จากการทดสอบของผม ผมได้คัดเลือก 5 โบรกเกอร์ ECN ที่มีสเปรดต่ำที่สุด มีแพลตฟอร์มหลากหลาย และมีเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด:

โบรกเกอร์ ECN ที่ดีที่สุดในประเทศไทย 2025 ได้แก่
  • Eightcap - โบรกเกอร์ ECN ที่ดีที่สุดในประเทศไทย
  • Exness - โบรกเกอร์ ECN ที่มีเลเวอเรจสูงที่สุด
  • Pepperstone - โบรกเกอร์ ECN ที่มีความเร็วในการดำเนินการสูง
  • IC Markets - โบรกเกอร์ ECN ที่มีสเปรดต่ำที่สุด
  • Tickmill - โบรกเกอร์ ECN ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด
Broker Review Our Rating Regulation Raw
EUR/USD
Spread
Raw
GBP/USD
Spread
Raw
AUD/USD
Spread
Commissions
(USD Base)
Standard
EUR/USD
Spread
Standard
GBP/USD
Spread
Standard
AUD/USD
Spread
MetaTrader 4 MetaTrader 5 cTrader Execution Speed Minimum Deposit Currency Pairs Crypto CFDs Retail Leverage Prof. Leverage Visit Broker
96 ASIC, SCB
FCA, CySEC
0.06 0.23 0.27 $3.50 1.0 1.2 1.2 143ms $100 55 33 500:1 500:1 Visit Site
88 FCA, CySEC, CMA
FSC, FSCA, FSA
0.0 0.2 0.2 - 0.9 1.1 0.9 92ms $10 96+ 34+ Unlimited Unlimited Visit Site
98 ASIC, FCA
CySEC, SCB
0.10 0.30 0.20 $3.50 1.10 1.30 1.20 77ms $0 83 20 30:1 500:1 Visit Site
93 ASIC, FSA-S
CySEC
0.10 0.23 0.17 $3.50 0.62 0.83 0.77 134ms $0 61+ 18+ 30:1 500:1 Visit Site
64 FCA, CYSEC, DFSA, FSA-S, Labuan FSA 0.1 0.3 0.1 $2.00 1.6 1.6 1.6 125ms $100 60+ - 30:1 500:1 Visit Site

1. Eightcap โบรกเกอร์ ECN ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

Eightcap

Forex Panel Score

96

Average Spread

EUR/USD = 0.6 GBP/USD = 0.3 AUD/USD = 0.2

Trading Platforms

MT4, MT5, TradingView

Minimum Deposit

$100

เหตุผลที่เราแนะนำโบรกเกอร์นี้

ในการรีวิวโบรกเกอร์ของผม ผมให้คะแนน Eightcap 75/100 เนื่องจาก โบรกเกอร์ให้เงื่อนไขการเทรดที่ยอดเยี่ยม รวมถึงสเปรดจากบัญชี Raw ที่เริ่มต้นจาก 0 pips

โบรกเกอร์มีความโดดเด่นในแง่ผลิตภัณฑ์ โดยมีคริปโตเคอร์เรนซีถึง 95 ตัว ซึ่งมากที่สุดเท่าที่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการกำกับดูแลในประเทศไทยเสนอให้ รวมถึงคู่ฟอเร็กซ์ 56 คู่ และสามารถใช้งานแพลตฟอร์มการเทรด ได้ทั้ง MT4, MT5, TradingView และ Capitalise.ai (สำหรับการอัตโนมัติ)

Pros & Cons

ข้อดี

  • ตัวเลือกตลาดคริปโตที่มากที่สุด
  • สเปรด ECN ที่แคบ ในบัญชี Raw เริ่มต้นที่ 0 pips
  • สามารถเข้าถึงตลาดโดยตรง ผ่าน TradingView และ MT5

ข้อเสีย

  • การเข้าถึงบัญชีทดลองที่จำกัด
  • ไม่มีการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
  • กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ $100

