HFM ดีไหม? รีวิวโบรกเกอร์ HFM 2025
สำหรับรีวิว HFM (HF Markets) ในฉบับนี้ของเรา จะเน้นไปที่คุณสมบัติหลักที่โบรกเกอร์ forex แห่งนี้มีให้ เช่น สภาพการซื้อขายที่คล้ายคลึงกับ ECN, แพลตฟอร์มการซื้อขายฟอเร็กซ์อย่าง MT4 และ MT5 รวมทั้ง คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่เปิดให้เทรดมากกว่า 50 คู่ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบรกเกอร์ HFM ด้านล่างนี้

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site. For more information, visit our About Us page.
บทสรุปเกี่ยวกับ HFM

🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล | UK (FCA), Europe (CySEC), Dubai (DFSA) |
📊 แพลตฟอร์มการซื้อขาย | แพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 และแอพเทรด HFM |
💰ค่าสเปรด | สเปรดปานกลาง |
💰เงินฝากขั้นต่ำ | $0 |
🎮 บัญชีทดลองเทรด | มี |
🛍️ ตลาดการเงินที่ให้บริการ | CFDs (Forex, Metals, Energies, Crypto, Stocks, Bonds , ETFs) |
💳 วิธีการฝากเงิน | บัตรเดบิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร |
HFM ดีไหม – ทำไมถึงควรเลือกใช้งาน
ผมมองว่าโบรกเกอร์ HFM (ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า HF Markets หรือชื่อเดิม Hot Forex) มีลักษณะการให้บริการดังเช่นโบรกเกอร์ ECN ทั่วไป ที่ไม่มีโมเดลการทำงานผ่านดีลลิ่งเดสก์ แต่ที่น่าสนใจคือ โบรกเกอร์รายนี้ก็ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ ที่มีประโยชน์ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ของคุณ
โดย HFM รองรับการเทรด CFD ในหลากหลายสินทรัพย์ เช่น ฟอเร็กซ์, คริปโต, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น และดัชนี และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ความสามารถในการซื้อหุ้น (หรือ สินทรัพย์อ้างอิง) แต่คุณสมบัตินี้จะไม่สามารถใช้ได้สำหรับลูกค้าในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ผมคิดว่าควรกล่าวถึงคือ การที่โบรกเกอร์นี้ได้รับการควบคุมดูแลจากหน่วยงานใน 6 ประเทศหรือภูมิภาคที่แตกต่างกัน
ข้อดีและข้อเสียของ HFM
ด้านล่างนี้คือการเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของโบรกเกอร์ HFM โดยสรุป
- Spread ต่ำในการซื้อขายคู่สกุลเงินหลัก
- ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ อยู่ในเกณฑ์ต่ำสำหรับบัญชีเทรดส่วนใหญ่
- เลเวอเรจสูงในการซื้อขายบางรายการ
- ทีมวิเคราะห์มืออาชีพในระดับโลก
- ข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์การเงินและตลาดที่ให้บริการ
- Spread สำหรับการซื้อขายคู่สกุลเงินรองค่อนข้างสูง
- การบริการลูกค้าที่ยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม
- พอร์ทัลการศึกษายังไม่ตอบโจทย์ในการเทรดขั้นสูง
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
HFM เสนอตัวเลือกบัญชีที่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายสองรูปแบบ คือ บัญชีที่มีค่าคอมมิชชันและบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน โดยผู้เชี่ยวชาญของ CompareForexBrokers ได้นำสเปรดที่เผยแพร่จากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์มาเปรียบเทียบกับข้อมูลจากโบรกเกอร์รายอื่นในตลาดการเงิน และนี่คือตัวอย่างของผลการเปรียบเทียบของเรา
1.สเปรดสำหรับ Raw Account
เมื่อทีมงานของเราพิจารณาค่าสเปรดเฉลี่ยที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ HFM สำหรับบัญชีที่มีค่าคอมมิชชัน (มักเรียกว่า ECN หรือ RAW) และนำไปเปรียบเทียบกับ Spread จากโบรกเกอร์อื่นๆ ผลลัพธ์คือ HFM มี Spread ที่ดีกว่าในคู่เงินบางคู่ แต่ก็มี Spread ที่สูงกว่าโบรกเกอร์อื่น ในบางกรณีเช่นกัน
Spread จากโบรกเกอร์แบบ ECN
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.10 | 0.10 | 0.40 | 1.20 | 0.70 |
![]() |
0.10 | 0.30 | 0.40 | 0.20 | 0.20 |
![]() |
0.02 | 0.30 | 0.25 | 0.27 | 0.03 |
![]() |
0.10 | 0.19 | 0.38 | N/A | 0.21 |
![]() |
0.14 | 0.45 | 0.66 | 0.75 | 0.43 |
![]() |
0.52 | 0.70 | 1.13 | 0.86 | 0.80 |
![]() |
n/a | n/a | 0.60 | 0.60 | 0.50 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 04/01/2025
ในขณะที่เขียนบทความนี้ Spread ในบัญชีที่มีค่าคอมมิชชันของ HFM ค่อนข้างต่ำสำหรับการซื้อขายในคู่สกุลเงินหลัก แต่จะสูงขึ้นเมื่อมีการเทรดในคู่สกุลเงินรอง เช่น EUR/GBP ดังนั้น คุณควรเลือกใช้คู่เงินที่กำหนด เพื่อให้ได้รับความคุ้มค่าในการเทรด
Spread สำหรับ Raw Account | HF Markets | สเปรดเฉลี่ย |
---|---|---|
โดยรวม | 0.62 | 0.72 |
EUR/USD | 0.6 | 0.28 |
USD/JPY | 0.6 | 0.44 |
GBP/USD | 0.6 | 0.54 |
AUD/USD | 0.6 | 0.45 |
USD/CAD | 0.6 | 0.61 |
EUR/GBP | 0.6 | 0.55 |
EUR/JPY | 0.6 | 0.74 |
AUD/JPY | 0.7 | 0.93 |
USD/SGD | 0.7 | 1.97 |
2. อัตราคอมมิชชันสำหรับ Raw Account
ค่าคอมมิชชันของบัญชีประเภทนี้จะอยู่ที่ $3.00 ต่อฝั่ง สำหรับบัญชีของ HFM ที่ใช้ USD แม้ว่าผมจะไม่ได้ทดสอบค่าคอมมิชชันของ HF Markets ด้วยตนเอง แต่ผมได้เปรียบเทียบค่าคอมมิชชันใน RAW Account ของ HFM กับโบรกเกอร์อื่นๆ เช่น Pepperstone, IC Markets และ Fusion Markets ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างน่าสนใจ และโดยรวมแล้ว ผมสามารถบอกได้ว่า ยังมีโบรกเกอร์บางแห่งรายที่มีค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่า (ตามผลการทดสอบของผม)
ค่าคอมมิชชัน | USD | AUD | GBP | EUR |
---|---|---|---|---|
อัตราค่าคอมมิชชัน HF Markets | $3.00 | N/A | N/A | N/A |
อัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | $3.44 | $3.32 | £2.44 | €2.91 |
3. ค่าคอมมิชชันสำหรับ Standard Account
HFM เรียกบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชันของตนว่า Premium account ในตัวอย่างด้านล่าง คุณจะเห็นว่า HFM ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดหากพิจารณาจากค่า Spread เพียงอย่างเดียว เนื่องจากโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ล้วนเสนอค่าสเปรดที่ดีกว่านั่นเอง
สเปรดสำหรับ Standard Account | EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | AUD/USD | USD/CAD | EUR/GBP | EUR/JPY | AUD/JPY |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สเปรดเฉลี่ย HF Markets | 1.4 | 1.8 | 1.6 | 1.6 | 1.9 | 1.4 | 2.1 | 2.4 |
สเปรดเฉลี่ยในอุตสาหกรรม | 1.2 | 1.4 | 1.6 | 1.5 | 1.8 | 1.5 | 1.9 | 2.1 |
ผมและทีมงานของผมได้รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์กว่า 50 แห่ง ซึ่งขนาดตัวอย่างนี้เพียงพอที่จะใช้ในการคำนวณค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม เพื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ HFM
โบรเกอร์ HF Markets มี Spread สำหรับคู่เงิน EUR/USD อยู่ที่ 1.4 pips ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 1.2 ส่วนคู่สกุล GBP/USD มีสเปรดอยู่ที่ 1.6 ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม และคู่สกุล AUD/JPY มีค่า Spread ที่ 2.4 สำหรับการเทรดบน HFM ในขณะที่ค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมกลับอยู่ที่ 2.1
โปรดทราบว่า ตัวเลขข้างต้นเป็นค่า Spread ที่โบรกเกอร์เผยแพร่บนเว็บไซต์ของพวกเขา ซึ่ง Ross Collins หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทดสอบ spread ของ Standard Account ในโบรกเกอร์กว่า 20 แห่ง และนำผลการทดสอบมาเปรียบเทียบกับค่า Spread ที่ HFM เผยแพร่ข้างต้น ทำให้ผมได้ข้อสรุปว่า Spread ในบัญชี Standard ของ HFM ยังไม่สามารถแข่งขันกับโบรกเกอร์อื่นๆ ได้
4.ค่าธรรมเนียมของบัญชี Swap-Free
โบกรกเกอร์ HFM เปิดให้บริการบัญชีแบบ Swap-Free สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ปฏิบัติตามกฎหมายชาริอะห์ (Sharia law) โดยบัญชีประเภทนี้จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเปิดตำแหน่งข้ามคืน
ความคิดเห็นเกี่ยวกับค่า spread ของ HFM
จากการตรวจสอบบัญชีที่ HF Markets เสนอ ผมคิดว่าบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน (no-commission accounts) ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าบัญชีประเภทอื่นๆ ของ HFM อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่ายังมีโบรกเกอร์สเปรดต่ำรายอื่นๆ ที่มีตัวเลือกที่อาจจะเหมาะสมกับคุณมากกว่า
ประเภทบัญชีเทรด
HFMarkets นำเสนอประเภทบัญชีทั้งหมดห้าประเภทที่แตกต่างกัน สำหรับเทรดเดอร์ที่พึ่งเริ่มต้นไปถึงระดับกลางจะเลือกใช้บัญชีได้สามแบบ และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากขึ้นก็จะมีบัญชีอีกหนึ่งประเภทแยกต่างหาก และหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง คุณสามารถเลือกใช้บัญชี Pro เพื่อตอบสนองต่อสไตล์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกประเภทบัญชีในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน
ประเภทบัญชีของ HFM มีดังนี้:
- บัญชี Cent: เป็นบัญชีแบบไมโครที่อนุญาตให้คุณทำการซื้อขายได้ด้วยล็อตที่มีขนาดเล็กสุด (cent lot) ซึ่งเท่ากับ 0.01 ของขนาดล็อตมาตรฐาน โดยมีข้อกำหนดมาร์จิ้นเพียง 10 เซ็นต์ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีต้นทุนการเทรดในจำนวนน้อย
- บัญชี Crypto CFD: เป็นบัญชีแบบใหม่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การซื้อขาย CFD ของคริปโตผ่านแพลตฟอร์ม MT5 และผ่านแอพเทรดของ HFM นั้นเป็นไปโดยง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้น
- บัญชี Zero Spread: เป็นบัญชีที่มี spread ต่ำสุดนั่นคือ 0 pips (zero spread) แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการเทรดในรูปแบบค่าคอมมิชชัน โดยบัญชีประเภทนี้เป็นบัญชีสไตล์ RAW, STP หรือ ECN ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีการซื้อขายในปริมาณสูง เช่น เทรดเดอร์ที่ทำการเทรดในระยะสั้น (scalper) และเทรดเดอร์ที่ทำการเทรดแบบรายวัน (day traders)
- บัญชี Premium: เป็นบัญชีที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เนื่องจากมีสเปรดที่ต่ำพอสมควร และมีข้อดีที่ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันในการเทรด ดังนั้น หากคุณเพิ่งเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ บัญชีนี้อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ
- บัญชี Premium Pro: ออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการขยับจากบัญชีแบบ Premium โดยบัญชี HFM Pro นี้มีสเปรดที่ต่ำมากและไม่มีค่าคอมมิชชันในการซื้อขายด้วย แต่คุณต้องทำใจกับจำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่สูงขึ้น
โดยบัญชีทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับผู้จัดการบัญชีส่วนตัว ซึ่งเป็นคำที่ใช้สำหรับตัวแทนบริการลูกค้า ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้มีหน้าที่ในการแนะนำการเทรดให้คุณโดยตรง
ประเภทบัญชีขั้นสูงของ HFM
HFM มีบัญชีอีกสองประเภทที่น่าสนใจ ซึ่งมีความแตกต่างจากบัญชีทั่วไป ได้แก่ บัญชี HFCopy และบัญชี PAMM
- บัญชี HFCopy คือ บัญชีสำหรับการเทรดแบบ Copy Trading ซึ่งอนุญาตให้คุณลงทะเบียนเป็นผู้ให้กลยุทธ์ (strategy provider) เพื่อเทรดและสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการให้ผู้อื่นคัดลอกการเทรดของคุณ หรือเป็นผู้ติดตาม (follower) ที่อนุญาตให้คุณสามารถฝากเงินพร้อมกับเลือกคัดลอกการเทรดของผู้ให้กลยุทธ์โดยอัตโนมัติได้
โดยการใช้งานบัญชีประเภทนี้จะทำผ่านแอพ HFCopy ซึ่งใช้เครือข่ายสัญญาณ MQL5 MetaTrader สำหรับการเทรดแบบ social trading - บัญชี PAMM คือ บัญชีที่เปิดให้มีการคัดลอกการเทรดที่ยกระดับไปอีกขั้น และอนุญาตให้คุณลงทะเบียนเป็นผู้จัดการกองทุนได้ โดยคุณสามารถจัดการกองทุนสำหรับนักลงทุนในอัตราร้อยละของผลกำไรที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า บัญชีประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูงมากกว่า
แพลตฟอร์มการซื้อขาย
HF Markets นำเสนอแพลตฟอร์มในการเทรดฟอเร็กซ์ 3 รายการ ได้แก่ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ที่พัฒนาโดย MetaQuotes รวมถึงแพลตฟอร์ม HFM ที่พัฒนาโดย HFM เอง ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งบน iOS และ Android โดยทั้งสามรายการล้วนตอบสนองต่อจำนวนคำสั่งซื้อขายที่แตกต่างกัน
ทีม CompareForexBrokers ได้สร้างเครื่องมือคัดเลือกแพลตฟอร์มการเทรดเพื่อให้คุณสามารถเลือกซอฟต์แวร์การซื้อขายฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ เริ่มต้น ผมขอแนะนำให้คุณลองทำแบบสอบถามสั้นๆ 5 ขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้ซอฟแวร์ของเราช่วยคุณหาคำตอบว่า “แพลตฟอร์มฟอเร็กซ์ใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ”
MetaTrader 4
MT4 เป็นซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการเทรดฟอเร็กซ์ของเทรดเดอร์รายย่อย และมีให้บริการในโบรกเกอร์หลายแห่ง ผมได้ทำการทดสอบ MT4 บนโบรกเกอร์ HFM และพบว่ามันฟีเจอร์ทั้งหมดที่คาดหวัง ที่สำคัญ คือ แพลตฟอร์มเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ดีและมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างรวดเร็ว และเข้าออกการเทรดได้ด้วยคลิกเดียว
นอกจากนี้ MT4 ยังมาพร้อมกับเครื่องมือวาดกราฟ 23 รายการ ที่ช่วยในการระบุแนวรับและแนวต้าน รวมถึงเส้นแนวโน้ม และหากคุณต้องการเทรดแบบอัตโนมัติ หรือสร้างอินดิเคเตอร์ของคุณเอง MT4 ก็อนุญาตให้คุณสามารถสร้าง Expert Advisors (EAs) เพื่อดำเนินการคำสั่งเหล่านี้ได้ ผ่านการเขียนโค้ดเอง ซื้อหรือค้นหาโค้ดฟรีได้ในตลาด MT4
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า MT4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมมากและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์รายย่อยมากที่สุด แต่มันอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณต้องการเทรดหุ้น เนื่องจาก การเทรดหุ้นควรทำโดย MetaTrader 5 ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง
MetaTrader 5
MT5 เป็นแพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์ที่ให้บริการบนโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำหลายแห่ง โดย MT5 เป็นเวอร์ชันที่อัปเดตมาจาก MetaTrader4 ทำให้ MT5 มีฟีเจอร์ที่พัฒนาไปอีกขั้นและยังได้รับการพัฒนาและสนับสนุนจาก MetaQuotes อยู่เสมอ โดย MT5 สามารถใช้งานได้บน Windows และ Mac desktops, Android, iPhones และ iPads เช่นเดียวกับ MT4
ฟีเจอร์ที่ทำให้ MT5 เหนือกว่า MT4 ได้แก่ ความสามารถในการเทรดหุ้น, ประเภทคำสั่งที่มากขึ้น 2 รายการ, ตัวชี้วัดทางเทคนิคเพิ่มเติม และเครื่องมือการวิเคราะห์ที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมี timeframes มากถึง 21 ช่วงเวลา, ตัวชี้วัด Depth of Market และการประมวลผลแบบ 64-bit (เทียบกับ 32-bit ใน MT4) ทั้งหมดนี้ทำให้ MT5 เป็นตัวเลือกที่เหนือกว่า ยิ่งสำหรับการทดสอบย้อนหลัง (backtesting)
โดยทั่วไปแล้ว เหตุผลหลักๆ ที่เทรดเดอร์หลายคนยังคงเลือกใช้ MT4 อาจเป็นเพราะพวกเขาคุ้นเคยกับ MT4 หรือต้องการใช้ EAs ที่สร้างขึ้นเอง เนื่องจาก MT5 จะใช้ภาษาโปรแกรมที่ต่างออกไป
แอพเทรดผ่านมือถือ (Mobile Trading Apps)
HFM Trading App คือแอพเทรดที่พัฒนาโดย HFM ซึ่งอนุญาตให้คุณสามารถทำการเทรดจากสมาร์ทโฟนของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา ข้อดีหลักๆ ของการใช้แอพนี้คือ การเข้าสู่ระบบบัญชีการเทรดของคุณที่ทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลประจำตัวของ HFM ได้ นอกจากนี้คุณจะไม่ต้องเลือกเซิร์ฟเวอร์ MT4 หรือ MT5 ที่ต้องการใช้งาน รวมถึง คุณสามารถเติมเงินเข้าบัญชีได้โดยตรงผ่านแอพนี้
อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าฟีเจอร์ในแอพนี้ไม่ได้มีความพิเศษเท่าใดนักเมื่อเทียบกับแอพเทรด หรือเวอร์ชัน Webtrader และ Desktop ของ MT4 และ MT5
HFM ดีไหม – ความน่าเชื่อถือของ HFM
HF Markets ได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือที่ 36 จาก 100 คะแนน โดยคะแนนดังกล่าวมาจากการประเมินในหัวข้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การกำกับดูแล ชื่อเสียง หรือความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง

การกำกับดูแลและความปลอดภัยทางการเงิน
โดยทั่วไปแล้ว ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์จะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับหน่วยงานกำกับดูแล โดย HF Markets Group ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจาก Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร, Dubai Financial Services Authority (DFSA) ในดูไบ, Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ในแอฟริกาใต้, Financial Services Authority (FSA) ในเซเชลส์, CySEC ในไซปรัส และ Capital Markets Authority (CMA) ในเคนยา
ระดับความปลอดภัย | หน่วยงาน |
---|---|
Tier-1 | CySEC และ FCA |
Tier-2 | DFSA |
Tier-3 | FSCA, FSA-S และ CMA |
HF Markets มีนโยบายเพื่อแยกเงินของลูกค้าออกจากเงินทุนของบริษัท ทำให้เงินของคุณถูกแยกออกและเก็บไว้กับธนาคารใหญ่ๆ ระดับโลก ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาล และ HFM มีข้อเสนอการทำประกันความรับผิดทางแพ่งสูงสุดถึง €5,000,000 เพื่อปกป้องเงินของลูกค้าจากข้อผิดพลาดของโบรกเกอร์ ความประมาท การฉ้อโกง และความเสี่ยงอื่นๆ
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังมีการป้องกันยอดคงเหลือลบ (negative balance protection) ที่ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงจากการเป็นหนี้เมื่อการเทรดขาดทุนอีกด้วย
ชื่อเสียงของโบรกเกอร์
HF Markets Ltd. จดทะเบียนบริษัทในเซนต์วิลเลียมส์และเกรนาดีนส์ตั้งแต่ปี 2010 แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์มากนัก โดยมีจำนวนการค้นหาใน Google เพียง 260 ครั้งต่อเดือน
ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง
HFM ได้รับคะแนน TrustPilot อยู่ที่ 4.0/5.0 จาก 168 รีวิว ซึ่งผมถือว่าเป็นคะแนนที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ HFM
โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนนความน่าเชื่อถือ หรือความปลอดภัยของโบรกเกอร์ HFM ที่ 6/10
HFM ดีไหม – ในแง่การฝากเงินและถอนเงิน
HFM ช่วยให้การฝากและถอนเงินง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยตัวเลือกการฝากขั้นต่ำ ที่มาพร้อมกับตัวเลือกการเติมและถอนเงินที่หลากหลาย
เงินฝากขั้นต่ำกับ HFM
โบรกเกอร์ไม่ได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับจำนวนขั้นต่ำในการเปิดบัญชี Cent, Zero และ Premium ในขณะที่การเปิดบัญชี Pro จำเป็นต้องมีการเงินฝากอย่างน้อย $100 หรือจำนวนที่เทียบเท่าในสกุลเงินหลักของคุณ แต่ในการฝากเงินโดยปกติจะมีการกำหนดจำนวนขั้นต่ำสำหรับแต่ละวิธีการฝาก เช่น หากคุณฝากผ่านการโอนเงิน จะกำหนดขั้นต่ำ 200 บาท แต่หากฝากผ่านบัตรเดบิต จะมีข้อกำหนดขั้นต่ำที่ $5
ตัวเลือกการฝากเงินและค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่คุณเป็นเทรดเดอร์จากประเทศไทย ตัวเลือกที่ง่ายและสะดวกที่สุด คือ การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร โดยวิธีนี้แบ่งออกเป็นการโอนเงินผ่านบัญชีแบบปกติซึ่งกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำ 200 บาท และการโอนเงินผ่าน QR code ที่ต้องมียอดฝากขั้นต่ำที่ 300 บาท
วิธีการฝากเงิน | จำนวนขั้นต่ำ | เงินฝากสูงสุด | ระยะเวลาการดำเนินการ | ค่าธรรมเนียมการฝากเงิน |
---|---|---|---|---|
การโอนเงินผ่านธนาคาร | 200 บาท | 500,000 บาท | ทันที | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
บัครเครดิต/เดบิต | $5 | $10,000 | ไม่เกิน 10 นาที | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
Neteller | $5 | $10,000 | ไม่เกิน 10 นาที | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
Skrill | $10 | $10,000 | ไม่เกิน 10 นาที | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
BitPay | $5 | $10,000 | ไม่เกิน 10 นาที | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
คริปโต | $30 | $30,000 | ทันที | ไม่มีค่าธรรมเนียม |
ผมต้องเตือนคุณว่า แม้โบรกเกอร์จะไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากเงิน แต่การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลบางประเภทจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดำเนินจากฝั่งผู้ให้บริการในจำนวนสูงและคุณอาจต้องจ่ายสเปรดการแปลงค่าเงินเพิ่มเติม
ตัวเลือกการถอนเงินและค่าธรรมเนียม
โบรกเกอร์ HF Markets มีตัวเลือกที่หลากหลายในการถอนเงินจากบัญชีเทรดของคุณ และตัวเลือกที่ง่ายที่สุดคือการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 10 วันทำการ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝากถอนเงินที่ HFM
สำหรับผม HF Markets ได้คะแนนสูงในหมวดนี้ เนื่องจากพวกเขาเสนอตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการฝากและถอนเงิน
ความยากง่ายในการเปิดบัญชีเทรด
การเปิดบัญชีที่ HFMarkets นั้นทำได้ง่ายและรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของมือใหม่หัดเทรดได้เป็นอย่างดี โดยขั้นตอนแรกคือการเปิดบัญชี คุณต้องกำหนดที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่คุณต้องการ รวมทั้งประเทศที่คุณอาศัยอยู่ เนื่องจากบางประเทศสามารถเปิดบัญชีบางประเภทได้เท่านั้น
หลังจากเปิดบัญชีแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการยืนยันที่อยู่อีเมลของคุณ และถัดไปคุณจะต้องให้รายละเอียดส่วนตัวเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึง ชื่อเต็ม เพศ ประเทศเกิด หมายเลขโทรศัพท์ และสกุลเงินหลักที่คุณต้องการใช้ จากนั้น คุณต้องเลือกประเภทบัญชีที่คุณต้องการเปิด การเลือกประเภทบัญชีที่ตรงกับประสบการณ์การเทรดและกลยุทธ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นโปรดอ่านส่วนด้านบนเกี่ยวกับประเภทบัญชี
โดยคุณสามารถ ข้อเสนอโบนัสเติมเงิน ซึ่งเป็นโปรโมชันจาก HFM ให้ฝากเงินเข้าในบัญชี โบนัสนี้จะทำให้ฉันได้รับเงินทุนเพิ่มเติมเมื่อทำการฝากเงิน และจากนั้นฉันจะต้องทำยอดเทรดให้ได้ตามที่กำหนดก่อนที่จะสามารถถอนเงินได้
เมื่อคลิกไปที่ขั้นตอนถัดไป การเปิดบัญชีของคุณก็จะสำเร็จ คุณสามารถโหลดแพลตฟอร์มการเทรดที่เลือกและทำการฝากเงินเพื่อเริ่มการเทรดฟอเร็กซ์ได้ทันที
โปรดทราบ ประเภทและเงื่อนไขของโบนัสอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภทบัญชีและภูมิภาค ดังนั้น คุณควรอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขได้ดีก่อนรับข้อเสนอโบนัส
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเงิน
HF Markets นำเสนอคู่เงินฟอเร็กซ์ทั้งหมด 38 คู่ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากเพียงพอสำหรับเทรดเดอร์หลายคน แต่หากเทียบกับโบรกเกอร์รายใหญ่ๆ เช่น Pepperstone, IC Markets และ Eightcap ซึ่งเสนอคู่เงินประมาณ 60-65 คู่ ก็ยังถือว่า HFM อาจยังต้องพัฒนาในส่วนนี้เพิ่มเติม
โลหะ (Metals)
คุณสามารถเลือกเทรด CFD ของทองคำ (Gold), แพลเลเดียม (Palladium) และแพลตินัม (Platinum) ได้ โดยในกรณีของทองคำและเงิน คุณสามารถเทรดกับยูโร (EUR) แทนที่จะเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพียงอย่างเดียว
สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
สินค้าโภคภัณฑ์พลังงานทั้ง สัญญาซื้อขายสินค้าระยะสั้น (Spot Contracts) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Contracts) สามารถใช้ซื้อขายได้ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันเบรนท์ (Brent Oil) นอกจากนี้ คุณยังสามารถเทรด Soft Commodities เช่น ฝ้าย, โกโก้ และน้ำตาล ได้ด้วย
หุ้น (Shares)
คุณสามารถเลือกเทรด CFD ของหุ้น ได้ทั้งหมด 96 รายการบน MT4 (จากตลาด เช่น NYSE, NASDAQ และ EURONEXT ) NYSE, NASDAQ และ EURONEXT) และ 846 รายการบน MT5 (จากตลาดในประเทศสเปน, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์) โดยมีการคิดค่าคอมมิชชัน 0.1% สำหรับ MT4 และ 0.01 USD หรือ 0.02 EUR ต่อการทำธุรกรรมกับ MT5
Physical Shares
น่าสนใจที่ HF Markets ยังมี Physical Shares ให้เลือกเทรดอีกกว่า 1,800 ตัว สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้พำนักในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ โดยไม่มีค่าคอมมิชชันในการซื้อขาย และมีราคาเริ่มต้นเพียง $5
ดัชนี (Indices)
สำหรับ CFD ของดัชนีมีให้เทรด 23 รายการ และ ETF อีก 34 รายการ ครอบคลุมตลาดสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น
ความคิดเห็นเกี่ยวกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเงินจาก HFM
แม้ว่าโบรกเกอร์บางรายจะมีตลาดการเงินให้เลือกเทรดมากกว่า แต่ผมคิดว่า HFM ก็มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
แม้ HF Markets จะแจ้งทางหน้าเว็บไซต์ว่าพวกเขามีฝ่ายบริการลูกค้าพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ 27 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย ผ่านอีเมล, โทรศัพท์ และการสนับสนุนทางแชทสด แต่เมื่อผมทดสอบฟีเจอร์แชทสด ผมพบว่ามันมีข้อผิดพลาดบ่อยและไม่ค่อยมีประโยชน์ในการหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วหรือมีประสิทธิภาพเท่าใดนัก
ในตอนแรกเมื่อพยายามติดต่อฝ่ายสนับสนุน ผมกลับพบเพียงหน้าจอแชทที่ว่างเปล่า และเมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้แล้ว ผมก็ต้องรอตอบกลับที่ล่าช้าและพวกเขายังตอบคำถามได้ไม่ครบถ้วนเท่าที่ควร
ดังนั้น หากคุณต้องการรับการสนับสนุนทางเทคนิคเร่งด่วน การติดต่อพวกเขาผ่านทางโทรศัพท์จะเป็นทางเลือกที่เร็วกว่า แต่หากเป็นข้อสงสัยที่ไม่เร่งด่วน ผมพบว่าช่องทางอีเมลเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากใช้เวลารอไม่นานมากและตอบกลับด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน
ความคิดเห็นเกี่ยวกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ HFM
โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนนประสบการณ์บริการลูกค้าของ HF Markets อยู่ที่ 5/10
เครื่องมือการศึกษาและค้นคว้า
HFM มีเครื่องมือสำหรับเทรดเดอร์และแพลตฟอร์มการศึกษาที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่เป็นอย่างยิ่ง บทเรียนของพวกเขาเริ่มต้นจากการอธิบายคำศัพท์พื้นฐานของตลาด และต่อยอดไปที่การสร้างโมเดลทางคณิตศาสตร์เพื่อวิเคราะห์และเทรดตลาด
นอกจากนี้ยังมีปฏิทินเศรษฐกิจ เว็บบินาร์และวิดีโอ รวมถึงการวิเคราะห์ตลาดรายวันเพื่อให้คุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของตลาดในปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า HFM ควรพัฒนาส่วนนี้เพิ่มเติม เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถนำความรู้มาใช้เพื่อพัฒนาทักษะการเทรดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พอร์ทัลการศึกษาค้นคว้า
HFM จัดทำพอร์ทัลข้อมูลการวิจัยตลาดจำนวนมากให้แก่เทรดเดอร์ ทั้งในรูปแบบบทความรายวัน และเว็บบินาร์ที่จัดขึ้นเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม นอกจากจะเข้าร่วมและหาข้อมูลจากสิ่งที่ HF Markets มีให้แล้ว ผมคิดว่าคุณควรจะกำหนดกลยุทธ์และการเทรดของคุณ โดยใช้เทคนิคที่คุณได้ทดสอบย้อนหลังและสร้างกำไรได้อย่างแท้จริง
HFM ดีไหม – ข้อสรุป
HFM เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด และมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ด้วยข้อจำกัดด้านใบอนุญาตและหน่วยงานกำกับดูแล โบรกเกอร์นี้จึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์จากสหราชอาณาจักร, ยุโรป หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มากกว่า
ในกรณีของเทรดเดอร์ชาวไทย HF Markets อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยบัญชีเทรดที่ใช้เงินทุนที่ไม่มาก ต้องการการฝากและถอนได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว นอกจากนี้ หากคุณชอบการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหรือข่าวสาร การเลือกใช้ HFM จะช่วยให้คุณติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดและข่าวสารทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมข้อมูลวิเคราะห์จากทีมผู้เชี่ยวชาญของพวกเขา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HFM
HFM คือใคร?
HFM (เดิมชื่อ Hot Forex) คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ยังไม่มากนัก โดยคุณสมบัติต่างๆ ที่ HFM มีให้ค่อนข้างจะเป็นแบบทั่วไป ที่พบได้ในโบรกเกอร์แบบ No-Dealing Desk ไม่ว่าจะเป็น การวางคำสั่งซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 รวมทั้งข้อเสนอผลิตภัณฑ์ CFD ที่หลากหลาย เช่น ฟอเร็กซ์, คริปโต, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และพันธบัตร
HFM กำหนดเงินฝากขั้นต่ำอยู่ที่เท่าไหร่?
โบรกเกอร์ HF Markets ไม่มีข้อกำหนดในส่วนนี้ ทั้งนี้ จำนวนเงินจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่องทางการชำระเงินตั้งแต่ $5 ถึง $100 และวิธีการฝากเงินหรือค่าธรรมเนียมการฝากเงินก็จะแตกต่างกันออกไปตามประเทศที่คุณอาศัยอยู่และสกุลเงินที่ใช้ในการเปิดบัญช
HFM มีบัญชีทดลองเทรดหรือไม่
HFM มีบัญชีทดลองเทรด ซึ่งเป็นลักษณะโดยทั่วไปของโบรกเกอร์ที่ดีในท้องตลาด โดยคุณสามารถใช้บัญชีทดลองได้บนแพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ Webtrader
โดยบัญชีทดลองของ HFM นั้นสามารถตั้งค่าได้ง่ายและมาพร้อมกับราคาซื้อขายที่อัพเดทแบบเรียลไทม์ คุณจะได้รับยอดเงินเสมือนจริงสูงสุดถึง $100,000 และใช้งานได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีแข่งขัน Demo ‘Virtual to Real’ ที่ให้คุณได้ร่วมสนุกเพื่อรับรางวัล โดยไม่ต้องเสี่ยงด้วยเงินทุนจริงอีกด้วย
HFM เป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัยหรือไม่?
HF Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัย เนื่องจากได้รับการควบคุมจากหน่วยงานทางการเงินชั้นนำ ซึ่งรวมถึง Financial Conduct Authority (FCA)
HFM นำเสนอเลเวอเรจเท่าไหร่?
HFM เสนอเลเวอเรจในจำนวนที่แตกต่างกันสำหรับสมาชิกที่อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่บริการ และขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นเทรดเดอร์รายย่อยหรือเทรดเดอร์มืออาชีพ และผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกเทรด เนื่องจาก หน่วยงานกำกับดูแลที่ควบคุมโบรกเกอร์ในแต่ละภูมิภาคจะมีข้อกำหนดที่เกี่ยวกับเลเวอเรจที่แตกต่างกัน
เช่น ในสหราชอาณาจักร, EU และ UAE จะมีข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเลเวอเรจที่อนุญาต ดังนั้น หากคุณเป็นเทรดเดอร์รายย่อยในสหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป (EU) หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เลเวอเรจสำหรับคู่เงินหลักจะถูกจำกัดที่ 30:1 ส่วนเลเวอเรจสำหรับหุ้นจะอยู่ที่ 5:1 และดัชนีหลักจะที่ 20:1 ในขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์จะอยู่ที่ 10:1
การเปรียบเทียบคู่แข่งของ HF Markets
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย