รีวิว GO Markets ดีไหม: ยกระดับการเทรด ด้วยแพลตฟอร์มมากกว่า 6 รายการ
หากคุณอยากรู้ว่า GO Markets ดีไหมสำหรับการเทรดในไทย ผมบอกเลยว่าโบรกเกอร์รายนี้ไม่ได้มาเล่นๆ พวกเขาให้เลเวอเรจสูงสุด 1:500 พร้อมต้นทุนการเทรดที่ต่ำผ่านระบบดำเนินคำสั่งแบบ ECN (Electronic Communications Network)
ในรีวิวนี้ ผมได้ทดสอบการใช้งานของ GO เพื่อดูว่าโบรกเกอร์จะนี้ตอบโจทย์นักเทรดชาวไทยได้มากแค่ไหน ทั้งในเรื่องของสเปรด, ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง, ค่าธรรมเนียมการเทรด และแพลตฟอร์มเทรดที่รองรับ

Written by Justin Grossbard
Updated:
- 67 Forex Brokers reviewed by our expert team (See our top 10 picks)
- 50+ years combined forex trading experience
- 14,000+ hours comparing brokers in the past 12 months
- Structured and in-depth evaluation framework (Our Methodology)
Our broker reviews are reader supported and we may receive payment when you click on a partner site. For more information, visit our About Us page.
ข้อมูลทั่วไป Go Markets

🗺️ หน่วยงานกำกับดูแล | ASIC, CySEC, FSC, FSA |
💰บัญชีเทรด | Go Plus+ (ECN/Raw) และบัญชี Standard |
📊 แพลตฟอร์ม | MT4, MT5, TradingView, cTrader, Genesis |
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $200 |
💰 ค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอน | ไม่มี |
🛍️ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน | ฟอเร็กซ์, โลหะ, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, CFD หุ้น, คริปโต |
💳 การฝากเงินผ่านบัตรเครดิต | มี |
ทำไมต้องเลือก GO Markets
GO Markets ดีไหม? จุดแข็งของ GO Markets อยู่ที่ต้นทุนการเทรดที่ต่ำ โดยเฉพาะบัญชี GO Plus+ ซึ่งให้สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip และคิดค่าคอมมิชชันเพียง $2.50 ต่อหนึ่งล็อต อีกทั้งยังไม่มีค่าธรรมเนียมฝาก–ถอนเงิน จึงถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไทยประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุด
นอกจากนี้ GO Markets ยังรองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น MetaTrader 4, MetaTrader 5 หรือแม้แต่ TradingView ทำให้คุณสามารถปรับแต่งประสบการณ์การเทรดได้ตามต้องการ โดยมีทีมสนับสนุนลูกค้าคอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน และยังได้รับรางวัลด้านบริการมาแล้วหลายรายการ
อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์นี้ก็มีข้อเสียบางประการ เช่น เนื้อหาด้านการศึกษาและวิเคราะห์ตลาดที่ล้าสมัย ดังนั้น หากคุณมองหาแหล่งข้อมูลที่อัปเดตและล้ำหน้ากว่านี้ อาจต้องพิจารณาโบรกเกอร์อื่นเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย GO Markets
- สเปรดเริ่มต้นต่ำเพียง 0.0 pip
- ค่าคอมมิชชั่นไม่สูงเกินไป
- รองรับแพลตฟอร์มเทรดหลายรายการ
- มีตัวเลือก CFD ให้เลือกมากมาย
- ตัวเลือกคริปโตที่ค่อนข้างจำกัด
- ไม่มีบัญชีที่มีสเปรดคงที่
- มีค่าธรรมเนียม กรณีไม่ใช้งานบัญชี
ค่าธรรมเนียมการเทรด
GO Markets เป็นโบรกเกอร์แบบ No-Dealing Desk ที่ใช้เทคโนโลยี Straight-Through Processing (STP) ซึ่งจะส่งคำสั่งซื้อขายของคุณตรงไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่อง (liquidity providers) โดยไม่ผ่านโต๊ะกลาง ข้อดีของระบบนี้คือ ให้ความเร็วในการดำเนินคำสั่งสูงและสเปรดที่แคบลง
สเปรดแบบ Raw ของบัญชี GO Plus+
บัญชี GO Plus+ ของ GO Markets ถือเป็นบัญชีแบบ No-Dealing Desk อย่างแท้จริง โดยใช้โมเดลของค่าคอมมิชชันแทนการขยายสเปรด จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นต้นทุนต่ำและต้องการราคาที่ใกล้เคียงตลาดจริงมากที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบสเปรดจากบัญชี GO Plus+ กับโบรกเกอร์ที่ใช้ระบบ STP หรือ ECN รายอื่น พบว่า GO Markets มีค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่าคู่แข่งหลายราย และเมื่อพิจารณารวมทั้งสเปรดและค่าคอมมิชชั่นของ GO Plus+ คุณอาจพบว่า ต้นทุนรวมกลับถูกกว่าโบรกเกอร์บางแห่งที่ดูเหมือนจะมีสเปรดแคบในตอนแรกเสียอีก
จากการทดสอบของผม สเปรดของ GO Markets ถือว่ามีความสามารถในการแข่งขันที่สูงมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ โดยเฉพาะคู่สกุลเงินหลัก (major pairs) ที่มักมีราคาตลาดใกล้เคียงกัน
ECN Forex Spread Comparison
|
|||||
---|---|---|---|---|---|
![]() |
0.30 | 0.50 | 0.10 | 0.30 | 0.20 |
![]() |
0.30 | 0.40 | 0.10 | 0.30 | 0.30 |
![]() |
0.23 | 0.20 | 0.06 | 0.30 | 0.27 |
![]() |
0.20 | 0.40 | 0.10 | 0.20 | 0.10 |
![]() |
0.14 | 0.18 | 0.09 | 0.14 | 0.13 |
![]() |
0.30 | 0.50 | 0.30 | 0.50 | 0.40 |
![]() |
0.50 | 0.50 | 0.20 | 0.50 | 0.50 |
![]() |
0.30 | 0.70 | 0.20 | 0.50 | 0.40 |
![]() |
0.60 | 0.15 | 0.10 | 0.70 | 0.60 |
![]() |
n/a | 0.60 | n/a | 0.60 | 0.50 |
![]() |
0.63 | 1.13 | 0.21 | 0.73 | 0.90 |
Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 07/01/2025
โดยรวมสเปรดของบัญชีนี้ถือว่าค่อนข้างดี โดยแคบกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานของตลาด ยกเว้นคู่เงิน EUR/JPY ที่สเปรดกว้างกว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่รับได้
สเปรดบัญชี Raw | GO Markets | สเปรดเฉลี่ย |
---|---|---|
ภาพรวม | 0.51 | 0.72 |
EUR/USD | 0.2 | 0.28 |
USD/JPY | 0.2 | 0.44 |
GBP/USD | 0.5 | 0.54 |
AUD/USD | 0.2 | 0.45 |
USD/CAD | 0.3 | 0.61 |
EUR/GBP | 0.4 | 0.55 |
EUR/JPY | 1 | 0.74 |
AUD/JPY | 0.7 | 0.93 |
USD/SGD | 1.05 | 1.97 |
สเปรดของบัญชีนี้เริ่มต้นที่ 0.0 pip ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ ค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่า
คุณสามารถใช้เครื่องคิดเลขด้านล่าง เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนการเทรดของ GO Markets กับโบรกเกอร์อื่น ๆ เช่น Pepperstone, Eightcap และ CMC Markets โดยสามารถปรับขนาดการเทรด, คู่สกุลเงิน และสกุลเงินหลักของบัญชีได้ตามต้องการ
Calculate Your Trading Costs Below
Total Fees
Commission
Spread Costs
Total
Total Fees

Commission
Spread Costs
Total
Total Fees

Commission
Spread Costs
Total
ค่าคอมมิชชันของบัญชี GO Plus+
บัญชี GO Plus+ ของโบรกเกอร์ GO Markets ให้บริการสำหรับสมาชิกทุกรายของโบรกเกอร์ โดยเรียกเก็บค่าคอมมิชชันเพียง $2.50 ต่อฝั่ง หรือ $5.00 ต่อรอบการเทรด (round-turn) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในอัตราที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์
และเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นในตลาด ที่มักจะเรียกเก็บประมาณ $3.50 ต่อฝั่ง หรือ $7.00 ต่อรอบการเทรด หมายความว่า GO Markets จะช่วยให้คุณ ประหยัดได้ $1 ต่อการปิดออเดอร์แต่ละครั้ง ซึ่งในระยะยาวถือว่าเป็นการลดต้นทุนได้มากเลยทีเดียว
ค่าคอมมิชชั่น | USD | AUD | GBP | EUR |
---|---|---|---|---|
GO Markets | $2.50 | $3.00 | £2.00 | €2.00 |
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม | $3.44 | $3.32 | £2.44 | €2.91 |
บัญชีนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากคุณต้องการประหยัดต้นทุนในการเทรด โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง (High-volume traders) จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถประหยัดค่าคอมมิชชั่นได้ประมาณ $10 ต่อการเทรด 10 ล็อต
ค่าธรรมเนียมบัญชี Standard
บัญชี Standard ของ GO Markets ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่มีสเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip สำหรับคู่สกุลเงินหลัก ซึ่งถือว่าอยู่ในกณฑ์เดียวกันกับค่าเฉลี่ยมาตรฐานของอุตสาหกรรม ดังข้อมูลด้านล่าง
สเปรดบัญชี Standard | EUR/USD | USD/JPY | GBP/USD | AUD/USD | USD/CAD | EUR/GBP | EUR/JPY | AUD/JPY |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สเปรดเฉลี่ย GO Markets | 1 | 1 | 1.3 | 1 | 1.1 | 1.2 | 1.4 | 1.5 |
สเปรดเฉลี่ยของอุตสาหกรรม | 1.2 | 1.4 | 1.6 | 1.5 | 1.8 | 1.5 | 1.9 | 2.1 |
โดยส่วนตัว ผมคิดว่าบัญชี Standard เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณ หากคุณเป็นผู้ที่พึ่งเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายหลักอยู่ในรูปแบบของสเปรดเท่านั้น ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องคำนวณค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก
โปรแกรม Volume Rebate สูงสุด 30%
ไม่ว่าคุณจะใช้บัญชี GO Plus+ หรือ Standard คุณก็สามารถรับเงินคืน (rebate) จาก GO Markets ได้ หากคุณมียอดการเทรดรายเดือนตรงตามเงื่อนไข ครอบคลุมทั้ง Forex & โลหะมีค่า, ดัชนี (Indices), และสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
ตัวอย่างเช่น สำหรับการเทรด Forex หรือโลหะมีค่า (Metals) คุณจะต้องมียอดเทรดขั้นต่ำ $10 ล้านต่อเดือน เพื่อมีสิทธิ์รับเงินคืน และเมื่อถึงระดับนี้แล้ว คุณจะได้รับ เงินคืน 10% ของค่าคอมมิชชันและสเปรดที่จ่ายไป โดย GO Markets จะโอนเงินคืนเข้าบัญชีเทรดของคุณใน สัปดาห์แรกของเดือนถัดไป
โดยอัตราเงินคืนสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์จะแตกต่างกันออกไป และหากคุณต้องการเข้าร่วมโปรแกรมนี้ คุณจะต้อง สมัครเปิดบัญชีกับ GO Markets และ ติดต่อผู้จัดการบัญชี (Account Manager) ของคุณโดยตรง
เปรียบเทียบบัญชีเทรด GO Markets
บัญชี Standard และ GO Plus+ มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในแง่ของฟีเจอร์ แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือ ต้นทุนในการเทรด
จากการทดสอบของผม พบว่า บัญชี GO Plus+ มีต้นทุนรวมอยู่ที่ประมาณ $7 ต่อ 1 ล็อต (ในคู่เงิน EUR/USD) ซึ่งถือว่าถูกกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับบัญชี Standard ที่มีต้นทุนรวมประมาณ $10 ต่อ 1 ล็อต
นั่นหมายความว่า GO Plus+ มีต้นทุนถูกกว่าประมาณ 30% จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงแนะนำให้คุณเลือกบัญชี GO Plus+ แม้ว่าจะมีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมก็ตาม
ค่าธรรมเนียมบัญชี Swap-Free
GO Markets นำเสนอบัญชีแบบ Swap-Free (ไม่มีดอกเบี้ยข้ามคืน) ให้กับสมาชิก แต่จำกัดไว้เฉพาะลูกค้าที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น หากคุณต้องการใช้บัญชีประเภทนี้ จะต้องติดต่อผู้จัดการบัญชี (Account Manager) เพื่อขอเปลี่ยนประเภทบัญชีโดยตรง
สำหรับบัญชี Swap-Free คุณจะได้รับสิทธิ์เทรดโดยไม่เสียค่า Swap เป็นเวลา 11 วัน หลังจากนั้น หากคุณยังถือสถานะ (position) ต่อเนื่อง จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดูแล (admin fee) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ถืออยู่ โดยมีอัตราตั้งแต่ $8 ถึง $50 ต่อ 1 ล็อต
ทั้งนี้คุณสามารถดูรายละเอียดของค่าธรรมเนียมสำหรับแต่ละสินทรัพย์ได้จากตารางด้านล่าง
ตลาดการเงิน | ค่าธรรมเนียมการดูแล (ต่อล็อต) |
---|---|
ดัชนี | $8 |
คริปโต | $10 |
น้ำมันดิบ Brent Crude & WTI ในตลาดสปอต | $15 |
ฟอเร็กซ์และโลหะ | $40 |
บิทคอนย์ (BTC) | $50 |
สรุป ค่าธรรมเนียมของ GO Markets
โดยรวมแล้ว ค่าธรรมเนียมการเทรดของ GO Markets อยู่ในระดับที่น่าสนใจ แม้บัญชี Standard จะไม่มีค่าคอมมิชชัน และมีต้นทุนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของตลาด
แต่ผมขอแนะนำบัญชี GO Plus+ มากกว่า นั่นก็เพราะต้นทุนการเทรดที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดถึงประมาณ 30% ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
นอกจากนี้ หากคุณเป็นนักเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง ยังมีโอกาสได้รับเงินคืน (rebate) เพิ่มเติม ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกต่อหนึ่ง
แพลตฟอร์มเทรดของ GO Markets
GO Markets รองรับแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย รวมทั้ง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 และยังมีพิเศษที่เรียกว่า Genesis ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้งาน MetaTrader ให้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีที่ผมสัมผัสได้คือ ทั้ง MT4 และ MT5 สามารถใช้งานผ่านมือถือได้ทั้งระบบ Android และ iOS รวมถึงใช้งานบนคอมพิวเตอร์ระบบ Windows และ Mac และยังรองรับการเทรดผ่าน WebTrader โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอีกด้วย
นอกจากนี้ทีม CompareForexBrokers ของเราได้สร้าง เครื่องมือเลือกแพลตฟอร์มเทรด (Trading Platform Selector) เพื่อช่วยให้คุณสามารถค้นหาแพลตฟอร์มเทรดที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณได้อย่างง่ายดาย
ผมขอแนะนำให้คุณลองทำแบบสอบถามสั้น ๆ 5 ข้อด้านล่าง เพื่อรับผลการวิเคราะห์แบบทันที
MetaTrader 4
MT4 เป็นแพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และ GO Markets ก็เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่นำแพลตฟอร์มนี้มาให้บริการในประเทศไทย
คุณสมบัติเด่นของ MT4 ได้แก่:
- รองรับการเทรด Forex, สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและอินดิเคเตอร์มากกว่า 61 แบบ
- รองรับการเทรดอัตโนมัติผ่าน Expert Advisors (EAs)
- อินดิเคเตอร์พื้นฐานในตัว 30 รายการ สำหรับติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด
แม้ว่าอินเทอร์เฟซของ MT4 อาจจะดูไม่ทันสมัยเท่าแพลตฟอร์มอื่น แต่ก็ใช้งานได้จริงและออกแบบมาเพื่อรองรับการเทรดแบบกระจายศูนย์ (Decentralised Trading) จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรด Forex โดยเฉพาะ บวกกับความเร็วในการส่งคำสั่งที่สูง และนี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ MT4 ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
อีกจุดเด่นสำคัญคือระบบ Expert Advisors (EAs) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถซื้อ–ขายคำสั่งเทรดได้โดยอัตโนมัติ และใช้งานระบบอัลกอริทึมได้สะดวกมาก นอกจากนี้ตลาด EAs บน MT4 ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เนื่องจาก MT4 เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดนั่นเอง
โดยรวมแล้ว MT4 อาจไม่สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายหุ้น แต่ก็เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานการเทรด forex ด้วยระบบอัตโนมัติ หรือซื้อแพ็กเกจอัลกอริทึมจากนักพัฒนา อีกทั้งยังสะดวกต่อการเปลี่ยนโบรกเกอร์ในอนาคต เพราะโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำส่วนใหญ่ต่างก็รองรับ MT4 เหมือนกัน
MetaTrader 5
MetaTrader 5 ถือเป็นแพลตฟอร์มในเวอร์ชันที่อัปเกรดจาก MT4 ทำให้คุณเข้าถึงความสามารถในการเทรดผ่านตลาดกลาง (Centralised Exchanges) ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณสามารถเข้าถึง CFD shares ได้อย่างหลากหลาย
นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ยังมาพร้อมกับเครื่องมือการเทรดขั้นสูงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- วัตถุและอินดิเคเตอร์สำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่า 80 รายการ
- รองรับการดูกราฟใน 21 ช่วงเวลา (Timeframes)
- แสดงข้อมูล Market Depth (ความลึกของตลาด)
- รองรับการเทรดในตลาดกลาง เช่น หุ้น (Exchange Trading)
- ระบบ One-Click Trading เพื่อส่งคำสั่งอย่างรวดเร็วรองรับ Expert Advisors (EAs), การเทรดแบบ Scalping และ Day Trading
สิ่งที่โดดเด่นของ MetaTrader 5 นั่นคือ MT5 ไม่ได้เน้นแค่การเทรดฟอเร็กซ์เท่านั้น แต่ยังรองรับการเทรดหุ้น ฟิวเจอร์ส และ CFD หลายประเภท ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณต้องการเทรดในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น หุ้นหรือฟิวเจอร์สเป็นประจำ
TradingView
TradingView เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่ GO Markets ได้เพิ่มเข้ามา โดยเน้นจุดแข็งที่เครื่องมือวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคที่ทรงพลังและใช้งานง่าย
คุณสามารถใช้ Market Scanner เพื่อค้นหาตลาดที่ตรงกับเงื่อนไขที่ตั้งไว้ เช่น การทำจุดสูงสุดใหม่ หรือมีรูปแบบแท่งเทียนเฉพาะ โดยระบบจะสแกนตลาดให้อัตโนมัติ และแจ้งเตือนเมื่อพบสินทรัพย์ที่ตรงกับเกณฑ์ของคุณ
TradingView มาพร้อมกับอินดิเคเตอร์มากกว่า 110 แบบ รวมถึง Bollinger Bands และเครื่องมือวิเคราะห์แนวโน้มแบบอัตโนมัติ ช่วยให้การวิเคราะห์กราฟเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
แม้ว่า TradingView จะไม่มีระบบเทรดอัตโนมัติ (EAs) แบบที่พบใน MT4 หรือ MT5 แต่คุณสามารถสร้างอินดิเคเตอร์แบบกำหนดเอง (Custom Indicators) ได้ผ่านการเขียนโค้ดด้วย Pine Script หรือเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่มีอยู่แล้วในระบบกว่า 10,000 รายการฟรี เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์การเทรดของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว TradingView ยังมีฟีเจอร์เสริมที่น่าสนใจมากมาย เช่น:
- เครื่องมือ Depth of Market (DoM) สำหรับดูราคาระดับที่ 2 (Level II Pricing)
- ระบบ One-Click Trading เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
- กราฟที่ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ ทำให้สามารถดูข้อมูลได้ต่อเนื่องไม่ว่าใช่อุปกรณ์ใด
- ระบบที่มีการอัปเดตและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- Social Trading ที่ให้คุณเชื่อมต่อกับเทรดเดอร์กว่า 50 ล้านคนทั่วโลก
- ระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เมื่อราคาหรืออินดิเคเตอร์เข้าเงื่อนไขที่ตั้งไว้
cTrader
ในปี 2024 GO Markets ได้เพิ่มแพลตฟอร์ม cTrader เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสมาชิก นอกเหนือจาก MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย โดย cTrader ถือเป็นแพลตฟอร์มเทรดภายนอก (Third-party platform) ที่มีความสามารถขั้นสูง โดยเฉพาะด้านการจัดการคำสั่งซื้อขาย
แพลตฟอร์ม cTrader โดดเด่นด้วยการ ส่งคำสั่งและดำเนินการเทรดที่รวดเร็ว พร้อมฟีเจอร์ Depth of Market (DoM) ที่แสดงช่วงราคาซื้อขายทั้งหมดที่สามารถดำเนินการได้จริง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ เครื่องมือบริหารความเสี่ยงระดับสูง และฟังก์ชัน Advanced Order Protection ที่ช่วยให้การจัดการคำสั่งซื้อขายมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
และฟีเจอร์สำคัญอื่นๆ ดังนี้
- เลือกวิธีการทริกคำสั่ง (Trigger Methods) สำหรับคำสั่งรอดำเนินการ (Pending Orders) และ Stop Loss
- ตัวเลือก Stop-Out 2 แบบ รวมถึง Smart Stop-Out ที่ช่วยลดการปิดสถานะโดยไม่จำเป็น
- ระบบ Quick Trade สำหรับการส่งคำสั่งแบบรวดเร็ว
- Volume Tooltips แสดงข้อมูลปริมาณการเทรดของแต่ละคำสั่ง
- แสดง ข้อมูลสัญลักษณ์ (Symbol Info) ครบถ้วนในหน้ากราฟ
- Market Snapshot เพื่อดูภาพรวมของตลาดในช่วงเวลาปัจจุบัน
- รายการเฝ้าติดตาม (Watchlists) ที่สามารถสร้างได้ไม่จำกัด
- ตัวชี้วัดความรู้สึกของตลาดแบบเรียลไทม์ (Live Market Sentiment Indicator)
- แจ้งเตือนผ่านอีเมล (Email Alerts) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้
เครื่องมือช่วยเทรดของ GO Markets
1. Signal Centre by Acuity
เป็นเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่ยอดเยี่ยมสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยให้สัญญาณการเทรดรายวัน ครอบคลุมตลาดฟอเร็กซ์, โลหะมีค่า และดัชนี นอกจากนี้ คุณจะได้รับการวิเคราะห์จากมืออาชีพ พร้อมคำอธิบาย เพื่อให้เข้าใจว่าเหตุใดจึงเกิดสัญญาณนั้นขึ้น
ทั้งนี้สัญญาณส่วนใหญ่มักสร้างจากรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา เช่น การทะลุแนวรับแนวต้าน, รูปแบบแท่งเทียน และรูปแบบลิ่ม (Wedge Patterns) โดยผู้ใช้งานจะต้องมียอดฝากขั้นต่ำ $100 เพื่อเข้าถึงสัญญาณการเทรดเหล่านี้
2. Genesis
Genesis เป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพของ MetaTrader และถือเป็นเครื่องมือช่วยเทรดที่โดดเด่นที่สุดของ GO Markets โดยคุณสมบัติที่น่าสนใจ ได้แก่ ระบบจัดการคำสั่งซื้อขายขั้นสูง, ระบบแจ้งเตือน, การวิเคราะห์เชิงลึก, ดัชนีความรู้สึกของตลาด (Market Sentiment) และชุด Expert Advisors (EAs) ที่หลากหลาย ช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสในตลาดได้ดีขึ้น
สรุปความคิดเห็นของฉันเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเทรดของ GO Markets
GO Markets ให้บริการแพลตฟอร์มเทรดคุณภาพระดับท็อป ตั้งแต่ MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader ไปจนถึง TradingView ซึ่งถือว่าครอบคลุมความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับได้อย่างยอดเยี่ยม
ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์สายสเกลป์ (Scalper) ที่ใช้ cTrader, มือใหม่ที่อยากเริ่มต้นด้วย TradingView หรือ ตัวยงสายอัลกอริทึมที่เน้นการใช้งาน MT5 คุณก็สามารถเลือกใช้และปรับแต่งแพลตฟอร์มให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่
GO Markets ปลอดภัยหรือไม่?
ผมให้คะแนนความน่าเชื่อถือของ GO Markets อยู่ที่ 59 คะแนน โดยอิงจากปัจจัยด้านใบอนุญาตกำกับดูแล,ชื่อเสียงในอุตสาหกรรม และรีวิวจากผู้ใช้งานเป็นหลัก

การกำกับดูแล
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คุณจะได้รับการดูแลโดยหน่วยงาน FSC แห่งมอริเชียส (Mauritius Financial Services Commission) ซึ่งถือเป็นหน่วยงานกำกับดูแลนอกประเทศที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูงในด้านความปลอดภัยของลูกค้า
เนื่องจาก FSC กำหนดให้โบรกเกอร์ต้องมีการ:
- แยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าออกจากบัญชีบริษัท (Segregated Accounts)
- ให้ความคุ้มครองยอดเงินติดลบ (Negative Balance Protection)
และด้วยใบอนุญาตจาก FSC นี่เอง โบรกเกอร์ GO Markets จึงสามารถให้บริการซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจสูงกว่าโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงาน Teir1
แต่อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ GO Markets เลือกที่จะจำกัดเลเวอเรจไว้ที่ 1:500 ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตัวเลขนี้ก็เพียงพอแล้ว เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีเงินทุนไม่มาก และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งานเลเวอเรจเกินตัวได้ด้วย
นอกจากนี้ GO Markets ยังได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลกอีก 3 แห่ง รวมทั้งหมด 4 ใบอนุญาต ได้แก่:
1. หน่วยงาน Tier 1
ASIC – Australian Securities and Investment Commission (ออสเตรเลีย)
CySEC – Cyprus Securities and Exchange Commission (ไซปรัส)
2.หน่วยงาน Tier 3
FSC – Financial Services Commission (มอริเชียส)
FSA – Financial Services Authority (เซเชลส์)
ด้วยใบอนุญาตจากหลายภูมิภาคนี้ ทำให้ GO Markets สามารถให้บริการกับลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมั่นใจ
ชื่อเสียง GO Markets ในอุตสาหกรรมการเงิน
GO Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีประสบการณ์ยาวนานในตลาด
ในด้านความนิยมทางออนไลน์ GO Markets มีปริมาณการค้นหาบน Google ประมาณ 33,100 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายใหญ่รายอื่น
คะแนน Trustpilot ของ GO Markets
GO Markets ได้รับคะแนนรีวิวจาก TrustPilot อยู่ที่ 4.7 เต็ม 5.0 จากผู้ใช้งานกว่า 670 คน ซึ่งถือเป็นคะแนนที่สูงมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยที่ผมเคยรีวิวมาก่อนหน้านี้
คะแนนนี้สะท้อนถึง ความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งในด้านบริการ, การใช้งานแพลตฟอร์ม และความน่าเชื่อถือโดยรวม
สรุป ความน่าเชื่อถือของ GO Markets
GO Markets ถือเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือในระดับสากล ด้วยการได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก สำหรับเทรดเดอร์ไทย คุณจะอยู่ภายใต้การดูแลของ FSC (มอริเชียส) ซึ่งมีกรอบการควบคุมที่เข้มงวดและได้มาตรฐาน
ช่องทางฝากถอนและค่าธรรมเนียม
จากการทดสอบใช้งานด้วยตัวเอง ผมพบว่า GO Markets รองรับช่องทางฝากเงินที่หลากหลาย แต่ข้อเสียที่เทรดเดอร์ชาวไทยต้องเจอคือ โบรกเกอร์ไม่อนุญาตให้ใช้เงินสกุลบาท (THB) เป็นสกุลเงินหลัก ซึ่งทำให้คุณต้องเสียค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเพิ่มเติม
ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ GO Markets
โบรกเกอร์ไม่ได้กำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ แต่ผมขอแนะนำให้คุณฝากขั้นต่ำ $200 เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นเทรดแบบหลายออร์เดอร์ โดยใช้เลเวอเรจ 1:500 ของทางโบรกเกอร์
สกุลเงินหลักของบัญชี
แม้ว่าโบรกเกอร์จะมีตัวเลือกสกุลเงินหลักให้เลือกหลากหลาย แต่ไม่มีสกุลเงินบาทไทยอยู่ในตัวเลือกนั้น โดยค่าเริ่มต้นเมื่อสมัครเปิดบัญชีคือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งหมายความว่า คุณต้องแปลงเงินบาท (THB) เป็นดอลลาร์สหรัฐก่อนทำการฝากเงิน
นอกเหนือจาก USD แล้ว ยังมีสกุลเงินหลักอื่น ๆ ให้เลือก ได้แก่ AUD, EUR, GBP, NZD, CAD, SGD, CHF และ HKD อีกด้วย
ตัวเลือกการฝากเงินและค่าธรรมเนียม
คุณสามารถใช้วิธีการฝากเงินแบบดั้งเดิม เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการฝากเงินด้วย USDT รวมถึงวิธีการออนไลน์ เช่น Skrill และ NETELLER ซึ่งเป็นอีวอลเล็ตยอดนิยม ซึ่งจากการทดสอบและสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของ GO Markets พวกเขายืนยันว่า ยอดเงินฝากจะถูกปรับเข้าบัญชีโดยทันที ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ช่องทางใดก็ตาม โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน
ด้านล่างนี้คือรายละเอียดการฝากถอนของโบรกเกอร์ GO Markets
ความยากง่ายในการเปิดบัญชี GO Markets
การเปิดบัญชีกับ GO Markets เป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่หากคุณติดขัดระหว่างขั้นตอนใด คุณก็สามารถติดต่อแชทสดเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับรายละเอียดการสมัครได้ทันที
โดยทั่วไปแล้ว คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับการทำงาน, รายได้ และประสบการณ์การเทรด เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว โบรกเกอร์จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของคุณ ซึ่งอาจใช้เวลานานสูงสุด 24 ชั่วโมงในช่วงเวลาทำการปกติ
หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว คุณสามารถเติมเงินเข้าบัญชีได้ด้วยวิธีการฝากเงินต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
ความหลากหลายของตลาดการเงิน GO Markets
ตลาดการเงินที่ให้บริการบน GO Markets มีเพียง 90 กว่ารายการ ถือว่ายังไม่มีความหลากหลายเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์หลายรายที่ผมเคยทดสอบมา โดยโบรกเกอร์นี้มุ่งเน้นไปที่ตลาดที่มีสภาพคล่องสูง เช่น ฟอเร็กซ์ และ CFD หุ้นสหรัฐยอดนิยมเสียมากกว่า
คู่สกุลเงิน (Forex Pairs)
GO Markets มีคู่สกุลเงิน 49 คู่ รวมถึงคู่หลักและคู่รอง เช่น EUR/USD และ USD/JPY พร้อมสเปรดต่ำ นอกจากนี้ยังมีคู่เงินแปลกใหม่ (Exotics) อย่าง USD/THB สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดสกุลเงินท้องถิ่น
ขอบเขตของคู่เงินถือว่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นที่มักอยู่ระหว่าง 70 ถึง 100 คู่
ดัชนี (Indices)
GO Markets มีดัชนีให้เลือก 16 รายการ ครอบคลุมตลาดสหรัฐฯ, เอเชีย และยุโรป ทำให้คุณสามารถเทรดตลาดยอดนิยมอย่าง NASDAQ ของสหรัฐฯ, FTSE 100 ของสหราชอาณาจักร และ Hang Seng ของฮ่องกงได้
สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
GO Markets รองรับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ 5 รายการ ด้วยสเปรดที่ต่ำ แต่ครอบคลุมเฉพาะพลังงานและโลหะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน Brent ของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ, ทองคำและเงิน
CFD หุ้น (Share CFDs)
GO Markets มี CFD หุ้นมากกว่า 1,190 บริษัท จากตลาดหลักทรัพย์ในออสเตรเลีย, สหรัฐฯ, ฮ่องกง และยุโรป ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเทรด CFD ของหุ้นในบริษัทชั้นนำอย่าง BMW และ Amazon ได้ รวมถึงสามารถทำกำไรจากการขายเมื่อราคาตกได้ด้วย
คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)
GO Markets ให้บริการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด 14 รายการสำหรับเทรดเดอร์ไทย รวมถึง Bitcoin และ Ethereum แม้จะไม่ได้เป็นจำนวนมากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการซื้อขายในตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้
สรุป ผลิตภัณฑ์การเงินของ GO Markets
แม้ว่า GO Markets จะไม่ได้มีตัวเลือกที่หลากหลายที่สุดในด้านฟอเร็กซ์และสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ผมพบว่าโบรกเกอร์นี้ให้ความสำคัญกับตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับคุณ เพราะตลาดเหล่านี้มีต้นทุนในการเทรดต่ำกว่าและมีโอกาสเกิด Slippage น้อยกว่า
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
GO Markets ให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ผ่านทางแชทสดและอีเมล และช่องทางโทรศัพท์ในต่างประเทศ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีเจ้าหน้าที่ชาวไทยมาคอยให้บริการโดยตรง การสนทนาผ่านแชทจะอาศับซอฟต์แวร์แปลภาษาของโบรกเกอร์ ซึ่งยังทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก
จากการทดลองใช้งานแชทสด ผมพบว่า หากติดต่อเป็นภาษาอังกฤษ คุณจะได้รับการสนับสนุนที่ตรงตามมาตรฐาน เจ้าหน้าที่ตอบกลับได้รวดเร็วและสามารถตอบคำถามของฉันได้โดยไม่ใช้ข้อความตอบกลับอัตโนมัติหรือส่งลิงก์บทความให้
แต่หากคุณขอรับการสนับสนุนเป็นภาษาไทย ผมพบว่าการตอบคำถามนั้นค่อนข้างสับสนเพราะโบรกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์แปลภาษา โดยไม่ได้มีเจ้าหน้าที่คนไทยจริงๆ และบางครั้ง พวกเขาเลือกที่จะส่งลิงก์เว็บไซต์ให้แทนการตอบคำถาม เพราะไม่สามารถเข้าใจภาษาไทยได้
แต่ข้อดีคือ โบรกเกอร์ยังมีหน้า FAQ ที่ออกแบบมาอย่างดี ซึ่งเหมาะสำหรับการค้นหาคำตอบด้วยตนเองในคำถามทั่วไปหรือคำถามพื้นฐาน
สรุป การให้บริการลูกค้าของ GO Markets
ด้วยการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน คุณจะสามารถขอความรับความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วผ่านทางแชทสดหรือการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ แต่อาจไม่ได้รับความสะดวกนักในการติดต่อในภาษาไทย ซึ่งผมหวังว่าจะได้เห็นการพัฒนาในส่วนนี้ในไม่ช้า
พอร์ทัลการศึกษาและการวิจัย
โบรกเกอร์ GO Markets นำเสนอเนื้อหาทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ ข่าวและบทวิเคราะห์, ปฏิทินเศรษฐกิจ และการประมวลผลประกอบการที่กำลังจะเกิดขึ้น
สื่อการเรียนรู้ (Educational Material)
GO Markets ขาดสื่อการเรียนรู้บนเว็บไซต์ของตน แม้ว่าจะมีหมวดหมู่ “การศึกษา” ก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นการทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากเนื้อหาภายในหมวดนี้เป็นเพียงข่าวสารตลาดและปฏิทินเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีประโยชน์นักหากคุณกำลังมองหาความรู้พื้นฐานในการเริ่มต้นเทรด
การวิเคราะห์ตลาด (Market Research)
GO Markets ขาดการวิเคราะห์ตลาดอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหน้า News and Trade Ideas ซึ่งไม่ได้รับการอัปเดตตั้งแต่ปี 2024
อย่างที่กล่าวไว้ในส่วนของแพลตฟอร์ม GO Markets มีบริการ Signal Centre จาก Acuity ซึ่งให้สัญญาณการซื้อขายตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค และนี่เป็นแหล่งข้อมูลวิเคราะห์ตลาดเพียงแหล่งเดียวที่ฉันพบจากการทดสอบ
สรุป งานวิจัยและแหล่งการเรียนรู้ของ GO Markets
เมื่อไม่มีสื่อการเรียนรู้ และเนื้อหาหน้าข่าวตลาดไม่ได้รับการอัปเดต ก็เป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับบริการวิเคราะห์ภายในของโบรกเกอร์ แม้ GO Markets มีผู้ให้บริการภายนอกคือ Acuity ที่ให้สัญญาณการเทรดเพื่อช่วยเหลือในการเทรดรายวันของคุณก็ตาม
สรุป ภาพรวม GO Markets 2025
โดยรวมแล้ว GO Markets เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งสำหรับมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการต้นทุนต่ำและบริการที่ครอบคลุม ที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องการกำกับดูแลที่มั่นคง, ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ และการให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับผม จุดแข็งของ GO Markets คือบัญชี GO Plus+ ที่ให้สเปรดเริ่มต้นเพียง 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดต้นทุนในการเทรด
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ยังรองรับแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ที่เสถียร มีหุ้น CFD ให้เลือกมากกว่า 1,000 รายการ และยังรองรับการเทรดอัตโนมัติและระบบคัดลอกการเทรด สำหรับผู้ที่ยังไม่แน่ใจ GO Markets มีบัญชีทดลองให้ใช้งานฟรีโดยไม่ต้องใช้เงินจริง เหมาะสำหรับการทดสอบระบบหรือฝึกเทรดเบื้องต้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ รีวิว GO Markets 2025
GO Markets มีประเภทบัญชีเทรดแบบไหนบ้าง?
GO Markets ให้บริการบัญชีหลัก 2 ประเภท (เสนอ leverage สูงทั้งสองประเภท) ได้แก่ บัญชี Standard และบัญชี Go Plus+ โดยบัญชี Standard ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ส่วนบัญชี Go Plus+ ให้สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชั่นต่ำ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง
GO Markets กำหนดเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่?
GO Markets แนะนำเงินฝากขั้นต่ำที่ $200 แต่ไม่ได้เป็นข้อบังคับ คุณสามารถเลือกวิธีฝากเงินได้หลายแบบ เช่น การโอนผ่านธนาคาร หรือระบบชำระเงินออนไลน์ต่าง ๆ
GO Markets รองรับแพลตฟอร์มการเทรดอะไรบ้าง?
GO Markets รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader เพื่อตอบโจทย์เทรดเดอร์หลากหลายกลุ่ม MT4 และ MT5 เหมาะสำหรับการเทรดอัตโนมัติ ในขณะที่ cTrader โดดเด่นในด้านการจัดการคำสั่งขั้นสูง
GO Markets มีระบบคืนค่าคอมมิชชั่นสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดปริมาณมากหรือไม่?
มี GO Markets มีโปรแกรมคืนค่าคอมมิชชั่น (rebate) สำหรับผู้ที่มีปริมาณการเทรดต่อเดือนถึงเกณฑ์ โดยจะเริ่มที่ 5% และสามารถสูงสุดได้ถึง 25% จากสเปรดหรือค่าคอมมิชชั่นที่คุณจ่าย โดยจะคืนให้รายเดือน
GO Markets อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานชั้นนำหรือไม่?
ด้วยความเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ forex ที่ได้รับความนิยม GO Markets จึงเข้มงวดเรื่องกฎระเบียบมาก พวกเขาได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน โดยเทรดเดอร์ในประเทศไทยจะอยู่ภายใต้ FSC (หน่วยงานในต่างประเทศ) ส่วนในประเทศอื่น ๆ GO Markets อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC (ออสเตรเลีย) และ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งช่วยรับรองความน่าเชื่อถือในระดับสากล
ทางเลือกแทน Go Markets
Justin Grossbard
Justin เริ่มต้นเทรดตั้งแต่ปี 1998 และได้นั่งตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งของ CompareForexBrokers เมื่อปี 2004 ในหลายปีนี้ Justin ได้เผยแพร่บทความทางการเงินมากกว่า 100 บทความ บน Forbes, Kiplinger ไปจนถึง Finance Magnates เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในชุมชนฟินเทคมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อขาย ที่เผยแพร่เมื่อปี 2023 อีกด้วย