10 โบรกเกอร์เทรดทองที่ดีสุดในไทย 2025

ผมมั่นใจที่จะแนะนำ Eightcap ให้เป็นตัวเลือกของโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด หากคุณต้องการเทรดทองในไทย เพราะ Eightcap ให้สเปรดเริ่มต้นเพียง 0.12 pips บนคู่ XAU/USD (โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น) พร้อมทั้งรองรับแพลตฟอร์มเทรดระดับมืออาชีพถึง 3 แบบ ได้แก่ MT4, MT5 และ TradingView

หากคุณไม่ได้ใช้บัญชี RAW สำหรับเทรด Forex ทาง Eightcap จะ ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น และยังสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุดถึง 1:500

ดังนั้น หากคุณเป็นเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีความแข็งแกร่งรอบด้าน และเหมาะกับการเทรดทองโดยเฉพาะ ผมว่า Eightcap คือทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด

Eightcap มีแพลตฟอร์มเทรดระดับมืออาชีพให้เลือกถึง 3 แบบ

Eightcap มีแพลตฟอร์มคุณภาพสูงให้คุณเลือกใช้สำหรับเทรดทองหลายรายการ ได้แก่ MT4, MT5 และ TradingView

MetaTrader 4 (MT4) เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่สุด ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันครบถ้วน แม้จะไม่มีเครื่องมือกราฟขั้นสูงเท่ากับแพลตฟอร์มอื่น แต่ก็มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก อีกทั้งยังสามารถสร้าง อินดิเคเตอร์และระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) ได้เอง

ส่วนตัวผมชื่นชอบ MT5 มากกว่าเมื่อต้องเทรดทอง ด้วยระบบประมวลผลแบบ ผมสามารถตั้งคำสั่งรอซื้อขายได้มากกว่า มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่ดีกว่า และวิเคราะห์หลายกรอบเวลาได้พร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Strategy Tester

TradingView ของ Eightcap ก็โดดเด่นเช่นกัน เพราะสามารถ ส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรงจากกราฟ ได้ทันที ช่วยลดเวลาในการสลับระหว่างหน้าจอวิเคราะห์และหน้าจอเทรด และยังช่วยให้คุณโฟกัสได้ดีขึ้นในช่วงตลาดทองที่ผันผวน

แพลตฟอร์มทั้งสามสามารถใช้งานได้บน เดสก์ท็อป เว็บ และมือถือ แต่ผมแนะนำว่า MT5 และ TradingView จะเหมาะสำหรับเทรดคริปโตและหุ้นมากกว่า

มากกว่าการเทรดทองคำเพียงอย่างเดียว

Eightcap ไม่ได้มีแค่ตลาดทองคำ เพราะคุณสามารถเลือกเทรด Forex ได้มากถึง 56 คู่ รวมทั้ง โลหะมีค่าอื่น ๆ และคริปโตเคอร์เรนซีถึง 95 เหรียญ ผ่าน MT5 และ TradingView (เทรด 79 เหรียญ หากคุณใช้ MT4 เทรดคริปโต)

โบรกเกอร์ Eightcap มีบัญชีให้คุณเลือกถึง 2 ประเภท คือ Raw Account และ Standard Account โดยการเทรดสินทรัพย์อื่น ๆ ยกเว้น Forex ในบัญชี Raw จะเป็นแบบไม่คิดค่าคอมมิชชั่น หมายความว่าราคาจะเท่ากันในทุกประเภทบัญชี

สำหรับการเทรดทองคำ สเปรดขั้นต่ำอยู่ที่ 1.2 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม ส่วนเลเวอเรจจะสูงสุดถึง 1:500 สำหรับสินทรัพย์ทุกประเภท

นอกจากคุณสามารถเทรดทองด้วยสเปรดต่ำแล้ว โบรกเกอร์ยังมอบความยืดหยุ่นในการใช้งาน ให้คุณสามารถสลับไปเทรดบิตคอยน์ และต่อด้วยคู่เงิน EUR/USD ได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีหลายโบรกเกอร์ได้อีกด้วย

เครื่องมือเสริมสำหรับการซื้อขาย

สิ่งที่ผมประทับใจ Eightcap อีกอย่างคือ พวกเขามีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพลตฟอร์มเทรด เช่น

• Insights มีโซนชื่อ Trade Zone สำหรับวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์
• Labs ซึ่งให้แนวคิดในการเทรดและมีกิจกรรมหลายอย่าง รวมถึง สัมมนาออนไลน์ที่จัดเป็นประจำสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้จากเทรดเดอร์คนอื่น
• ปฏิทินเศรษฐกิจแบบขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะช่วยแจ้งเตือนก่อนการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
• Flashtrader ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยส่งคำสั่งซื้อขายความเร็วสูง เหมาะสำหรับสาย Scalping ที่ต้องการความหน่วงต่ำ
• TradeSim เป็นฟีเจอร์ที่เปิดโอกาสให้คุณเทรดแบบ Prop Trading โดยไม่ต้องใช้เงินจริงของตัวเอง หลังจากผ่านช่วงการทดสอบคุณสมบัติ (Qualification Period) แล้ว

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่มีสเปรดทองคำ (XAU/USD) แคบที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ทั้งหมดที่ผมทดสอบสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

โดยบัญชีประเภท Razor ของ Pepperstone มีสเปรดเพียง 0.05 pips สำหรับคู่ XAU/USD ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมาก เนื่องจาก ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม

สิ่งที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษคือ คุณจะสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มเทรดได้ถึง 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MT4, MT5, cTrader, TradingView และแอปเทรดเฉพาะของ Pepperstone เอง (Pepperstone Trading App)

และเมื่อ Ross Collins ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผมที่ CompareForexBrokers ได้ทดสอบความเร็วในการส่งคำสั่งของโบรกเกอร์ 20 แห่ง เขาพบว่า Pepperstone อยู่ในกลุ่มที่เร็วที่สุดอีกด้วย

เมื่อรวมเอาข้อดีข้างต้นเข้ากับสเปรดที่แคบ ผมจึงยกให้ Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์รายย่อยในไทยที่ต้องการโบรกเกอร์ครบวงจรระดับมืออาชีพอย่างไม่ต้องสงสัย

Pepperstone มีแพลตฟอร์มเทรดชั้นนำ 4 แบบให้เลือก

ผมพบว่า Pepperstone มีตัวเลือกแพลตฟอร์มจำนวนมากกว่าโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ โดยมีให้เลือกทั้ง MT4, MT5, TradingView, cTrader และ Pepperstone Trading App ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดแข็งเฉพาะตัว

คุณสามารถเทรดทองบน MT4 ได้ หากคุณต้องการกราฟที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้ครบถ้วน โดยมีคำสั่งรอซื้อขาย (Pending Orders) 4 ประเภท พร้อมกราฟ Interactive, กรอบเวลา 9 แบบ, เครื่องมือวิเคราะห์ 23 ชุด และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค 30 ตัว

ในขณะที่ MT5 อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงและคำสั่งซื้อขายที่หลากหลาย โดย MT5 มีคำสั่งซื้อขายเพิ่มอีก 2 ประเภท กรอบเวลาเพิ่มเป็น 21 แบบ พร้อมเครื่องมือวาดเส้นและอินดิเคเตอร์เพิ่มเติมจาก MT4

สิ่งที่น่าสนใจคือ Pepperstone ยังมีแพลตฟอร์ม cTrader ซึ่งโบรกเกอร์ในไทยน้อยรายที่รองรับแพลตฟอร์มที่โดดเด่นเรื่องความเร็วในการส่งคำสั่ง และมีข้อมูล Depth of Market (ระดับราคาซื้อขายในตลาด) อย่าง cTrader

นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีการเชื่อมต่อกับ TradingView สำหรับเทรดผ่านกราฟโดยตรง ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ที่สำคัญ แพลตฟอร์มทั้ง 4 เชื่อมต่อกับ แหล่งสภาพคล่อง (Liquidity Pool) เดียวกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับสเปรดที่คงที่ไม่ว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มใดก็ตาม

สินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย

Pepperstone ไม่ได้รองรับแค่ตลาดทองคำเท่านั้น คุณยังสามารถเข้าถึงการเทรด คู่เงิน Forex 93 คู่, คริปโตเคอร์เรนซี 37 เหรียญ, สินค้าโภคภัณฑ์ทั้ง Hard และ Soft 29 รายการ, ดัชนีตลาดหุ้น 27 ตัว และ หุ้นกว่า 1,200 รายการทั่วโลก

ถือเป็นความหลากหลายที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนเกินกว่าแค่ทองคำหรือโลหะมีค่าครับ

เมื่อเจาะลึกลงไป เราจะพบว่าสเปรดทองคำเริ่มต้นเพียง 0.05 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ส่วนสเปรดของโลหะเงิน (Silver) เริ่มต้นที่ 0.016 pips และก็ไม่มีค่าคอมมิชชั่นเช่นกัน

สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำมันดิบ (Crude Oil) และ ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) ก็ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ สเปรดของ Pepperstone จะคงที่เท่ากันไม่ว่าคุณจะใช้บัญชี Razor หรือ Standard ก็ตาม

ทีมงาน CompareForexBrokers ของเราได้ทดสอบราคาสปรดของโบรกเกอร์ในช่วงเวลาการเทรดที่แตกต่างกัน และพบว่าสเปรดยังคงแคบที่สุดใน Forex session ที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดพร้อมกัน ซึ่งเป็นช่วงที่มีสภาพคล่องสูงสุด

สำหรับเหตุผลที่ Pepperstone มีราคาของพวกเขาจึงคงที่แม้ในช่วงตลาดที่มีความเคลื่อนไหวสูง นั่นก็เพราะว่า พวกเขาได้รับราคาโดยตรงจากแหล่งสภาพคล่องมากกว่า 20 แห่งนั้นเอง

ความเร็วในการส่งคำสั่ง

Pepperstone มีความเร็วในการส่งคำสั่งที่ยอดเยี่ยม สังเกตได้จากการที่เพื่อนร่วมงานของผมได้ทดสอบโบรกเกอร์ทั้งหมด 20 ราย และพบว่า Pepperstone อยู่ในอันดับต้น ๆ โดย อยู่ในอันดับที่ 2 สำหรับคำสั่ง Limit Order ด้วยความเร็ว 77 มิลลิวินาที (ms)

ผมได้ลองสังเกตการส่งคำสั่งของ Pepperstone ในช่วงเวลาที่ตลาดคึกคัก และพบว่าแทบไม่เกิด Slippage เลย เพราะคำสั่งถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการเทรดทองคำ, คู่สกุลเงิน Forex หรือดัชนีต่าง ๆ

สิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนจำไว้ให้ดีคือ ความเร็วในการส่งคำสั่งเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เพราะเมื่อราคาขยับแรง การส่งคำสั่งได้รวดเร็วหมายถึงโอกาสทำกำไรที่มากกว่าและลดความเสี่ยงจากความคลาดเคลื่อนของราคา

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย Scalping ที่เทรดเอากำไรไม่กี่ pips หรือเป็นเทรดเดอร์ที่เข้าออเดอร์ช่วงตลาดผันผวน ความเร็วในการดำเนินคำสั่งของ Pepperstone จะส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ในการเทรดของคุณอย่างแน่นอนครับ

FP Markets เป็นโบรกเกอร์เทรดทองที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการนี้ เพราะพวกเขาอนุญาตให้คุณเทรดทองคำแลกกับสามสกุลเงินหลักได้ ซึ่งผมชื่นชอบมาก เพราะเลือกเทรดได้ทั้ง XAU/USD, XAU/EUR และ XAU/AUD ตามสภาพตลาดในแต่ละช่วงเวลา

โบรกเกอร์ FP Markets มีบัญชีหลักให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่

• บัญชี Standard – มีสเปรดกว้างกว่าเล็กน้อย แต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
• บัญชี Raw – สเปรดแคบกว่า เริ่มต้นเพียง 0.12 pips สำหรับทองคำ แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3 ต่อหนึ่งล็อต

ซึ่งผมประทับใจที่ที่ FP Markets เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เลือกประเภทบัญชีได้ตามสไตล์การเทรดของตนเอง ไม่ว่าจะเทรดบ่อยหรือเทรดระยะยาว

นอกจากทองคำแล้ว FP Markets ยังให้คุณเข้าถึงคู่เงิน Forex มากกว่า 60 คู่, สินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เงิน (Silver) และ น้ำมัน (Oil) รวมถึง ดัชนีสำคัญอย่าง S&P 500 และ NASDAQ หรือคุณจะเลือกเทรดหุ้นรายตัว (Stocks) และ ETF ก็ได้เช่นกัน

อีกจุดแข็งของ FP Markets คือ การรองรับการเทรดบนแพลตฟอร์ม MT4, MT5, cTrader และ TradingView และยังมีระบบเทรดแบบโซเชียล (Social Trading) ผ่าน Signal Start และ Myfxbook AutoTrade สำหรับผู้ที่ต้องการคัดลอกกลยุทธ์ของเทรดเดอร์มืออาชีพอีกด้วย

IC Markets มีชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในวงการเทรดทั่วโลก โดยเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007 และได้รับการยอมรับในด้านความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง

โบรกเกอร์นี้ผสมผสานระหว่าง ตัวเลือกแพลตฟอร์มที่หลากหลายและคุณภาพการส่งคำสั่งระดับสถาบัน (Institutional-grade Execution) ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะ ผู้ที่ต้องการใช้ cTrader หรือชื่นชอบเครื่องมือวิเคราะห์กราฟขั้นสูง

โบรกเกอร์ IC Markets เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ cTrader หรือชื่นชอบเครื่องมือวิเคราะห์กราฟขั้นสูง เพราะโบรกเกอร์นี้ผสมผสานระหว่าง ตัวเลือกแพลตฟอร์มที่หลากหลายและคุณภาพการส่งคำสั่งระดับสถาบัน (Institutional-grade Execution) ได้อย่างลงตัว

คุณสามารถเทรดทองคำกับ 6 สกุลเงินหลัก รวมถึงเทรดเงิน (Silver) เทียบกับ USD, EUR และ AUD หรือเลือกเทรดสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีก 20 รายการ, คู่เงิน Forex 61 คู่ และคริปโต 18 เหรียญ ผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, cTrader หรือ TradingView ตามความต้องการของผู้ใช้งาน

สิ่งที่น่าสนใจคือ ผมพบว่าสเปรดของบัญชี Raw นั้นต่ำมาก โดยมีสเปรดสำหรับคู่ XAU/USD เริ่มต้นเพียง 0.2 pips (บวกค่าคอมมิชชั่นข้างละ $3.50)

ด้วยบัญชีเดียวกันนี้ คุณสามารถเทรดคู่ Forex หลักได้ด้วยสเปรดเริ่มต้น 0.0 pips และอัตราค่าคอมมิชชั่นเท่ากันได้ด้วย ต้นทุนที่ต่ำเหล่านี้คือเหตุผลที่เทรดเดอร์ความถี่สูงและสาย Scalping นิยมเลือก IC Markets

Exness เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกประเภทบัญชีและเลเวอเรจสูง โดยโบรกเกอร์นี้ให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์ไทยสามารถใช้ได้

ผมชื่นชมที่ Exness มีบัญชีให้เลือกหลายประเภท รวมถึง บัญชี Zero Spread สำหรับผู้ที่เทรดบ่อย และขอยกตัวอย่างบัญชีที่น่าสนใจ ดังนี้

• บัญชี Pro Account ของ Exness ให้สเปรด Forex เริ่มต้นเพียง 0.1 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นและยังใช้ระบบการส่งคำสั่งทันทีอีกด้วย
• บัญชี Zero Spread Account มีสเปรด 0 pips สำหรับ 30 สินทรัพย์หลัก

นอกจากทองคำแล้ว Exness ยังมีตลาดการเงินให้เลือกอีกหลายประเเภท ไม่ว่าจะเป็นคู่เงิน Forex, ดัชนี, คริปโต และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ

โดยโบรกเกอร์รองรับทั้ง MT4 และ MT5 พร้อมฟังก์ชัน One-Click Trading เพื่อเปิดออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญ Exness ยังมีบัญชี Swap-Free สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยมุสลิม และระบบการถอนเงินที่ ดำเนินการได้ทันที ทำให้ Exness อาจเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์คนไทยหลาย ๆ คนเลยทีเดียว

สำหรับผมแล้ว BlackBull Markets โดดเด่นด้วยระบบ Copy Trading ที่ออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจทองโดยเฉพาะ

โดยผมพบว่า บัญชี ECN Account ของ BlackBull Markets ให้สเปรดที่แคบและมีความเร็วในการส่งคำสั่งสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดทองคำ

และคุณยังสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้หลายแบบ รวมถึง TradingView และ Myfxbook AutoTrade เพื่อใช้กลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ (Automated Strategies)

นอกจากจะสามารถเทรดด้วยตนเองได้อย่างราบรื่นบนแพลตฟอร์มเดียวแล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงการเทรดแบบ Copy Trading หรือจะเลือกใช้แอปพลิเคชัน BlackBull CopyTrader ในการเทรดบน iOS และ Android ก็ได้เช่นกัน

สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือ ทุกบัญชีจะมีความเร็วในการส่งคำสั่งระดับมืออาชีพ และราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ BlackBull Markets คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่น่าสนใจทั้งสำหรับมือใหม่และมืออาชีพในปี 2025 นี้

สำหรับผม TickMill เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ เลเวอเรจสูงในการเทรดทองคำ เพราะคุณจะได้รับเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์ชาวไทยสามารถใช้งานได้

ในด้านสเปรดของ TickMill ก็อยู่ในระดับที่ดีไม่แพ้กัน โดยสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 0.09 pips บนคู่ XAU/USD

แต่บัญชี Pro Account จะคิดค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อฝั่ง สำหรับคู่ Forex ส่วนสินทรัพย์ประเภท CFD, ดัชนี, คริปโต, น้ำมัน และพันธบัตร จะไม่มีค่าคอมมิชชั่น

นอกจากนี้ ผมยังประทับใจที่สามารถใช้งานแพลตฟอร์มเทรดได้ทั้ง MT4, MT5, TradingView และแอปเทรดเฉพาะของตนเองชื่อว่า TickMill App ซึ่งมาพร้อมกับ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคกว่า 60 ตัว

ส่วนสำคัญคือ พวกเขามีบัญชีอิสลามแบบไม่มี Swap สำหรับชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม และยังมีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าคนไทยไว้คอยบริการคุณโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่น

เมื่อพิจารณา สเปรดที่แคบและเลเวอเรจสูง ทำให้ผมเชื่อว่า TickMill เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีความเข้าใจในเรื่องของขนาดการเทรดและการบริหารความเสี่ยงเป็นอย่างดี

ผมขอแนะนำ Octa สำหรับเทรดเดอร์มุสลิมในไทยที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีการปฏิบัติตามหลักการศาสนาอิสลาม นั่นคือการนำเสนอบัญชีแบบ Swap-Free

คุณจะได้รับสเปรดในระดับตลาด โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแฝงเหมือนโบรกเกอร์อื่น ๆ และไม่คิดค่าคอมมิชชั่นกับการเทรดทุกประเภท

แพลตฟอร์มหลักของ Octa คือ OctaTrader ยังมีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 80 รายการ ที่มาพร้อมด้วยฟีเจอร์อย่าง Space Analytics, AI Chart Patterns, และระบบความปลอดภัยที่ดีกว่าแพลตฟอร์มทั่วไป

แต่คุณก็สามารถเลือกเทรดด้วยแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งได้แก่

• MT4 รองรับการเทรด 74 สินทรัพย์
• MT5 รองรับการเทรด 230 สินทรัพย์ รวมถึง หุ้น

หรือคุณจะเลือกใช้ระบบ Copy Trading ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามและคัดลอกนักเทรดมืออาชีพก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังมีแหล่งความรู้ด้านการเทรดที่ยอดเยี่ยม รวมถึง ทีมสนับสนุนลูกค้าในหลากหลายภาษาอีกด้วย

FBS เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ทั้ง MT4 และ MT5 ในการเทรดทองคำ
รวมถึงผู้ที่มองหาโบรกเกอร์ที่มี เงื่อนไขการเริ่มต้นเทรดต่ำมาก เพราะคุณสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยเงินเพียง $1

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเป็นพิเศษคือ FBS มี ประเภทบัญชีให้เลือกหลากหลาย รวมถึง บัญชี Cent ที่เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การเทรดโดยใช้เงินจริงในขนาดเล็ก ก่อนจะขยับไปสู่บัญชีขนาดใหญ่ในภายหลัง

นอกจากโบรกเกอร์นี้ให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:3000 ในบางประเภทบัญชี ผมยังชอบใช้งานโปรแกรม Loyalty Program ของ FBS ที่ให้คุณรับเงินคืนจากทุกออเดอร์ที่เทรดได้ด้วย

FBS ไม่เพียงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเทรดทอง และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ แต่ยังมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการควบคุมขนาดการเทรดให้ได้มากขึ้น

BlackBull Markets โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Copy Trading แบบบูรณาการ (Integrated Copy Trading) ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดทองโดยเฉพาะ

คุณสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มเทรดได้หลายแบบ รวมถึง TradingView และ Myfxbook AutoTrade เพื่อใช้กลยุทธ์เทรดอัตโนมัติ

และผมพบว่าบัญชี ECN ของ BlackBull Markets นั้นให้สเปรดที่แคบและความเร็วในการส่งคำสั่งสูงมาก ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการเทรดทองคำ

คุณจะสามารถผสมผสานการเทรดแบบ Copy Trading และเทรดด้วยตัวเอง ได้อย่างราบรื่นภายในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งแอปพลิเคชัน BlackBull CopyTrader มีให้ใช้งานทั้งบน iOS และ Android

นอกจจากการคัดลอกนักเทรดทองแบบอัตโนมัติ คุณยังสามารถเลือกเทรดด้วนตนเองผ่าน MT4, MT5 หรือ TradingView และไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ทุกบัญชีจะได้รับความเร็วในการดำเนินคำสั่งระดับมืออาชีพและราคาที่แข่งขันได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น หากคุณชอบสลับระหว่างการคัดลอกนักเทรดทองที่มีประสบการณ์กับการเทรดทองด้วยตัวเอง ผมขอแนะนำ BlackBull Markets เพื่อความคุ้มค่าของคุณ