ข้อมูลโบรกเกอร์

สเปรดเริ่มต้นจาก 0 pips บนบัญชี RAW

เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินการแบบ ECN ของโบรกเกอร์ คุณต้องเลือกใช้บัญชี RAW ซึ่งผมคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับบัญชี Standard โดยบัญชี RAW มีสเปรดเริ่มต้นจาก 0 pips และมีค่าคอมมิชชัน $3.50 ต่อล็อตที่เทรด ซึ่งทำให้ต้นทุนการเทรดต่ำกว่าบัญชี Standard ที่มีสเปรด 1 pips อย่างมาก

ประเภทบัญชี Eightcap

จากการใช้งานบัญชี RAW ของ Eightcap ผมพบว่าสเปรดที่มีอยู่มีความเสถียรและไม่ผันผวนมากเกินไปในระหว่างช่วงการเทรด สเปรดของ EUR/USD มีการเปลี่ยนแปลงระหว่าง 0.0 ถึง 0.2 pips และในคู่ USD/JPY สเปรดคงที่ที่ประมาณ 0.1 pips เรียกได้ว่าสเปรดของพวกเขามีความสามารถในการแข่งขันเป็นอย่างมาก

ตัวเลือกตลาดที่ยอดเยี่ยม รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซี 95+ ตัว

หนึ่งในจุดที่ทำให้ผมประทับใจใน Eightcap คือ จำนวนคริปโตเคอร์เรนซีที่สามารถซื้อขายได้ถึง 95 ตัว ซึ่งทำให้คุณสามารถเทรดเหรียญต่างๆ เช่น Bitcoin, Ethereum และ Solana ได้ เมื่อผมเจาะลึกลงไป พบว่าคุณสามารถเทรดตลาดคริปโตที่มีความผันผวน รวมถึงเหรียญ DOGE และ PEPE ทำให้คุณสามารถคาดเดาเกี่ยวกับ Altcoins ได้ด้วย

Eightcap เสนอตัวเลือกการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีในจำนวนที่มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งคุณสามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้ของผม

โบรกเกอร์ตลาดคริปโต
Eightcap95
Exness30
Pepperstone27
IC Markets18
Tikmill9

เหตุผลหนึ่งที่ผมชอบการเทรดคริปโตผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อย่าง Eightcap คือ พวกเขามีการกำกับดูแลและได้รับอนุญาตให้ให้บริการทางการเงิน นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่าโบรกเกอร์จะมีการดำเนินการอย่างโปร่งใสและจะปกป้องทุนของคุณหากมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

แม้ว่าคุณจะสามารถใช้กระดานเทรดคริปโตได้ แต่บางแห่งอาจไม่ได้รับการกำกับดูแล และคุณอาจสูญเสียเงินทั้งหมดหากเกิดปัญหากับกระดานเทรดนั้น ดังนั้นการใช้ Eightcap จึงช่วยให้ผมมีความมั่นใจขณะเทรดผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลเช่นคริปโตเคอร์เรนซี

โบรกเกอร์ยังมีคู่สกุลเงิน 56 คู่, ดัชนี 16 ตัว, สินค้าโภคภัณฑ์ 8 รายการ, และ CFD หุ้นมากกว่า 500 ตัว ให้คุณได้เลือกเทรดในตลาดที่หลากหลายได้ด้วยบัญชี RAW

ตัวเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่ดี

Eightcap มีบัญชีการเทรดสามประเภทในบัญชี RAW ที่ใช้บริการ ECN ของโบรกเกอร์ และรวมถึง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ TradingView แพลตฟอร์มทั้งหมดนี้มีเครื่องมือการแสดงกราฟที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นการพัฒนากลยุทธ์ของคุณกับ Eightcap จะไม่เป็นปัญหา

ผมเลือกที่จะเทรดด้วย MetaTrader 5 เพราะผมชอบที่มันมีปฏิทินเศรษฐกิจในตัวที่สามารถแสดงทับบนกราฟของผมได้ นี่คือฟีเจอร์ที่ดีเพราะมันช่วยให้คุณเห็นเมื่อมีประกาศที่มีผลกระทบสูง ซึ่งช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการกระโดดของราคา (Price Spikes) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเทรดของคุณ

MetaTrader 4 เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการทำให้การเทรดของคุณโดยอัตโนมัติ เพราะคุณสามารถใช้ภาษา MQL4 ในการพัฒนา EA ของคุณเอง ส่วน TradingView นั้นเหมาะที่สุดสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค เนื่องจากมันมีอินดิเคเตอร์มากกว่า 110 ตัว และเครื่องมือวาดกราฟขั้นสูง เช่น รูปแบบฮาร์มอนิกและอินดิเคเตอร์ Elliott Wave

เครื่องมืออัตโนมัติที่ใช้งานง่ายกับ Capitalise.AI

Eightcap ให้คุณเข้าถึง Capitalise.ai ช่วยให้คุณเทรดอัตโนมัติได้ด้วยกลยุทธ์การเทรดของคุณ ไม่ต้องใช้โค้ดผ่าน MT4 หรือ MT5 ซึ่งผมได้ทดสอบ Capitalise.ai และพบว่าสามารถใช้งานได้ง่ายมากผ่านการพิมพ์กฎการเทรดของคุณลงใน AI

เมื่อส่งข้อมูลไปแล้ว AI จะสร้างกลยุทธ์ที่สมบูรณ์ให้คุณเพื่อทำการทดสอบย้อนหลังและเปิดใช้งาน ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แทนที่จะใช้เวลาหลายวันในการสร้างกลยุทธ์อัตโนมัติ ผมคิดว่านี่เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม หากคุณต้องการทดลองกลยุทธ์ของคุณเพื่อดูว่ามันจะทำงานอย่างไร

Capitalise.AI กับ Eightcap

2. Exness โบรกเกอร์ ECN ที่มีเลเวอเรจสูงที่สุด

Exness

Forex Panel Score

88

Average Spread

EUR/USD = 0.0 GBP/USD = 0.2 AUD/USD = 0.2

Trading Platforms

MT4, MT5, Exness Trade App

Minimum Deposit

$10

เหตุผลที่เราแนะนำโบรกเกอร์นี้

Exness เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผม หากคุณกำลังมองหาการใช้เลเวอเรจสูง เนื่องจากโบรกเกอร์เสนอเลเวอเรจถึง 1:2000 สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย ซึ่งมากกว่าโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยถึง 6 เท่า (1:500) คุณสามารถรับประโยชน์จากสเปรดที่แคบในบัญชีแบบ Professional ของโบรกเกอร์นี้ ซึ่งบัญชี Zero จะมีสเปรด 0 pips สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินชั้นนำ

ผมคิดว่าคุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ Exness เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีต้นทุนน้อย เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำและเลเวอเรจสูงในการขยายการเทรดของคุณ

Pros & Cons

ข้อดี

  • เลเวอเรจ 1:2000 สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย
  • บัญชี Zero และ Raw เสนอสเปรดแคบ
  • มีคู่สกุลเงินมากถึง 96 คู่

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกตลาด CFD จำกัด
  • การป้องกันยอดติดลบไม่ได้เป็นแบบอัตโนมัติ
  • ไม่ได้ให้บริการ TradingView

 

รายละเอียดโบรกเกอร์

Exness มอบเลเวอเรจสูงสำหรับเทรดเดอร์ไทย

ในการทดสอบของผม ผมรู้สึกดีใจที่เห็นว่า Exness ให้เลเวอเรจถึง 1:2000 สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย ซึ่งเป็นเลเวอเรจที่สูงที่สุดที่ผมเคยเห็นในโบรกเกอร์ประเทศไทย ด้วยเลเวอเรจ 1:2000 ผมสามารถเปิดตำแหน่ง EUR/USD ขนาด 100,000 ด้วยมาร์จิน 0.05% (50 ดอลลาร์) ทำให้เป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุดในการเปิดการเทรด 1 ล็อต

โบรกเกอร์เลเวอเรจ
Exness1:2000
Tickmill1:1000
IC Markets1:1000
Pepperstone1:500
Eightcap1:500

เลเวอเรจสูงและมาร์จิ้นต่ำทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณในการเริ่มต้นการเทรดด้วยยอดเงินที่น้อยกว่า ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ คุณสามารถเปิดตำแหน่งไมโครล็อต ($1,000) ด้วยมาร์จิ้นเพียง $0.50 ทำให้การเทรดด้วยเงินจริงไม่น่ากลัวเกินไป

