Axi ดีไหม: รีวิวเชิงลึกเกี่ยวกับโบรกเกอร์ Axi

ค่าธรรมเนียมการเทรด

สิ่งที่ผมพบคือ โครงสร้างค่าธรรมเนียมของ Axi ช่วยให้คุณสามารถเลือกโครงสร้างต้นทุนที่เหมาะกับความถี่และสไตล์การเทรดของคุณได้ง่ายๆ โดยคุณสามารถเลือกเทรดได้ระหว่างแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่นแต่จะมีสเปรดกว้าง หรือแบบที่ให้คุณเข้าถึงสเปรดจริง (Raw Spread) ที่แคบกว่า

ด้านล่างนี้คือผลการทดสอบและความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเทรดของ Axi ในบัญชีทั้ง 3 ประเภท

สเปรดในบัญชี Standard ของ Axi

บัญชี Standard ของ Axi เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางที่ต้องการโครงสร้างราคาที่เรียบง่ายโดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ปกติแล้วค่าสเปรดแต่ละโบรกเกอร์จะแตกต่างกัน และตามที่ Axi ระบุไว้ สเปรดของบัญชี Standard จะเริ่มต้นที่ 0.80 pip อย่างไรก็ตาม จากผลการทดสอบจริงของผมกลับไม่เป็นเช่นนั้น

Ross Collins หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านเทคนิคของเรา ได้บันทึกข้อมูลสเปรดเฉลี่ยของ Axi ผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 เพื่อให้ได้ข้อมูลจากการใช้งานจริง

หากอ้างอิงจากผลลัพธ์ คุณจะพบว่า Axi มีสเปรดเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเล็กน้อยในคู่เงิน EUR/USD โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.45 pip (เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 1.11 pip)

โปรดทราบว่า บัญชี Standard จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากคุณไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น ดังนั้นต้นทุนการเทรดทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ $14.50 ต่อ 1 ล็อตที่ทำการเทรด ซึ่งผมถือว่าแพงกว่าบัญชี Premium และ Elite อย่างมีนัยสำคัญ

สเปรดในบัญชี Axi Premium

บัญชี Premium ต้องการเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าบัญชี Standard (ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ) แต่ข้อดีของบัญชีนี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า ผ่านการกำหนดราคาแบบ STP ซึ่งเชื่อมต่อกับสเปรดจริงจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง และเรียกเก็บค่าคอมมิชชันต่อการเทรดแทนนั่นเอง

จากการทดสอบของผม บัญชี Premium มีสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 0.43 pips สำหรับคู่ EUR/USD ซึ่งต่ำกว่าบัญชี Standard ถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับบัญชี RAW Spread ของโบรกเกอร์อื่น

อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ Axi ยังคงมีสเปรดที่สูงกว่าเล็กน้อยสำหรับ EUR/USD และคู่เงินหลักอื่น ๆ

ค่าคอมมิชชั่นบัญชี Axi Premium

ค่าคอมมิชชั่นสำหรับบัญชี Premium เริ่มต้นที่ 3.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ล็อตที่เทรด หรือคิดเป็น 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อการเทรดหนึ่งรอบ (เข้าและออก) และเมื่อลองทำการเปรียบเทียบบัญชี Premium กับบัญชี Standard คุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

โดยบัญชี Premium จะมีค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ค่าคอมมิชชั่น + สเปรด) ทั้งหมด 11.30 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 1 ล็อต ซึ่งถูกกว่าบัญชี Standard ที่มีค่าใช้จ่ายรวม 14.50 ดอลลาร์สหรัฐ ถึง 22%

สเปรดในบัญชี Axi Elite

สำหรับบัญชี Elite คุณต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สามารถเข้าถึงค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำที่สุดของ Axi ได้

จากการทดสอบช่วงเวลาที่มีสเปรดเป็นศูนย์ (Zero pip spread) ของคู่เงิน EUR/USD ของผม พบว่า Axi แสดงสเปรดเป็นศูนย์ 100% ของเวลาที่ทดสอบ (ยกเว้นช่วงเวลาที่เกิด rollover)

ซึ่งสเปรด 0 pip นี้เองที่ทำให้บัญชี Elite เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงเนื่องจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากในระยะยาว

ค่าคอมมิชชั่นในบัญชี Axi Elite

หนึ่งในข้อดีของบัญชี Elite คือโครงสร้างค่าคอมมิชชั่นที่ลดลงถึง 50% เหลือเพียง 1.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ล็อต เมื่อเทียบกับผลการทดสอบในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์ คุณจะพบว่า โบรกเกอร์ Axi Elite ถือว่าเป็นตัวเลือกที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำที่สุดสำหรับนักเทรดชาวไทยในปี 2025

จากการทดสอบของเรา เมื่อรวมค่าคอมมิชชั่นและสเปรดแล้ว บัญชี Elite ก็ยังเป็นบัญชีที่มีต้นทุนรวมต่ำที่สุดอย่างชัดเจน โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวมสำหรับคู่เงิน EUR/USD อยู่ที่ 3.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ล็อต ซึ่งถูกกว่าบัญชี Premium ถึง 73%

บัญชีเทรดแบบปลอดสว็อป (Swap-Free Trading Accounts)

บัญชีประเภทนี้จะช่วยให้คุณเทรดได้โดยปราศจากค่าสว็อป (swap) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ค่าธรรมเนียมค่าดอกเบี้ยข้ามคืน (overnight fees)

คุณสามารถขอใช้บัญชีนี้ได้ในทุกประเภทบัญชีของ Axi แต่บัญชีเหล่านี้จำกัดให้เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น และหากต้องการเปิดบัญชี Swap-Free คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหรือเลือกได้ด้วยตัวเองในขั้นตอนการสมัคร

บัญชีทดลอง (Axi Demo Account)

จากการทดลองใช้งานจริง ผมพบว่าคุณสามารถเลือกใช้บัญชีทดลองได้ในทุกประเภทบัญชีที่ Axi มีให้ โดยบัญชีทดลองนี้จะมีระยะเวลาหมดอายุ 30 วัน พร้อมเงินทุนเสมือนเพื่อทดลองสภาพการเทรด เริ่มต้นที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐบนแพลตฟอร์มของ Axi และสูงสุดที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐบน MT4

สรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเทรด forex ของโบรกเกอร์ Axi

ด้วยสเปรดที่แข่งขันได้ในบัญชี Premium และ Elite ที่มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมที่จัดอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายใหญ่รายอื่น ๆ ผมจึงยกให้ Axi เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีคะแนนสูงในส่วนนี้

โดยบัญชีที่คุ้มค่าที่สุดคือบัญชี Premium ซึ่งมีสเปรดที่แคบและค่าคอมมิชชั่นต่ำกว่า ช่วยให้คุณประหยัดได้เฉลี่ย 22% เมื่อเทียบกับบัญชี Standard

อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำว่าบัญชี Elite นั้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด หากคุณต้องการใช้งานนบัญชีที่มีต้นทุนการเทรดต่ำที่สุดสำหรับนักเทรดชาวไทย แต่อาจต้องแลกมาด้วยเงินฝากเริ่มต้นที่สูงกว่าบัญชีประเภทอื่นนั่นเอง

แพลตฟอร์มการซื้อขายของ Axi

ในปี 2025 Axi ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเทรดเพื่อให้ตอบสนองต่อเทรดเดอร์ให้มากขึ้น นอกจาก MetaTrader 4 แล้ว พวกเขายังเพิ่มตัวเลือกอื่น ๆ เช่น MetaTrader 5 และแพลตฟอร์ม Axi Trading Platform ของตัวเองเข้ามาด้วย

แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มการเทรดไหนดี? ทีมงาน CompareForexBrokers ได้พัฒนาเครื่องมือช่วยเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณโดยเฉพาะ เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมให้คุณได้ง่ายๆ จากการตอบคำถามเพียง 5 ข้อลองใช้งานด้านล่างนี้ได้เลย!

Axi Trading Platform (แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์)

แพลตฟอร์มการเทรดของ Axi เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาเองและใช้งานผ่านเว็บ คุณสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มนี้ได้จากทุกอุปกรณ์ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมเหมือนกับ MT4 และ MT5

ด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและเน้นไปที่กราฟราคาโดยไม่มีสิ่งรบกวนมาก Axi Trading Platform จึงเหมาะสำหรับทั้งมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเทรดและเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์

หลังจากที่ผมได้ลองใช้งาน พบว่าแพลตฟอร์มของ Axi ใช้กราฟจาก TradingView ซึ่งเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นอย่างยิ่ง ช่วยคุณสามารถเข้าถึงตัวชี้วัด (Indicators) กว่า 100 รายการ รวมถึงตัวชี้วัดยอดนิยมอย่าง Bollinger Bands ที่ช่วยสำหรับการเทรดแบบ breakout

ดังนั้น แพลตฟอร์ม Axi จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ ถ้าคุณต้องการแพลตฟอร์มพื้นฐานที่เน้นการวิเคราะห์ราคาหลัก แต่หากต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การเทรดอัตโนมัติ หรือราคาระดับ Level II คุณอาจจะต้องใช้แพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ของ Axi แทน

MetaTrader 4 (MT4)

MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มที่ผมประทับใจมาก เพราะสามารถใช้งานร่วมกับทุกประเภทบัญชีของ Axi และสามารถดาวน์โหลดเพื่อติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปได้อย่างง่ายดาย

แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคมากกว่า 30 รายการ และเครื่องมือวาดกราฟมากกว่า 20 รายการ ซึ่งถือเป็นชุดเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังสำหรับการเทรด forex

หนึ่งในจุดเด่นของ MT4 คือความสามารถในการเทรดอัตโนมัติผ่านฟีเจอร์ Expert Advisors (EAs) โดยคุณสามารถเขียนโปรแกรมขึ้นเองด้วยภาษา MQL4 (หรือจ้างผู้อื่นเขียนให้) และสามารถปรับแต่งตามกลยุทธ์การเทรดของคุณได้อย่างยืดหยุ่น

หมายเหตุ:
MetaTrader 4 รองรับตลาดการเงินน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น เนื่องจากโครงสร้างของ MT4 ไม่สามารถรองรับการแสดงราคาของหุ้นของ CFDs ได้ หากคุณต้องการเทรดหุ้น CFD พร้อมใช้ฟีเจอร์ของ MetaTrader ผมแนะนำให้เลือกใช้ MetaTrader 5 (MT5) แทน

MetaTrader 5

MetaTrader 5 มาพร้อมกับฟีเจอร์ทันสมัยที่ MT4 ไม่มี ช่วยยกระดับประสบการณ์การเทรดอย่างรอบด้าน แม้คุณจะคุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซของ MT4 ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะผู้พัฒนา (MetaQuotes) ยังคงรักษารูปแบบการใช้งานเดิมไว้

การอัปเกรดใน MT5 ประกอบด้วยอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคในตัวมากกว่า 38 รายการ พร้อมฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง Depth of Market (DoM) และ ปฏิทินเศรษฐกิจในตัว ที่ช่วยให้คุณสามารถเห็นข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เช่น รายงาน Non-farm Payrolls ได้โดยตรงบนกราฟ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้งานระบบเทรดอัตโนมัติผ่าน Expert Advisors (EAs) ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นและความความหน่วง (latency) ที่น้อยลง พร้อมทั้งเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณอีกด้วย

แอป Copy Trading ของ Axi

นอกจากที่คุณจะสามารถตั้งค่าการคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ผ่าน MT4 และ MT5 โดยใช้บริการจากบุคคลที่สาม เช่น MetaQuotes Signal โบรกเกอร์ Axi ยังมีตัวเลือกอื่น เช่น แอป Copy Trading ของตัวเอง

แอปนี้เกิดจากความร่วมมือกับ Pelican Exchange Ltd เพื่อเปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงเครือข่ายผู้ให้สัญญาณได้มากกว่า 5,000 ราย ทั้งในตลาดดัชนี ฟอเร็กซ์ และสินค้าโภคภัณฑ์

จากการทดสอบของผม แอป Copy Trading ของ Axi นั้นใช้งานง่ายและแสดงข้อมูลผลการเทรดอย่างชัดเจน ช่วยให้คุณสามารถดูสถิติและประวัติการเทรดของนักให้สัญญาณแต่ละราย เพื่อเลือกผู้ให้สัญญาณที่ตรงตามมาตรฐานหรือกลยุทธ์ที่คุณต้องการได้อย่างมั่นใจ

สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดของ Axi

สำหรับผมแล้ว Axi มอบทางเลือกของแพลตฟอร์มเทรดที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การเทรด หากคุณต้องการความเรียบง่ายและกราฟคุณภาพสูง Axi Trading Platform คือตัวเลือกที่ดี แม้จะมีฟีเจอร์ไม่มากนัก

ในขณะที่ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดแบบอัตโนมัติและปรับแต่งกลยุทธ์ได้อย่างอิสระ พร้อมทั้งใช้อินดิเคเตอร์ที่กำหนดเองได้ ร่วมกับฟีเจอร์ขั้นสูงที่ช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์การเทรดแบบเฉพาะตัวได้อย่างเต็มที่

Axi ปลอดภัยหรือไม่?

โบรกเกอร์ Axi ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ Forex ที่มีความปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือจากทีมงานของเราถึง 57 จาก 100 คะแนน เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานการเงินชั้นนำหลายแห่ง รวมถึง Financial Services Authority (FSA) ในประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์

Trust Score

0

regulation

0

reputation

0

reviews

0

ใบอนุญาตและการกำกับดูแล

ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier-1 ระดับโลกหลายหน่วยงาน แสดงให้เห็นว่า Axi เป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพและปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในระดับสูงสุด

และสำหรับนักเทรดชาวไทย บัญชีของคุณจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FSA ซึ่งมีกฎระเบียบที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องเงินทุนของลูกค้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น

• การแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าออกจากบัญชีดำเนินงานของบริษัท (Mandatory Segregation)
• การป้องกันยอดคงเหลือติดลบสำหรับลูกค้ารายย่อย (Negative Balance Protection)
• การจัดเก็บเงินผ่านธนาคารผู้รับฝาก (Custodian Bank) ที่มีความมั่นคงสูง

นอกจากนี้ ด้วยข้อกำหนดของ FSA ยังทำให้คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:1000 อีกด้วย

ชื่อเสียง (Reputation)

Axi ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2007 โดยสมาชิกมากกว่า 60,000 ราย จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัท Axi มียอดปริมาณการซื้อขายรวม (Trading Volume) สูงถึง 2.53 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในปีงบประมาณ 2023 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในฐานะหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำของโลก

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังเป็นที่นิยมในไทย ด้วยยอดค้นหาบน google.co.th มากถึง 4400 ครั้งต่อเดือน จัดเป็นโบรกเกอร์ในอันดับที่ 11 ที่เทรดเดอร์ไทยค้นหามากที่สุดในปี 2025

รีวิว Axi บน Trustpilot

นอกจากการทดลองใช้งานจริง ผมได้ลองสำรวจความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงบน Trustpilot และพบว่า Axi ได้รับรีวิวมากกว่า 4,080 รายการ ด้วยคะแนนในระดับ “ยอดเยี่ยม” (Excellent) ที่ 4.4 จาก 5 คะแนน

สิ่งที่น่าประทับใจคือ มีผู้ให้คะแนน 5 ดาวถึง 74% ขณะที่มีเพียง 9% เท่านั้น ที่ให้คะแนน 1 ดาว เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นที่ผมเคยทดสอบ Axi ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีคะแนน Trustpilot สูงที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย

สรุปเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Axi

Axi แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในระดับสูง ด้วยการถือใบอนุญาตจากหลากหลายหน่วยงานกำกับดูแล ตั้งแต่หน่วยงาน Teir 1 อย่าง ASIC ไปจนถึง Teir 3 อย่าง FSA รวมถึงได้รับคะแนนรีวิวในระดับสูงจาก Trustpilot

นอกจากนี้ การที่บริษัทดำเนินกิจการมานานกว่า 18 ปี ยังเป็นข้อพิสูจน์ว่า Axi ไม่เพียงแค่ให้ความคุ้มครองด้านความปลอดภัย แต่ยังมอบสภาพแวดล้อมในการเทรดที่มีคุณภาพให้กับนักเทรดทั่วโลก รวมถึงชาวไทยอีกด้วย

ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน

ด้านล่างนี้คือข้อมูลค่าธรรมเนียมและตัวเลือกการฝากถอนเงินสำหรับเทรดเดอร์ไทยที่ต้องการเปิดบัญชีเทรดกับ Axi ในปี 2025 นี้

ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ สำหรับเปิดบัญชี Axi 2025

แม้ว่า Axi จะไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำในการเปิดบัญชีบัญชี Standard แต่บัญชีประเภทอื่นก็จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงช่องทางการฝากเงินแต่ละแบบก็จะมีข้อกำหนดแและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไปด้วย

ยกตัวอย่างเช่น

• ฝากด้วยบัตรเดบิต กำหนดขั้นต่ำที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐ
• ฝากด้วยสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) กำหนดขั้นต่ำที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐ
• ฝากผ่าน 1-2-Pay กำหนดขั้นต่ำที่ 500 บาทไทย

สกุลเงินพื้นฐานของบัญชีเทรด Axi

Axi รองรับสกุลเงินพื้นฐานทั้งหมด 11 สกุลเงิน แต่ตามค่าเริ่มต้น สกุลเงินพื้นฐานสำหรับบัญชีของ Axi คือ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) และยังไม่มีตัวเลือกบัญชีที่ใช้สกุลเงินบาท (THB) เป็นสกุลเงินพื้นฐานในขณะนี้

นี่คือรายชื่อสกุลเงินพื้นฐานทั้งหมด 11 สกุล

• USD
• EUR
• GBP
• AUD
• CAD
• CHF
• HKD
• JPY
• NZD
• PLN
• SGD

จากประสบการณ์ของผม การฝากเงินเข้าบัญชีเทรดด้วยสกุลเงิน USD เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินได้ดีที่สุด

ตัวเลือกการฝากเงินและค่าธรรมเนียม

Axi มีตัวเลือกการฝากเงินหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกใช้ตามความสะดวก แต่ผมพบว่าระบบพร้อมเพย์เป็นตัวเลือกที่สะดวกและมีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่น้อยที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การโอนเงินผ่านธนาคาร, ระบบ 1-2 Pay, การชำระด้วยบัตร Visa/Mastercard รวมถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) เช่น PayPal, Neteller และ Skrill หรือการฝากเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เป็นต้น

จากการทดลองฝากเงินเข้าบัญชีด้วยตัวเอง ผมพบว่า Axi ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน เพียงแต่มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยจากธนาคารสำหรับการแปลงสกุลเงินบาท (THB) เป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) ลองดูตัวอย่างรายละเอียดการชำระเงินจากข้อมูลด้านล่างนี้

ตัวเลือกการถอนเงินและค่าธรรมเนียม

ตัวเลือกการถอนเงินจะเหมือนกับวิธีการฝากเงินที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ แตกต่างตรงที่ Axi กำหนดขั้นต่ำในการถอนเงินที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ หากคุณถอนเงินต่ำกว่านี้ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการจัดการ (administration fee) จำนวน 25 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าถอนตั้งแต่ 50 ดอลลาร์ขึ้นไป หรือถอนเต็มยอดเงินคงเหลือ ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกยกเว้น

นอกจากนี้ คุณอาจถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการภายนอก เช่น ค่าธรรมเนียมจากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) หรือค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านธนาคาร รวมถึงค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินจาก USD เป็น THB ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ให้บริการที่คุณเลือกใช้งาน

ส่วนระยะเวลาการดำเนินการถอนเงินจาก Axi ค่อนข้างรวดเร็ว โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการสำหรับวิธีการส่วนใหญ่

สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมฝากถอนของ Axi

สำหรับผมแล้ว ตัวเลือกการฝากและถอนเงินของ Axi มีความหลากหลายและตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดี คุณสามารถเลือกผู้ให้บริการชำระเงินที่เหมาะกับประเทศไทยได้อย่างง่ายดาย

ที่น่าสังเกตุคือ Axi จะมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25 ดอลลาร์สหรัฐ หากคุณถอนเงินต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ ซึ่งส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบจุดนี้นัก หากเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินแต่อย่างใด

เยี่ยมชม Axi

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของโบรกเกอร์ Axi

Axi รองรับตลาด CFD มากกว่า 490 รายการ ครอบคลุม 6 ประเภทสินทรัพย์หลัก ได้แก่ ฟอเร็กซ์, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้นของ CFD, สกุลเงินดิจิทัล และ ETF จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทั้งการเทรดระยะสั้นการเทรดแบบ scalping และการเทรดแบบสวิง นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 สำหรับตลาดหลักอีกด้วย

หมายเหตุ เลเวอเรจนี้จะถูกปรับลดลงตามสภาพสภาพคล่องและระดับความเสี่ยงของแต่ละตลาด

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ (Forex Pairs)

คุณสามารถเลือกเทรดฟอเร็กซ์ได้มากถึง 72 คู่ ครอบคลุมทั้งคู่หลัก (major), คู่รอง (minor) และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ (exotic) ด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 สำหรับตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเทรดตลาดที่มีสภาพคล่องสูงอย่าง EUR/USD หรือคู่ที่มีความผันผวนสูงอย่าง USD/THB ได้เป็นอย่างดี

ดัชนี (Indices)

Axi มีดัชนีระดับโลกให้เลือกเทรดมากกว่า 30 ตัว ครอบคลุมทั้งตลาดเอเชีย เช่น Nikkei 225 และ Hang Seng และดัชนีจากสหรัฐฯ และอังกฤษด้วย ที่สำคัญ คุณสามารถใช้เลเวอเรจสำหรับดัชนีได้สูงสุดถึง 1:200 ในตลาดอย่าง S&P 500 และ NASDAQ

สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)

หากคุณสนใจสินค้าโภคภัณฑ์ ผมต้องบอกเลยว่า Axi ก็มีตัวเลือกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่น้อยหน้าใคร ด้วยตลากมากกว่า 20 รายการ ครอบคลุมทั้งการเทรดทองคำ, เงิน, พลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์นุ่ม (soft commodities) เช่น น้ำตาลและกาแฟ

หมายเหตุ ทองคำและเงินมีเลเวอเรจสูงสุด 1:1000 ในขณะที่สินค้าด้านพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์นุ่มมีเลเวอเรจสูงสุด 1:100

หุ้นของ CFD (Share CFDs)

Axi มีหุ้นของ CFD ให้เลือกเทรดมากกว่า 100 รายการจากตลาดหุ้นใหญ่ทั่วโลก เช่น NYSE, NASDAQ, London Stock Exchange, ตลาดยุโรป และตลาดเอเชีย โดยเลเวอเรจสำหรับหุ้นของ CFD จะมีค่าต่ำกว่าฟอเร็กซ์และสินค้าโภคภัณฑ์ สูงสุดที่ 1:20 สำหรับบริษัทขนาดใหญ่

ตัวอย่างกลุ่มหุ้นน่าสนใจ เช่น คุณสามารถเทรดหุ้นกลุ่ม FAANG (Facebook, Apple, Amazon, Netflix, Google) และ Tesla

คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)

เนื่องจากตลาดคริปโตยังใหม่อยู่ Axi จึงมีคริปโตของ CFD คริปโตเพียง 11 คู่เท่านั้น ซึ่งรวมถึง เหรียญหลักอย่าง Bitcoin และ Ripple เป็นต้น

จุดเด่นของ Axi คือ คุณสามารถเทรดคริปโตในสภาพแวดล้อมที่มีการกำกับดูแลได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีในตลาดคริปโตโดยตรง และยังใช้เลเวอเรจได้สูงสุดถึง 1:200 สำหรับ Bitcoin และ 1:50 สำหรับคริปโตคู่เล็กอื่น ๆ

สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเทรดของ Axi

โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่า Axi ไม่ได้เป็นโบรกเกอร์ที่มีตลาดการเงินมากนัก หากเทียบกับบรรดาโบรกเกอร์ที่ผมเคยทดสอบ แต่ก็ครอบคลุมครบทุกประเภทสินทรัพย์สำคัญที่จำเป็น ทำให้ง่ายต่อการกระจายความเสี่ยงไปยังหลายตลาด

นอกจากนี้ เทรดเดอร์ชาวไทยยังสามารถเข้าถึงตลาดที่มีความจำเพราะ เช่น ตลาดการเงินในเอเชีย รวมทั้ง ใช้เลเวอเรจสูงสุด 1:1000 ในการเทรดฟอเร็กซ์ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญหากคุณต้องการเพิ่มขนาดการเทรดด้วยต้นทุนต่ำ

ฝ่ายบริการลูกค้า Axi

Axi ให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ผ่านช่องทาง Live Chat โดยเริ่มต้นที่บอท หรือกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อเริ่มแชทกับเจ้าหน้าที่จริง นอกจากนี้ คุณยังสามารถขอรับบริการจากเจ้าหน้าที่ชาวไทยได้อีกด้วย

จากประสบการณ์ของผม ทีมซัพพอร์ตของ Axi มีความรู้และให้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน โดยผมได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องเลเวอเรจ, คู่สกุลเงิน และการตั้งค่า MT5 ซึ่งพวกเขาก็ตอบกลับได้อย่างรวดเร็วและละเอียดครบถ้วน

นอกจากแชทสด Axi ยังมีช่องทางอื่น ๆ ให้ลูกค้าชาวไทยได้เลือกใช้งาน เช่น

• WhatsApp – ตอบกลับทันที
• Line App – ตอบกลับทันที และเป็นที่นิยมสำหรับคนไทย
• อีเมล – เหมาะสำหรับคำถามที่ไม่เร่งด่วน ตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง
• บริการติดต่อกลับ – ผ่านกรอกแบบฟอร์มขอความช่วยเหลือ และแจ้งช่องทางที่สะดวกให้ติดต่อกลับ แต่อาจต้องรอการติดต่อกลับค่อนข้างนาน

ความสะดวกในการเปิดบัญชีเทรดของ Axi

ผมพบว่ากระบวนการเปิดบัญชีที่ Axi นั้นเป็นไปอย่างง่ายดายและชัดเจน ผ่านช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ 100% และรองรับภาษาไทย พร้อมทั้งมีทีมงานดูแลลูกค้าคอยช่วยเหลือในทันทีที่ประสบปัญหา

โดยคุณจะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว, การเงิน และประสบการณ์การเทรดของคุณ ซึ่งเป็นข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ เพื่อให้มั่นใจว่าการเทรดนั้นเหมาะสมและเหมาะกับคุณ

นอกจากนี้ คุณยังต้องส่งเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง รวมถึงหลักฐานที่อยู่ เพื่อยืนยันบัญชีของคุณอีกด้วย อ้างอิงจากการตรวจสอบและยืนยันใบสมัครของผม โบรกเกอร์ใช้เวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับเวลาที่สมัคร) ซึ่งถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

สรุปเกี่ยวกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Axi

ผมให้คะแนนฝ่านสนับสนุนลูกค้าของ Axi ในระดับที่น่าพึ่งพอใจอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของ ความรวดเร็วและความชัดเจนของคำตอบ เจ้าหน้าที่ของ Axi เป็นคนจริงที่ตอบทันทีผ่าน Live Chat ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ Axi ยังมีช่องทางอื่นให้เลือกอีกหลากหลาย และทุกช่องทางสามารถใช้ภาษาไทยในการติดต่อสื่อสารได้

พอร์ทัลการศึกษาและการวิจัย Axi

ถือว่าทำได้เกินกว่าที่ผมคาดไว้สำหรับเนื้อหาในด้านการศึกษาของ Axi โดยเนื้อหาเหล่านี้เป็นบทความแบบข้อความ (text-based) ที่ช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกและภาพประกอบบางส่วนเพื่อช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ส่วนของการวิจัย อาจเป็นสิ่งที่พวกเขายังต้องพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต

ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เลื่อนลงเพื่ออ่านเพิ่มเติม!

เนื้อหาด้านการศึกษา (Educational Material)

คุณอาจไม่พบเนื้อหาการเรียนรู้ในแท็ปเมนูทั่วไป เพราะ Axi ซ่อนเนื้อหาการเรียนรู้ไว้ในหน้า “Axi Blog” ซึ่งจะพบเมื่อคุณกดที่ปุ่ม “เรียนรู้การเทรด” เสียก่อน

บทความในส่วนนี้มีความหลากหลายและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น วิธีเทรดทอง หรือการทำความเข้าใจความผันผวนของคู่สกุลเงินต่าง ๆ

นอกจากนี้ Axi ยังมีวิดีโอสอนการใช้งาน MetaTrader 4 สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้แพลตฟอร์มนี้มาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ดี เพราะวีดีโอเหล่านี้ช่วยให้มือใหม่สามารถทำเข้าใจการตั้งค่าพื้นฐานได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกเองทั้งหมด

การวิเคราะห์ตลาดและการวิจัย

จากการทดสอบของผม Axi ไม่ได้มีบริการวิเคราะห์ตลาดที่จัดทำขึ้นเองภายในบริษัท แต่เลือกใช้แหล่งข้อมูลจากบุคคลที่สาม เช่น Autochartist และ Trading Central แทน ซึ่งทั้งสองเป็นบริการมืออาชีพระดับแนวหน้า ที่ให้แนวคิดการเทรดรายวันในกลุ่มดัชนี ฟอเร็กซ์ และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยใช้รูปแบบกราฟและการวิเคราะห์ราคาด้วย Price Action

• Autochartist ให้บริการในรูปแบบปลั๊กอินสำหรับแพลตฟอร์ม MT4 ทำให้คุณรับสัญญาณแบบเรียลไทม์จากผู้ให้บริการได้โดยตรงบนกราฟของคุณ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดรายวัน เนื่องจาก คุณจะได้รับแนวคิดการเทรดมากกว่า 50 รายการต่อวัน
• Trading Central ก็มีปลั๊กอินสำหรับ MetaTrader 4 เช่นกัน โดยมาพร้อมกับเครื่องมือ TC Alpha Generation เพื่อช่วยค้นหาโอกาสในการเทรด โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์ของนักวิเคราะห์จาก Trading Central

สรุปเกี่ยวกับแหล่งความรู้และทรัพยากรด้านการศึกษา Axi

ผมชอบส่วนของเนื้อหาการศึกษาที่ Axi ที่ครอบคลุมหลายหัวข้อ แต่ผมรู้สึกว่ามันยังขาดความหลากหลาย เพราะมีแค่บทเรียนแบบข้อความเท่านั้น

ส่วนการนำเสนอบริการวิเคราะห์ตลาดจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง Autochartist และ Trading Central ถือเป็นข้อดีที่สำคัญ เพราะช่วยให้การวิเคราะห์และการลงมือเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ผมก็ยังอยากเห็นการเพิ่มเติมตัวเลือกในส่วนนี้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในอนาคต

สรุป รีวิว Axi คุ้มค่าหรือไม่ 2025

Axi เป็นตัวเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025 แม้ว่าจะรองรับผลิตภัฑณ์ทางการเงินเพียงหลายร้อยรายการเท่านั้น

แต่ด้วยสภาพการเทรดที่ดีเยี่ยมผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MT5 ที่มาพร้อมกับตัวเลือกเสริมความแข็งแกร่งอย่างเครื่องมือวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ เช่น Autochartist และ Trading Central ที่ช่วยให้การเทรดรายวันของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนด้านต้นทุนการเทรด ผมยังมองว่าโบรกเกอร์ Axi ยังในระดับปานกลางเท่านั้น อย่างไรก็ดี หากคุณเลือกบัญชี Premium คุณจะได้ประหยัดค่าธรรมเนียมการเทรดถึง 22% เมื่อเทียบกับบัญชี Standard ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย เมื่อพิจารณาร่วมกับความเร็วในการส่งคำสั่งแบบ STP ที่ช่วยยกระดับคุณภาพของสภาพแวดล้อมการเทรด

เยี่ยมชม Axi