รีวิวบัญชี Zero Exness สำหรับปี 2025
บัญชี Zero ของ Exness ดีไหม? บัญชี Zero ถูกออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการสเปรดที่แคบและการเทรดที่แม่นยำ โดยให้สเปรดเป็นศูนย์สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์การเทรดที่มีการซื้อขายมากที่สุด ในการรีวิวนี้ ผมจะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับบัญชีนี้ รวมทั้งประโยชน์ในการใช้งาน และเปรียบเทียบให้เห็นว่าบัญชีนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์แบบใดมากที่สุด
เขียนโดย Justin Grossbard
Updated:
- ทีมงานของเรารีวิวโบรกเกอร์มามากกว่า 67 แห่ง
- ประสบการณ์การเทรดฟอเร็กซ์รวมกันกว่า 50 ปี
- เราใช้เวลามากกว่า 14,000 ชั่วโมง ในการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์ของโบรกเกอร์
- เรามีกรอบการประเมิณที่เป็นระบบและมีความละเอียดสูง
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site.
สรุปภาพรวมของ Exness

| 🗺️ หน่วยงานดูแล Tier 1 | FCA (UK), CySEC (ยุโรป) |
| 🗺️ หน่วยงานดูแล Tier 3 | CMA, FSC, FSC (BVI), CBSC (Saint Maaten), FSCA และ FSA |
| 📊 แพลตฟอร์มเทรด | Exness Terminal, Exness Trade App, MT4 และ MT5 |
| 💰 เงินฝากขั้นต่ำ | เปิดบัญชีขั้นต่ำ $200 |
| 💰 ค่าธรรมเนียมถอนเงิน | $0 |
| 🛍️ CFDs ที่เปิดให้เทรด | ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์ และ ดัชนี |
| 💳 ฝากผ่านบัตรเครดิต | มี |
บัญชี Exness Zero คืออะไร
บัญชี Exness Zero ดีไหม? ส่วนตัวแล้ว ผมมองว่า Exness Zero น่าสนใจมาก เนื่องจากบัญชีเป็นบัญชีที่มีสเปรดเป็นศูนย์ ในเวลาถึง 95% สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์การเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด ดังนั้น บัญชีนี้เหมาะที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง (โดยเฉพาะผู้ที่ทำการเทรดแบบ Scalping) ที่ต้องการสเปรดที่ให้ค่าธรรมเนียมดีที่สุด และยังคงสามารถคาดการณ์ได้
แต่อย่าลืมว่า สเปรด 0 pips นั้นมีให้เฉพาะผลิตภัณฑ์การเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด 30 อันดับแรกเท่านั้น ดังนั้น สเปรดเหล่านี้อาจแตกต่างไปตามสภาพคล่องและความผันผวนของตลาด
สิ่งที่ควรระวังกับบัญชี Exness Zero คือ ค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ $3.50 ที่อาจแตกต่างกันตามคู่สกุลเงินที่คุณเทรด ซึ่งแตกต่างจากบัญชี ‘Raw’ ที่มีค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับทุกคู่สกุลเงิน

นอกจากสองคุณสมบัตินี้แล้ว บัญชี Zero ยังมีความคล้ายกับบัญชี RAW ซึ่งหมายความว่ามันควรจะไม่มีการจัดการคำสั่ง (NDD) ใช้ ECN หรือ STP ในการดึงราคาจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง และมีการดำเนินการคำสั่งแบบตลาด (Market Execution) แทนการดำเนินการคำสั่งแบบทันที (Instant Execution)
The overall rating is based on review by our experts
ทำไมบัญชี Zero ของ Exness จึงน่าใช้งาน
จุดขายหลักของบัญชี Exness Zero คือ สเปรดศูนย์ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเข้าซื้อและขายอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูงและเหล่า Scalper ที่ทำการเทรดบ่อยๆ
ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเทรดเครื่องมือที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD, USD/JPY และทองคำ บัญชี Zero จะทำให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่โครงสร้างต้นทุนที่คงที ทำให้ต่างจากบัญชีอื่น เช่น Exness pro account
นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับใช้ Scalping copy trading ด้วยการใช้ Expert Advisors (EAs) ได้ ทำให้คำสั่งของคุณมีโอกาสที่จะถูกดำเนินการทันทีโดยไม่มีการหน่วงเวลา เมื่อสัญญาณการเทรดถูกส่งไป
บัญชี Zero ของ Exness โดดเด่นด้วยสเปรดต่ำ
ในความเห็นของผมในฐานะเทรดเดอร์มืออาชีพที่มีประสบการณ์มายาวนาน สเปรด Exness ในบัญชี zero นั้นคุ้มค่ามาก เนื่องจากคุณจะได้สเปรด 0 พิป และมีค่าธรรมเนียมเพียง $4.00 หรือต่ำกว่า (โดยทั่วไป)
นอกเหนือจากการตั้งราคาที่ดึงดูดแล้ว บัญชี Zero ยังมีความยืดหยุ่นสูง: เช่น การให้ เลเวอเรจไม่จำกัด, เงินฝากขั้นต่ำต่ำที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ, รองรับแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5, รวมถึงเครื่องมือการเทรดหลากหลายประเภท เช่น ฟอเร็กซ์, คริปโตเคอเรนซี, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, และ ดัชนี
หากคุณเป็นผู้ที่สนับสนุนการเทรดอัตโนมัติ การรองรับ Expert Advisors (EA) อย่างเต็มรูปแบบจะช่วยให้การดำเนินการกลยุทธ์เป็นไปอย่างราบรื่น

ตลาดการเงินที่สามารถเทรดได้บนบัญชี Exness Zero
ในฐานะที่เป็นเทรดเดอร์ชาวไทย คุณสามารถเทรดเครื่องมือดังต่อไปนี้ด้วยบัญชี Zero ของ Exness
- ฟอเร็กซ์
- สกุลเงินดิจิทัล
- สินค้าโภคภัณฑ์
- ดัชนี
- หุ้น
แต่ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณกำลังเทรดคู่เงินหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อยู่ใน 30 อันดับแรกเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนในประเภทบัญชี Zero
คุณสมบัติหลักของบัญชี Exness Zero
บัญชี Zero เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำสุด การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว และความยืดหยุ่นสูง ด้านล่างนี่คือเหตุผลที่ทำให้บัญชีนี้โดดเด่น
- สเปรดต่ำสุด เริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับผลิตภัณฑ์หลักทางการเงิน ช่วยลดต้นทุนการเทรด ยกเว้น การซื้อขายทองคำ (XAU) ของ Exness เอง
- ฟีเจอร์ Zero Spread Coverage หมายความว่า สเปรดศูนย์จะครอบคลุมในส่วนใหญ่ของการเทรด และใช้ได้ในผลิตภัณฑ์ทางการเงินยอดนิยม
- ค่าคอมมิชชันฟอเร็กซ์ ต่ำสุดที่ 3.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อล็อต ต่อด้าน
- การดำเนินการคำสั่งทันที พร้อมกับสลิปเพจที่น้อยมาก ทำให้มันมีความคุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชอบการเทรดแบบ Scalping ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนและการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว
- ความเข้ากันได้กับ Expert Advisor (EA) ช่วยให้คุณใช้ EA ในการเทรดโดยไม่มีปัญหาในการรวมระบบ
- ความยืดหยุ่นสูง:
- เลเวอเรจไม่จำกัด (แต่อย่าลืมว่า Exness มีกฎข้อกำหนดเฉพาะ)
- ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำคงที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- สกุลเงินพื้นฐานที่หลากหลายรวมถึง THB
- ครอบคลุมเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย เช่น ฟอเร็กซ์ คริปโตเคอเรนซี สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และหุ้น
- การใช้งานที่ง่ายผ่านแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ที่ทดสอบมาแล้ว พร้อมเครื่องมือการเทรดขั้นสูงและการเทรดผ่านมือถือ
- ตัวเลือก Swap-Free ที่ช่วยให้คุณสามารถปฏิบัติตามหลักการการเทรดแบบอิสลามได้
เลเวอเรจบนบัญชี Zero
Exness เสนอเลเวอเรจแบบไม่จำกัดขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและเงื่อนไขการเทรด ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นในการควบคุมความเสี่ยง

บัญชี Zero ของ Exness มีต้นทุนต่ำจริงไหม?
การเข้าใจต้นทุนของบัญชี Exness Zero เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่ามันเหมาะกับความต้องการในการเทรดของคุณหรือไม่ เพราะหากดูจากข้อมูลที่ Exness แบ่งปันบนเว็บไซต์ อาจไม่ชัดเจนในทันที
บัญชีนี้มีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ สเปรดศูนย์ สำหรับตลาดการเงินในบางประเภท แต่คุณควรพิจารณาค่าคอมมิชชันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
1. สเปรดของบัญชี Zero
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ฟีเจอร์เด่นของบัญชี Zero คือ สเปรดศูนย์ ซึ่งสามารถใช้ได้กับตลาดการเงินที่มีการซื้อขายสูงสุด 30 แรก ใน 95% ของเวลาที่เทรด
| Zero Account (avg spread pips) | AUDUSD | EURUSD | GBPUSD | EURGBP |
|---|---|---|---|---|
| Top 30 Instruments | 0 | 0 | 0 | 0 |
| Zero Account (avg spread pips) | USDTHB | EURCHF | USDSGD | AUDCAD |
| Not Top 30 | 0.7 | 0.3 | 2.4 | 0.1 |
ดังที่เห็นในตารางข้างต้น หากคู่เงินนั้นไม่ใช่หนึ่งในคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด สเปรดจะไม่เป็นศูนย์ (0 pips) อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอเน้นว่า คู่เงินรองและคู่เงิน exotic มักจะไม่ค่อยมีสเปรดศูนย์ เนื่องจากไม่มีสภาพคล่องในตลาดมากพอที่จะทำให้เป็นไปได้
2. ค่าธรรมเนียมของบัญชี Zero
Exness โฆษณาว่าค่าธรรมเนียมของพวกเขาเริ่มต้นที่ $0.05 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้อาจทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากราคานี้ไม่ได้ใช้สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ แต่จะใช้กับดัชนีหลักบางตัวเท่านั้น
| Forex Pair | Commission | Forex Pair | Commission | Other Products | Commission |
|---|---|---|---|---|---|
| AUDUSD | $3.50 | USDCAD | $4.00 | JP225 | $0.05 |
| EURUSD | $3.50 | USDCHF | $4.50 | USD500 | $.05 |
| GBPUSD | $4.50 | USDJPY | $3.50 | BTCUSD | $8.00 |
| NZDUSD | $6.50 | AUDCAD | $4.50 | ETHUSD | $1.50 |
จากภาพข้างต้น คุณสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าค่าธรรมเนียมที่คุณจ่ายสำหรับฟอเร็กซ์จะขึ้นอยู่กับคู่เงินที่เทรด แต่สำหรับคู่เงินหลัก ค่าคอมมิชชันจะอยู่ระหว่าง $3.50 ถึง $4.50
คุณจะใช้แพลตฟอร์มใดในการเทรดด้วย บัญชี Zero ของ Exness ได้บ้าง?
บัญชี Zero ของ Exness รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสองตัวแรกในอุตสาหกรรมคือ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ผมเป็นผู้ใช้งาน MT4 และ MT5 มานาน สามารถยืนยันได้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ทรงพลังที่จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเทรดของคุณ ตั้งแต่การเทรดที่เรียบง่ายที่สุดไปจนถึงการเทรดที่ซับซ้อนที่สุด

MetaTrader 4 (MT4) / MetaTrader 5 (MT5):
Exness ให้บริการแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับนักเทรด ที่มีความสามารถในการสร้างกราฟ วิเคราะห์ทางเทคนิค และการเทรดอัตโนมัติ นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบเวลาหลายแบบ อินดิเคเตอร์ที่ปรับแต่งได้ และ Expert Advisors (EAs) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเทรดของตน

แอปพลิเคชันการเทรดบนมือถือ
Exness มีแอปพลิเคชันบนมือถือที่ใช้งานง่ายสำหรับทั้ง iOS และ Android โดยเทรดเดอร์สามารถดูบัญชีของตน ทำการวิเคราะห์ตลาด และเทรดได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอปพลิเคชันนี้

ข้อควรระวังในการใช้งานบัญชี Exness Zero
หากคุณชอบเทรดคู่เงินที่ไม่ค่อยมีการซื้อขาย (exotic pairs) บัญชี Zero อาจไม่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่คุณ เนื่องจากตลาดเงินที่อยู่นอกเหนือจาก 30 อันดับแรกอาจมีค่าคอมมิชชันที่สูงกว่า
แม้ว่า Exness จะโฆษณาว่ามีค่าคอมมิชชันเริ่มต้นที่ $0.05 ต่อล็อต แต่จริงๆ แล้วค่าคอมมิชชันนี้ใช้กับดัชนีบางตัว ค่าใช้จ่ายจริงสำหรับคู่เงินฟอเร็กซ์จะอยู่ที่ $3.50 ถึง $4.50 ต่อล็อต (ต่อด้าน) สำหรับคู่เงินหลัก และอาจสูงกว่าสำหรับคู่เงินรองและคู่เงิน exotic นี่เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงหากคุณต้องการเทรดคู่เงินที่แตกต่าง
สุดท้าย การเปิดบัญชี Professional ของ Exness ทุกประเภทมีเงินฝากขั้นต่ำที่ $200
อะไรคือ Exness
Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ซึ่งให้บริการลูกค้ากว่า 800,000 รายทั่วโลก โบรกเกอร์ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2008 โดยเป็นที่รู้จักกันดีในด้านแพลตฟอร์มการเทรดที่เชื่อถือได้ ความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็ว และสเปรดที่แคบมาก ซึ่งทำให้ Exness เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ
นี่คือคุณสมบัติที่โดดเด่นของโบรกเกอร์ Exness ที่อาจทำให้คุณสนใจในฐานะเทรดเดอร์ชาวไทย
- สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไซปรัส Exness ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวดจาก Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ 3
- หนึ่งในจุดขายที่ไม่เหมือนใครของ Exness คือการที่มีประเภทบัญชีหลากหลายให้เลือกตามความต้องการของแต่ละเทรดเดอร์ ตั้งแต่บัญชี Standard ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ไปจนถึงบัญชีที่ซับซ้อนขึ้นอย่าง Pro, Raw Spread, และ Zero
- นอกจากนี้ Exness ยังเสนอบริการ เลเวอเรจไม่จำกัด (ภายใต้เงื่อนไขบางประการ) สำหรับเทรดเดอร์รายย่อยชาวไทย พร้อมทั้ง การเทรดคัดลอกสังคม (social copy trading) ที่สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์ และทำให้การเทรดเป็นไปโดยอัตโนมัติ
Exness ยังมีแพลตฟอร์มการเทรดที่แข็งแกร่ง รวมถึง MT4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและครอบคลุม
โดยสรุป Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานในด้านความปลอดภัยทางการเงินและจริยธรรม ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

โบรกเกอร์ที่มีสเปรดเป็นศูนย์ (Zero Spread Broker)
โบรกเกอร์ที่มีสเปรดเป็นศูนย์ คือโบรกเกอร์ที่พยายามเสนอสเปรด 0 pips โดยทั่วไปจะเสนอให้ในคู่เงินหลัก ซึ่งเกือบจะเกิดชึ้นตลอดเวลา และการเสนอ 0 pips หมายความว่า จะไม่มีช่องว่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายในคู่เงินนั้นๆ
แม้ว่าสเปรดจะเป็น 0 pips แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นสเปรดที่ตายตัว เพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อสภาวะตลาดมีความผันผวน เนื่องจากการเทรดฟอเร็กซ์มักเกี่ยวข้องกับเลเวอเรจ แม้แต่ค่าใช้จ่ายในการเทรดที่ต่ำก็อาจสะสมขึ้นได้เมื่อปริมาณการเทรดของคุณเพิ่มขึ้น
หากกลยุทธ์ของคุณพึ่งพาประสิทธิภาพของสเปรด หรือคุณให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายในการเทรดที่น้อยที่สุด บัญชีที่มีสเปรดเป็นศูนย์อาจจะน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ควรมีเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงในกรณีที่สภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ข้อดี:
กลยุทธ์การเทรดที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและสามารถคาดเดาได้ เช่น Scalping จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากการหน่วงเวลาของราคาเพื่อหาโอกาสการทำกำไรได้
การเทรดอัลกอริธึมที่ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยบัญชีที่มีสเปรดเป็นศูนย์ แม้จะเจอกับความล่าช้าในการส่งคำสั่งในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนก็ตาม
ข้อเสีย:
บัญชีประเภทนี้มักจะมีค่าใช้จ่ายที่ซ่อนอยู่ผ่านค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมากกว่าความประหยัดจากการมีสเปรดเป็นศูนย์
หากกลยุทธ์ของคุณต้องการการดำเนินการที่แม่นยำ โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการเกิดการลื่นไหลของราคา คุณอาจพบว่าคุณภาพการดำเนินการในบัญชีที่มีสเปรดเป็นศูนย์อาจเป็นปัญหา แม้สเปรดจะปกติอยู่ที่ 0 pips แต่คุณอาจจะพลาดโอกาสที่ดี หากสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน
ตัวเลือกบัญชีแบบ Pro ของ Exness
Exness มีบัญชีการเทรดมืออาชีพหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการการเทรดขั้นสูงของคุณ นอกจากบัญชี Zero แล้ว ยังมีบัญชี Raw Spread และ Pro ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง มาเปรียบเทียบกันดีกว่า
1. Zero เทียบกับ RAW
บัญชี Zero และบัญชี Raw Spread ถูกออกแบบมาสำหรับนักเทรดที่มองหาค่าธรรมเนียมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งสองบัญชีมีแนวทางที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือความแตกต่างหลักๆ
- ในเรื่องของสเปรด บัญชี Zero มีสเปรด 0.0 pips สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการเทรดมากที่สุด 95% ของวัน (ในขณะที่บัญชี Raw Spread จะมีสเปรดแบบ Raw ที่ต่ำสุดที่ 0.0 pips ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมหรือไม่ก็ตาม)
- บัญชี Raw Spread มีค่าธรรมเนียมคงที่ที่ $3.50 ต่อล็อตต่อฝั่งสำหรับคู่เงินหลัก ซึ่งช่วยให้การคาดการณ์ค่าธรรมเนียมมีความชัดเจนมากขึ้น
- ในทางกลับกัน ค่าธรรมเนียมของบัญชี Zero จะแตกต่างกันตามผลิตภัณฑ์ทางการเงิน โดยมีค่าธรรมเนียมตั้งแต่ $3.50 ถึง $4.50 ต่อล็อตต่อฝั่งสำหรับคู่เงินฟอเร็กซ์ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการเทรดรวมสูงขึ้นขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือก
สุดท้าย ในการเปรียบเทียบบัญชี Zero กับ Raw Spread จะพบว่า บัญชี Zero ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเทรดเดอร์ชาวไทยที่มักเทรดเฉพาะ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการเทรดมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อทำการเทรดในปริมาณมาก
หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องการความคาดการณ์ต้นทุนการเทรดที่แม่นยำยิ่งขึ้นในพอร์ตการลงทุนที่กว้างขึ้น บัญชี Raw Spread อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
2. Zero เทียบกับ Pro
บัญชี Pro เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เรียบง่ายโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และไม่ต้องการสเปรดที่แคบมากเกินไป
- บัญชี Pro ถูกออกแบบมาสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการความยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งทำให้มันแตกต่างจากบัญชี Zero ที่มีลักษณะเฉพาะ
- สเปรดในบัญชี Pro เริ่มต้นที่ 0.1 pips และเป็นแบบลอยตัว แน่นอนว่าสเปรดเหล่านี้จะใหญ่กว่าบัญชี Zero ที่มีสเปรด 0.0 pips
- สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมในบัญชี Pro ซึ่งเป็นข้อดีโดยเฉพาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการหลีกเลี่ยงโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่อ้างอิงตามค่าธรรมเนียม และต้องการการปรับสเปรดแทน
สุดท้าย เมื่อมองระหว่างบัญชี Zero กับ Pro ผมคิดว่าบัญชี Zero เหมาะสมกับนักเทรดชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับต้นทุนการเทรดที่เกือบเป็นศูนย์และทำงานกับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นหลัก
3. ต้นทุนของบัญชี Zero เทียบกับบัญชี RAW, Pro และ Standard
ในตัวอย่างนี้ ผมใช้ค่าเฉลี่ยของสเปรดที่ให้ไว้ในเว็บไซต์ของ Exness สำหรับคู่เงิน GBP/USD ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปสำหรับคู่เงินอื่นๆ ในตัวอย่างนี้ บัญชี Pro เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าบัญชี Zero
บัญชี Standard ใช้สเปรด 1.1 pips โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ทำให้ต้นทุนทั้งหมดต่อการเทรดอยู่ที่ $11 ขณะที่บัญชี Pro ลดสเปรดเหลือ 0.7 pips และคิดค่าธรรมเนียมรวม $7 ทำให้เป็นตัวเลือกที่มีต้นทุนต่ำที่สุด บัญชี Zero ยกเลิกสเปรด แต่คิดค่าธรรมเนียม $4.50 ต่อฝั่ง ทำให้ต้นทุนรวมเป็น $9 ขณะที่บัญชี RAW ให้สเปรด 0.3 pips และค่าธรรมเนียม $3.50 ต่อฝั่ง รวมต้นทุนทั้งหมดเป็น $10
เทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูงมักจะได้รับประโยชน์จากบัญชีที่คิดค่าธรรมเนียม ในขณะที่ผู้ที่เน้นการเทรดโดยการกระจายสเปรดอาจจะชอบโครงสร้างที่คิดเฉพาะสเปรด อย่างไรก็ตาม ต้นทุนเหล่านี้อาจแตกต่างกันตามความผันผวนของตลาดและความถี่ในการเทรด
| ประเภทบัญชี | สเปรด | ค่าธรรมเนียม |
|---|---|---|
| Standard | 1.1 pips = $11 | $0 ต่อรอบการซื้อขาย: ต้นทุนรวม $7 ต่อรอบการซื้อขาย |
| Pro | 0.7 pips = $7 | $0 ต่อรอบการซื้อขาย: ต้นทุนรวม $7 ต่อรอบการซื้อขาย |
| Zero | 0 pips = $0 | $4.50 ต่อข้าง (รวม $9 ต่อรอบการซื้อขาย): ต้นทุนรวม $9 ต่อรอบการซื้อขาย |
| RAW | 0.3 pips = $3 | $3.50 ต่อข้าง (รวม $7 ต่อรอบการซื้อขาย): ต้นทุนรวม $10 ต่อรอบการซื้อขาย |
การวิเคราะห์: จากต้นทุนรวมที่ต่ำสุดไปสูงสุด:
- บัญชี Pro: ต้นทุนรวม $7
- บัญชี Zero: ต้นทุนรวม $9
- บัญชี RAW: ต้นทุนรวม $10
- บัญชี Standard: ต้นทุนรวม $11
บัญชีการซื้อขายประเภทอื่นๆ ของ Exness
Exness มีบัญชีการเทรด 5 ประเภทที่ตอบโจทย์ทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพในไทย
โบรกเกอร์นี้มีบัญชีที่เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นสองประเภทคือ Standard และ Standard Cent ซึ่งมีสเปรดที่แข่งขันได้และไม่มีค่าธรรมเนียม โดยบัญชีเหล่านี้มีข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำที่ต่ำหรือไม่มีขั้นต่ำเลย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเรียนรู้และทดสอบกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงมาก
หากคุณเป็นนักเทรดมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากขึ้นในไทย คุณอาจต้องการพิจารณาบัญชีประเภท Pro, Raw Spread และ Zero ซึ่งแต่ละบัญชีมีข้อดีที่แตกต่างกัน บัญชี Pro จะให้สมดุลที่ดีระหว่างความสามารถในการเข้าถึงและประสิทธิภาพการทำงาน โดยมีสเปรดต่ำ ความเร็วในการส่งคำสั่งสูง และไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดตั้งแต่การ scalping ไปจนถึงการเทรดระยะกลาง (swing trading)

คำถามที่พบบ่อย
Exness ปลอดภัยสำหรับการเทรดในประเทศไทยหรือไม่
ใช่ Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ยอดเยี่ยมในปี 2025 และได้รับการควบคุมโดย FSA Seychelles ซึ่งหมายความว่าโบรกเกอร์นี้ปลอดภัยในการใช้งานในประเทศไทยและระดับโลก
บัญชี Zero ของ Exness คืออะไร
บัญชีเหล่านี้ถูกออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ และบัญชีนี้ของ Exness มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการเทรดมากที่สุด 95% ของช่วงเวลาที่เทรด พร้อมคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ความเร็วในการดำเนินการที่สูงมาก
เงินฝากขั้นต่ำสำหรับบัญชี Zero ของ Exness มีจำนวนเท่าใด
การเงินฝากขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชี Zero ของ Exness คือ 200 USD สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าถึงฟีเจอร์การเทรดที่มีสเปรดต่ำในตลาดฟอเร็กซ์ การฝากเงินขั้นต่ำนี้ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นการเทรดได้โดยมีสเปรดที่แคบและการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว สำหรับบัญชีอื่นๆ กรุณาอ่าน รีวิวโบรกเกอร์ Exness 2025 ของเรา
สามารถเทรดบน Exness โดยไม่ใช้เงินจริงได้หรือไม่
ใช่ คุณสามารถเทรดบน Exness โดยไม่ใช้เงินจริงได้ผ่าน บัญชีทดลอง (Demo Account) บัญชีทดลองของ Exness ให้คุณฝึกฝนการเทรดในสภาวะตลาดจริงโดยใช้เงินเสมือน (virtual money) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทดลองกลยุทธ์การเทรดต่าง ๆ และเรียนรู้การใช้งานแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง
Expert Advisors ของ Exness คืออะไร
Expert Advisors (EAs) ของ Exness คือโปรแกรมอัตโนมัติที่สามารถใช้ในแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) เพื่อช่วยในการเทรดฟอเร็กซ์ โดย EAs จะทำการซื้อขายอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ผู้เทรดตั้งค่าไว้ล่วงหน้า

บัญชี Zero Spread คืออะไร
บัญชี Zero Spread เป็นประเภทบัญชีที่ให้สเปรด (spread) เท่ากับศูนย์หรือใกล้เคียงกับศูนย์ ซึ่งหมายความว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (bid) และราคาขาย (ask) ในช่วงเวลาที่คุณทำการเทรด นี่คือบัญชีที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วและต้องการลดต้นทุนจากสเปรดที่ต่ำ
ทางเลือกแทน Exness Zero
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย












