ชั้นนำจากธนาคารการลงทุน

แอปพลิเคชัน Social และ Copy Trading

หากคุณเป็นมือใหม่หรือไม่ต้องการวิเคราะห์ตลาดด้วยตัวเอง คุณสามารถใช้เครื่องมือการคัดลอกการเทรดของโบรกเกอร์ได้ฟรี BlackBull Markets เสนอสามวิธีสำหรับการคัดลอกการเทรด ได้แก่:

  • BlackBull CopyTrader – โบรกเกอร์เสนอแอพคัดลอกการเทรดที่ให้คุณเข้าถึงผู้ให้บริการ ที่คุณสามารถคัดลอกจากมือถือของคุณ ข้อดีของการเลือกแอปนี้คือผลการเทรดจะได้รับการยืนยันโดยตรงจาก BlackBull Markets ช่วยป้องกันการปรับแต่งผลการเทรดจากผู้ให้บริการ
  • ZuluTrade – เข้าถึงการคัดลอกการเทรดผ่านแพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5 โดยใช้ ZuluTrade ซึ่งคุณสามารถค้นหาเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จากหลายร้อยคนเพื่อคัดลอก การใช้วิธีนี้ผมชอบเพราะมันมาพร้อมกับการจัดการความเสี่ยงที่สร้างขึ้นใน ZuluGuard ซึ่งจะปิดการเทรดเมื่อเทรดเดอร์ทำผลงานไม่ดี เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • Myfxbook – แอพนี้ยังใช้ MT4 เพื่อดำเนินการคัดลอกการเทรด ผมชอบความโปร่งใสที่ Myfxbook มอบให้ โดยมีการบันทึกสาธารณะของตำแหน่งและผลกำไร/ขาดทุนที่เปิดอยู่ของผู้คัดลอกการเทรด ช่วยให้คุณสามารถค้นหานักเทรดที่มีประสบการณ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

การใช้งาน CopyTrader

Mobile Trading Apps

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้แพลตฟอร์มใดสำหรับการเทรดกับ BlackBull Markets คุณจะพบว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีแอปการเทรดบนมือถือให้บริการทั้งบนอุปกรณ์ iOS และ Android โดยแอพการเทรดสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มมีดังนี้:

  • MetaTrader 4
  • MetaTrader 5
  • cTrader
  • TradingView
  • BlackBull Invest
  • BlackBull CopyTrader

หนึ่งในแอปที่โดดเด่นที่สุดคือ TradingView เพราะกราฟจะซิงค์ระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงการวิเคราะห์ของคุณได้ง่ายแม้ในขณะเดินทาง สำหรับแพลตฟอร์มอื่นๆ ผมพบว่าไม่มีตัวเลือกในการซิงค์ข้อมูล ดังนั้นคุณจะต้องทำการวิเคราะห์ใหม่หรือใช้แอปเพื่อการดำเนินการและจัดการการเทรดบนมือถือเท่านั้น

เงื่อนไขการเทรดที่ยอดเยี่ยม

ความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุด

นักวิเคราะห์ของเรา คุณ Ross Collins ได้ลองทดสอบความเร็วในการดำเนินการของ BlackBull Markets บนแพลตฟอร์ม MT4 เพื่อดูว่าโครงสร้าง ECN ของมันทำงานอย่างไรเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ไทยอื่นๆ จากการทดสอบความเร็วในการดำเนินการ พบว่า BlackBull Markets ทำผลงานได้ดีกว่าโบรกเกอร์อื่นในอุตสาหกรรม โดยได้อันดับที่ 1 ด้วยความเร็วในการดำเนินการ limit ที่ 72ms และคำสั่ง market ที่ 90ms

ความเร็วในการดำเนินการที่ต่ำกว่า 100ms จะช่วยหลีกเลี่ยงการเกิด slippage และทำให้ได้รับราคาที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นประโยชน์ของการใช้โบรกเกอร์ ECN อย่าง BlackBull Markets

โบรกเกอร์คำสั่ง Limit (ms)คำสั่ง market (ms)
BlackBull Markets7290
Pepperstone77100
Eightcap143139
FXCM108123
FP Markets22596
IC Markets134153
XM148184

VPS ฟรี เพื่อลด Latency

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของ BlackBull Markets คือการให้บริการ VPS ฟรี (จาก ForexVPS) สำหรับแพลตฟอร์ม MT4, MT5, และ cTrader ซึ่งช่วยให้คุณดำเนินการเทรดได้ใกล้กับตลาดมากขึ้น ขึ้นอยู่กับเซสชันการเทรดที่คุณชื่นชอบ คุณสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ใน นิวยอร์ก ลอนดอน หรือ ญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มความเร็วในการดำเนินการ

ตามที่ BlackBull Markets ระบุ การใช้ VPS ช่วยลด Latency ได้ถึง 30% ซึ่งสามารถเป็นการปรับปรุงที่สำคัญหากคุณทำการเทรดอัตโนมัติหรือ scalping

เพื่อให้มีสิทธิ์ใช้ VPS ฟรี คุณต้องเทรดอย่างต่ำ 20 lots ต่อเดือนและมีเงินฝากขั้นต่ำ $2,000

ข้อสรุปของผมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดของ BlackBull Markets

BlackBull Markets นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายถึง 6 แพลตฟอร์ม สำหรับเทรดเดอร์ไทย รวมถึงแพลตฟอร์มการคัดลอกการเทรด เช่น ZuluTrade และ Myfxbook ผมคิดว่าโบรกเกอร์นี้ทำได้ดีในแง่ทางเลือกของแพลตฟอร์มการเทรด แทนที่จะบังคับให้ใช้แค่ MetaTrader (เหมือนที่โบรกเกอร์อื่นทำ)

BlackBull Markets ปลอดภัยหรือไม่?

ใช่ BlackBull Markets เป็นโบรกเกอร์ ECN ที่ปลอดภัย เนื่องจากได้รับการควบคุมให้ให้บริการทางการเงินแก่เทรดเดอร์ไทย โบรกเกอร์นี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2014 และจากที่ผมรีวิวโบรกเกอร์มา พวกเขาป็นหนึ่งผู้นำในตลาดฟอเร็กซ์ในปัจจุบัน

การควบคุม

BlackBull Markets ได้รับการควบคุมจาก Financial Services Authority (FSA) ใน เซเชลส์ ทำให้เทรดเดอร์ไทยได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้ และเพื่อให้บริการที่มีความโปร่งใสและคุ้มครองเงินทุนของสมาชิกนั่นเอง

ผมประทับใจที่โบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตจากหลายหน่วยงานที่แตกต่างกัน เพราะมันแสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์ให้บริการที่มั่นคงและได้รับการยอมรับจากหลายหน่วยงานในระดับสากล

BlackBull Markets ยังได้รับการควบคุมจาก Financial Markets Authority (FMA) ใน นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของโบรกเกอร์

นอกจาก FSA ผมมองว่าการที่โบรกเกอร์ได้รับการดูแลควบคุมจาก Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร หรือ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ซึ่งมีกรอบการควบคุมที่เข้มงวดที่สุด จะทำให้โบรกเกอร์สามารถสร้างความมั่นใจในการดำเนินการที่ยุติธรรมและยอดเยี่ยมได้

ชื่อเสียง

BlackBull Markets มีประสบการณ์ในการให้บริการมากว่า 10 ปี พร้อมกับลูกค้ากว่า 10,000+ ราย จาก 180 ประเทศ และมีชื่อเสียงที่ดีจากการให้บริการแบบ ECN ที่ยอดเยี่ยม

BlackBull ได้รับรางวัลมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น Fastest Execution Speed จาก CompareForexBrokers.com ในปี 2023 และ Best Global FX Broker ในงาน Forex Expo Dubai 2022 เป็นต้น

คะแนนจากการรีวิว

ผมชอบอ่านรีวิวจากลูกค้าใน TrustPilot เพื่อให้ได้ความคิดเห็นที่แท้จริงเกี่ยวกับการให้บริการของโบรกเกอร์ ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมในการบริการของ BlackBull Markets ผมประทับใจที่เห็นโบรกเกอร์ได้คะแนน 4.7/5 ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงใน TrustPilot และยืนยันว่าลูกค้าพอใจกับบริการของโบรกเกอร์นี้

คะแนน Trustpilot

ข้อสรุปของผมเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ BlackBull Markets

BlackBull Markets เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากการที่โบรกเกอร์สามารถดำเนินธุรกิจต่อเนื่องมาถึง 10 ปี และโบรกเกอร์นี้ยังให้บริการด้วยเงื่อนไขการเทรดที่ยอดเยี่ยม ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากกว่า 10,000+ ราย และได้รับคะแนนรีวิวถึง 4.7/5 บน TrustPilot

ฝากและถอนเงิน

จากการทดลองเปิดบัญชี ECN Prime ของผม BlackBull Markets มีตัวเลือกการฝากเงินที่หลากหลาย รวมถึงวิธีการดั้งเดิม เช่น บัตรเดบิตและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Neteller และ Skrill นอกจากนี้โบรกเกอร์นี้ยังมีตัวเลือกในการฝากผ่านสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นจากโบรกเกอร์อื่นๆ

เงินฝากขั้นต่ำที่ BlackBull Markets มีจำนวนเท่าใด?

สำหรับบัญชี ECN Standard ไม่มีการกำหนดฝากขั้นต่ำ ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงบัญชีได้ง่าย บัญชีมีแค่ค่า spread เท่านั้น ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชัน และเป็นบัญชีใช้งานง่ายที่สุด ซึ่งผมขอชื่นชมในกรณีนี้ที่โบรกเกอร์ไม่กำหนดฝากขั้นต่ำ

บัญชี ECN Prime มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ $2,000 เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ขณะที่บัญชี ECN Institutional มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ $20,000 เพื่อการเข้าถึงค่าธรรมเนียมการเทรดที่ถูกที่สุดจาก BlackBull Markets

สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี

เมื่อเปิดบัญชี คุณสามารถเลือกสกุลเงินพื้นฐานในบัญชีได้ดังนี้:

  • THB
  • EUR
  • GBP
  • AUD
  • NZD
  • SGD
  • CAD
  • JPY
  • ZAR
  • CHF
  • USD

ผมรู้สึกประทับใจที่สามารถฝากเงินในสกุลเงินบาท (THB) ได้ ทำให้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในการเทรด (เช่น ค่าคอมมิชชัน) ในสกุลเงินท้องถิ่นได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน

ตัวเลือกและค่าธรรมเนียมการฝากเงิน

BlackBull Markets มีตัวเลือกการฝากเงินที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นข้อดีของโบรกเกอร์นี้ โดยมีตัวเลือก 10 แบบ สำหรับการฝากเงิน ได้แก่:

  • Visa
  • Mastercard
  • Bank Transfer
  • Airtm
  • Crypto
  • Neteller
  • Skrill
  • PaymentAsia
  • Help2Pay
  • FXPay

ในการฝากเงินครั้งแรก ผมลองเลือกใช้การโอนผ่านธนาคาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วันกว่าที่เงินจะเข้าบัญชี และไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน และในความเป็นจริง ทุกตัวเลือกการฝากเงินทั้ง 10 ตัวเลือกไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจาก BlackBull Markets แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ผมได้ลองฝากเงินโดยวิธีการอื่นๆ ตั้งแต่บัตร Visa จนถึง Crypto พบว่า ยอดฝากจะได้รับการปรับยอดทันที ยกเว้น Airtm ที่อาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง

วิธิการฝากเงินและข้อกำหนดขั้นต่ำ

ตัวเลือกและค่าธรรมเนียมการถอนเงิน

การถอนเงินจาก BlackBull Markets เป็นจุดที่ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เนื่องจากโบรกเกอร์มีค่าธรรมเนียมการถอนเงิน (มาตรฐาน) ที่ $5 ซึ่งไม่ค่อยพบในโบรกเกอร์ในประเทศไทย และค่าธรรมเนียมการถอนนี้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวิธีการฝากเงินของคุณ แต่ข้อดี คือ ผมพบว่าการถอนส่วนใหญ่จะถูกดำเนินการทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติจาก BlackBull Markets

ในกรณีของผม การถอนผ่านธนาคารใช้เวลา 2 วัน ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเวลาที่ฝ่ายบริการลูกค้าคาดการณ์ไว้

ความสะดวกในการเปิดบัญชี

ผมพบว่ากระบวนการเปิดบัญชีค่อนข้างง่าย ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการตอบคำถามต่างๆ หนึ่งในสิ่งที่ผมชื่นชอบคือการได้รับความช่วยเหลือจากผู้จัดการบัญชี ที่ช่วยให้การยืนยันตัวตนและเริ่มการเทรดเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับบริการฝากและถอนเงินของ BlackBull Markets

ผมชื่นชอบตัวเลือกการฝากที่หลากหลายถึง 10 ตัวเลือก ที่ BlackBull Markets มีให้ รวมถึงการที่สามารถเลือกสกุลเงินบาทเป็นสกุลเงินพื้นฐานของบัญชี ซึ่งจะทำให้สะดวกและประหยัดค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินในการใช้งานโบรกเกอร์นี้ การประมวลผลการฝากเงินทำได้รวดเร็วที่สุด โดยวิธีที่ช้าที่สุดคือการโอนผ่านธนาคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดไว้อยู่แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ชอบคือค่าธรรมเนียมการถอนเงิน $5 เพราะผมไม่ชอบแนวคิดที่โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการถอนเงินคืน

ผลิตภัณฑ์ที่เสนอ

ผมพบว่า BlackBull Markets มี ตลาดกว่า 26,000 ตลาด ที่ครอบคลุมทั้งการเทรด CFD และการลงทุนในหุ้นทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบมาก เพราะมันหมายความว่าคุณสามารถใช้บัญชีเดียวในการสร้างพอร์ตหุ้นและเทรด CFD ได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกสไตล์การเทรด

CFD

ในฐานะที่เป็น เทรดเดอร์ ชาวไทย ผมประทับใจในเลเวอเรจสูง 1:1000 ที่ BlackBull Markets เสนอในตลาด CFD ซึ่งช่วยให้การเทรดมีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะสำหรับการเทรดระยะสั้น เพราะเลเวอเรจช่วยให้คุณทำกำไร (หรือขาดทุน) จากการเคลื่อนไหวของราคาขนาดเล็กได้ดีกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง

คุณสามารถเทรด CFD บนสินทรัพย์เหล่านี้ได้ที่ BlackBull Markets

ตลาดฟอเร็กซ์

BlackBull Markets มี คู่เงิน 64 คู่ สำหรับการเทรด CFD ครอบคลุมทั้งคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD, และ USD/JPY รวมถึงคู่เงินรองและคู่เงินแปลกใหม่ ในขณะที่ค้นหาคู่เงินต่างๆ ผมพบว่า USD/THB ก็มีให้บริการด้วย ดังนั้นคุณสามารถใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจของท้องถิ่นเพื่อเทรด เงินบาท ได้

ในการเทรด ฟอเร็กซ์ CFD BlackBull Markets เสนอ เลเวอเรจสูง 1:1000 สำหรับ เทรดเดอร์ ชาวไทย ทำให้คุณสามารถเทรด 1 ล็อตของ EUR/USD ด้วยมาร์จินเพียง 100 ดอลลาร์

ดัชนี

คุณสามารถเข้าถึง ดัชนี 15 ดัชนี ที่ BlackBull Markets ครอบคลุมตลาดหลักทั่วโลก เช่น สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, ยุโรป และเอเชีย แม้จะไม่ได้มีตัวเลือกเยอะที่สุด แต่คุณยังสามารถเทรดตลาดหลักๆ อย่าง FTSE 100, S&P 500 หรือ NASDAQ ได้

BlackBull Markets จำกัด เลเวอเรจ สำหรับดัชนีไว้ที่ 1:100 สำหรับ เทรดเดอร์ ชาวไทย ซึ่งยังคงถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม

สินค้าโภคภัณฑ์

สำหรับ สินค้าโภคภัณฑ์ BlackBull Markets มี ตลาดที่แข็งแกร่ง ด้วย ตลาดพลังงาน 5 ตลาด (น้ำมันและก๊าซ), ตลาดโลหะ 10 ตลาด (รวมทั้งทองคำและเงิน) และ สินค้าโภคภัณฑ์ 8 ตลาด (น้ำตาลและกาแฟ)

ผมพบว่า เลเวอเรจ สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์มีการเปลี่ยนแปลงตามสินทรัพย์ โดย สินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอที่สุด คือ สินค้าโภคภัณฑ์อ่อน ที่มี เลเวอเรจ 1:50, ตลาดพลังงาน มี เลเวอเรจ 1:100, และ โลหะที่มีสภาพคล่องสูง (ทองคำ) มี เลเวอเรจ 1:1000 ซึ่งเป็น เลเวอเรจที่สูงสุด ที่ผมเคยเห็นในทองคำ

คริปโตเคอร์เรนซี

มันดีที่ได้เห็นว่าเมื่อโบรกเกอร์ที่มีการควบคุมเช่น BlackBull Markets เสนอ cryptocurrencies และ BlackBull Markets เสนอ ตลาด 11 ตลาดของ cryptocurrencies ครอบคลุมตลาดยอดนิยม เช่น Bitcoin, Litecoin, และ XRP โบรกเกอร์ยังเสนอ altcoins ด้วย เช่น DOGECOIN หากคุณสนใจการเทรดที่มีความเสี่ยงสูง

BlackBull Markets เสนอ เลเวอเรจ 1:100 สำหรับ Bitcoin และ cryptocurrencies อื่นๆ ที่เป็นที่นิยม อย่างไรก็ตาม altcoins จะมีการจำกัด เลเวอเรจ 1:10 ซึ่งเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลเนื่องจากมีความไวต่อการเคลื่อนไหวของตลาดมากกว่า

หุ้น CFD

หลังจากที่ผมตรวจสอบ ตลาดหุ้น CFD ของโบรกเกอร์นี้ ผมพบว่า BlackBull Markets มี หุ้น 1700+ หุ้น ครอบคลุมหลักๆ จาก สหรัฐอเมริกา และ เอเชีย โบรกเกอร์นี้มี หุ้นยุโรปบางตัว เช่น BMW แต่ในระหว่างการทดสอบ ผมพบว่า ตลาดหุ้นจากสหราชอาณาจักร ยังขาดอยู่

สำหรับ หุ้น CFD BlackBull Markets เสนอ เลเวอเรจ 1:5 ซึ่งผมคิดว่าเป็นระดับที่ต่ำสำหรับอุตสาหกรรมนี้ เพราะส่วนใหญ่ในโบรกเกอร์ไทยจะให้ เลเวอเรจ 1:20

การลงทุนในหุ้นโดยตรง

หากคุณต้องการสร้างพอร์ตหุ้นและกระจายการลงทุนเพื่อเน้นการเติบโตหรือรายได้ BlackBull Markets เสนอ หุ้นกว่า 23,000 ตัว จากตลาด สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ซึ่งหุ้นเหล่านี้แยกออกจากตลาด CFD ไม่มีเลเวอเรจ และมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเริ่มต้นที่ $10 สำหรับหุ้นสหรัฐ และขึ้นอยู่กับขนาดการเทรดของคุณ

เพื่อเข้าถึงตลาดเหล่านี้ คุณสามารถทำได้เพียงผ่าน BlackBull Markets Invest ซึ่งคุณสามารถติดตามพอร์ตการลงทุนของคุณและรับเงินปันผลจากหุ้นของคุณได้ ผมชอบที่โบรกเกอร์มีตัวเลือกในการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลเวอเรจ เช่น หุ้น เพราะมันช่วยให้คุณสามารถกระจายตัวเลือกการเทรดของคุณผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เพียงแห่งเดียวได้

ข้อสรุปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ BlackBull Markets

BlackBull Markets ครอบคลุมตลาดที่นิยมส่วนใหญ่สำหรับบัญชี CFD ซึ่งช่วยให้คุณสามารถได้รับราคาที่ดีกว่าและการดำเนินการที่รวดเร็วผ่านการตั้งค่า ECN ของโบรกเกอร์ สำหรับบัญชีเทรดขนาดเล็กหรือผู้ที่พร้อมรับความเสี่ยงสูง ผมชอบที่โบรกเกอร์นี้เสนอ เลเวอเรจ 1:1000 ในสินทรัพย์หลายประเภท เช่น ฟอเร็กซ์ และ ทองคำ ซึ่งโดยปกติจะจำกัดไว้เฉพาะคู่เงินหลัก

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเทรดสินทรัพย์ยุโรป เช่น หุ้นจากสหราชอาณาจักร คุณจะไม่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมให้คะแนนโบรกเกอร์นี้ 7/10 ในการทดสอบตลาด

การบริการลูกค้า

บริการลูกค้าของ BlackBull Markets ยอดเยี่ยมเมื่อผมต้องการการช่วยเหลือ มีช่องทางหลายช่องทางรวมถึง อีเมล, แชทสด, WhatsApp, และ โทรศัพท์ ผมชอบที่สามารถใช้ แชทสด เพื่อพูดคุยกับตัวแทนได้ทันทีโดยไม่ต้องกรอกคำถามเหมือนที่โบรกเกอร์อื่นทำ

การสนทนาผ่านแชทสดนั้นมีความเป็นมืออาชีพและรวดเร็ว พร้อมกับความรู้ที่มั่นคงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ผมมองหาในบริการลูกค้า ผมไม่ได้รับข้อความที่เตรียมไว้ล่วงหน้าหรือถูกส่งไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ตัวแทนที่ให้บริการจริงๆ มาช่วยตอบคำถาม

แชทสด เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน และจากสามประสบการณ์ที่ผมทดสอบในเซสชันที่ เอเชีย, ลอนดอน, และ นิวยอร์ก ผมรู้สึกประทับใจกับบริการนี้ ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะหมายความว่าบริการสนับสนุนไม่ได้ลดลงตามเขตเวลา

ผมยังชื่นชมที่ BlackBull Markets มีการสนับสนุนในภาษาไทย ทำให้การถามคำถามและได้รับคำตอบที่ต้องการง่ายขึ้น

ข้อสรุปเกี่ยวกับการบริการลูกค้า

BlackBull Markets ทำให้ผมประทับใจด้วยทีมบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม รวดเร็ว และมีความรู้ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน และยังให้บริการในภาษาไทยเพื่อความสะดวกของคุณ โดยการให้บริการหลายช่องทาง ตั้งแต่อีเมลไปถึง WhatsApp ช่วยให้คุณสามารถรับการสนับสนุนที่ดีที่สุดผ่านช่องทางที่คุณชอบได้อย่างง่ายดาย

การวิจัยและการศึกษา

BlackBull Markets มีส่วนการศึกษาที่ดี นำเสนอบทความกว่า 40 บทความที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นและเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ผมพบว่าโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์นี้ครอบคลุมการให้ความรู้พื้นฐานได้ดี แต่ไม่ครบถ้วนเท่าที่ผมเคยเห็นจากโบรกเกอร์อื่นๆ เช่น การพูดถึง การวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งอาจนำไปสู่ช่องว่างในความรู้บางอย่าง

พอร์ทัลการศึกษาของ BlackBull Markets

ผมชอบที่โบรกเกอร์นี้มีการจัดสัมมนาผ่านเว็บบ่อยครั้ง ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อ ตั้งแต่ตลาดคริปโตไปจนถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค การสัมมนาผ่านเว็บเหล่านี้เข้าใจง่ายและสามารถดูได้ในครั้งเดียว ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที แต่หากพลาดการสัมมนาผ่านเว็บสด คุณสามารถตามดูสัมมนาผ่านเว็บที่ผ่านมาได้จากเว็บไซต์ของพวกเขา

การสัมนาออนไลน์ของ BlackBull Markets

ในแง่การวิจัย BlackBull Markets มีการโพสต์เกี่ยวกับการวิเคราะห์โอกาสในการเทรด และความคิดเห็นจาก LMAX Group วันละ 1-2 ครั้ง ผมพบว่าการวิจัยนี้มีความกระชับและมีทั้งความคิดเห็นทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณตัดสินใจในการเทรดได้เป็นอย่างดี

กาวิจัยจาก BlackBull Markets

คำตัดสินสุดท้ายเกี่ยวกับการวิจัยและการศึกษาของ BlackBull Markets

หลังจากที่ได้ทดลองใช้แหล่งการศึกษาของโบรกเกอร์ ผมคิดว่าพวกเขาทำได้ดีในการให้บริบทที่กว้างขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ใหม่ในการเรียนรู้การเทรด แต่ยังพลาดในบางจุด เนื่องจากเนื้อหาที่ค่อนข้างกระชับเกินไป การสัมมนาผ่านเว็บ (webinars) เป็นส่วนเสริมที่ดี แต่ผมคงไม่คาดหวังว่าจะเรียนรู้วิธีการเทรดได้จากแหล่งข้อมูลของ BlackBull Markets เพียงแค่ที่เดียว

ในทางกลับกัน ผมรู้สึกว่า บริการวิจัยของพวกเขาค่อนข้างดี โดยให้การวิเคราะห์จากมืออาชีพฟรีในตลาดต่างๆ ของพวกเขา

คำตัดสินสุดท้ายเกี่ยวกับ BlackBull Markets

หลังจากทดสอบ BlackBull Markets ผมให้คะแนนโบรกเกอร์นี้ที่ 72/100 เนื่องจากพวกเขาทำได้ดีในด้านความเร็วในการดำเนินการที่เร็วที่สุดและค่าคอมมิชชันที่ต่ำสำหรับบัญชี ECN Prime ถึงแม้ว่ากระจายสเปรดของโบรกเกอร์จะไม่ต่ำที่สุดจากที่ทดสอบ (เฉลี่ย 0.23 พิปส์ใน EUR/USD) แต่หลังจากจ่ายค่าคอมมิชชันแล้ว คุณจะประหยัดได้ 15% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม

สำหรับผม การประหยัดเหล่านี้และความเร็วในการดำเนินการที่ต่ำกว่า 100ms ทำให้ BlackBull Markets เป็นตัวเลือกที่ดีในด้านเงื่อนไขการเทรดโดยรวม ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ราคาที่ดีที่สุดในขณะเดียวกันก็จำกัดการ slippage

BlackBull Markets ยังมี 6 แพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกใช้งาน รวมถึง TradingView, MT4, MT5, BlackBull Invest, BlackBull CopyTrader และ cTrader ซึ่งถือเป็นการรวบรวมแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ในส่วนของการดำเนินการฝากและถอนเงิน BlackBull Markets มีการดำเนินการที่รวดเร็วเพื่อให้เงินของคุณถูกฝากและถอนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมชื่นชมในจุดนี้ แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือโบรกเกอร์มีค่าธรรมเนียมการถอนเงินที่ $5

ค่าธรรมเนียม blackbull

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ

แน่นอน BlackBull Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากมีสเปรดแคบในบัญชี ECN Standard (เริ่มต้นที่ 0.80 pips) และ ECN Prime (เริ่มต้นที่ 0.10 pips) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์แบบ ECN ทำให้การดำเนินการคำสั่งเร็วและลดโอกาสการเกิด requotes รวมถึงการ slippage ในตลาดที่มีความผันผวน

สำหรับผู้เริ่มต้น คุณสามารถเปิดบัญชีทดลองหลายบัญชี เพื่อทดสอบแพลตฟอร์มการเทรด 6 ตัวเลือกที่มี เพื่อค้นหาแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับคุณ และใช้งานโบนัสเทรดฟรีจากโบรกเกอร์ได้ด้วย

BlackBull Markets มีบัญชีทดลองหลายประเภทที่รองรับการเทรดใน TradingView, cTrader, MetaTrader 4 และ MT5 คุณสามารถเติมเงินในบัญชีทดลองด้วยเงินเสมือน $10,000 และโบรกเกอร์จะให้ราคาที่อัปเดตแบบเรียลไทม์ เพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้การเทรดในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยง

ในประเทศไทย BlackBull Markets เสนอโอกาสในการใช้เลเวอเรจสูงถึง 1:1000 สำหรับคู่เงินและสินค้าทางการเงิน เช่น ทองคำ ซึ่งคุณสามารถเปิดการเทรด 1 ล็อตด้วยมาร์จินเพียงแค่ $100 สำหรับตลาดที่มีความสภาพคล่องต่ำกว่าหรือสินค้าทางการเงินเช่นหุ้น (1:5) และดัชนี (1:100) เลเวอเรจจะต่ำกว่า ซึ่งจะต้องใช้เงินมาร์จินมากขึ้นในการเปิดตำแหน่ง 1 ล็อต

BlackBull Markets ไม่มีการกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำในบัญชี ECN Standard ซึ่งมีสเปรดที่แข่งขันได้จาก 0.80 pips ในคู่ EUR/USD โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน สำหรับต้นทุนการเทรดที่ต่ำกว่า (เริ่มต้นที่ 0.10 pips และค่าคอมมิชชัน $6.00 ต่อล็อต) คุณสามารถเลือกเปิดบัญชี ECN Prime แต่บัญชีนี้ต้องการเงินฝากขั้นต่ำ $2,000

Pepperstone
IC Markets
Exness
Eightcap
Tickmill
MiTrade
FBS
FxPro
XM
eToro
OANDA
FXCM
IQ Option
XTB
HFM
IUX Markets
About the author:

Justin Grossbard

Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย