รีวิว Vantage ดีไหม สำหรับเทรดเดอร์ไทย 2025
ผมยกให้ Vantage เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการซื้อขาย forex ในไทย ณ ขณะนี้ นอกจาก รางวัลการันตีในฐานะ “โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในด้านความหลากหลายของตลาด” ประจำปี 2025 เทรดเดอร์ชาวไทยเช่นคุณยังจะได้รับประโยชน์จากสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips ในบัญชี Premium โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นอีกด้วย
จากข้อมูลข้างต้น คงพอจะช่วยให้คุณหายสงสัยแล้วว่า “Vantage ดีไหม” แต่ในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปเจาะลึกมากกว่านั้น เพื่อให้คุณมองภาพรวมของการใช้งานโบรกเกอร์ได้ง่ายขึ้น

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site.
ข้อมูลทั่วไป Vantage

🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล | ASIC, FCA, FSCA, VFSC, CIMA |
💰 ค่าธรรมเนียมเทรด | ต้นทุนเทรดต่ำ |
📊 แพลตฟอร์มเทรด | MT4, MT5, Vantage App และ Protrader |
💰 Minimum Deposit | $50 |
🎮 บัญชีทดลอง | Yes |
🛍️ ตลาดการเงิน | CFDs (ฟอเร็กซ์, ดัชนี, โลหะ, พลังงาน, พันธบัตร, ETFs) |
💳 วิธีฝากเงิน | โอนเงิน, บัตร (Visa และ Mastercard), Skrill, Neteller, UnionPay |
Vantage ดีไหม? และทำไมผมถึงแนะนำโบรกเกอร์นี้
ทีมของเราให้คะแนน โบรกเกอร์ Vantage ที่ 67/100 จัดอยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ forex ชั้นนำสำหรับปี 2025 ด้วยจุดเด่นที่สำคัญในด้านความหลากหลายของประเภทบัญชีช่วยให้คุณสามารถควบคุมค่าธรรมเนียมการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบัญชี Premium STP ที่มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุด
นอกจากนี้ Vantage ยังมีแพลตฟอร์มการเทรดคุณภาพ 5 แพลตฟอร์ม และตลาด CFD กว่า 1,000 รายการ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการเทรดรายวันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างในด้านการบริการลูกค้าที่ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ชาวไทยให้บริการโดยตรง และเนื้อหาด้านการศึกษาที่แม้จะมีความหลากหลายแต่ยังขาดสื่อการเรียนรู้ที่สำคัญอย่างเช่น วิดีโอ ซึ่งจะช่วยให้การเรียนรู้จากเนื้อหาของผู้ใช้งานนั้นง่ายขึ้น
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของ Vantage
- ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ
- รองรับแพลตฟอร์มเทรดหลายตัว
- มีเครื่องมือสำหรับคัดลอกการเทรด
- มีระบบสะสมแต้ม V-Points เพื่อแลกรับเงินคืน
- ไม่มีแพลตฟอร์ม cTrader
- เงินบาท (THB) ไม่ใช่สกุลเงินหลัก
The overall rating is based on review by our experts
ค่าธรรมเนียมการเทรด
Vantage เป็นโบรกเกอร์แบบ Non-Dealing Desk ซึ่งใช้เทคโนโลยี Straight-Through Processing (STP) สำหรับบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน ส่วนบัญชีที่มีค่าคอมมิชชันจะใช้โมเดลแบบ Electronic Communications Network (ECN) เพื่อรับสเปรดโดยตรงจากผู้ให้บริการสภาพคล่องของตน
และด้านล่างนี้คือรีวิวบัญชีการเทรดทั้งหมดของ Vantage Markets ที่เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถเลือกใช้งานได้
สเปรดบัญชี Vantage Standard STP
บัญชี STP ของ Vantage เป็นบัญชีมาตรฐานที่ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่น แต่มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip
ซึ่งจะมีค่ากว้างกว่าบัญชีแบบ ECN
จากการวิเคราะห์สเปรดของโบรกเกอร์ ผมพบว่าบัญชี STP มีความสามารถในการแข่งขันได้เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยมาตรฐานของอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม จากตารางคุณจะเห็นว่าสเปรดของคู่เงินยอดนิยมอย่าง EUR/USD ไม่ได้มีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม แต่ผลกลับพบว่ามันมีความเสถียรสูงในช่วงเวลาเทรดของเอเชีย ทำให้คุณได้รับสเปรดที่ใกล้เคียงกันตลอดช่วงเวลาที่ทำการเทรด ในขณะที่โบรกเกอร์บางรายที่ให้สเปรดเริ่มต้นต่ำ กลับไม่สามารถรักษาตัวเลขให้ต่ำได้ตลอดทั้งวัน
สเปรดบัญชี Standard | EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | AUD/USD | USD/CAD | EUR/GBP | EUR/JPY | AUD/JPY |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สเปรดเฉลี่ยเมื่อเทรดฟอเร็กซ์ กับ Vantage | 1.3 | 1.5 | 1.8 | 1.4 | 1.6 | 1.6 | 1.8 | 2 |
สเปรดเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | 1.2 | 1.4 | 1.6 | 1.6 | 1.8 | 1.5 | 2.0 | 2.2 |
บัญชี Cent by Vantage
บัญชี Cent ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีงบประมาณจำกัด โดยมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip ผ่านข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเพียง $50
บัญชีนี้ทำงานเช่นเดียวกับบัญชี STP ทุกประการ จะแตกต่างกันก็ตรงที่เงินในบัญชีจะแสดงผลเป็นเซนต์สหรัฐฯ แทนดอลลาร์ เช่น หากคุณมี $1 บัญชีจะแสดงเป็น 100 เซนต์
ข้อดีหลักๆ ได้แก่ การที่คุณจะสามารถเข้าถึงการซื้อขายด้วยจำนวนล็อตขั้นต่ำเพียง 0.01 ล็อต ที่มาพร้อมกับความเร็วในการเทรดที่สูง เป็นต้น
สเปรดบัญชี Vantage Premium
บัญชี Premium เป็นตัวเลือกที่ผมอยากแนะนำมากที่สุด เนื่องจากให้ความคุ้มค่าทั้งในแง่ของสเปรดที่แคบและไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่ในฐานะเทรดเดอร์ไทย คุณต้องฝากเงินขั้นต่ำที่ $500
ประโยชน์ที่คุณจะได้จากการใช้งานบัญชีประเภทนี้ คือ เลเวอเรจสูงถึง 1:2000 และมีสเปรดเริ่มต้นจาก 0 pip พร้อมกันน้ คุณยังไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นใด ๆ ในการเทรด ทำให้เมื่อเทียบกับบัญชี STP แล้ว คุณจะประหยัดค่าสเปรดได้ประมาณ 85% เลยที่เดียว
EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | |
---|---|---|---|
บัญชี Standard | 1.3 | 1.5 | 1.8 |
บัญชี Premium | 0.18 | 0.35 | 0.14 |
ประหยัดได้มากถึง | 85% | 76% | 92% |
สเปรดบัญชี Vantage Raw ECN
จากการเปรียบเทียบโบรกเกอร์ ECN ของเรา บัญชี Raw ECN ของ Vantage มีสเปรดที่สามารถแข่งขันได้สูง โดยคู่เงิน EUR/USD มีสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 0.18 pips
โดยโมเดลการดำเนินการของบัญชี Raw ECN ถูกออกแบบให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องแข่งขันกันเพื่อรับคำสั่งซื้อขายของคุณ ทำให้สเปรดที่ได้มีค่าแคบกว่าบัญชี Standard อย่างเห็นได้ชัด
ECN Forex Spread Comparison
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.35 | 0.45 | 0.18 | 0.36 | 0.60 |
![]() |
0.30 | 0.40 | 0.10 | 0.30 | 0.30 |
![]() |
0.23 | 0.20 | 0.06 | 0.30 | 0.27 |
![]() |
0.20 | 0.40 | 0.10 | 0.20 | 0.10 |
![]() |
0.30 | 0.50 | 0.10 | 0.30 | 0.20 |
![]() |
0.14 | 0.18 | 0.09 | 0.14 | 0.13 |
![]() |
0.45 | 0.66 | 0.14 | 0.75 | 0.43 |
![]() |
0.24 | 0.70 | 0.16 | 0.54 | 0.29 |
![]() |
0.60 | 0.15 | 0.10 | 0.70 | 0.60 |
![]() |
0.20 | 0.50 | 0.12 | 0.40 | 0.30 |
![]() |
0.69 | 1.05 | 0.63 | 0.98 | 0.62 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 08/01/2025
เมื่อผมลองเปรียบเทียบสเปรดของบัญชี Raw ECN กับค่าเฉลี่ยมาตรฐานที่ได้จากโบรกเกอร์ ECN กว่า 40 ราย ผมพบว่าสเปรดของ Vantage ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างชัดเจน โดยสเปรดเฉลี่ยของคู่เงินหลัก (Majors) อยู่ที่ 0.65 pips ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 0.75 pips หรือประมาณ 13.33%
จากตารางด้านล่าง คุณจะเห็นได้ว่าคู่เงินหลัก (Major) ส่วนใหญ่มีสเปรดที่แคบกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม ยกเว้นคู่ AUD/USD ที่เป็นข้อยกเว้น ส่วนคู่เงินรอง (Minor) ที่เราทดสอบ เช่น EUR/JPY และ AUD/JPY ก็มีสเปรดสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สเปรดของบัญชี Raw | Vantage | สเปรดเฉลี่ย |
---|---|---|
ภาพรวม | 0.65 | 0.75 |
EUR/USD | 0.18 | 0.22 |
USD/JPY | 0.35 | 0.38 |
GBP/USD | 0.14 | 0.53 |
AUD/USD | 0.6 | 0.47 |
USD/CAD | 0.45 | 0.56 |
EUR/GBP | 0.36 | 0.55 |
EUR/JPY | 0.85 | 0.80 |
AUD/JPY | 1.19 | 0.96 |
USD/SGD | 1.7 | 2.29 |
หัวหน้าทีมวิจัยของเรา Ross Collins พบว่าค่าธรรมเนียมการเทรดของบัญชี ECN โดยรวมแล้วต่ำกว่าบัญชีส่วนใหญ่
โดยเขายังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “บัญชี ECN ของ Vantage มีค่าคอมมิชชันต่ำกว่าโบรกเกอร์ ECN อีกหลาย ๆ แห่งที่เราเคยทดสอบ ดังนั้น เมื่อพิจารณาต้นทุนรวมทั้งหมดแล้ว บัญชี ECN ของ Vantage จึงเป็นหนึ่งในบัญชีเทรดที่มีต้นทุนต่ำที่สุดโดยรวม แม้จะมีข้อเสียเปรียบอยู่บ้าง สำหรับสเปรดที่กว้างกว่า”
ค่าคอมมิชชันบัญชี Vantage Raw ECN
จากการทดสอบของผม ค่าคอมมิชชันของบัญชี Vantage ECN ถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุด โดยเริ่มต้นเพียง $3 ต่อ 1 ล็อต หรือ $6 ต่อรอบการเทรด (เปิดและปิดออเดอร์) ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยของโบรกเกอร์ทั่วไปที่มักคิดอยู่ที่ $7 ต่อรอบ ประมาณ 14.20%
แม้ฟังดูเหมือนไม่ต่างกันมาก แต่หากคุณเทรดมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน คุณจะเห็นได้ว่าจำนวนคอมมิชชั่นที่คุณต้องจ่ายนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ค่าคอมมิชชั่น | USD | AUD | GBP | EUR |
---|---|---|---|---|
อัตราคอมมิชชั่นของบัญชี Vantage Raw ECN | $3.00 | $3.00 | £2.00 | £2.50 |
อัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | $3.44 | $3.32 | £2.44 | €2.91 |
สเปรดบัญชี Vantage Pro ECN
จากการทดสอบ ผมพบว่าสเปรดของบัญชี Pro ECN เหมือนกับบัญชี Raw ECN โดยมีสเปรดเริ่มต้นตั้งแต่ 0 – 0.2 pips แต่จุดเด่นของบัญชีนี้คือค่าคอมมิชชันที่ถูกกว่ามาก ซึ่งจะอธิบายต่อไปด้านล่าง
ค่าคอมมิชชั่นบัญชี Vantage Pro ECN
บัญชี Pro ECN ของ Vantage เป็นบัญชีที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำที่สุดในบัญชีเทรด forex ทั้งหมดของ Vantage Markets อย่างไรก็ตาม คุณต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ $10,000 เพื่อเข้าถึงอัตราค่าคอมมิชชันที่ $1.50 ต่อ 1 ล็อต หรือ $3 ต่อรอบการเทรด
หากคุณสามารถฝากเงิน $10,000 ได้ ผลประโยชน์ที่ได้จากค่าคอมมิชชั่นที่ถูกลงถือว่ามีความคุ้มค่าสูง เพราะคุณจะประหยัดค่าคอมมิชชั่นได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับบัญชี ECN ปกติ และถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 56%
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หากคุณเป็นสาย Scalper ที่เทรดมากกว่า 100 ครั้งต่อวัน คุณอาจประหยัดค่าคอมมิชชั่นได้มากกว่า $150 ต่อวันเลยที่เดียว
ค่าคอมมิชชั่น | USD |
---|---|
อัตราคอมมิชชั่นของบัญชี Vantage Pro ECN | $1.50 |
อัตราคอมมิชชั่นของบัญชี Vantage Raw ECN | $3.00 |
อัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | $3.44 |
บัญชีเทรดแบบไม่มีสวอป (Swap-Free)
Vantage Markets มีบัญชีเทรดแบบไม่มี Swap ให้เลือกทั้งในรูปแบบ STP และ ECN โดยบัญชีแบบ Swap-Free นี้จะไม่มีการคิดดอกเบี้ย (Swap) สำหรับการถือออเดอร์ข้ามคืนในตลาด CFD แต่จะเรียกเก็บเป็น ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Admin Fee) แทน
และตามข้อมูลจาก Vantage ผมพบว่าค่าธรรมเนียมการจัดการนี้จะเปลี่ยนแปลงตามสถานะการถือครองออเดอร์ของคุณ
บัญชีทดลองเทรด (Demo Account) ของ Vantage
คุณสามารถเปิดบัญชีทดลองของ Vantage ได้เป็นระยะเวลา 30 วัน โดยสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรดทั้งแบบ ECN และ STP ได้ทั้งหมด บัญชีทดลองจะจำลองตลาดแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณสามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดในสภาวะตลาดจริงโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินของคุณ
โดยบัญชีทดลองนี้มาพร้อมกับ เงินเสมือนจำนวน $10,000 ซึ่งเพียงพอสำหรับการทดลองกลยุทธ์และเงื่อนไขการเทรดต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเทรด forex
สรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเทรดของ Vantage
ผมพบว่าค่าธรรมเนียมการเทรดของ Vantage นั้นมีทั้งข้อดีและข้อด้อย สำหรับบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น (Commission-Free) สเปรดอาจไม่ถูกนัก ยกเว้นในกรณีของ บัญชี Premium STP ที่ให้สเปรดในระดับเดียวกับบัญชี Raw ECN
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย บัญชี Premium STP เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากคุณสามารถฝากขั้นต่ำ $500 ได้ เพราะคุณจะได้รับสเปรดที่ต่ำสุด โดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน แต่หากคุณมีเงินต้นทุนเริ่มต้นที่จำกัดแต่ต้องการสเปรดที่แคบเท่ากัน บัญชี Raw ECN ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเริ่มต้นได้ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง $50
แพลตฟอร์มการเทรดของ Vantage
Vantage มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่แพลตฟอร์มเฉพาะของตัวเองอย่าง ProTrader ไปจนถึงแพลตฟอร์มจากผู้ให้บริการภายนอกอย่าง MT4 และ TradingView ซึ่งผมได้ทดสอบทุกแพลตฟอร์มเพื่อดูประสิทธิภาพและเปรียบเทียบเครื่องมือที่แต่ละแพลตฟอร์มมีให้ คุณสามารถเลื่อนลงเพื่ออ่านเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับคุณ ทีมงาน CompareForexBrokers ของเราก็ได้จัดทำแบบทดสอบเพื่อช่วยเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมกับสไตล์และความต้องการของคุณ ลองใช้เครื่องมือนี้ได้เลย
TradingView
ผมคิดว่าการที่โบรกเกอร์ Vantage Markets ให้เทรดเดอร์ไทยสามารถใช้บริการซื้อขาย forex ผ่าน TradingView ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์การเทรดของคุณ เพราะคุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือกราฟขั้นสูง ที่มีตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) มากที่สุดกว่า 110 ตัว
ตัวชี้วัดที่สำคัญที่มีให้ เช่น Moving Averages, Bollinger Bands, Ichimoku Kinko Hyo, RSI และ MACD
นอกจากนี้ การที่ TradingView เป็นแพลตฟอร์มแบบ Web-based ก็ยังช่วยให้คุณสามารถเข้าใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ แถมยังสามารถซิงค์กราฟระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคแสดงผลได้ทุกที่ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม
คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ของ TradingView ได้แก่
- ตัวชี้วัดกว่า 110 ตัว และเครื่องมือวาดกราฟกว่า 88 ชนิด
- เครื่องมือสแกนตลาดพร้อมตัวกรองทั้งเชิงเทคนิคและพื้นฐาน
- สามารถสร้างตัวชี้วัดและสคริปต์เองด้วย Pine Script
- ระบบโซเชียลเทรดและห้องแชทสด
- ฟีเจอร์ Replay Trading สำหรับทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง
จากการทดสอบของผม TradingView กำลังพัฒนาตัวชี้วัดและเพิ่มเครื่องมือเทรดอัตโนมัติ เช่น Auto Trendline tool ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ตลาดได้รวดเร็วขึ้นและสะดวกขึ้น ทำให้คุณสามารถสลับดูกราฟพร้อมกับการวิเคราะห์ที่ทำไว้ล่วงหน้าแล้วได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ Vantage ยังมีโปรโมชั่นให้คุณสามารถสมัครใช้งาน TradingView ได้ฟรี หากคุณผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์เด่น ๆ เช่น Volume Profiles โดยที่ไม่ต้องเสียเงินหลายร้อยดอลลาร์ต่อปี
ด้านล่างนี้คือเงื่อนไขสำหรับแต่ละแผนการใช้งาน:
แผนการใช้งาน | ข้อกำหนด | |
เงินฝากขั้นต่ำ | ยอดเทิร์นโอเวอร์รายเดือน | |
Pro | $500 | $1 ล้าน |
Pro+ | $1,000 | $1.8 ล้าน |
Premium | $2,000 | $2.8 ล้าน |
MetaTrader 4
นอกจากนี้ Vantage ยังมีแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ในการเทรดอีกมากมายให้คุณสามารถปรับแต่งและดำเนินการเทรดได้อย่างอัตโนมัติ ผ่านภาษาการเขียนโปรแกรม MQL4
นอกจากนี้ จุดเด่นที่ทำให้ MT4 แตกต่างจาก TradingView คือ คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์ Expert Advisors (EAs) เพื่อสั่งการบอทเทรดให้ทำตามคำสั่งของคุณ เช่น ค้นหาสัญญาณ ซื้อ-ขาย และบริหารความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ
ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ MT4 ได้แก่:
- ตัวชี้วัดทางเทคนิคกว่า 30 ตัว พร้อมเข้าถึงตัวชี้วัดเพิ่มเติมอีกหลายหมื่นรายการผ่าน MetaQuotes Marketplace
- เทรดแบบอัตโนมัติด้วย Expert Advisors (EAs)
- ฟีเจอร์เทรดแบบคลิกเดียว (One-click trading)
แต่จุดอ่อนของแพลตฟอร์มนี้ก็คือ โครงสร้างของ MT4 ที่ไม่รองรับการเทรดหุ้น CFD ( เพราะถูกออกแบบมาสำหรับฟอเร็กซ์และสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลัก
MetaTrader 5
MetaTrader 5 (MT5) เป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงโดยเพิ่มฟีเจอร์จาก MT4 ให้คุณสามารถเทรดหุ้น CFD ได้โดยตรง รวมถึงมีปฏิทินเศรษฐกิจในตัวและเครื่องมือเทรดขั้นสูงอื่น ๆ อีกมากมาย
หนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือ Depth of Markets (DOM) แบบ Level II ที่ช่วยให้คุณเห็นข้อมูลคำสั่งซื้อขายในตลาด (Order Book) เพื่อดูว่าผู้เทรดรายอื่นวางคำสั่งรอซื้อ-ขายไว้ที่จุดไหน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการแบบ scalping เพราะช่วยให้คุณค้นหาระดับแนวรับ/แนวต้านที่ซ่อนอยู่ และจับเวลาการเทรดได้ดีขึ้น
คุณยังสามารถใช้ Expert Advisors (EAs) ได้เช่นเดิม แต่ EAs บน MT5 ได้รับการอัปเกรดด้วยภาษาการเขียนโปรแกรม MQL5 ที่มีความซับซ้อนและตรรกะที่ดีขึ้น ทำให้พัฒนากลยุทธ์การเทรดที่ละเอียดมากขึ้น และให้ EAs ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ MT5 ได้แก่:
- ตัวชี้วัดทางเทคนิคกว่า 38 ตัว ที่สามารถสร้างได้เองด้วยโปรแกรมภาษา MQL5
- การเทรดอัตโนมัติที่พัฒนาด้วย EAs
- ปฏิทินเศรษฐกิจในตัว
- ฟีเจอร์เทรดแบบคลิกเดียว (One-click trading)
- รองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ รวมถึงหุ้น CFD
แพลตฟอร์ม Vantage ProTrader
แพลตฟอร์ม ProTrader ของ Vantage เป็นตัวเลือกเริ่มต้นของโบรกเกอร์ที่มีการรวมเอาฟังก์ชันกราฟขั้นสูงของ TradingView มาไว้ในแพลตฟอร์มนี้ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงตัวชี้วัดทางเทคนิคได้มากกว่า 100 ตัว ซึ่งครอบคลุมตัวชี้วัดหลัก ๆ อย่าง Bollinger Bands และ Moving Averages ไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของ TradingView ผ่านแพลตฟอร์ม ProTrader ได้ และจากการทดสอบของผม พบว่าคุณจะไม่สามารถเข้าถึงตัวชี้วัดเวอร์ชันอัปเกรดหรือที่ชุมชนสร้างขึ้นมาเอง (community-made indicators) ทำให้ตัวเลือกของคุณอาจมีอย่างจำกัด
แต่จุดเด่นคือ คุณสามารถเพิ่มตัวชี้วัดทางเทคนิคในแพลตฟอร์ม ProTrader ได้มากกว่า 2 ตัว โดยไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งต่างจาก TradingView ที่การใช้ตัวชี้วัดมากกว่า 2 ตัวบนกราฟนั้นเป็นฟีเจอร์สำหรับสมาชิกแบบจ่ายเงินเท่านั้น
แพลตฟอร์ม Copy Trading ของ Vantage
หากคุณต้องการคัดลอกเทรด คุณสามารถทำได้ผ่านระบบ iOS และ Android โดยแพลตฟอร์ม Copy Trading นี้จะช่วยให้คุณทำการค้นหาและคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์รายอื่นได้อย่างอัตโนมัติ
Vantage ระบุว่ามีผู้ให้สัญญาณ (Signal Providers) มากกว่า 71,700 ราย นั่นทำให้คุณมีตัวเลือกในการคัดลอกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แอปพลิเคชันยังมีจุดเด่นในด้านการแสดงผลการดำเนินงานและคะแนนความเสี่ยงจากประวัติการเทรดของผู้ให้สัญญาณ ทำให้คุณสามารถคัดกรองรายการที่ตรงกับเกณฑ์และความต้องการของคุณได้ง่ายขึ้น
แอป Vantage
แอป Vantage ช่วยให้คุณควบคุมบัญชีซื้อขายและเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ทุกเวลา และจากการทดสอบ ผมพบว่าอินเทอร์เฟซของแอปใช้งานง่ายและมีกราฟที่เพียงพอต่อการใช้งาน แม้จะไม่ละเอียดเท่าการใช้งานผ่านเดสก์ท็อปก็ตาม
คุณสามารถตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหรือสัญญาณแจ้งเตือนได้ทันทีผ่านอุปกรณ์มือถือ ด้วยระบบแจ้งเตือนแบบพุช (Push Notifications) และเข้าถึงบทวิเคราะห์ตลาดรายวันและสัญญาณการเทรดของโบรกเกอร์ได้โดยตรงจาก Vantage Trading App นี้
ข้อสรุปเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดของ Vantage
Vantage นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะกับเทรดเดอร์หลายสไตล์ ด้วยการรองรับ TradingView เวอร์ชันเต็มและผ่านแพลตฟอร์ม ProTrader คุณจึงสามารถเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมได้
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังรองรับ MetaTrader 4 และ MT5 ที่ทั้งคู่ล้วนเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดแบบอัตโนมัติด้วยระบบ Expert Advisors (EAs) รวมไปถึงการนำเสนอแพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ให้คุณติดตามเทรดเดอร์มืออาชีพ เพื่อสร้างผลกำไรจากตลาดโดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การเทรดด้วยตัวเอง
Vantage ปลอดภัยหรือไม่?
ใช่ โบรกเกอร์ Vantage นั้นมีความปลอดภัยสูง โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงินหลายแห่ง เช่น Financial Conduct Authority (FCA) และ Australian Securities & Investments Commission (ASIC) และรวมถึง สำนักงานคณะกรรมการบริการทางการเงินแห่งวานูอาตู (VFSC) ซึ่งให้กรอบการทำงานที่อนุญาตให้ Vantage สามารถให้บริการทางการเงินแก่เทรดเดอร์ชาวไทยได้
และจากการทดสอบของเรา เราให้คะแนนความน่าเชื่อถือของพวกเขา 63 จาก 100 คะแนน

การกำกับดูแล
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย บัญชีเทรดของคุณจะอยู่ภายใต้เขตอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการบริการทางการเงินแห่งวานูอาตู (VFSC) ที่แม้จะเป็นหน่วยงาน Teir 3 แต่ก็มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า
ชื่อเสียง
Vantage ดำเนินกิจการมากว่า 15 ปี เป็นโบรกเกอร์ที่มีทั้งความมั่นคงและมีผู้ใช้งานมากกว่า 5 ล้านรายทั่วโลก โดยนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โบรกเกอร์ได้แสดงรางวัลต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของตน ซึ่งรวมแล้วมากกว่า 100 รางวัล นอกจากนี้ ทีมงานของเรายังได้มอบรางวัลโบรกเกอร์ที่มี “ประเภทสินทรัพย์ให้เลือกมากที่สุด” (Best Range of Markets) ให้ Vantage ในปี 2025 อีกด้วย
รีวิว Vantage บน Trustpilot
Vantage ได้รับรีวิวมากกว่า 8,120 รายการ บน Trustpilot และยังคงรักษาคะแนนระดับ “ยอดเยี่ยม (Excellent)” ที่ 4.4 จาก 5 คะแนน ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าน่าประทับใจเมื่อพิจารณาจากจำนวนรีวิวที่มากขนาดนี้ นี่จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ลูกค้ามีความพึงพอใจกับบริการของโบรกเกอร์รายนี้เป็นอย่างมาก
สรุปความเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Vantage
ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 15 ปี และการได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานขั้นนำในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์ ผมมองว่า Vantage Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสูงอีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน
Vantage มีตัวเลือกช่องทางการฝากเงินหลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย พร้อมข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ไม่สูงนัก
เงินฝากขั้นต่ำที่ Vantage สำหรับเทรดเดอร์ไทย
เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชีเทรดส่วนใหญ่ของ Vantage คือ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการเปิดออเดอร์ไมโครล็อตหลายรายการ แต่หากคุณต้องการใช้บัญชี Premium STP หรือ ECN Pro จะมีเงินฝากขั้นต่ำที่สูงขึ้นที่ 500 ดอลลาร์ และ 10,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ
ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดเงินฝากขั้นต่ำสำหรับแต่ละประเภทบัญชีเทรดที่โบรกเกอร์ Vantage มีให้
ประเภทบัญชี | ยอดฝากขั้นต่ำ |
---|---|
Standard STP | $50 |
Cent STP | $50 |
Premium STP | $500 |
ECN Raw | $50 |
ECN Pro | $10,000 |
สกุลเงินพื้นฐานของบัญชี
สกุลเงินเริ่มต้นของบัญชีคือ USD แต่โบรกเกอร์ Vantage ยังมีสกุลเงินอื่นให้เลือก เช่น EUR, GBP, AUD, SGD, JPY, NZD, CAD และ HKD
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ยังไม่มีตัวเลือกสกุลเงินบาท (THB) นั่นหมายความว่า เมื่อคุณเติมเงินด้วยเงินบาท ระบบจะทำการแปลงค่าเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) ทำให้คุณต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้
แต่จากประสบการณ์ ผมพบว่าอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB นั้นมีความคุ้มค่าที่สุด ดังนั้น เมื่อเลือกสกุลเงินฐานของบัญชี ควรตั้งเป็น USD เพื่อประโยชน์สูงสุดครับ
ช่องทางฝากเงินและค่าธรรมเนียม
Vantage มีช่องทางการฝากเงินที่หลากหลาย รวมถึงรองรับวิธีฝากเงินระหว่างประเทศจากบัญชีไทย ทำให้คุณสามารถฝากเงินได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ในเรื่องค่าธรรมเนียม โบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากเงิน ทำช่วยลดต้นทุนของคุณได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการที่คุณเลือกใช้ได้เช่นกัน โดยเวลาการดำเนินการฝากเงินสำหรับช่องทางส่วนใหญ่จะเป็นแบบทันที (Instant) ทำให้คุณสามารถเริ่มเทรดได้ทันทีหลังฝากเงิน
ช่องทางการฝากเงินที่รองรับ ได้แก่:
ตัวเลือกการถอนเงินและค่าธรรมเนียม
คุณสามารถถอนเงินกลับไปยังช่องทางฝากเงินที่กล่าวถึงข้างต้นได้เช่นกัน และ Vantage ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมการถอนเงิน ดังนั้น ต้นทุนที่คุณต้องจ่ายจริง ๆ จะขึ้นอยู่กับกิจกรรมการเทรดของคุณเท่านั้น
ตัวอย่างระยะเวลาในการถอนเงิน
1. ธนาคารในประเทศ 1-3 วันทำการ
2. บัตรเครดิต 2-5 วันทำการ
3. การโอนเงิน 2-5 วันทำการ
4. สกุลเงินดิจิทัล 0-2 วันทำการ
ความยากง่ายในการเปิดบัญชีเทรด
ผมได้ทดลองเปิดบัญชี พบว่ากระบวนการเปิดบัญชีค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยจะขอข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าบัญชีเทรดเหมาะสมและถูกต้องตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล
การสมัครทั้งหมดเป็นแบบออนไลน์ 100% และมีบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหรือให้คำแนะนำหากคุณพบอุปสรรคในการกรอกข้อมูล
สรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมฝาก-ถอนของ Vantage
ผมให้คะแนนเต็ม 10/10 สำหรับความหลากหลายของช่องทางฝากเงิน, การดำเนินการที่รวดเร็วและปราศจากค่าธรรมเนียม ที่ทำให้ผมสามารถเริ่มเทรดได้ทันทีหลังจากเติมเงิน ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ
ตลาดการเงินที่รองรับโดย Vantage Markets
โบรกเกอร์ Vantage Markets ได้รับรางวัล “Best Range of Markets 2025” จากทีมงาน CompareForexBrokers ของเรา เนื่องจากโบรกเกอร์นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย มีมากกว่า 1,000 รายการ ทำให้คุณสามารถกระจายกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
คู่สกุลเงิน
Vantage ให้คุณเลือกเทรดฟอเร็กซ์ได้ทั้งหมด 57 คู่สกุลเงิน ครอบคลุมทั้ง Major, Minor และ Exotics รวมถึง USD/THB ด้วย โดยเลเวอเรจสูงสุดสำหรับคู่เงินหลักอยู่ที่ 1:500 แต่ถ้าคุณใช้บัญชี Premium STP จะสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:2000
ดัชนี
โบรกเกอร์มีดัชนีทั้งหมด 29 รายการ ประกอบด้วยดัชนีหลักจากสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 และ NASDAQ 100 รวมถึงดัชนีจากยุโรปและเอเชียแปซิฟิก เช่น Nikkei 225 โดยเลเวอเรจของดัชนีจะสูงสุดที่ 1:200 ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ ที่ให้บริการสำหรับนักเทรดชาวไทย
สินค้าโภคภัณฑ์
Vantage มีสินค้าโภคภัณฑ์ให้เทรด 22 รายการให้เลือกเทรด แบ่งออกเป็นโลหะมีค่า (ทองคำ, เงิน), พลังงาน (น้ำมัน WTI) และสินค้าการเกษตร (กาแฟ, น้ำตาล ฯลฯ)
ซึ่งเลเวอเรจของสินค้าโภคภัณฑ์จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภท โดยทองคำถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจสูงสุดที่ 1:500
CFD หุ้น (Share CFDs)
ผลิตภัณฑ์ CFD หุ้นถือว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของ Vantage ซึ่งเลเวอเรจของ CFD หุ้นสูงสุดที่ 1:20 คุณสามารถเลือกเทรดได้จากหุ้นมากกว่า 800 รายการจากตลาดหุ้นหลักทั่วโลก
ผมพบว่ารายการหุ้นส่วนใหญ่เน้นไปที่บริษัทสหรัฐฯ เช่น Apple, Tesla, Google ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเทรดในช่วงประกาศงบการเงิน นอกจากนี้ยังมีหุ้นจากสหราชอาณาจักร เช่น BP และ Vodafone, หุ้นยุโรป เช่น Siemens และหุ้นเอเชียแปซิฟิกบางรายการ เช่น หุ้นจากออสเตรเลียและฮ่องกงบางตัว
คริปโตเคอร์เรนซี
Vantage มีให้เหรียญคริปโตให้เลือกเทรดทั้งหมด 57 รายการ ซึ่งถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่มักมีแค่ 20 รายการ โดยคุณสามารถเทรด Bitcoin, Ethereum และเหรียญหลัก ๆ ได้ พร้อมกันถึง 1,000 ออร์เดอร์ ด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:100
สรุปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเงินของ Vantage
ด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 1,000 รายการ Vantage มอบโอกาสให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดการเงินยอดนิยมจากทั่วโลกได้จากบัญชีเพียงบัญชีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์, ดัชนี, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
Vantage ให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ โดยรองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่เหมาะกับเทรดเดอร์ชาวไทยอย่างมาก
โบรกเกอร์มีช่องทางติดต่อที่หลากหลาย เช่น อีเมลและไลฟ์แชท แต่ไม่มีบริการสายด่วนทางโทรศัพท์สำหรับลูกค้าชาวไทย ซึ่งถือเป็นจุดที่น่าเสียดาย
จากการทดลองใช้งานของผม ช่องทางหลักที่ Vantage ให้บริการคือ Live Chat ซึ่งเริ่มต้นด้วยแชทบอท AI ที่ตอบคำถามพื้นฐานได้ในระดับที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จริง ผมพบว่าคุณภาพการให้บริการยังไม่ดีนัก เพราะเจ้าหน้าที่มักแค่คัดลอกข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์มาตอบ โดยไม่มีการวิเคราะห์หรืออธิบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
แหล่งข้อมูลการวิจัยและการศึกษา
สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่า Vantage ทำได้ดีคือความพร้อมในแง่ทรัพยากรการวิจัยและการศึกษา โดยโบรกเกอร์มีบทเรียนออนไลน์ให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับมือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมืออย่าง สัญญาณการเทรด (trading signals) ซึ่งช่วยเสนอไอเดียการซื้อขายแบบอัตโนมัติได้เป็นอย่างดี
สื่อการเรียนรู้
Vantage มีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษามากกว่า 70 รายการ ตั้งแต่ eBooks ไปจนถึงบทความและการสัมนาออนไลน์ ซึ่งถือว่ามีความหลากหลายที่สุดที่ผมเคยทดสอบมา
แม้เนื้อหาจะมีคุณภาพดีและแสดงตัวอย่างภาพประกอบอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ขาดไปคือ บทเรียนในรูปแบบวิดีโอ ซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์บางกลุ่มรู้สึกไม่สะดวก โดยเฉพาะผู้ที่เรียนรู้ได้ดีผ่านการดูและฟัง
แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจนั่นคือ เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถเข้าร่วมการสัมมนาได้แบบที่สด ๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งจัดโดย Vantage เพื่อให้คุณได้เรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิคและจิตวิทยาการเทรดจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
การวิเคราะห์ตลาด
เครื่องมือหลักด้านการวิเคราะห์ตลาดที่ Vantage มอบให้คือ สัญญาณการเทรด (Trading Signals) ที่ขับเคลื่อนโดย Trading Central เครื่องมือนี้จะสแกนตลาดของโบรกเกอร์โดยอิงจากรูปแบบกราฟ พร้อมกับระดับแนวรับและแนวต้าน เพื่อค้นหาโอกาส Breakout ที่กำลังจะเกิดขึ้น
จากประสบการณ์ของผมจากที่เคยเทรดกับ Vantage ผมพบว่า คุณจะได้รับสัญญาณประมาณ 50 สัญญาณต่อวัน ครอบคลุมคู่สกุลเงิน Forex หลัก, ทองคำ และดัชนีต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพการเทรดของคุณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นสาย Day Trade
สรุปเกี่ยวกับทรัพยากรด้านการวิเคราะห์และการศึกษา
Vantage เสนอบทเรียนออนไลน์ที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นในการเทรด เพื่อทำความเข้าใจพื้นฐานของการเทรดก่อนลงสู่สนามจริง และยังมีการจัดสัมมนาแบบสดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นในกิจกรรมของโบรกเกอร์ในปัจจุบัน
แต่ข้อเสียคือ ส่วนการวิเคราะห์ตลาดมีเพียงสัญญาณการเทรดและข้อมูลจาก Trading Central เท่านั้น
บทสรุปสุดท้าย: โบรกเกอร์ Vantage Markets 2025
Vantage ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ระดับแนวหน้าในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ด้วยข้อเสนอบัญชี Premium STP ที่โดดเด่นกว่าบัญชีอื่นทั้งเลเวอเรจสูงและต้นทุนการเทรดต่ำ รวมถึง ให้สเปรดแบบ ECN แต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังนำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย เช่น TradingView ช่วยให้คุณสามารถออกแบบกลยุทธ์การเทรดได้อย่างละเอียด ส่วน MT4 และ MT5 ก็รองรับการเทรดแบบอัตโนมัติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทุกแพลตฟอร์ม (ยกเว้น MT4) สามารถเข้าถึงตลาดมากกว่า 1,000 รายการ ตั้งแต่ Forex ไปจนถึงคริปโต
และหากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ Vantage ก็มีแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสม ทั้งบทเรียนออนไลน์ฟรีและสัมมนาแบบกลุ่มที่จัดขึ้นสดๆ ไม่ใช่เพียงถ่ายทอดแบบออนไลน์ ซึ่งมอบประสบการณ์และความรู้เพื่อการเริ่มต้นเทรดอย่างมั่นใจได้เป็นอย่างดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Vantage Markets
Vantage มีบัญชีเทรดแบบไหนบ้าง?
Vantage มีบัญชีเทรด forex หลากหลายประเภท ได้แก่ Standard STP, Cent STP, Premium STP, Raw ECN และ Pro ECN นอกจากนี้ คุณยังสามารถขอใช้บัญชีแบบไม่มี Swap ได้ทั้งในบัญชีแบบ Standard และ Raw ได้ด้วย
Vantage รองรับแพลตฟอร์มการเทรดอะไรบ้าง?
Vantage มีแพลตฟอร์มให้เลือกใช้งาน 5 แบบ ได้แก่ MT4, MT5, TradingView และ ProTrader ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดผ่านเดสก์ท็อป หรือหากคุณต้องการใช้งานบนมือถือ คุณก็สามารถใช้แอป Vantage ที่มีระบบคัดลอกการเทรดในตัวได้เช่นกัน (ดูการเปรียบเทียบ MT4 และ MT5 เพิ่มเติม)
Vantage มีโบนัสคืนเงินสำหรับผู้ที่เทรดปริมาณสูงหรือไม่?
Vantage ไม่มีโบนัสเทรดที่จะทำการคืนเงินโดยตรงแก่สมาชิก แต่มีโปรแกรมสะสมคะแนนที่เรียกว่า V-Points ซึ่งคุณจะได้รับทุกครั้งที่ทำการเทรด โดยสามารถนำคะแนนไปแลกรางวัลต่าง ๆ เช่น แลกเป็นเงินสด, เครดิตคืนเงิน หรือคูปองป้องกันการขาดทุนได้
Vantage อยู่ภายใต้หน่วยงานการกำกับดูแลที่ถูกกฎหมายหรือไม่?
ใช่ Vantage อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่งในระดับสากล และเทรดเดอร์ชาวไทยจะได้รับการคุ้มครองโดย VFSC แม้จะยังไม่ได้รับการรับรองโดยกฎหมาย forex ไทยก็ตาม ดูรายการสุดยอดโบรกเกอร์ forex 2025 เพิ่มเติม
ทางเลือกแทน Vantage
หากคุณมองหาทางเลือกแทนการใช้งาน Vantage คุณอาจมีตัวเลือกหลายแห่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้ สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย