Fusion Markets ดีไหม สำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ 2025
Fusion Markets เป็นโบรกเกอร์ forex น้องใหม่ในตลาดไทยสำหรับปี 2025 พวกเขาโดดเด่นจากการบริการที่เน้นความเรียบง่าย, การส่งคำสั่งที่รวดเร็วทันใจ และต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำมาก
ในบทความนี้ผมได้ทำการวิเคราะห์โบรกเกอร์นี้อย่างละเอียด เพื่อให้ตอบคำถาม ”Fusion Markets ดีไหม” ได้อย่างครอบคลุม และเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถทำตามสัญญาที่โฆษณาไว้ได้จริงๆ

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site.
ข้อมูลทั่วไป Fusion Markets

🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล | Australia (ASIC), Vanuatu (VFSC) |
💰 ประเภทบัญชีเทรด | บัญชี ECN & บัญชีทั่วไป |
📊 แพลตฟอร์มเทรด | MetaTrader 4, MetaTrader 5, ctrader, TradingView |
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $0 |
💰 ค่าธรรมเนียมถอนเงิน | $0 |
🛍️ ตลาดการเงินที่รองรับ | ฟอเร็กซ์, CFD, คริปโต, ดัชนี, โลหะ, พลังงาน, หุ้น |
💳 ช่องทางฝากเงิน | บัตร visa และ MasterCard, Skrill, Neteller |
Fusion Markets ดีไหม: ทำไมผมจึงอยากแนะนำโบรกเกอร์นี้
Fusion Markets ดีไหม? โบรกเกอร์นี้วางตำแหน่งของแบรนด์ในระดับผู้นำ ทั้งในด้านต้นทุน, ความน่าเชื่อถือ และตัวเลือกแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมตั้งแต่ MT4, MT5, cTrader ไปจนถึง TradingView ช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น
และการทดสอบของผม พบว่าโบรกเกอร์ Fusion ยังมีสเปรดที่แคบและค่าคอมมิชชั่นที่ค่อนข้างต่ำในตลาดการเงินหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณใช้บัญชี Raw
นอกจากนี้พวกเขายังมีกระแสตอบรับในเชิงบวกสำหรับการให้บริการลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ จากการให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดที่พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณทุกเวลาที่คุณต้องการ
- สเปรดแคบ เริ่มต้นที่ 0.0 pips (ในบัญชี Pro)
- มีตัวเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
- ตัวเลือกช่องทางฝากเงินที่ยืดหยุ่น
- พอร์ทัลการวิจัยและการศึกษาระดับกลาง
- ตลาดการเงินยังไม่หลากหลาย
- ไม่ได้รับการรับรองในบางหน่วยงาน
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียมเทรด forex
ในฐานะเทรดเดอร์ที่อยู่ในวงการ forex มาอย่างยาวนาน การให้บริการด้วยโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ชัดเจนและโปร่งใสคือจุดที่ทำให้ Fusion Markets โดดเด่นอย่างแท้จริง โดยโบรกเกอร์นี้มีบัญชีหลักให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภทคือ บัญชี Raw และ บัญชี Classic
1. สเปรดของบัญชี Raw
หากคุณกำลังมองหาสเปรดที่แคบที่สุด บัญชี Raw คือตัวเลือกที่เหมาะที่สุด เพราะผมพบว่าสเปรดเฉลี่ยในคู่สกุลเงินหลักอย่าง EUR/USD อยู่ที่ประมาณ 0.02 pips (อย่างต่อเนื่อง) ซึ่งหมายความว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณจะได้ราคาตลาดโดยตรง
ECN Forex Spread Comparison
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.09 | 0.12 | 0.84 | 0.39 | 0.48 |
![]() |
0.02 | 0.03 | 0.50 | 0.27 | 0.30 |
![]() |
0.10 | 0.10 | 0.90 | 0.20 | 1.10 |
![]() |
0.06 | 0.27 | 0.49 | 0.30 | 0.59 |
![]() |
0.10 | 0.30 | 0.50 | 0.30 | 0.60 |
![]() |
0.10 | 0.20 | 0.60 | 0.30 | 1.00 |
![]() |
0.18 | 0.60 | 1.19 | 0.36 | 0.85 |
![]() |
0.00 | 0.00 | 0.30 | 0.20 | 0.10 |
![]() |
0.20 | 0.50 | 0.70 | 0.50 | 0.60 |
![]() |
0.16 | 0.29 | 1.50 | 0.54 | 0.68 |
![]() |
0.10 | 0.90 | 1.50 | 0.70 | 0.60 |
![]() |
0.63 | 0.62 | 1.31 | 0.98 | 1.38 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 08/01/2025
จากที่คุณเห็นค่าสเปรดใน 9 คู่สกุลเงินหลักที่มีการเทรดมากที่สุด โบรกเกอร์ Fusion Markets นั้นให้สเปรดที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน
สเปรดบัญชี Raw | Fusion Markets | สเปรดเฉลี่ย |
---|---|---|
ภาพรวม | 0.38 | 0.75 |
EUR/USD | 0.11 | 0.22 |
USD/JPY | 0.27 | 0.38 |
GBP/USD | 0.24 | 0.53 |
AUD/USD | 0.12 | 0.47 |
USD/CAD | 0.22 | 0.56 |
EUR/GBP | 0.39 | 0.55 |
EUR/JPY | 0.48 | 0.80 |
AUD/JPY | 0.84 | 0.96 |
USD/SGD | 0.71 | 2.29 |
2. ค่าคอมมิชชั่นของบัญชี Raw
หากคุณใช้งานบัญชี Raw คุณจะจ่ายค่าคอมมิชชันที่ $2.25 ต่อหนึ่งล็อตมาตรฐาน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วถือว่ามีความสามารถในการแข่งขันในระดับสูง และต่ำกว่าค่าสเปรดแต่โบรกในตลาดอีกหลายแห่งที่มีบัญชีสเปรดต่ำแบบเดียวกันที่คุณจะต้องเสียค่าคอมมิชชันรวม $4.50 สำหรับการเปิดและปิดออเดอร์ทั้งสองฝั่ง
ในการเทรด 1 ล็อตมาตรฐานของคู่ EUR/USD
ค่าคอมมิชชั่น | USD | AUD | GBP | EUR |
---|---|---|---|---|
อัตราค่าคอมมิชชั่นของ Fusion Markets | $2.25 | $2.25 | N/A | N/A |
อัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | $3.44 | $3.32 | £2.44 | €2.91 |
3. ค่าธรรมเนียมบัญชี Standard
บัญชี Classic หรือ บัญชี Standard ของ Fusion Markets ถูกออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการสเปรดที่รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน โดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหาก ซึ่งบัญชีนี้จะมีสเปรดเฉลี่ยประมาณ 1.3 pips สำหรับคู่สกุลเงินหลักต่าง ๆ
สเปรดบัญชี Standard | EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | AUD/USD | USD/CAD | EUR/GBP | EUR/JPY | AUD/JPY |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สเปรดเฉลี่ยของ Fusion Markets | 0.83 | 1.41 | 1.42 | 1.12 | 1.31 | 1.29 | 1.65 | 1.49 |
อัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | 1.2 | 1.4 | 1.6 | 1.6 | 1.8 | 1.5 | 2.0 | 2.2 |
โครงสร้างนี้ช่วยให้คุณทำการคำนวณต้นทุนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นถูกรวมอยู่ในสเปรดเรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือ การเทรด US Share CFDs บน Fusion Markets นั้นสามารถทำได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ($0 commission)
4. ค่าธรรมเนียมบัญชี Swap-Free
สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการบัญชีที่สอดคล้องกับหลักชารีอะห์ (Sharia-compliant) ทาง Fusion Markets ก็มีบัญชี Swap-Free ให้บริการ ซึ่งบัญชีประเภทนี้ช่วยให้คุณจัดการกับโพซิชันค้างคืนได้โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยแบบ Swap แต่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการแทน
Fusion Markets จะเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมแอดมิน” เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งต่อโพซิชัน แทนที่จะเรียกเก็บรายวันในแบบ “ค่าธรรมเนียมแอดมิน ต่อ Lot ต่อ 7 วัน” อย่างไรก็ตาม อัตราที่เรียกเก็บจะแตกต่างกันไปตามตราสารที่เทรด ดังนั้น ผมแนะนำให้คุณตรวจสอบที่หน้าข้อมูลบัญชี Swap-Free จากทางโบรกเกอร์โดยตรง เพื่อดูค่าธรรมเนียมเฉพาะของตราสารที่คุณต้องการเทรด
5. ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
หนึ่งในจุดขายสำคัญของ Fusion Markets คือความมุ่งมั่นในการลดค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเทรดให้น้อยที่สุด โดยทั่วไปแล้ว คุณจะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานและค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากเงินสำหรับช่องทางส่วนใหญ่ รวมทั้ง ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนเงินจากการดำเนินงานของ Fusion Markets เอง
แต่ต่อไปนี้คือ ค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้นในการโอนเงินระหว่างประเทศ:
- ค่าธรรมเนียมฝากเงิน: $0 (การโอนระหว่างประเทศ $30)
- ค่าธรรมเนียมถอนเงิน: $0 (การโอนระหว่างประเทศ $30)
สรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเทรดของ Fusion Markets
หากคุณต้องการเทรดกับโบรกเกอร์ที่ให้ต้นทุนต่ำ Fusion Markets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งในด้านสเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมจึงให้คะแนน Fusion Markets เต็ม 10/10 สำหรับค่าธรรมเนียมการเทรด
แพลตฟอร์มการเทรด forex
Fusion Markets มีตัวเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและทันสมัย โดยรองรับแพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น MT4, MT5, cTrader หรือ TradingView ช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของตัวเองได้อย่างยืดหยุ่นและครบถ้วน
ทีมงาน CompareForexBrokers ของเราได้สร้างเครื่องมือที่จะช่วยให้การคัดเลือกแพลตฟอร์มเทรดของคุณง่ายขึ้น เพียงตอบคำถามสั้น ๆ 5 ข้อ ระบบจะช่วยวิเคราะห์ว่าแพลตฟอร์ม Forex แบบใดเหมาะกับคุณมากที่สุด
หลังจากทำแบบสอบถามเสร็จ เราขอแนะนำให้คุณอ่านข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง เพื่อดูว่าโบรกเกอร์ Fusion Markets นี้มีรายละเอียดการให้บริการอย่างไร และสอดคล้องกับแพลตฟอร์มที่คุณเลือกใช้งานหรือไม่
MetaTrader 4
จากมุมมองของผมในฐานะเทรดเดอร์ Forex ที่คร่ำวอดในวงการเทรดมาอย่างยาวนาน การใช้งาน MT4 บน Fusion Markets ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือและใช้งานง่ายที่สุดของผม เนื่องจาก MT4 มาพร้อมกับความเร็วในการดำเนินคำสั่งที่ยอดเยี่ยม (มักต่ำกว่า 30 มิลลิวินาที) ด้วยเซิร์ฟเวอร์ Equinix‑NY4 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง
เหตุผลที่ผมแนะนำ MT4:
- เข้าถึงตัวชี้วัด (Indicators), สคริปต์ และระบบเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisors – EAs) ได้หลายพันรายการ พร้อมฟอรัมสนับสนุนที่ใช้งานได้จริง
- มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟ 31 รายการ, อินดิเคเตอร์เทคนิคมากกว่า 30 ตัว และเลือกดูกราฟได้ถึง 9 ช่วงเวลา (Timeframes)
- รองรับคำสั่งซื้อรอซื้อขาย (Pending Orders) ได้ 4 แบบ ได้แก่ Buy/Sell Stop และ Buy/Sell Limit พร้อมโหมดดำเนินคำสั่ง 3 แบบ: ทันที (Instant), ตามราคาตลาด (Market) และตามคำขอ (Request)
- เขียนระบบ EAs ของคุณเองได้ง่ายผ่านภาษา MQL4 หรือเลือกใช้จากคลัง EA ที่มีให้เลือกมากมายของ MetaTrader
ข้อควรพิจารณาก่อนใช้งาน:
- ข้อจำกัดในการเข้าถึงหุ้น CFD เมื่อเทียบกับ MT5 เน้นไปที่ตลาด Forex และดัชนีเป็นหลัก
- ฟีเจอร์บางอย่างเริ่มล้าสมัยเมื่อเทียบกับ MT5 ที่พัฒนามากกว่า
- ปัจจุบัน MetaQuotes หยุดการพัฒนา MT4 แล้ว และอาจถูกแทนที่ด้วย MT5 ในอนาคต
MetaTrader 5
MT5 เป็นแพลตฟอร์มเทรดในเวอร์ชันที่พัฒนาต่อจาก MT4 ทำให้มีความสามารถที่เหนือกว่าในหลายด้าน
ทั้งเครื่องมือกราฟขั้นสูง, ฟีเจอร์วิเคราะห์ตลาด, ความเร็วในการประมวลผล และความหลากหลายของสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้
สิ่งที่ทำให้ MT5 แตกต่างจาก MT4 ที่ถูกออกแบบมาสำหรับตลาดแบบกระจายศูนย์ (อย่าง Forex) เป็นหลัก คือ MT5 เป็นแพลตฟอร์มแบบ Multi-Asset ที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตลาดที่หลากหลายมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การเทรดหุ้น CFD ที่อ้างอิงจากตลาดหลักทรัพย์แบบรวมศูนย์ เป็นต้น
เหตุผลที่ผมแนะนำ MT5:
- เครื่องมือวิเคราะห์กราฟขั้นสูง เช่น วัตถุวิเคราะห์ 44 แบบ, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 38 ตัว และกรอบเวลาให้เลือกถึง 21 ระดับ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับกลยุทธ์แบบสเกลปิ้ง (Scalping)
- เข้าถึงข้อมูลปริมาณการซื้อขายจริง (Real Volume Data) ในขณะที่ MT4 ให้เพียงข้อมูลปริมาณแบบ Tick เท่านั้น ช่วยให้มองเห็นความเคลื่อนไหวของตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- มีคำสั่งรอซื้อขายเพิ่มอีก 2 ประเภทที่ไม่มีใน MT4 ได้แก่ Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit
ข้อควรพิจารณาก่อนใช้งาน:
- หากต้องการใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของ MT5 อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณอาจต้องเรียนรู้เพิ่มเติมและมีความคุ้นเคยกับระบบในระดับหนึ่งเสียก่อน
cTrader
จากที่ผมสังเกต cTrader มักได้รับความนิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า เนื่องจากแพลตฟอร์มนำเสนอเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดและหลากหลายกว่า นอกจากนี้ cTrader ยังเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มนักเทรดสายสเกลป (Scalper) ซึ่งให้ความสำคัญกับความเร็วในการประมวลผลที่สูงอีกด้วย
ข้อดีหลักของแพลตฟอร์ม cTrader:
- เข้าถึงข้อมูลระดับความลึกของตลาด (Market Depth) แบบ Interbank ได้โดยตรง รองรับการเทรด Forex ด้วยระบบอัลกอริทึมผ่านฟีเจอร์ Depth of Market (DoM)
- อินเทอร์เฟซมีความสามารถในการปรับแต่งขั้นสูง พร้อมกราฟที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าและสามารถแยกหน้าต่าง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานได้เป็นอย่างดี
- เครื่องมือ Backtesting ที่แข็งแกร่ง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดสอบและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดได้
- ความเร็วในการดำเนินคำสั่งที่สูง
ข้อควรพิจารณาก่อนใช้งาน:
- แพลตฟอร์มมีความซับซ้อน อาจทำให้มือใหม่รู้สึกสับสนในการใช้งาน
- การตั้งค่าเริ่มต้นของระบบ Backtesting และเครื่องมืออัตโนมัติ อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และเตรียมตัวค่อนข้างมาก
TradingView
สำหรับผม TradingView เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟที่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และส่งคำสั่งซื้อขายได้โดยตรงผ่านชุดเครื่องมือและกราฟเทรดหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการคัดกรองตลาด ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่, ระดับกลาง หรือเทรดเดอร์มืออาชีพ TradingView ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมและน่าเชื่อถือ
ข้อดีหลักของแพลตฟอร์ม TradingView:
- เข้าถึงกราฟขั้นสูงที่มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน
- แสดงกราฟได้สูงสุด 8 กราฟต่อหน้าจอ โดยแต่ละกราฟสามารถใช้สัญลักษณ์, ตัวชี้วัด และช่วงเวลา (Timeframe) ที่ต่างกันได้
- สามารถแสดงผลบนจอภาพสูงสุด 6 จอ โดยแต่ละจอแสดงได้ 8 กราฟ รวมได้ถึง 48 กราฟพร้อมกัน
- มีเครื่องมือวาดกราฟกว่า 90 แบบ และอินดิเคเตอร์สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกอีกหลายร้อยตัว
ข้อควรพิจารณาก่อนใช้งาน (โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ Fusion Markets):
- การใช้งาน TradingView ผ่าน Fusion Markets บางครั้งอาจพบปัญหาดีเลย์หรือการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร ซึ่งส่งผลต่อความเร็วในการส่งคำสั่งเทรด
- ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การแสดงหลายกราฟต่อหน้าจอ หรือเครื่องมือวาดภาพขั้นสูง มักอยู่ในแพ็คเกจแบบเสียเงิน ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการใช้งานของคุณได้
- สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่เพิ่งเริ่มต้น อาจรู้สึกว่าจำนวนเครื่องมือและตัวเลือกที่มีอยู่มากเกินไปจนสับสนในช่วงแรก
แพลตฟอร์มเทรดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากแพลตฟอร์มหลัก
นอกเหนือจากแพลตฟอร์มการเทรดหลัก ผมยังพบว่า Fusion Markets มีตัวเลือกแพลตฟอร์มและเครื่องมือเสริมอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น Fusion+ Copy Trading หรือ MAM (Multi Account Manager) สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึง DupliTrade (บน MT4) สำหรับการคัดลอกการเทรดแบบอัตโนมัติ และบริการ VPS ที่ได้รับการสนับสนุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน Expert Advisors (EAs) ได้อย่างเต็มที่ได้ด้วย
สรุปเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเทรดของ Fusion Markets
ผมให้คะแนนในหมวดความพร้อมของแพลตฟอร์มการซื้อขายของ Fusion Markets อยู่ที่ 9.0 เต็ม 10 เพราะโบรกเกอร์ช่วยมอบทางเลือกของแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
Fusion Markets ปลอดภัยหรือหรือไม่?
เพื่อประเมินเกี่ยวกับความปลอดภัยขอ Fusion Markets ผมได้ประเมิณปัจจัยในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเสียง, การกำกับดูแล และคะแนนรีวิว ซึ่งได้ผลดังนี้

การกำกับดูแล
Fusion Markets อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินในระดับสากลหลายแห่ง แต่จำนวนและระดับของหน่วยงานอาจยังไม่ได้ครอบคลุมเช่นที่เห็นในโบรกเกอร์รายใหญ่ๆ อีกหลายแห่งในตลาด forex
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คุณจะได้รับผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยจากสองหน่วยงานหลัก อย่าง VFSC (Vanuatu Financial Services Commission) และ FSA (Financial Services Authority of Seychelles) แม้ว่าหน่วยงานเหล่านี้จะไม่เข้มงวดเท่ากับ ASIC ของออสเตรเลีย แต่ก็ถือเป็น หน่วยงานกำกับดูแลนอกอาณาเขตที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งให้กรอบการดำเนินงานพื้นฐานแก่โบรกเกอร์ทั่วโลก
ชื่อเสียง
Fusion Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 และมีชื่อเสียงในเชิงบวกมาตลอดระยะเวลาที่มีการให้บริการ จากการทดลองใช้งานจริง ผมพบว่า โบรกเกอร์นี้มุ่งเน้นความโปร่งใส ไม่มีประวัติเสียในด้านการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้งาน หรือคดีความสำคัญใด ๆ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
รีวิวจาก Trustpilot
บนแพลตฟอร์มรีวิวอิสระอย่าง Trustpilot ผมพบว่า Fusion Markets ได้รับคะแนนรีวิวที่ดีมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยถึง 4.7 จาก 5 ดาว จากผู้รีวิวมากกว่า 3,650 คน แม้ว่าโบรกเกอร์ทุกแห่งจะมีรีวิวในแง่ลบบ้าง แต่โดยรวมแล้วเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักชื่นชมในเรื่องของสเปรดที่แข่งขันได้ แพลตฟอร์มเทรดที่มีความน่าเชื่อถือ และการบริการลูกค้าที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
สรุปเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Fusion Markets
โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนนความน่าเชื่อถือ Fusion Markets ได้คะแนนอยู่ในระดับปานกลางที่ 5.0/10 แม้จะเป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงก็ตาม คะแนนนี้สะท้อนว่าโบรกเกอร์ควรมีการพัฒนาในเรื่องของการกำกับดูแลและการปกป้องลูกค้าเพิ่มเติม เมื่อเทียบกับผู้นำในอุตสาหกรรม
ช่องทางฝากและถอนเงิน Fusion Markets
Fusion Markets มีวิธีการชำระเงินยอดนิยมหลากหลายช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝากและถอนเงิน โดยมีรายละเอียดดังนี้
เงินฝากขั้นต่ำที่ Fusion Markets คือเท่าไหร่?
ผมต้องยอมรับในความเข้าถึงง่ายของ Fusion Markets ที่ไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเมื่อคุณต้องการเปิดบัญชีเทรดมาตรฐาน นั่นหมายความว่าคุณสามารถเริ่มต้นเทรดได้ด้วยจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ได้ที่คุณรู้สึกสบายใจ
สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี
Fusion Markets มีสกุลเงินพื้นฐานให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย ซึ่งช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ (หากสกุลเงินท้องถิ่นของคุณได้รับการรองรับ)
จากการทดลองใช้งานของผม ผมสามารถเปิดบัญชีในสกุลเงินได้แก่: AUD, CAD, EUR, GBP, JPY, THB, SGD และ USD อย่างที่คุณเห็นการที่มีสกุลเงินบาท (THB) ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย เพราะคุณสามารถฝากเงินและเทรดในสกุลเงินท้องถิ่นได้โดยไม่ต้องจ่ายจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่จำเป็น
การฝากเงินและค่าธรรมเนียม
Fusion Markets มีตัวเลือกการฝากเงินที่หลากหลาย ครอบคลุมวิธีการยอดนิยม เพื่อให้คุณสามารถเลือกช่องทางที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยรวมถึง:
- บัตรเครดิต/เดบิต: Visa, MasterCard
- อีวอลเล็ต: PayPal, Skrill, Neteller, PayID, MiFinity, Jeton
- โอนผ่านธนาคาร: โอนเงินผ่านธนาคารแบบมาตรฐาน (อาจใช้เวลานานกว่า)
- ช่องทางการชำระเงินท้องถิ่น: DragonPay (เฉพาะบางภูมิภาค), คริปโตเคอร์เรนซี
- อื่น ๆ: Perfect Money
สิ่งสำคัญที่ผมพบคือ Fusion Markets ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากเงิน สำหรับช่องทางส่วนใหญ่ แต่หากจะมีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นก็มักจะเป็นของธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินของคุณเอง
และจากประสบการณ์ของผม การฝากเงินได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยหลายช่องทางให้บริการแบบ เติมเงินทันที (Instant Funding)
การถอนเงินและค่าธรรมเนียม
การถอนกำไรของคุณมีความสำคัญไม่แพ้การฝากเงิน และโบรกเกอร์ Fusion Markets ก็ทำให้การถอนเงินของคุณง่ายขึ้น ด้วยการให้บริการช่องทางการถอนที่เหมือนกับการฝากเงิน ได้แก่:
- บัตรเครดิต/เดบิต: Visa, MasterCard
- อีวอลเล็ต: PayPal, Skrill, Neteller, PayID, MiFinity, Jeton
- โอนผ่านธนาคาร: โอนเงินผ่านธนาคารแบบมาตรฐาน (อาจใช้เวลานานกว่า)
- ช่องทางการชำระเงินท้องถิ่น: DragonPay (เฉพาะบางภูมิภาค), คริปโตเคอร์เรนซี
- อื่น ๆ: Perfect Money
นอกจากนี้ Fusion Markets ยังไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินของโบรกเกอร์ แต่มีข้อกำหนดยอดถอนขั้นต่ำ ระหว่าง $10 ถึง $35 อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารตัวกลาง หรือผู้ให้บริการการชำระเงิน โดยเฉพาะการโอนผ่านธนาคารระหว่างประเทศได้ ส่วนระยะเวลาดำเนินการถอน ถือว่ารวดเร็ว โดยเฉพาะการถอนผ่านอีวอลเล็ต ซึ่งมักจะได้รับเงินเร็วที่สุด
ความยากง่ายของการเปิดบัญชีเทรด
จากประสบการณ์ของผม คุณสามารถกรอกใบสมัครเพื่อเปิดบัญชีเทรดกับ Fusion Markets ได้ภายในไม่กี่นาที ผ่านการให้ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวเบื้องต้นกับระบบ
บัญชีส่วนใหญ่มักจะได้รับการอนุมัติภายใน 1 ชั่วโมง และโดยทั่วไปแล้ว Fusion Markets ไม่ได้กำหนดให้คุณต้องทำแบบทดสอบความเหมาะสม ซึ่งมักเป็นขั้นตอนที่ทำให้กระบวนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์อื่นซับซ้อนขึ้น นั่นหมายความว่า คุณสามารถเริ่มต้นเทรดได้อย่างรวดเร็วขึ้น
คุณสามารถเริ่มต้นสมัครโดยใช้ อีเมลและรหัสผ่าน หรือการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google หรือ Apple ก็ได้ จากนั้น กดยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน (T&C) และเลือกประเภทบัญชีเป็น “บัญชีจริง (Live Account)” เพื่อเปิดบัญชีใช้เทรดจริงของคุณ
หลังจากกรอกข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด ฯลฯ ระบบจะให้เลือกประเภทบัญชี และในกรณีที่คุณเลือกบัญชีแบบ Zero Account ระบบจะขอให้คุณเลือกสกุลเงินหลักของบัญชีและเลเวอเรจที่ต้องการเพิ่มเติม
หลังจากการตั้งค่าต่าง ๆ ในบัญชีสำเร็จ ระบบจะขอให้คุณทำการยืนยันตัวตน (KYC) ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานของโบรกเกอร์ทุกแห่ง ซึ่งบัญชีของผมได้รับการอนุมัติภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง และสามารถเริ่มต้นเทรดได้ทันทีหลังจากฝากเงินเข้าบัญชี
สรุปเกี่ยวกับช่องทางฝาก-ถอนเงินของ Fusion Markets
สำหรับผมแล้ว ช่องทางการฝากและถอนเงินของ Fusion Markets ถือว่าอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้และใช้งานง่าย ทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ผมจึงให้คะแนนสูงถึง 8.0 เต็ม 10 สำหรับหมวดนี้
ตลาดการเงินที่รองรับ
แม้ว่า Fusion Markets จะโดดเด่นในด้าน Forex และ CFD แต่สิ่งสำคัญคือคุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ประเภทสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้โดยเฉพาะ
CFDs
Fusion Markets ให้บริการในรูปแบบ Contracts for Difference (CFDs) ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดหลากหลายประเภท โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง โดยผลิตภัณฑ์การเงินในรูปแบบ CFD ที่ Fusion Markets นำเสนอ ได้แก่
- Forex: เทรดคู่เงินได้มากกว่า 90 คู่ ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Major, Minor และ Exotic เพื่อการลงทุนที่หลากหลายในตลาดเงินตราทั่วโลก
- CFD พลังงาน: เทรดสินค้าพลังงานยอดนิยม เช่น น้ำมันดิบ (WTI และ Brent)
- CFD โลหะมีค่า: ทั้งทองคำและเงิน ที่สามารถจับคู่กับสกุลเงินอีกหลากหลายคู่
- CFD ดัชนีหุ้น: เข้าถึงดัชนีหุ้นสำคัญจากตลาดทั่วโลกได้ง่ายๆ เพื่อกระจายพอร์ตและเก็งกำไรตามทิศทางของตลาด
ดัชนี (Indices)
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คุณสามารถเทรดดัชนีหุ้นจากทั่วโลกมากกว่า 10 รายการ โดย ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ($0) และคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ เช่น ดัชนี S&P 500 ซึ่งรวมหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ 500 บริษัท ได้อีกด้วย
การเทรดหุ้นรายตัว (Share Trading)
แม้ว่า Fusion Markets จะไม่ใช่โบรกเกอร์หุ้นโดยตรง แต่คุณสามารถเทรด CFD หุ้นของบริษัทในสหรัฐฯ มากกว่า 110 รายการจากโบรกเกอร์นี้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเก็งกำไรจากการขึ้นหรือลงของราคาหุ้นรายตัวในตลาดสหรัฐฯ ได้ทั้งฝั่ง Long และ Short นั่นเอง
คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)
Fusion Markets เปิดให้คุณสามารถเทรดคริปโตยอดนิยมได้หลายรายการ เช่น Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum, Litecoin, Stellar, EOS, Polkadot, Chainlink และอื่น ๆ
สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
คุณสามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ได้หลากหลายประเภทบน Fusion Markets โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมจากตลาดกลาง ตัวอย่างเช่น
- โลหะ (Metals): มีให้เลือกมากกว่า 10 รายการ เช่น อะลูมิเนียม นิกเกิล ตะกั่ว และทองแดง
- พลังงาน (Energies): คุณสามารถเทรดได้จาก 3 รายการหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ WTI, น้ำมันดิบ Brent และก๊าซธรรมชาติ
- สินค้าเกษตร (Soft Commodities): เช่น ข้าวสาลี กาแฟ ฝ้าย ถั่วเหลือง และอื่น ๆ
ฝ่ายบริการลูกค้า Fusion Market
ในมุมมองของผม การบริการลูกค้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อต้องเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เพราะการมีทีมซัพพอร์ตที่ตอบเร็วและมีความรู้เป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะทำให้ประสบการณ์ใช้งานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
Fusion Markets ให้ความสำคัญกับการบริการที่จริงจัง โดยมุ่งเน้นการให้การสนับสนุนที่มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วและเป็นแบบเฉพาะบุคคล ผ่านช่องทางอีเมลและช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยแต่ละครั้งคุณจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดโดยเฉพาะเจาะจงกับปัญหาของคุณ
ในระหว่างขั้นตอนการเปิดบัญชีของผม ผมได้ติดต่อผ่านช่องทางแชทสด (Live Chat) เพื่อสอบถามสถานะการยืนยันเอกสาร และตรวจสอบช่องทางการฝากเงินที่รองรับสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
ผมยังสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีฝากเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายดูแลผมโดยตรงได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ ผ่านพาร์ตเนอร์ชำระเงินของ Fusion Markets ทำให้โดยรวมแล้ว ผมประทับใจกับการให้บริการครั้งนี้มาก
สรุปเกี่ยวกับตลาดการเงินที่ Fusion Markets เปิดให้เทรด
ผมให้คะแนน Fusion Markets ในแง่ความหลากหลายของตลาดการเงินที่เปิดให้เทรด สูงถึง 8.0 เต็ม 10 เพราะตัวเลือกของพวกเขามีทั้งความยืดหยุ่นและความสามารถในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนในระดับสูง
พอร์ทัลการวิเคราะห์และการศึกษา
จากการทดสอบของผม พบว่าเนื้อหาด้านการศึกษาของ Fusion Market ยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร หากเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์รายใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากกว่า
โดย Fusion Markets มีเพียงบล็อก (Blog) ที่ให้บทวิเคราะห์ตลาดและมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับการเทรด นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ช่วยในการเทรด เช่น:
- เครื่องคำนวณการเทรด (Trading Calculators)
- ปฏิทินเศรษฐกิจ สำหรับติดตามเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก
- ข้อมูลสเปรดแบบเรียลไทม์และย้อนหลัง เพื่อช่วยในการวางกลยุทธ์การเทรด
เครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์ทั้งต่อการวิเคราะห์เชิงพื้นฐานและเชิงเทคนิค รวมถึงการช่วยให้คุณสร้างมุมมองหรือแนวโน้มในการเทรดของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คุณเป็นเทรดเดอร์ชาวไทยที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด คุณอาจจำเป็นต้องเสริมความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งอื่นภายนอก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น
สรุปเกี่ยวกับการวิเคราะห์และการศึกษาของ Fusion Markets
สำหรับผมแล้ว Fusion Markets ยังทำไดไม่ดีนักสำหรับหมวดหมู่นี้ และผมหวังว่าจะได้เห็นเนื้อหาและเครื่องมือที่ครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต สำหรับทรัพยากรที่ยังค่อนข้างจำกัดในตอนนี้ ผมให้คะแนนพอร์ทัลการศึกษาของพวกเขาเพียง 6.0 เต็ม 10
สรุปภาพรวมของ Fusion Markets 2025
ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ใส่ใจเรื่องต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะผู้ที่เน้นเทรด Forex หรือ CFD หุ้นสหรัฐฯ หรือเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการเปิดบัญชีและเทรดด้วยสกุลเงินบาท (THB) รวมถึงผู้ที่ต้องการการบริการสนับสนุนเฉพาะท้องถิ่น ผมขอแนะนำว่า Fusion Markets คือหนึ่งในโบรกเกอร์ forex ที่น่าสนใจมาก
จากการใช้งานจริงของผม บัญชี Raw Account มีสเปรดแคบสุดและค่าคอมมิชชั่นต่ำ ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Fusion Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีราคาต้นทุนการแข่งขันสูงสุดในตลาด
นอกจากนี้ การที่โบรกเกอร์รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4, MT5, cTrader และ TradingView จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานแพลตฟอร์มที่ชื่นชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และด้วยการผสมผสานระหว่างต้นทุนการเทรดต่ำ, แพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และช่องทางฝาก-ถอนที่สะดวกสบาย ผมให้คะแนนรวมสูงถึง 92/100
อย่างไรก็ตาม ความพร้อมในแง่เนื้อหาการวิเคราะห์และการศึกษา รวมถึงการกำกับดูแลจากหน่วยงานในระดับสากลที่อาจจะยังไม่มากพอ อาจทำโบรกเกอร์นี้ไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเทรดเดอร์อีกหลายคน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบรกเกอร์ Fusion Markets 2025
Fusion Markets ปลอดภัยไหม สำหรับการเทรดในไทย?
ใช่ Fusion Markets ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย forex ไทยโดยตรง โดยคุณจะได้รับการกำกับดูแลจาก VFSC (Vanuatu Financial Services Commission) และ FSA (Financial Services Authority of Seychelles) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่ถูกต้องตามกฎหมายในระดับ Teir 3
Fusion Markets เสนอเลเวอเรจเท่าไหร่?
สำหรับลูกค้าในประเทศไทย Fusion Markets เสนอเลเวอเรจสูงสุดถึง 500:1 สำหรับคู่เงินหลัก (Major Currency Pairs) ซึ่งสูงกว่าลูกค้าปลีกที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ASIC (ในออสเตรเลีย) จะถูกจำกัดเลเวอเรจสูงสุดที่ 30:1
เงินฝากขั้นต่ำที่ Fusion Markets คือเท่าไหร่?
Fusion Markets มุ่งเน้นความเข้าถึงง่ายสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ โดยไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ คุณจึงสามารถเริ่มต้นเทรดด้วยจำนวนเงินที่เหมาะสมกับงบประมาณและความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้อย่างง่ายดาย
Fusion Markets มีบริการ Copy Trading หรือไม่?
มี Fusion Markets ให้บริการ Copy Trading ที่มีโครงสร้างต้นทุนต่ำ ภายใต้ชื่อว่า Fusion+ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารพอร์ตให้ผู้อื่น หรือผู้ที่ต้องการเผยแพร่สัญญาณเทรด หากคุณมียอดการเทรดถึงเกณฑ์ที่กำหนดต่อเดือน ระบบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (หากคุณต้องการดูรายชื่อโบรกเกอร์ copy trade อื่นๆ โปรดคลิกที่ลิงก์ของเรา)
ทางเลือกแทน Fusion Markets
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย