สุดยอด cfd broker ในไทย สำหรับปี 2025

ตามความเห็นของผม ฟีเจอร์ที่ทำให้ Exness เป็นโบรกเกอร์ CFD ชั้นนำ คือ ข้อเสนอประเภทบัญชีการเทรดที่หลากหลายถึง 5 ประเภท โดยบัญชี Zero จะให้สเปรด 0 pip สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด และความโดดเด่นของบัญชี Pro ที่มีการประมวลผลคำสั่งทันทีโดยไม่มีค่าคอมมิชชัน

เงื่อนไขการเทรดของ Exness เสนอลเวอเรจถึง 1:ไม่จำกัด และการเทรดแบบไม่มีสวอปสำหรับ CFD ของคริปโตเคอเรนซี และหากคุณสนใจการเทรดโลหะมีค่า คุณจะพบสเปรดที่แข่งขันได้สำหรับการเทรด CFD ของทองคำ

Exness มีบัญชีการเทรดให้เลือกถึง 5 ประเภท ทำให้กลายเป็นโบรกเกอร์ที่รองรับเทรดเดอร์ได้ทุกระดับ นี่คือรายละเอียดของบัญชีประเภทต่างๆ

บัญชี Exness Standard

• Standard ให้คุณเทรดโดยฟรีค่าคอมมิชชัน และสเปรด Forex เริ่มต้นที่ 0.2 pip ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่ง นี่คือบัญชีที่ผมอยากแนะนำหากคุณเป็นมือใหม่ในการเทรด
• Standard Cent เป็นบัญชีที่ใช้ในการเทรดได้ในมูลค่าน้อย ไม่ว่าจะในสินทรัพย์อย่างเทรดฟอเร็กซ์หรือโลหะมีค่า สเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pip หากคุณพึ่งก้าวข้ามมาจากบัญชีทดลองและต้องการเทรดด้วยเงินทุนจำนวนน้อยก่อน บัญชีนี้คือทางเลือกที่น่าสนใจ

บัญชี Exness Professional

• Pro แม้ว่าจะเป็นบัญชีประเภท Professional แต่บัญชีประเภทนี้ให้การประมวลผลคำสั่งทันที ไม่มีการร้องขอใหม่ ทำให้เหมาะสำหรับการควบคุมทุกการเทรด สเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pip
• Zero เสนอสเปรด 0 pip สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด ค่าคอมมิชชันเริ่มต้นที่ $3.50 ต่อล็อต แต่สามารถสูงขึ้นได้อีกสำหรับการซื้อขายบางรายการ การเทรดจะเป็นการประมวลผลคำสั่งทันที ยกเว้นคริปโตเคอเรนซีที่มีการประมวลผลตามตลาด บัญชีนี้เหมาะสำหรับ Scalping trader และเทรดเดอร์รายวัน
• Raw Spread ให้คุณเทรดด้วยสเปรดเริ่มต้น 0 pip แต่แตกต่างจากบัญชี Zero เนื่องจากค่าคอมมิชชันจะคงที่ที่ $3.50 หากคุณต้องการเทรดคู่เงินรองหรือ Exotic บัญชีนี้คือตัวเลือกที่ดี

บัญชีทั้งหมดสามารถใช้งานกับ MT4, MT5 และแอปพลิเคชันการเทรดของ Exness บนเว็บไซต์

Exness เสนอสเปรดที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดทองคำ

ทองคำเป็นตัวช่วยในการป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนที่เทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากมันทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อ

โดยเฉลี่ยแล้ว Exness มีสเปรด 11.2 pips สำหรับ XAUUSD, 229.6 pips สำหรับ XAUGBP, 230.4 pips สำหรับ XAUEUR และ 317.8 pips สำหรับ XAUAUD ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสเปรดที่ต่ำที่สุดสำหรับการซื้อขายทองคำที่ผมเคยเห็นในอุตสาหกรรม นี่คือตารางการสเปรดสำหรับทองคำและเงินของ Exness

Exness เสนอเลเวอเรจไม่จำกัด

บัญชีทั้งหมดของ Exness มีเลเวอเรจเริ่มต้นที่ 1:2000 ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนเป็น 1:ไม่จำกัดได้ (หากต้องการ) ในความเห็นของผม นี่คือระดับเลเวอเรจที่สูงมาก เนื่องจากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จำกัดเลเวอเรจที่ 1:500 เท่านั้น แม้ว่าผมจะไม่แนะนำการใช้เลเวอเรจสูงขนาดนี้ แต่ถ้าคุณเข้าใจความเสี่ยงและยังต้องการเทรดในระดับนี้ Exness ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ

แต่หากมองอีกมุม หากคุณมีเงินทุนมากขึ้น เลเวอเรจที่สามารถใช้ได้จะลดลง นอกจากนี้ Exness ยังมีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection) เพื่อช่วยปกป้องผู้เทรดจากการขาดทุนที่เกินกว่ายอดเงินในบัญชีอีกด้วย

นอกจากการมีผลิตภัณฑ์ทางการเงิน CFD กว่า 800 รายการแล้ว Eightcap ยังทำให้ผมประทับใจในสินทรัพย์ CFD คริปโตจำนวนมากถึง 95 รายการ ที่สามารถเทรดได้บนแพลตฟอร์ม MT5 และ TradingView รวมไปถึง CFD อีก 79 รายการใน MT4 สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด โบรกเกอร์นี้มีเครื่องมือจากภายนอกอย่าง Capitalise.ai และ Flash Trader ที่ช่วยในการอัตโนมัติการเทรดด้วย

คุณสามารถเลือกเปิดบัญชีได้สองประเภท คือ บัญชี Standard และ Raw ซึ่งสเปรดในบัญชี RAW เริ่มต้นที่ 0 pip การเปิดบัญชีต้องการเงินฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์ และยังมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายให้เลือก สุดท้ายหากคุณพบปัญหา ทีมสนับสนุนลูกค้าของ Eightcap พร้อมให้บริการตลอด 24/5 โดยมีบริการเป็นภาษาไทยผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงการแชทสดและอีเมล

ผมพบว่า Eightcap เสนอเครื่องมือการเทรดมากกว่า 800 รายการในหลายๆ ตลาด ทำให้โบรกเกอร์นี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ CFDs :

• ฟอเร็กซ์ 56 คู่
• สินค้าโภคภัณฑ์ 8 รายการ
• ดัชนี 16 รายการ
• หุ้น 586 ตัว
• คริปโต 95 ตัว

ตัวเลือก CFDs คริปโตมากกว่า 95 ตัวที่สามารถเทรดได้ผ่าน MT5 และ TradingView เป็นสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจอย่างมากในฐานะเทรดเดอร์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย คริปโต CFDs มีสภาพคล่องสูงและเป็นตัวเลือกที่ดีในการกระจายความเสี่ยง และหากคุณต้องการทำกำไรจากความผันผวนของราคา

นอกจากนี้ Eightcap ยังเสนอบัญชีฟอเร็กซ์ให้เลือกถึง 3 ประเภท ได้แก่

• Raw – สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips พร้อมค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อล็อต ใช้งานได้กับ MT4 และ MT5 ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และสาย Scalping
• Standard – สเปรดเริ่มต้นที่ 1 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมจากสเปรด
• TradingView Account – สำหรับการใช้กับ TradingView โดยเฉพาะ บัญชีนี้มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน หากคุณชอบการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการเทรดผ่านกราฟ ผมว่า TradingView จะเป็นแพลตฟอร์มที่คุณไม่ควรพลาด

ในแง่แพลตฟอร์มการซื้อขาย Eightcap มีชุดเครื่องมือวิเคราะห์ที่ได้รับรางวัลอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 รวมถึง TradingView แม้ว่า MetaTrader 5 และ TradingView จะมีข้อดีในการเทรด CFDs แต่ผมอยากให้เน้นไปที่ MT4 เนื่องจากรองรับการใช้งาน Capitalise.ai

Eightcap เสนอ Capitalise.ai

Capitalise.ai เป็นแพลตฟอร์มการเทรดอัตโนมัติที่ช่วยให้คุณสร้างอัลกอริธึมโดยไม่จำเป็นต้องรู้จักการเขียนโค้ด ผมชอบที่มันใช้หลักการ “if-then” ซึ่งทำให้การตั้งค่าอัตโนมัติเป็นกระบวนการที่ง่ายและรวดเร็ว

พอร์ทัลการเรียนรู้

แพลตฟอร์ม Capitalise.ai มีห้องสมุดเทมเพลตที่พร้อมใช้งานจำนวนมาก คุณสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือสร้างกลยุทธ์จากเทมเพลตที่มีอยู่เพื่อปรับแต่งอินดิเคเตอร์ แผนการเทรด และกรอบเวลาให้ตรงกับความต้องการของคุณได้

Eightcap มีเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก

Eightcap มีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งรองรับสกุลเงินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดด้วยสกุลเงินบาท (THB) คือการเลือกใช้ธนาคารท้องถิ่นที่มีให้เลือกจาก Eightcap ซึ่งสะดวกและช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

หากคุณเทรดในสกุลเงินหลักอย่าง USD, GBP หรือ EUR คุณสามารถเลือกใช้ผู้ให้บริการการชำระเงินทั่วโลกได้ดังนี้

• Skrill
• Neteller
• คริปโต (เฉพาะ USD) – USDT(TRC20), USDT(ERC20) และ BTC
• การโอนเงินผ่านธนาคาร

IC Markets คือโบรกเกอร์ที่ผมแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเทรด CFDs เพราะโบรกเกอร์นี้มีข้อเสนอที่ครบครันที่สุดในตลาด โดยมีเครื่องมือการเทรดกว่า 2,250 รายการ และสเปรดที่ต่ำที่สุดที่ผมเคยเห็น ทั้งในบัญชี RAW และบัญชี Standard

สำหรับการเทรด CFDs ใน FX และสินค้าโภคภัณฑ์ คุณจะได้รับเลเวอเรจสูงสุดถึง 1000:1 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการการใช้เลเวอเรจสูงเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

IC Markets มีเครื่องมือ CFDs ที่สามารถเทรดได้มากกว่า 2,250 รายการ คุณสามารถใช้แพลตฟอร์ม MT4, MT5, และ TradingView ในการเทรดได้ และสำหรับประเภทบัญชีที่มีให้เลือก ทุกบัญชีจะมีเลเวอเรจสูงถึง 1000:1 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกำไรสูง

ประเภทบัญชีของ IC Markets:

1. Raw Spread Account – มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips พร้อมค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อล็อต เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ EAs หรือเทรดในระยะสั้น
2. cTrader/TradingView Account – มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips พร้อมค่าคอมมิชชัน $3.00 ต่อล็อต (แปลงเป็นสกุลเงินฐานของคุณ) โดยบัญชีนี้รองรับการเทรดอัตโนมัติด้วย cTrader Automate และยังรองรับการคัดลอกการเทรดด้วย cTrader Copy
3. Standard Account – สเปรดเริ่มต้นที่ 0.8 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน ถือเป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดโดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชัน

คุณสมบัติอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ในไทย ได้แก่

• การเทรดแบบโซเชียลและการคัดลอกการเทรด: IC Markets รองรับฟีเจอร์การเทรดแบบ Social trading และ Copy trading ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามและคัดลอกการเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
• การศึกษาเบื้องต้น: มีเครื่องมือและพอร์ทัลการศึกษาเบื้องต้นที่มีประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้น โดยมีเนื้อหาที่ช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการเทรด CFDs และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม

จากการทดสอบความแม่นยำของบัญชี Standard โดยนักวิเคราะห์ของผม คุณ Ross Collins พบว่า IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในการเทรด โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน

ข้อมูลการทดสอบนี้ทำให้ผมมั่นใจว่า IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำที่สุดและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดในรูปแบบที่คุ้มค่าและโปร่งใส

ตารางแสดงสเปรดสำหรับ Standard FX

สเปรดสำหรับ Standard FX ที่ได้รับทดสอบแล้ว

จากผลการทดสอบสเปรดจากเพื่อนร่วมงานของผม พบว่า IC Markets อยู่ในสามอันดับแรกสำหรับการเสนอค่าสเปรดมาตรฐานที่มีค่าต่ำที่สุดในคู่สกุลเงินหลัก เช่น AUDUSD, EURUSD, GBPUSD และ USDJPY ซึ่งในความเห็นของผม นี่แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องที่สูงของ IC Markets และความสามารถในการดำเนินการคำสั่งที่ใกล้กับราคาที่เสนอไว้

สเปรดสำหรับ Standard FX ที่มีการเผยแพร่

เมื่อผมได้เปรียบเทียบสเปรดที่ทดสอบกับข้อมูลที่เผยแพร่ พบว่า AUD/USD มีความแตกต่าง 0.05 pips ในขณะที่ EUR/USD มีความแตกต่าง 0.11 pips และ GBP/USD มีความแตกต่าง 0.32 pips และ USD/JPY มีความแตกต่าง 0.35 pips

ตารางแสดงสเปรดสำหรับ RAW FX

สเปรด RAW ที่ได้รับการทดสอบ

สิ่งที่ผมสรุปได้จากการทดสอบสเปรด RAW ของคุณ Ross คือ IC Markets ติดอันดับ 5 อันดับแรกสำหรับสเปรด RAW ที่ต่ำที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยดังนี้

• AUD/USD – 0.23 pips
• EUR/USD – 0.19 pips
• GBP/USD – 0.27 pips
• USD/JPY – 0.45 pips

และผมยังได้ทำการเปรียบเทียบกับสเปรด RAW ที่เผยแพร่ ได้ผมตามตารางด้านล่างนี้

สเปรด RAW ที่มีการเผยแพร่

การเปรียบเทียบระหว่างค่าสเปรดที่ไซต์เผยแพร่และค่าที่ทดสอบสำหรับสเปรด RAW ของ IC Markets มีดังนี้:

• AUD/USD – ความแตกต่าง 0.13 pips
• EUR/USD – ความแตกต่าง 0.17 pips
• GBP/USD – ความแตกต่าง 0.04 pips
• USD/JPY – ความแตกต่าง 0.31 pips

จากการวิเคราะห์ความแตกต่างที่มีค่าตั้งแต่ 0.04 pips ถึง 0.31 pips จึงสรุปได้ว่าความแปรปรวนของสเปรดที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวม โดยรวมเสปรดก็ยังคงมีความเสถียรและไม่แตกต่างจากสเปรดที่เผยแพร่ออกมา และจากการรวมผลการทดสอบทั้งสองนี้ ผมสามารถสรุปได้อย่างมั่นใจว่า IC Markets มีสเปรด FX และ CFDs ที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม

eToro เป็นโบรกเกอร์ที่ผมแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเทรด CFDs เพราะมีจุดเด่นในด้านการเทรดแบบ Social trade และ Copy trade ด้วยเครื่องมือมากกว่า 6,000 รายการ และการเทรด ETFs โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน โดย eToro เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการขยายการลงทุนไปยังตลาดใหม่ๆ

นอกจาก CFDs แล้ว eToro ยังมีฟีเจอร์ Smart Portfolios ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีการจัดการความเสี่ยง พร้อมโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น โบรกเกอร์รายนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องความหลากหลาของเครื่องเครื่องมือ Social trade และ Copy trade ซึ่งผมชอบนำมาใช้ในการเทรด CFDs ของผม

จากการศึกษาข้อมูลของ eToro ผมพบว่าโบรกเกอร์ CFD นี้มีเครื่องมือการเทรด CFDS มากกว่า 6,000 รายการ ในตลาดต่างๆ ดังนี้

• หุ้น 5,519 ตัว
• ETFs 704 ตัว
• สินค้าโภคภัณฑ์ 42 รายการ
• สกุลเงิน 55 สกุล
• ดัชนี 18 ตัว
• สกุลเงินดิจิทัล 101 สกุล

เครื่องมือเหล่านี้สามารถเทรดได้ผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ออนไลน์ eToro ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ พร้อมคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้

• การจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง โดยคำสั่ง stop-loss, take-profit และ trailing stop loss เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดการความเสี่ยงเมื่อเทรดในตลาด CFDs ที่อาจมีความผันผวนสูง
• Social Trade คุณสามารถรับคำแนะนำจากเครือข่ายผู้เทรดที่มีขนาดใหญ่ของ eToro และคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
• ProCharts เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณเปรียบเทียบกราฟของเครื่องมือลงทุนต่างๆ และ/หรือในกรอบเวลาต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเทรด CFDs ของผมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

eToro มี Smart Portfolios

ฟีเจอร์ Smart Portfolios ของ eToro ที่มีทั้งหมด 65 พอร์ตการลงทุนที่ได้รับการจัดทำโดยนักวิเคราะห์ มีประโยชน์มากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และผู้เริ่มต้น โดยพอร์ตเหล่านี้เป็นการรวมเครื่องมือการลงทุนที่มีธีมเฉพาะ ซึ่งได้รับการทดสอบความเสี่ยงและจัดทำโดยนักวิเคราะห์มืออาชีพจากสถาบันการเงินชั้นนำ

คุณสมบัติสำคัญของ Smart Portfolio:

• การลงทุนคืนเงินปันผล – สินทรัพย์ที่จ่ายปันผลในพอร์ตการลงทุน Smart Portfolio จะมีเงินปันผลที่ได้รับการคืนทุนกลับเข้าไปในเงินทุนของผู้เทรดเพื่อการลงทุนต่อ
• การเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย – คุณสามารถเริ่มต้นเทรดด้วย Smart Portfolios โดยมีเงินทุนเริ่มต้นเพียง $500
• การปรับสมดุลอัตโนมัติ – ทุกๆ ปีจะมีการประเมินกลยุทธ์ของพอร์ตการลงทุนและปรับตามการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อให้สามารถทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พอร์ตการลงทุนเหล่านี้ยังช่วยในการกระจายความเสี่ยง ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

eToro มี Social & Copy Trading

สิ่งที่ทำให้ eToro แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่นๆ คือการเน้นที่การเทรดแบบโซเชียลและคัดลอกการเทรดโดยตรง จากผู้ใช้มากกว่า 35 ล้านคน คุณสามารถคัดลอกการเทรดของใครก็ตามที่ประสบความสำเร็จ และสิ่งที่ทำให้การเทรด Social & Copy Trading มีประสิทธิภาพ ได้แก่

• ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง นอกเหนือจากสเปรดและค่าคอมมิชชัน
• เข้าถึงเครือข่ายผู้ให้สัญญาณมืออาชีพได้อย่างโปร่งใส
• เงินฝากขั้นต่ำเพียง $200 ซึ่งทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนหลากหลายกลุ่ม

ในขณะที่การเทรดแบบโซเชียลและคัดลอกการเทรดอาจเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ผมขอแนะนำให้คุณติดตามทุกการเทรดและการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องการลงทุนและกำไรของคุณ โปรดใช้ดุลยพินิจในการคัดลอกกลยุทธ์และการเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์คนอื่นเพื่อจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับเทรดเดอร์ CFD อย่างผม คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Pepperstone คือการเลือกแพลตฟอร์มการเทรด CFDs ระดับท็อป 5 แพลตฟอร์ม รวมถึง MT4, MT5, TradingView, cTrader และ Pepperstone Trading suite และโบรกเกอร์นี้มีเครื่องมือ CFDs กว่า 1,200 รายการ พร้อมสเปรด Razor ที่ต่ำสุดถึง 0 pips และเลเวอเรจสำหรับผู้ค้าปลีกที่ 200:1

นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีความเร็วในการดำเนินการที่ยอดเยี่ยมที่เวลา 77ms สำหรับคำสั่ง limit และ 100ms สำหรับคำสั่ง market พร้อมอัตราการเติมคำสั่งที่ 99.62% และ ฟีเจอร์การจัดการความเสี่ยง เช่น การแยกเงินของลูกค้าและการจำกัดคำสั่ง ช่วยเสริมความมั่นใจในการเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับการกำกับดูแลจาก 7 เขตอำนาจสำคัญ

จากการเทรด CFDs บน Pepperstone ผมพบว่าโบรกเกอร์นี้มีเครื่องมือ CFDs ให้ใช้งานในจำนวนที่มากกว่า 1,200 รายการ รวมถึง หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และหุ้น ในฐานะเทรดเดอร์ชาวไทย คุณสามารถเลือกใช้งานบัญชีของ Pepperstone ได้ 2 รูปแบบ ได้แก่

• Razor – บัญชีที่มีราคาสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips พร้อมค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อการเทรด FX หนึ่งล็อต มีให้เลือกใช้ทั้งงานบน MT4, MT5, cTrader และ TradingView พร้อมเลเวอเรจสูงสุด 200:1 ผมแนะนำให้เทรดเดอร์ scalper และเทรดเดอร์อัลกอริธึมใช้บัญชีนี้
• Standard – จากการตั้งราคาที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน และสเปรดขั้นต่ำสำหรับ CFDs ซึ่งเริ่มต้นที่ 0 pips สำหรับสินค้าที่เช่น XAUUSD และ XAGUSD แถมยังเลือกใช้งานบน cTrader, MT4, และ MT5 ด้วยเลเวอเรจสูงสุด 200:1 ผมจึงขอแนะนำบัญชีนี้สำหรับมือใหม่และเทรดเดอร์ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์

Pepperstone มีแพลตฟอร์มที่หลากหลายและมีคุณภาพ

เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มการเทรด Pepperstone มีตัวเลือกที่ครบครันและเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในการเทรด CFDs ดังตัวอย่างด้านล่างนี้

• Pepperstone Trading – แพลตฟอร์มสำหรับเทรด CFDs ที่มีเครื่องมือมากกว่า 1,200 ตัว รวมถึง CFDs ของหุ้น ด้วยสเปรดที่ต่ำ ความเร็วในการดำเนินการที่ยอดเยี่ยม และตัวเลือกการจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง นี่จะเป็นตัวเลือกแรกของผมสำหรับการเทรดในขณะเดินทาง
• MetaTrader 4 (MT4) – แพลตฟอร์มที่เสถียรและปรับแต่งได้สูงสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจเทรด Forex และ CFD พร้อมอินดิเคเตอร์ 28 ตัว และตัวชี้วัดการวิเคราะห์เชิงลึก 85 ตัว มี Autochartist สำหรับการระบุแนวโน้มแบบอัลกอริธึม และ Expert Advisors (EAs) สำหรับกลยุทธ์อัตโนมัติและการดำเนินการคำสั่ง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ CFDs มือใหม่
• MetaTrader 5 (MT5) – แพลตฟอร์มเทรด CFDs ที่มาพร้อมกับเครื่องมือการวิเคราะห์กราฟและกรอบเวลา 21 ช่วงเวลา ตัวชี้วัดมากกว่า 80 ตัว และวัตถุกราฟฟิกอีกมากมาย รวมทั้งการแสดงกราฟที่ไม่จำกัด ผมพบว่า MT5 มีข้อได้เปรียบเหนือ MT4 ด้วยเครื่องมือการวิเคราะห์เชิงปัจจัยพื้นฐานในตัวและข้อมูล Depth of Market
• TradingView – เชื่อมต่อบัญชี Razor ของคุณกับ TradingView เพื่อเข้าถึงตัวชี้วัดและกลยุทธ์ที่สร้างไว้ล่วงหน้า 400+ ตัว, ตัวสร้างกราฟ 110+ ตัว, การสร้างกราฟรูปแบบอัตโนมัติ, การวิเคราะห์กราฟที่สามารถปรับแต่งได้ตามกรอบเวลา และข้อมูลในอดีตในเชิงลึก นี่จะเป็นตัวเลือกที่ผมใช้ หากต้องการเทรดในปริมาณมากและต้องการฟีเจอร์กราฟข้อมูลที่ปรับแต่งได้และแม่นยำ
• cTrader – แพลตฟอร์มเทรด CFDs ที่มีความแม่นยำในช่วงเวลา, กราฟ 6 แบบ, ตัวชี้วัดในตัว 65 ตัว และเครื่องมือสำหรับการคัดลอกการเทรด และคุณยังสามารถเชื่อมโยงมันกับ cTrader Automate เพิ่มวิดเจ็ต ปลั๊กอิน และตัวชี้วัดจากห้องสมุดชุมชน cTrader ได้อีกด้วย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์อัลกอริธึมและเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดที่รวดเร็ว

Pepperstone มีฟีเจอร์การจัดการความเสี่ยงที่เชื่อถือได้ ซึ่งสอดคล้องกับการกำกับดูแลระดับ Tier-1 จากหน่วยงานต่างๆ เช่น Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) และ Australian Securities and Investments Commission (ASIC)

แม้ว่าเทรดเดอร์ชาวไทยจะได้รับการตรวจสอบและดูแลโดยตรงจาก SCB ในบาฮามาสเท่านั้น แต่ผมก็ยังเห็นข้อดีของการกำกับดูแลระดับ Tier-1 เช่น:

• การแยกเงินของลูกค้าจากเงินทุนบริษัท
• โครงสร้างสเปรดที่โปร่งใสและความเร็วในการดำเนินการ
• การตั้งตำแหน่งคำสั่งและคำสั่งจำกัดหลายประเภทเพื่อปกป้องทุนและกำไรของคุณ

ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ แม้ว่าจะมีเพียงใบอนุญาตจาก SCB ก็ทำให้ผมมั่นใจว่า Pepperstone เป็นแพลตฟอร์ม CFDs ที่คุณสามารถไว้วางใจในการเทรดในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมและไม่ลำเอียง

คุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ CFD ชาวไทย ได้แก่

Pepperstone มีความเร็วในการดำเนินการในอันดับต้นๆ

จากการทดสอบที่ดำเนินการโดยเพื่อนนักวิเคราะห์ Ross Collins ผมพบว่า Pepperstone ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน 3 อันดับแรกของแพลตฟอร์ม CFD ที่มีความเร็วในการดำเนินการที่ยอดเยี่ยม

ตารางด้านล่างนี้แสดงข้อมูลที่เขาได้รวบรวมเกี่ยวกับความเร็วในการดำเนินการคำสั่งของ Pepperstone:

ความเร็วการดำเนินการที่ได้รับการทดสอบแล้ว

จากตารางข้างต้น ผมสังเกตเห็นว่า Pepperstone มีความเร็วในการดำเนินการที่น่าประทับใจที่ 77ms สำหรับคำสั่ง Limit และ 100ms สำหรับคำสั่ง Market orders ซึ่งเร็วกว่าเพียง 9-10 ms จากคู่แข่งขันที่เร็วที่สุดอย่าง Blackbull Markets ความเร็วสูงสุดเหล่านี้และอัตราการเติมคำสั่งที่ 99.62% ช่วยลดการเลื่อนของราคา ทำให้คุณสามารถรักษากำไรที่คาดการณ์ไว้บนการเทรดส่วนใหญ่ของคุณได้

Pepperstone มีสเปรดเป็นศูนย์

ในแง่ของความแม่นยำของสเปรดเป็นศูนย์ ผมได้ทดสอบข้อมูลจากเพื่อนนักวิเคราะห์ของผม โดย Ross Collins ทำการสรุปข้อมูลสำหรับคู่สกุลเงิน FX ไว้ดังนี้

ตารางที่แสดงค่าสเปรดเป็นศูนย์ที่ได้รับการทดสอบแล้ว

Pepperstone สามารถรักษาสัญญาที่เสนอให้สเปรดเป็นศูนย์ได้เกือบ 100% ของเวลา (นอกเหนือจากช่วง rollover) ซึ่งแสดงถึง สภาพคล่องที่ดีและปริมาณการเทรดที่เหมาะสม รวมถึงความผันผวนต่ำในสินทรัพย์อย่าง FX และ CFDs ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญในการทำกำไรสูงสุดต่อการเทรดแต่ละครั้ง

บัญชี Core Spread ของ OANDA มีสเปรดต่ำถึง 0.1 pips ขณะที่บัญชี Premium และ Standard มีสเปรดที่แคบและไม่มีค่าคอมมิชชัน OANDA ยังเสนอแพลตฟอร์ม OANDA Trade, MT5 และ TradingView ซึ่งทั้งหมดมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและการตลาดที่ดี แม้กระทั่งในมือถือ

มี Forex ให้เลือกเทรดถึง 69 คู่สกุล พร้อมกับ CFDs อื่นๆ และหากคุณต้องการยกระดับการเทรด OANDA Labs ยังมีพอร์ทัลการศึกษาการที่ยอดเยี่ยมไว้อำนวยความสะดวกให้คุณอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์กว่า 1,500 รายการ ทั้งใน Forex, ดัชนี, หุ้น และคริปโต นอกจากนี้ OANDA ยังมีการแบ่งบัญชีการเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำออกเป็น 3 แบบ ดังนี้

• Standard – สเปรดเริ่มต้นที่ 0.8 pips ในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน 200+ รายการ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดคริปโต สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี ไม่มีค่าคอมมิชชันสำหรับการเทรด CFD ทั้งหมด ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับทักษะ
• Core – ราคาสเปรดพื้นฐานของตลาดแบบเรียลไทม์เริ่มต้นที่ 0.1 pips พร้อมค่าคอมมิชชัน $40 ต่อล้านดอลลาร์ และตัวเลือกสำหรับการเทรดอัตโนมัติ เช่น Expert Advisors (EAs) ที่เหมาะกับสำหรับการเทรดแบบระยะสั้นและการเทรดความถี่สูง
• Premium – สเปรดแบบไม่มีค่าคอมมิชชันเริ่มต้นที่ 0.8 pips โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม MT5 และ FxTrade แถมบัญชีนี้ยังมอบการฝากเงินและการถอนเงินฟรีธรรมเนียมธนาคาร เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีมูลค่าการเทรดประจำเดือนประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่า

OANDA เสนอ TradingView ที่ดีเยี่ยม

เมื่อมองลึกลงไปในข้อเสนอของ OANDA เกี่ยวกับ CFDs พบว่า OANDA มีแพลตฟอร์มหลากหลาย รวมถึงแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น:

• MT4 (กำลังเปลี่ยนไปใช้ MT5 ในปี 2024)
• MT5
• TradingView
• FxTrade/OANDA Mobile

แม้ว่าผมจะยอมรับว่าแพลตฟอร์มอย่าง MT4 และ MT5 มีชื่อเสียงดีในการเทรด CFD แต่ผมพบว่า การนำ TradingView มาใช้โดย OANDA ทำให้พวกเขาโดดเด่นจากโบรกเกอร์อื่นๆ เหตุผลที่ TradingView เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบ CFD ทุกระดับ ได้แก่

• มีอินดิเตอร์ที่สร้างไว้ล่วงหน้า 100+ ตัว, กราฟ 12+ แบบ และเครื่องมือวาดกราฟ 50+ รายการ ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลที่ลึกซึ้งและปรับแต่งค่าได้ ซึ่งมีประโยชน์เมื่อคุณเทรดในตลาดที่มีความเสี่ยงและความผันผวนที่แตกต่างกัน
• มีฟิลด์พื้นฐานและอัตราส่วนกว่า 100+ ตัว และยังสามารถใช้งบการเงิน การประเมินมูลค่า และ Heatmaps ช่วยให้เห็นสินทรัพย์ที่มีความต้องการสูงและมีสภาพคล่องสูงที่อาจทำกำไรได้
• การผสานรวมบน OANDA Mobile ทำให้คุณสามารถจัดการคำสั่ง วางแผนกลยุทธ์ และเข้าถึงข้อมูลตลาดและข้อมูลในอดีตได้อย่างละเอียด เพื่อประสบการณ์การเทรดที่ดีขึ้น

พอร์ทัลการศึกษาของ OANDA

สิ่งที่ผมสังเกตเห็นเกี่ยวกับ OANDA คือ พอร์ทัลการศึกษาของพวกเขา ซึ่งใช้ชื่อว่า OANDA Labs มันมอบเนื้อหาการศึกษาในหลากหลายหัวข้อให้กับเทรดเดอร์ CFD ทุกระดับ เช่น

• Asset Classes – สอนเทรดเดอร์เกี่ยวกับวิธีการเทรดในตลาด CFD เช่น ดัชนีหรือ Forex
• Trading Tools – เน้นการใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ความผันผวน ความแข็งแกร่งของตลาดสินทรัพย์ และข้อมูลจากกระดานคำสั่ง
• Trading Platforms – ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดต่างๆ เช่น MT5 หรือ TradingView เพื่อช่วยคุณเลือกเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด CFD
• Trading Knowledge – เจาะลึกการวิเคราะห์ทางเทคนิค ข้อมูลพื้นฐาน และตลาด ผ่าน webinars, บล็อก, eBooks กิจกรรมและวิดีโอต่างๆ