IC Markets ดีไหม 2025: รีวิวฉบับเต็ม

ค่าธรรมเนียม IC Markets

IC Markets นำเสนอบัญชีสองประเภทที่แตกต่างกัน ได้แก่ บัญชี Standard ซึ่งไม่มีคอมมิชชันและมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.6 pips และบัญชี Raw ซึ่งมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชันเพิ่มเติม

• บัญชี Standard: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ชื่นชอบโครงสร้างราคาที่ไม่ซับซ้อน
• บัญชี Raw: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ เทรดในปริมาณมาก หรือชอบใช้ระบบอัลกอริทึม

สเปรดบัญชี Raw

บัญชี Raw ของ IC Markets มาพร้อมกับสเปรดต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดยคู่เงิน EUR/USD มีสเปรดเฉลี่ยเพียง 0.02 pips ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Pepperstone ถึงประมาณ 80% ที่มีสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 0.10 pips สำหรับคู่เงินเดียวกัน

และเมื่อดูสเปรดในแต่ละคู่เงินของที่ซื้อขายบน IC Markets เทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม จะพบว่าสเปรดของบัญชี RAW นี้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ดังที่แสดงในตารางด้านล่าง

Raw Account Spreads	IC Markets	Average Spread
Overall	0.29	0.72
EUR/USD	0.02	0.28
USD/JPY	0.14	0.44
GBP/USD	0.23	0.54
AUD/USD	0.03	0.45
USD/CAD	0.25	0.61
EUR/GBP	0.27	0.55
EUR/JPY	0.3	0.74
AUD/JPY	0.5	0.93
USD/SGD	0.85	1.97

อัตราค่าคอมมิชชันของบัญชี Raw

ในกรณีที่คุณใช้งานบัญชี Raw ของ IC Markets คุณจะต้องชำระค่าคอมมิชชันที่อัตรา $3.50 ต่อฝั่ง ต่อ 1 ล็อตมาตรฐาน (100,000 หน่วย) ซึ่งรวมเป็น $7 ต่อรอบการเทรด (เปิดและปิด)
อัตรานี้ถือว่าเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ เช่น Pepperstone และ Eightcap ตามตารางด้านล่างนี้
ค่าคอมมิชชัน

ค่าคอมมิชชั่น
Pepperstone	$3.50
EightCap	$3.50
Axi	$3.50
IC Markets	$3.50
ThinkMarkets	$3.50
Dukascopy	$3.50

เงินคืนค่าคอมมิชชั่น (Commission Rebates)
ในปีนี้ IC Markets พึ่งเปิดตัวโปรแกรมใหม่ชื่อว่า ‘Raw Trader Plus’ ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบแทนเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง สมาชิกในโปรแกรมนี้ได้รับเงินคืนจากค่าคอมมิชชันในการเทรด รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น บริการ VPS Hosting และการดูแลจากผู้จัดการลูกค้าเฉพาะทาง
โปรแกรมนี้คืนค่าคอมมิชชันโดยอิงตามระดับที่มีทั้งหมด 3 ระดับ (Tiers) คืนเงินจะเข้าบัญชีของคุณอัตโนมัติทุกวัน เมื่อคุณเทรดถึงเกณฑ์ที่กำหนด ภายในระยะเวลา 3 เดือน ยิ่ง Teir ของคุณสูงขึ้น คุณก็จะยิ่งประหยัดค่าคอมมิชชันได้มากขึ้น อาจเหลือสุทธิเพียง $1 ต่อหนึ่งล็อต เท่านั้น

Raw Trader Plus Rebates	Commission Rebate (per lot)	Trading Volume Requirement (closed lots)	Effective Commission For Raw Trader Plus Members
Tier 1	$1.50	100	$2
Tier 2	$2.25	>1,000	$1.75
Tier3	$2.50	2,000	$1

ค่าธรรมเนียมบัญชี Standard

บัญชี Standard Account ของ IC Markets มอบข้อเสนอค่าธรรมเนียมแบบไม่มีคอมมิชชัน (No Commission) ที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ในไทย โดยมีสเปรดของคู่เงิน EUR/USD เฉลี่ยเพียง 0.82 pips ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Pepperstone ที่มีสเปรดเฉลี่ยเป็น 1.1 pips ถึงเกือบ 50%
สำหรับคู่ AUD/USD ทาง IC Markets ให้สเปรดเฉลี่ยที่ต่ำเพียง 0.83 pips และสำหรับคู่ USD/CAD อยู่ที่ประมาณ 1.05 pips ซึ่งถือว่าสเปรดนี้น่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น
ตารางด้านล่างแสดงถึงสเปรด IC Markets ที่ต่ำอย่างสม่ำเสมอในหลากหลายคู่เงิน ซึ่งตอกย้ำถึงความเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีสเปรดต่ำโดยปราศจากค่าคอมมิชชัน

Standard Acount Spreads	EUR/USD	USD/JPY	GBP/USD	AUD/USD	USD/CAD	EUR/GBP	EUR/JPY	AUD/JPY
IC Markets Average Spread	0.82	0.94	1.03	0.83	1.05	1.27	1.3	1.5
Industry Average Spread	1.2	1.4	1.6	1.5	1.8	1.5	1.9	2.1

ค่าธรรมเนียมอื่นๆ

ผมประทับใจ IC Markets เพราะโบรกเกอร์นี้ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแอบแฝงเหมือนโบรกเกอร์บางแห่ง แถมยังมีจุดเด่นในด้านค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

• ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมฝากเงินและถอนเงิน
• ไม่มีการเรียกเก็บธรรมเนียมการรักษาบัญชี

อย่างไรก็ตาม หากคุณฝากเงินผ่านการโอนเงินระหว่างประเทศ (International Wire Transfer) คุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับธนาคารที่คุณเลือกใช้บริการ

ข้อสรุปเรื่องค่าธรรมเนียม IC Markets

จากประสบการณ์ของผม IC Markets เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่โดดเด่นในด้านค่าธรรมเนียมการเทรด โดยบัญชี Standard เสนอสเปรดซึ่งต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับคู่เงินหลักบางคู่ ขณะที่บัญชี Raw ยังมีความสามารถในการแข่งขันที่สูง มีคอมมิชชันที่เท่ากับเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ $3.50

แพลตฟอร์มการเทรด IC Markets

IC Markets เสนอแพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยมหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader หรือ TradingView ซึ่งถือว่าหลากหลายกกว่าโบรกเกอร์อีกหลายแห่ง นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม:

• MetaTrader4 หากคุณเป็นเทรดเดอร์ Forex มือใหม่ นี่คือแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับคุณ มันมาพร้อมกับเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่ตรงไปตรงมา แม้จะมีข้อจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกที่มีความก้าวหน้ามากกว่าเช่น MT5 และ cTrader
• MetaTrader5 หากคุณทำการเทรดสินทรัพย์อื่นนอกเหนือจาก Forex คุณจะพบว่า MT5 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มันมาพร้อมกับเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่ทันสมัยกว่า MT4 พร้อมด้วยภาษาการเขียนโปรแกรมที่อัปเกรดเป็น MLQ5 แต่ก็ซับซ้อนมากขึ้นที่จะต้องปรับตัว
• cTrader มีอินเตอร์เฟซที่ดีที่สุดในความเห็นของผม คุณจะสนุกกับการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น ‘cBots’ ซึ่งเป็นระบบการเทรดอัตโนมัติของ cTrader สำหรับการเทรดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• TradingView เครื่องมือสร้างกราฟยอดนิยม ซึ่งคุณสามารถเทรดได้ทุกอย่าง ตั้งแต่หุ้นไปจนถึง Forex ตอนนี้คุณสามารถรวมบัญชีโบรกเกอร์กับ TradingView ได้อย่างง่ายดาย รวมถึง IC Markets ด้วย

MetaTrader 4

ผมยกให้ MetaTrader 4 (MT4) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย เพราะ MT4 เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในวงการเทรด forex มาหลายปี ที่สำคัญ MT4 นั้นเหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการลดความซับซ้อนในสภาพแวดล้อมการเทรดของตนเป็นอย่างมาก
สรุปฟีเจอร์หลักของ MT4:

• เน้นการเทรด Forex เป็นหลัก (และ CFD อีก แต่ไม่รองรับหุ้น CFD โดยตรง)
• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย มีระบบจัดการคำสั่งเทรดที่รวดเร็ว และมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยง
• รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs) สำหรับเทรดอัตโนมัติ โดยคุณสามารถดาวน์โหลดจาก MetaTrader Marketplace หรือเขียนเองด้วยภาษา MQL4
• รองรับการติดตั้ง Advanced Trading Tools ที่ให้ EA และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคเพิ่มเติมกว่า 20 รายการ
• การดำเนินการ trading order อย่างรวดเร็ว โดยกำหนดให้เซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ที่ศูนย์ข้อมูล Equinix NY4 ในนิวยอร์ก

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมในการใช้งาน MT4 จุดที่ชอบที่สุดคือ อินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย ซึ่งช่วยให้ผมสามารถโฟกัสกับการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกรบกวนจากฟังก์ชันที่ซับซ้อนหรือไม่จำเป็น

MetaTrader 5

สำหรับใครที่ชอบเวอร์ชันที่พัฒนาแล้วของ MT4 เมื่อดูการใช้งานระหว่าง MT4 และ MT5 แล้ว ผมพบว่า MetaTrader 5 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดย MT5 มาพร้อมกับการประมวลผลแบบ 64 บิต ซึ่งสามารถรองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีการสร้างกราฟที่ดีกว่า เครื่องมือจัดการคำสั่ง การเพิ่มเครื่องมือ Depth of Market ได้ดีกว่า ซึ่งในมุมมองของผม MT 5 เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการเครื่องมือที่ลึกและยืดหยุ่นในการวิเคราะห์และการเทรด
สรุปคุณสมบัติหลักของ MT5:

• อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคในตัวมากกว่า 80 รายการ และภายในแพลตฟอร์มที่รองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท
• รองรับการเทรดแบบอัตโนมัติทั้ง CFD และ Forex ผ่าน Expert Advisors (EAs) โดยใช้ภาษา MQL5 พร้อม Market สำหรับดาวน์โหลดบอทเทรดได้โดยตรง
• แสดงข้อมูลตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคถึง 600 รายการ จาก 15 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ของโลก
• มีบริการ Forex VPS ในตัว เพื่อการส่งคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็วระดับมิลลิวินาที
• รองรับ Backtesting ด้วยฟีเจอร์ Strategy Tester ของ MT5 ผมสามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดกับคู่เงินหลายคู่พร้อมกันได้

cTrader

cTrader เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่กำลังมองหาสภาพแวดล้อมระดับมืออาชีพ พร้อมความสามารถในการปรับแต่งและเทรดอัลกอริธึม (algorithmic trading) ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ cTrader ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ที่ทำการเก็งกำไรเนื่องจากมีการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วกว่าทั้ง MT4 และ MT5 ในขณะที่คุณสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง cTrader bots ซึ่งเป็นระบบเทรดอัตโนมัติที่ออกแบบมาโดยเฉพาะได้อีกด้วย
คุณสมบัติหลักของ cTrader:

• อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย โดยสามารถแยกกราฟออกจากกันได้ และสามารถใช้งานผ่านเดสก์ท็อป, เว็บและแอปพลิเคชันมือถือทั้งบน iOS และ Android
• รองรับการเทรดอัลกอริธึมผ่าน cTrader Automate (เดิมคือ cAlgo) ซึ่งช่วยให้คุณพัฒนา, ทดสอบและใช้งานกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติด้วยภาษา C#
• มีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคมากกว่า 70 รายการ ที่สามารถปรับแต่ได้ พร้อมการวิเคราะห์แบบหลายช่วงเวลา
• ฟังก์ชันการทดสอบย้อนหลัง (Back-testing) บนข้อมูลตลาดในอดีตเพื่อช่วยให้ประเมินกลยุทธ์เทรด
• การดำเนินการแบบ No Dealing Desk (NDD) ซึ่งหมายถึงการเข้าถึงผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง สำหรับการเทรดที่โปร่งใสและรวดเร็ว

TradingView

TradingView มอบอินเทอร์เฟซสวยงาน มาพร้อมกับความสารมารถในการปรับแต่งที่แทบจะไม่มีขีดจำกัด มีเครื่องมืออินดิเคเตอร์และตัวเลือกการตั้งค่ากราฟที่หลากหลาย ซึ่งผมคิดว่า TradingView เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขาย forex บน IC Markets ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่, ระดับกลาง หรือแม้แต่เทรดเดอร์ขั้นสูง
ฟีเจอร์หลักของ TradingView:

• แพลตฟอร์มหลักในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน รองรับการใช้งานบน iOS, Android รวมทั้งเดสก์ท็อปและเว็บ
• เข้าถึงเครื่องมือการกราฟและอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 100+ รายการ ครอบคลุมหลายประเภทสินทรัพย์
• เข้าถึงชุมชนเทรดเดอร์กว่า 90 ล้านคน ที่ประกอบด้วยนักวิเคราะห์, นักลงทุน และเทรดเดอร์จากหลายประเทศ
• รองรับ Pine Script™ ภาษาเขียนสคริปต์ของ TradingView ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างอินดิเคเตอร์ที่ปรับแต่งได้เอง
• ครอบคลุมข้อมูลตลาดที่หลากหลาย เชื่อมต่อกับข้อมูลจากหลายแหล่ง

จากประสบการณ์ของผม TradingView เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เนื่องจากมีเครื่องมือการวิเคราะห์ที่เข้าใจง่ายและสามารถลองใช้งานจากบัญชีทดลองได้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับความสามารถที่ต้องการเครื่องมือที่ทรงพลังและปรับแต่งได้ด้วยตัวเอง

Mobile Trading Apps

IC Markets นำเสนอแอปพลิเคชันสำหรับการเทรดบนมือถือ ไม่ว่าคุณเลือกใช้แพลตฟอร์ม MT4, MT5, cTrader หรือ TradingView รวมถึงแพลตฟอร์มการเทรดหุ้น โดย IC Markets ใช้เซิร์ฟเวอร์ Equinix เพื่อช่วยให้การดำเนินการคำสั่งซื้อมีความเร็วสูง ส่วน cTrader ใช้เซิร์ฟเวอร์ LD5 ในลอนดอน ในขณะที่ MT4 และ MT5 ใช้เซิร์ฟเวอร์ NY4 ใน นิวยอร์ก เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพและการดำเนินการที่รวดเร็วที่สุด
แอพเทรดเหล่านี้รองรับการใช้งานทั้งใน iOS และ Android ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการการเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา ผมชื่นชอบที่แอพเวอร์ชันมือถือยังคงมีฟังก์ชันหลักๆ ของเวอร์ชันเดสก์ท็อปให้ใช้งานอย่างครบถ้วน ผมสามารถรับข้อมูลราคาตลาดแบบเรียลไทม์, เครื่องมือกราฟ และฟีเจอร์การจัดการคำสั่งซื้อ ซึ่งทำให้การเทรดบนอุปกรณ์มือถือมีความสะดวกและรวดเร็วอย่างมาก

Trading Platform	Server	Coding Language
MetaTrader 4	NY4 Data Centre	MQL4
MetaTrader 5	NY4 Data Centre	MQL5
cTrader	LD5 Data Centre	cAlgo

เครื่องมือเทรดอื่นๆ

นอกเหนือจากแพลตฟอร์มการเทรดแล้ว IC Markets ยังมีเครื่องมือเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การเทรดของคุณ ตัวเลือกโซเชียลเทรดและการ copy trade รวมถึง ZuluTrade, Signal Start (ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ Myfxbook แต่ตอนนี้เป็นเครื่องมือที่มีสถานะของตัวเอง) และแอพการ copy trade ของโบรกเกอร์เอง (IC Social ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Pelican) เครื่องมือเหล่านี้ทำให้คุณสามารถติดตามและเลียนแบบกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

• Signal Start – ซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้คุณเข้าถึงบริการสัญญาณมืออาชีพกว่า 1,000 รายการ พร้อมตัวเลือกในการติดตามและทำให้สัญญาณทำงานอัตโนมัติผ่านบัญชี MT4 ของคุณ คุณจะพบข้อเสนอที่หลากหลายกลยุทธ์ ตั้งแต่บอทเทรดอัลกอริธึมไปจนถึงวิธีการวิเคราะห์ราคาด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการเลือกกลยุทธ์ที่ตรงกับระดับความเสี่ยงและแนวทางการเทรดของคุณ
• ZuluTrade – อีกหนึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลเทรดและ copy trade ที่คุณสามารถเข้าถึงผ่านบัญชี IC Markets ของคุณคือ ZuluTrade คุณสามารถเลือกจากเทรดเดอร์กว่า 100,000 คนและคัดลอกสัญญาณฟรี นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ZULU RANK ซึ่งจัดอันดับผู้ให้สัญญาณตามประสิทธิภาพรวม ความเป็นมืออาชีพ ความเสถียร ความเสี่ยง และทุนขั้นต่ำที่ต้องการ – ทำให้กระบวนการการ copy trade ของคุณง่ายขึ้น
• IC Social (พัฒนาร่วมกับ Pelican Inc) – นี่คือแอพโซเชียลเทรดของ IC Markets เอง ข้อดีของแพลตฟอร์มนี้คือการรวมโซเชียลเทรดเข้ากับแอปได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องใช้งานแอพภายนอก นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การส่งข้อความทันทีที่ช่วยให้คุณสามารถแชทและแลกเปลี่ยนความคิดกับเทรดเดอร์รายอื่น คุณสามารถโต้ตอบระหว่างโปรไฟล์ ดูผลตอบแทนรายเดือน ความสามารถในการทำกำไร และตลาดที่เทรด

ข้อสรุปเรื่องแพลตฟอร์มเทรด IC Markets

ผมจัดอันดับ IC Markets ให้เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในไทย เนื่องจากการนำเสนอแพลตฟอร์มเทรดยอดนิยมทั้ง 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MT4, MT5, cTrader และ TradingView รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่มีความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยลดเวลาการหน่วง (latency) ให้ต่ำที่สุด เพื่อให้ได้การเทรดมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เยี่ยมชม IC Markets

IC Markets ปลอดภัยไหม?

ใช่ครับ IC Markets ปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ได้คะแนนความปลอดภัย 61 จาก 100 โดยโบรกเกอร์แห่งนี้ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์

การควบคุมดูแล

แม้ว่าเป็นหน่วยงานระดับ tier-3 ซึ่งหมายความว่า โบรกเกอร์นี้ไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเท่า ASIC และ CySEC ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับ tier-1 แต่ด้วยการควบคุมดูแลจาก Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ เทรดเดอร์ชาวไทยเองจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่อย่างแน่นอน

โบรกเกอร์ยังปฏิบัติตามการแยกเงินของลูกค้าเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และข้อบังคับหลักทรัพย์ (การดำเนินธุรกิจ) ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณฝากเงินเข้าบัญชีเทรด เงินของคุณจะถูกเก็บไว้ในบัญชีที่แยกออกจากกันซึ่งบริหารจัดการโดยสถาบันการเงินชั้นนำ

ชื่อเสียงของ IC Markets

IC Markets ได้สร้างชื่อเสียงที่ดีเยี่ยมตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ตลาดในปี 2007 ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ โบรกเกอร์ได้รักษาสถานะที่ดีไว้ ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดจากปริมาณการเทรด โดยมีมูลค่า 1.64 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2024 ด้วยลูกค้าที่ใช้งานอยู่ 200,000 รายทั่วโลกและปริมาณการเทรดมากกว่า 500,000 รายการต่อวัน
IC Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ซึ่งมีการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตสูงถึง 246,000 ครั้งต่อเดือน (ข้อมูลจาก google.com) นี่เป็นเครื่องยืนยันที่ดีถึงความเป็นโบรกเกอร์ระดับโลกถูกยอมรับอย่างกว้างขวาง

คะแนนรีวิว

IC Markets ได้รับคะแนน Trustpilot อยู่ที่ 4.8 จาก 5 จากการรีวิวของลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเก่าจำนวน 41,000 ราย โดย 91% ของลูกค้าให้คะแนน IC Markets 5 ดาว ซึ่งสะท้อนถึงระดับความพึงพอใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ข้อสรุปเรื่องความปลอดภัย IC Markets

ผมคิดว่าโบรกเกอร์นี้เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย โบรกเกอร์ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดจาก FSA-Seychelles หน่วยงานระดับ tier-3 ที่ดูแลเทรดเดอร์ในประเทศไทย และหน่วยงานระดับ tier-1 อย่าง ASIC และ CySEC เป็นต้น

เยี่ยมชม IC Markets

มุมมองและแนวโน้มการเติบโต IC Markets ในไทย

IC Markets เป็นหนึ่งในโบรกกอร์ที่อยู่ในกระแสนิยมอย่างต่อเนื่องจากเทรดเดอร์ชาวไทย เนื่องจาก โบรกเกอร์เสนอการเทรด forex ด้วยเครื่องมือและเงื่อนไขการซื้อขายซึ่งมาพร้อมกับความยืดหยุ่น เหมาะทั้งสำหรับนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ

จากข้อมูลของ Google จะพบว่า IC Markets ถูกใช้เป็นคำค้นหามากถึง 246,000 ครั้งต่อเดือนทั่วโลก (ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2024) ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของโบรกเกอร์นี้ในตลาดฟอเร็กซ์ในระดับสากลได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของผู้ใช้งานและการเข้าชมเว็บไซต์ แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ในประเทศไทยมีการใช้คำค้นหา “IC Markets” มากถึง 8,100 ครั้งต่อเดือน เข้ามาอยู่ในอันดับที่ 8 สำหรับโบรกเกอร์ forex ที่มีการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตมากที่สุดในไทย

สถิติการค้นหา IC Markets บนอินเตอร์เน็ตในแต่ละประเทศ (ค่าเฉลี่ยต่อเดือน ประจำปี 2024)

การฝากเงินและถอนเงิน

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ forex ที่เข้าถึงได้ง่าย โดยมีเงินฝากขั้นต่ำต่ำ และมีช่องทางฝากเงินแบบปราศจากค่าธรรมเนียมให้เลือกหลากหลาย แต่อาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากธนาคารของคุณ เช่น ค่าธรรมเนียมตัวกลาง เป็นต้น

เงินฝากขั้นต่ำ

หากคุณต้องการเปิดบัญชีเทรดของ IC Markets คุณจำเป็นต้องทำการฝากเงินครั้งแรกขั้นต่ำที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (USD $200) ซึ่งเป็นจำนวนที่มือใหม่สามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป

สกุลเงินหลักของบัญชี (Base Account Currencies)

ในการฝากเงิน จะต้องใช้สกุลเงินหลักซึ่งประกอบไปด้วย 10 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, USD, EUR, GBP, SGD, JPY, CHF, NZD, CAD และ HKD เนื่องจากโบรกเกอร์ไม่รองรับสกุลเงินไทยบาท (THB) นั่นหมายความว่า คุณอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน (Conversion Fees) หากคุณฝากหรือถอนเงินในสกุลเงิน THB

ช่องทางฝากเงินและค่าธรรมเนียม

IC Markets เสนอช่องทางการฝากเงินที่ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมมากถึง 19 วิธี ซึ่งรวมถึง:

• E-wallets เช่น PayPal, Neteller
• บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard)
• การโอนผ่านธนาคาร (Bank Transfer)

หมายเหตุ: ช่องทางการฝากเงินที่คุณสามารถใช้ได้จะขึ้นอยู่กับที่อยู่ซึ่งคุณลงทะเบียนไว้

ช่องทางถอนเงินและค่าธรรมเนียม

IC Markets ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงิน แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารในไทยบางธนาคารอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ นี่คือระยะเวลาถอนเงินโดยทั่วไป:

• ระยะเวลาถอนเงิน PayPal / NETELLER / Skrill: ทันที (Instant)
• การโอนผ่านธนาคารภายในประเทศ: 1 วันทำการ
• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต: 3 – 5 วันทำการ

สิ่งที่คุณควรทราบในฐานะเทรดเดอร์ชาวไทยคือ เงินฝากในสกุลไทยบาทของคุณจะถูกแปลงโดยอัตโนมัติ ไปเป็นสกุลเงินหลักของบัญชี และอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ความสะดวกในการเปิดบัญชี

การเปิดบัญชี IC Markets เป็นกระบวนการที่ง่ายและสะดวกมาก คุณเพียงต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

• การกรอก ข้อมูลส่วนตัว
• การทำแบบทดสอบความเหมาะสม (Appropriateness Test)
• การยืนยันตัวตนและที่อยู่อาศัย (ID and Residence Verification)

IC Markets ได้คะแนน 84.4% จากการทดสอบกระบวนการเปิดบัญชีของผม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการมอบประสบการณ์การเริ่มต้นที่ราบรื่นและเป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ

ข้อสรุปเรื่องการชำระเงิน IC Markets

ผมชื่นชม IC Markets ที่ไม่มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ตายตัว ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากเงินและถอนเงิน ทำให้เทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก โบรกเกอร์ยังมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลายซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย และกระบวนการจัดการเงินของโบรกเกอร์ก็ดีเยี่ยม

ความหลากหลายของตลาดการเงิน

โบรกเกอร์นี้นำเสนอ CFDs (Contracts for Differences) ที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงคู่เงิน 61 คู่, หุ้นกว่า 1600 ตัว (รวมถึงตลาด ASX, NYSE, และ NASDAQ), สกุลเงินดิจิทัลไม่ต่ำกว่า 18 สกุล, ดัชนีไม่ต่ำกว่า 25 ตัว, โลหะ 4 ชนิด, สินค้าโภคภัณฑ์พลังงานไม่ต่ำกว่า 5 ชนิด, ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไม่ต่ำกว่า 17 ชนิด, พันธบัตร/ทรัพย์สินของรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 11 ตัว และฟิวเจอร์ส 4 ประเภท ดังนี้

Forex

ในฐานะลูกค้าในประเทศไทย คุณสามารถเทรด Forex ด้วยเลเวอเรจสูงถึง 1000:1 ทั้งในบัญชี Standard และ Raw ซึ่งเลเวอเรจที่สูงนี้อาจเป็นประโยชน์หากคุณเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อยและต้องการเพิ่มทุนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่น้อยและระมัดระวังเสมอเมื่อเทรดด้วยเลเวอเรจ เนื่องจากโอกาสขาดทุนก็สูงเช่นกันเมื่อใช้สัดส่วนที่สูงขนาดนี้

สินค้าโภคภัณฑ์

เมื่อทำการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์บน IC Markets คุณจะพบกับตัวเลือกหลากหลาย ได้แก่ โลหะ 4 ชนิด, ผลิตภัณฑ์พลังงานไม่ต่ำกว่า 5 ชนิด และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไม่ต่ำกว่า 17 ชนิด โดย เลเวอเรจสำหรับโลหะ เช่น ทองคำ, เงิน, แพลตตินัม และพัลลาเดียม เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหรือยูโรจะถูกตั้งไว้ที่ 1000:1 อย่างไรก็ตาม สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เลเวอเรจจะต่ำกว่า โดยมีขีดจำกัดที่ 100:1 สำหรับผลิตภัณฑ์พลังงาน

ดัชนี

ในฐานะเทรดเดอร์ไทย คุณจะสามารถเข้าถึงดัชนีตลาดหุ้นที่มีความนิยมสูงสุดในระดับโลก เช่น ดัชนี S&P200 ของออสเตรเลีย, ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักร, ดัชนี E-mini S&P 500 ของสหรัฐอเมริกา และดัชนีอุตสาหกรรม DJIA ของสหรัฐอเมริกา โดยเลเวอเรจของการเทรดดัชนีจะอยู่ที่ 200:1

สกุลเงินคริปโต

หากคุณรับความความเสี่ยงของการลงทุนได้ โบรกเกอร์นี้เสนอตัวเลือก CFD ของสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย โดยเลเวอเรจสำหรับคู่เงินดิจิทัลเช่น BTCUSD, ETHUSD, LTCUSD และ BCHUSD อยู่ที่ 200:1 หากคุณใช้ MT4/MT5 และลงทะเบียนกับ Raw Trading ในขณะที่เลเวอเรจจะถูกจำกัดที่ 5:1 หากคุณใช้ cTrader หรือ TradingView

หุ้น

คุณสามารถเทรด CFD ของหุ้นได้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ตัวได้บนแพลตฟอร์ม MT5 ของ IC Markets ซึ่งรวมถึงหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีชื่อเสียงเช่น ASX (ออสเตรเลีย), EURONEXT AMSTERDAM (เนเธอร์แลนด์), Xetra (เยอรมนี), LSE (ลอนดอน), NYSE (สหรัฐอเมริกา) และ NASDAQ (สหรัฐอเมริกา) เป็นต้น

พันธบัตร

มีพันธบัตรไม่ต่ำกว่า 9 รายการจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยุโรป และญี่ปุ่นให้คุณในฐานะเทรดเดอร์รายย่อย พันธบัตร CFD ของโบรกเกอร์อิงตามหลักทรัพย์หนี้ที่มีรายได้คงที่ และมีเลเวอเรจถูกจำกัดที่ 200:1

ฟิวเจอร์ส

มีสัญญา CFD ฟิวเจอร์ส ให้เทรดทั้งหมด 4 รายการ คุณสามารถเลือกเทรดระหว่าง ICE Dollar Index Futures, CBOE VIX Index Futures, Brent Crude Oil Futures และ WTI Crude Oil Futures โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน แต่เลเวอเรจถูกจำกัดที่ 200:1

ข้อสรุปเรื่องความหลากลายของตลาด IC Markets

IC Markets นำเสนอทางเลือกการเทรดหลากหลายครอบคลุม ทั้ง CFD ในฟอเร็กซ์, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ โดยการซื้อขายทั้งหมดนี้สามารถเลือกดำเนินการได้จากแพลตฟอร์มการเทรดชั้นนำหลายรายการ

เยี่ยมชม IC Markets

การบริการลูกค้า

ฝ่ายบริการลูกค้าของ IC Markets รองรับลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ แชทสด, อีเมล, โทรศัพท์, และ สื่อสังคมออนไลน์
จากประสบการณ์ของผมกับการบริการลูกค้าของโบรกเกอร์นี้ เจ้าหน้าที่ตอบสนองได้ดีและมีประสิทธิภาพสูง หน้าจอมีปุ่มแชทสดบนเว็บไซต์ ซึ่งทำให้การสลับไปยังการบริการโดยเจ้าหน้าที่จริง และแน่นอนว่า โบรกเกอร์มีเจ้าหน้าที่คนไทยที่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่อีกด้วย

ข้อสรุปเรื่องการบริการลูกค้า IC Markets

ผมพบว่าฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ IC Markets น่าประทับใจมาก เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ การขอรับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บริการแชทสดเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ผ่านช่องทางที่หลากหลาย รวมถึงอีเมลและโทรศัพท์

พอร์ทัลการวิจัยและการศึกษา IC Markets

IC Markets เสนอพอร์ทัลการวิจัยและการสนับสนุนต่างๆ เมื่อคุณต้องทำการเทรดฟอเร็กซ์ รวมถึง:

• บล็อกที่ให้การวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิค
• เนื้อหาจากบุคคลที่สาม รวมถึง Trading Central
• ปฏิทินเศรษฐกิจ
• ข่าวสารจาก Myfxbook
• การเทรดคัดลอกทางสังคมผ่าน ZuluTrade
• เครื่องมือการเทรดขั้นสูงจาก FX Blue LLP

อย่างไรก็ตาม ผมยังพบว่าโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์นี้ยังไม่มีฟีเจอร์การวิจัยขั้นสูง เช่น การแสดงข่าวสารใหม่ หรือเครื่องมือการรู้จำรูปแบบการซื้อขาย เป็นต้น

IC Your Trade

IC Markets ได้เปิดตัวชุดพอดแคสต์ที่พูดถึงเหตุการณ์ปัจจุบันและโอกาสรวมถึงปัญหาต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อตลาด ข้อมูลเหล่านี้มาจากการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าแก่เทรดเดอร์ในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล

ข้อสรุปส่วนการศึกษา IC Markets

IC Markets เสนอเครื่องมือการวิจัยหลายรูปแบบ เช่น การวิเคราะห์, ปฏิทินเศรษฐกิจ, พอดแคสต์ และการเทรดคัดลอกทางสังคม แต่ยังขาดคุณสมบัติการวิจัยที่ลึกซึ้งบางประการเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ

เยี่ยมชม IC Markets

ข้อสรุป: IC Markets ในไทย 2025

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่กำลังมองหาสเปรดและค่าธรรมเนียมต่ำ จากการทดสอบเทรดกับ IC Markets ของผม พบว่า สเปรด EUR/USD โดยเฉลี่ยของโบรกเกอร์อยู่ที่ 0.82 pips เป็นสเปรดซึ่งต่ำที่สุดสำหรับบัญชีมาตรฐานทั่วโลก
และด้วยตัวเลือกแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่หลากหลาย ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader และ TradingView โบรกเกอร์นี้จึงเหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์ระดับกลางหรือผู้เชี่ยวชาญ

เยี่ยมชม IC Markets