ในทางเลือกอื่น หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และมีกลยุทธ์การเทรดที่มีกำไร คุณสามารถใช้เลเวอเรจนี้เพื่อขยายขนาดการเทรดของคุณโดยไม่ต้องเติมเงินในบัญชีของคุณมากขึ้น

ตัวเลือกบัญชีหลายประเภท พร้อมสเปรดต่ำจาก Exness

Exness มีบัญชี Zero และ Raw Spread เพื่อใช้ประโยชน์จากการดำเนินการ ECN ของโบรกเกอร์ โดยบัญชี Zero มอบสเปรด 0 pips สำหรับ 30 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินชั้นนำ ที่ครอบคลุมตลาดยอดนิยม เช่น EUR/USD ทำให้มันเป็นหนึ่งในบัญชีที่มีสเปรดต่ำที่สุดในประเทศไทย คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเทรดที่อยู่ระหว่าง 3.50-4.50 ดอลลาร์สำหรับคู่สกุลเงินหลัก และสูงกว่าสำหรับคู่สกุลเงินรองและคู่สกุลเงิน exotic

นอกจากนี้บัญชี Raw ยังมอบสเปรดที่แคบ เริ่มต้นจาก 0 pips ในทุกตลาด พร้อมค่าธรรมเนียมที่คงที่ 3.50 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สเปรดสำหรับคู่สกุลเงินหลักหรือคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่ไม่อยู่ใน 30 คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด จะมีความแปรปรวน (แต่ไม่มากจนเกินไป) เมื่อเทียบกับบัญชี Raw

ขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณต้องการเทรด ผมคิดว่าบัญชี Raw เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณต้องการเทรดในตลาดที่หลากหลายตั้งแต่ดัชนีไปจนถึงฟอเร็กซ์ คุณจะได้รับค่าธรรมเนียมการเทรดที่เหมือนกันในตลาดเหล่านี้ในบัญชี Raw ขณะที่บัญชี Zero อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเครื่องมือที่อยู่ใน 30 อันดับแรก

ประเภทบัญชี Exness

สัญญาณการเทรดจาก Trading Central

ผมชอบที่ Exness ให้เครื่องมือการเทรดเสริม เช่น สัญญาณการเทรดจาก Trading Central ที่ช่วยสนับสนุนการสร้างไอเดียการเทรดใหม่ๆ คุณสามารถเข้าถึง Trading Central จากหน้า Exness ของคุณ ซึ่งจะทำการสแกนตลาดของโบรกเกอร์เพื่อหาโอกาสทางการเทรดที่อาจเกิดขึ้นโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและเครื่องมือการจดจำรูปแบบ

ในฐานะที่เป็นเทรดเดอร์ที่ทำการเทรดในแต่ละวัน ผมรู้สึกขอบคุณที่มีบริการนี้ เพราะมันช่วยให้ผมหาโอกาสการเทรดใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้เวลาทั้งวันจ้องที่กราฟ แทนที่ผมจะต้องมานั่งดูทุกอย่างเอง ระบบจะส่งการแจ้งเตือนเมื่อการวิเคราะห์พร้อมที่จะดำเนินการ และคุณสามารถทบทวนคำแนะนำก่อนที่จะตัดสินใจลงมือเทรด

3. Pepperstone โบรกเกอร์ ECN ที่มีความเร็วในการดำเนินการสูง

Pepperstone

Forex Panel Score

98

Average Spread

EUR/USD = 1.10
GBP/USD = 1.3
AUD/USD = 1.20

Trading Platforms

MT4, MT5, cTrader, TradingView, Pepperstone Trading App

Minimum Deposit

$0

ทำไมเราจึงแนะนำโบรกเกอร์นี้

Pepperstone คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ผมให้คะแนนสูงที่สุด โดยได้คะแนน 98/100 จากการทดสอบของผม ซึ่งทำให้มันดีกว่าโบรกเกอร์อื่นๆ อีก 20 รายที่ผมทดสอบ ด้วยความเร็วในการดำเนินการที่ต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที และสเปรดที่เป็นศูนย์ในคู่สกุลเงิน EUR/USD ตลอดเวลา (ยกเว้นช่วง rollover) ทำให้ Pepperstone มีเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดในประเทศไทย

คุณสามารถเทรดได้ด้วยแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น cTrader, MT5, MT4 และ TradingView ซึ่งจะช่วยมอบเครื่องมือที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์กราฟไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือมืออาชีพ

Pros & Cons

ข้อดี

  • สเปรดศูนย์ในคู่สกุลเงิน EUR/USD บนบัญชี Razor
  • ความเร็วในการดำเนินการที่เร็ว (ต่ำกว่า 100ms)
  • ไม่มีข้อกำหนดการฝากเงินขั้นต่ำ

ข้อเสีย

  • ไม่มีคำสั่ง Stop-Loss แบบรับประกัน
  • สามารถเทรดหุ้น CFDs ได้เฉพาะใน MT5 และ TradingView
  • บัญชีทดลองสามารถหมดอายุได้

รายละเอียดโบรกเกอร์

Pepperstone เสนอความเร็วในการดำเนินการต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที

Pepperstone โดดเด่นในการทดสอบของผมเมื่อมันทำคะแนนได้ดีในด้านความเร็วในการดำเนินการด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที การทดสอบของผมจำแนกความเร็วของการดำเนินการเป็นความเร็วของคำสั่งแบบลิมิตและคำสั่งตลาด ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจถึงความเร็วที่โบรกเกอร์ดำเนินการ

ผมพบว่า Pepperstone ทำได้ดีในด้านความเร็วของคำสั่งลิมิต โดยมีความเร็วเฉลี่ยที่ 77 มิลลิวินาที (เร็วเป็นอันดับที่สองโดยรวม) ซึ่งมีผลต่อความเร็วที่คำสั่ง stop loss และ take profit จะถูกดำเนินการ เมื่อคำสั่งลิมิตดำเนินการได้เร็ว ก็จะช่วยให้คำสั่ง stop loss ของคุณมีโอกาสที่ดีที่สุดในการดำเนินการในตลาดที่ผันผวน ปกป้องคุณจาก slippage ที่เป็นลบ

Pepperstone ยังได้คะแนนสูงในด้านความเร็วของคำสั่งตลาดที่ 100 มิลลิวินาที ซึ่งทำให้คำสั่งซื้อและขายของคุณได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่านี่เป็นเงื่อนไขการเทรดที่เหมาะสมที่สุดหากคุณเป็นเทรดเดอร์แบบ scalper เพราะคุณต้องการโบรกเกอร์ที่สามารถดำเนินการคำสั่งของคุณโดยไม่ต้องมีการ re-quote

ความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง
Brokerความเร็วสำหรับ Limit order ความเร็วสำหรับ Market order
Pepperstone77100
Eightcap143139
BlackBull Markets7290
IC Markets134153
XM148184
FxPro151138
FXCM108123
City Index95131

สเปรดเป็นศูนย์บนบัญชี Razor

เมื่อผมเปิดบัญชี Razor ผมพบว่าหนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือสเปรดเป็นศูนย์ ดังนั้นผมจึงขอให้เพื่อนร่วมงานของผม Ross Collins ทดสอบว่าโบรกเกอร์เสนอสเปรดเป็นศูนย์บ่อยแค่ไหน

Ross พบว่า Pepperstone เสนอสเปรดเป็นศูนย์ในตลาด EUR/USD ตลอด 100% ของเวลาการเทรดในช่วงเวลาปกติ ตลาดอื่นๆ เช่น USD/JPY ซึ่งเริ่มต้นจาก 0.1 พิป ก็ให้สเปรดขั้นต่ำ 100% ของเวลาเช่นกัน (นอกช่วง rollover)

ช่วงเวลาที่ราคานิ่งอยู่ที่ศูนย์ pip นอกเวลาทำการ Rollover
โบรกเกอร์AUDUSDEURUSDGBPUSDUSDCADUSDCHFUSDJPY
Pepperstone100.00%100.00%100.00%100.00%100.00%100.00%
Eightcap100.00%100.00%100.00%100.00%86.96%100.00%
IC Markets100.00%100.00%100.00%100.00%86.96%100.00%
Blackbull Markets100.00%100.00%95.65%95.65%65.22%65.22%
Tickmill100.00%100.00%26.09%100.00%95.65%95.65%

สเปรดเป็นศูนย์ทำให้คุณต้องจ่ายแค่ค่าธรรมเนียมซึ่งเป็นต้นทุนที่คงที่ ดังนั้นคุณจะไม่ต้องเผชิญกับต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้นในช่วงที่ตลาดผันผวน สำหรับผมแล้ว สิ่งนี้ทำให้บัญชี Razor เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดในระยะสั้น (Day Trading)

ความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรดที่ยอดเยี่ยม

ผมชอบที่ Pepperstone มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกถึง 4 รายการ ทำให้คุณมีตัวเลือกที่หลากหลายที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ที่ทดสอบในประเทศไทย คุณสามารถเลือกเทรดกับ MetaTrader 4, MT5, cTrader หรือ TradingView ซึ่งทั้งหมดนี้มีเครื่องมือสำหรับการทำกราฟที่ยอดเยี่ยมเพื่อพัฒนากลยุทธ์ของคุณ

MetaTrader 5, cTrader และ TradingView เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดเนื่องจากได้รับการปรับแต่งมาเพื่อโบรกเกอร์ ECN โดยคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Depth of Markets ซึ่งช่วยให้คุณดูสมุดคำสั่งของผู้ให้บริการสภาพคล่อง แสดงให้เห็นว่าคำสั่งที่รอการดำเนินการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่ไหน ช่วยให้คุณหาจุดแนวรับและแนวต้านที่ซ่อนอยู่ได้

Pepperstone TradingView ความลึกของตลาด

4. IC Markets โบรกเกอร์ ECN ที่มีสเปรดต่ำที่สุด

IC Markets

Forex Panel Score

93

Average Spread

EUR/USD = 0.02 GBP/USD = 0.23 AUD/USD = 0.03

Trading Platforms

MT4, MT5, cTrader, TradingView, IC Markets Mobile App

Minimum Deposit

$200

ทำไมเราจึงแนะนำโบรกเกอร์นี้

IC Markets ได้คะแนนที่ดีที่ 85/100 ในการทดสอบของผม โดยมีตลาดที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบต้นทุนการเทรดในบัญชี Raw ด้วยสเปรดเฉลี่ยที่ 0.19 pips ผมชอบที่โบรกเกอร์นี้ให้ส่วนลดลึกผ่านการคืนเงินหากคุณเทรดบ่อยๆ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของคุณได้สูงสุดถึง 70% ทำให้ IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์

โบรกเกอร์นี้ยังมีรายการผลิตภัณฑ์การเทรดมากกว่า 2,200 รายการ จากตลาดฟอเร็กซ์ 61 ตลาด รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถเทรดได้บน TradingView, MetaTrader 4, cTrader และ MetaTrader 5

Pros & Cons

ข้อดี

  • สเปรดแคบที่สุดเริ่มต้นที่ 0.19 pips ในบัญชี RAW
  • มีการคืนเงินจำนวนมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ทำธุรกรรมในปริมาณมาก
  • มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่า 2,200 รายการให้เลือกเทรด

ข้อเสีย

  • ไม่มี ETFs ให้เทรด
  • มีข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่สูง
  • การสนับสนุนลูกค้าช้า

ข้อมูลโบรกเกอร์

สเปรดในบัญชี RAW ต่ำที่สุด

หนึ่งในข้อดีหลักของการใช้โบรกเกอร์ ECN จริงคือสเปรดที่แคบ และ IC Markets มอบสเปรดที่แคบที่สุดเริ่มต้นที่ 0 pips แต่ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาที่จะมีสเปรดต่ำสุดนี้เสมอไป เพื่อนร่วมงานของผม Ross Collins ได้ทดสอบ IC Markets พร้อมกับโบรกเกอร์อื่นๆ อีก 14 ราย เพื่อดูผลการทำงานในช่วงเวลาการเทรดปกติ

ผลการทดสอบของ Ross พบว่า IC Markets มีค่าเฉลี่ยสเปรดที่ 0.19 pips ในคู่เงิน EUR/USD ซึ่งเป็นหนึ่งในค่าที่ต่ำที่สุดจากโบรกเกอร์ทั้ง 15 รายที่ทดสอบ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมประมาณ 30% จากการทดสอบใน 6 คู่เงินหลัก และสเปรดของ IC Markets โดยรวมชนะค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ทำให้มันมีสเปรดที่ต่ำที่สุดสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์

RAW Spreads Tested By Ross Collins
0.19 0.19 0.41 0.36 0.61
0.20 0.48 0.44 0.47 0.64
0.19 0.23 0.27 0.24 0.24
0.15 0.37 0.59 0.67 0.50

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 01/01/2025

นอกจากสเปรดแล้ว คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม $3.50 ต่อหนึ่งล็อตที่เทรด ($7.00 สำหรับการเทรดรอบเต็ม) ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับเฉลี่ยสำหรับโบรกเกอร์ในไทย

RAW Trader Plus กับส่วนลดค่าธรรมเนียมจำนวนมาก

ผมพบว่า IC Markets มีบัญชี RAW Trader Plus ที่ให้การสนับสนุนเฉพาะและส่วนลดค่าคอมมิชชั่นจากการเทรด ขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรดของคุณในแต่ละเดือน

จากการดูบัญชีนี้ คุณสามารถได้รับส่วนลดสูงสุดถึง $2.50 ต่อหนึ่งล็อต ซึ่งจะลดค่าค่าธรรมเนียมของคุณให้เหลือแค่ $1.00 ต่อหนึ่งล็อต โดยการประหยัด 70% สำหรับระดับ Tier-1 ผมคิดว่าระดับ Tier-1 มีเกณฑ์คุณสมบัติที่ต่ำเพียงแค่ 100 ล็อตในปริมาณการเทรดที่ปิดในแต่ละเดือน ทำให้คุณได้รับส่วนลด $1.50 ต่อหนึ่งล็อตที่เทรด หากคุณเข้าเกณฑ์สำหรับสิทธิประโยชน์ในระดับ Tier-1 คุณจะประหยัดค่าค่าธรรมเนียมได้ถึง 40% ซึ่งเป็นส่วนลดที่มีนัยสำคัญที่จะลดค่าค่าธรรมเนียมที่กินกำไรของคุณ

 IC Markets Raw Trader Plus เงินคืน (Rebates)

เทรดด้วยสเปรดต่ำในตลาดกว่า 2,200 แห่ง

ผมประทับใจกับ IC Markets ที่มีตลาดทางการเงินกว่า 2,200 แห่ง พร้อมต้นทุนการเทรดที่ต่ำในบัญชี RAW โดยโบรกเกอร์ครอบคลุมตลาดต่างๆ ดังนี้:

  • คู่สกุลเงิน 61 คู่ รวมถึง EUR/USD และ USD/THB
  • หุ้นกว่า 1,600 ตัว รวมถึง Apple และ Tesla
  • ดัชนี 10 ตัว รวมถึง FTSE 100 และ NASDAQ
  • สินค้าโภคภัณฑ์กว่า 23 ชนิด รวมถึงทองคำ เงิน และน้ำมัน
  • คริปโตเคอร์เรนซี 18 ชนิด รวมถึง Bitcoin และ Ethereum

คุณสามารถเทรดในตลาดส่วนใหญ่เหล่านี้ได้บน cTrader และ MT5 ซึ่งเป็นสองแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่เหมาะสำหรับโบรกเกอร์ ECN หากคุณไม่สนใจการเทรดหุ้น MT4 เป็นตัวเลือกที่ดีด้วยฟีเจอร์การอัตโนมัติและการปรับแต่งเอง หรือ TradingView สำหรับเครื่องมือการวิเคราะห์กราฟขั้นสูงที่ทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคง่ายขึ้น

5. Tickmill โบรกเกอร์ ECN ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด

Tickmill

Forex Panel Score

77

Average Spread

EUR/USD = 0.1 GBP/USD = 0.3 AUD/USD = 0.10

Trading Platforms

MT4, MT5, Tickmill Mobile App CQG Agena Trader

Minimum Deposit

$100

ทำไมเราจึงแนะนำโบรกเกอร์นี้

ผมให้คะแนน Tickmill 74/100 จากการทดสอบ เนื่องจากมีต้นทุนการเทรดที่ต่ำด้วยสเปรด 0.15 พิพสำหรับ EUR/USD (เป็นสเปรดที่ต่ำที่สุดที่ทดสอบ) และค่าค่าธรรมเนียมต่ำสุดที่ $3.00 ต่อล็อต ซึ่งทำให้มันเป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำการเทรด scalping ในตลาด EUR/USD ในความคิดของผม

Tickmill มีเครื่องมือการเทรด 7 ชนิด และไฮไลต์ที่ผมชอบที่สุดคือ Capitalise.ai สำหรับการสร้างกลยุทธ์อัตโนมัติแบบไม่ต้องเขียนโค้ด และ Signal Centre โดย Acuity สำหรับการรับสัญญาณการเทรดฟรี

Pros & Cons

ข้อดี

  • ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำที่สุด
  • มี VPS เพื่อปรับปรุงสภาพการเทรด ECN
  • มีเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย

ข้อเสีย

  • เวลาการให้บริการลูกค้าจำกัด
  • ตัวเลือกตลาดการเทรดน้อย

ข้อมูลโบรกเกอร์

ค่าธรรมเนียมต่ำสุดในบรรดาโบรกเกอร์ ECN

เมื่อพิจารณาจากโบรกเกอร์ต่างๆ ผมพบว่า Tickmill เสนอค่าค่าธรรมเนียมมาตรฐานที่ต่ำที่สุดในประเทศไทยที่ $3.00 ต่อล็อตที่ทำการเทรด โดยค่าธรรมเนียมนี้หมายถึง ค่ามาตรฐานก่อนที่จะมีการใช้โปรแกรมรีเบท เนื่องจากโบรกเกอร์บางรายที่มีโปรแกรมรีเบทอาจเสนอลดค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า แต่ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน เนื่องจากข้อกำหนดการเทรดที่ต้องมีปริมาณสูงเท่านั้น

การเทรดด้วยบัญชี Raw ของ Tickmill ช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมได้ 15% เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ ที่คิดค่าธรรมเนียม $3.50 ต่อล็อต นี่คือส่วนลดที่น่าสนใจ เมื่อพิจารณาว่านี่คือค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ Tickmill จะเรียกเก็บ และคุณจะสามารถประหยัดเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเทรดระยะสั้น

โบรกเกอร์ค่าธรรมเนียมต่อล็อต (USD)
Tickmill$3.00
Eightcap$3.50
Exness$3.50
Pepperstone$3.50
IC Markets$3.50

เนื่องจากบัญชี Raw ได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติ ECN ของโบรกเกอร์ Tickmill จึงมีสเปรดที่แคบ ในการทดสอบของผม พบว่าสเปรดของ EUR/USD เฉลี่ยที่ 0.15 pips (ต่ำสุดร่วม) อย่างไรก็ตาม Tickmill กลับทำผลงานได้ไม่ดีนักใน 5 คู่เงินหลักอื่นๆ ที่ทำการทดสอบ

คู่สกุลเงินสเปรดของ Tickmillค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
AUD/USD0.370.42
EUR/USD0.150.27
GBP/USD0.590.54
USD/CAD0.500.62
USD/CHF0.520.71
USD/JPY0.670.48

เครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย

ด้วยบัญชี Raw ผมสามารถเข้าถึงเครื่องมือการเทรดที่ดีซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 หรือ MT5 หรือผ่านพอร์ทัลลูกค้าของ Tickmill เครื่องมือสองตัวที่โดดเด่นสำหรับผมคือ Capitalise.ai และ Trading Centre โดย Acuity เพราะผมเชื่อว่าเครื่องมือเหล่านี้จะมีผลดีต่อประสบการณ์การเทรดของคุณ

Capitalise.ai เป็นบริการที่น่าประทับใจที่ช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติโดยไม่ต้องเขียนโค้ด, เปิดโอกาสให้ใครก็สามารถทำการเทรดอัตโนมัติได้ ผมใช้เครื่องมือนี้และพบว่าใช้งานง่ายโดยการพิมพ์กฎการเทรดจากกลยุทธ์ของคุณ เมื่อเสร็จแล้ว AI จะสร้างการทำงานอัตโนมัติที่คุณสามารถเลือกทดสอบและปรับแต่ง หรือจะนำไปใช้กับบัญชีจริงของคุณ

ผมยังทดสอบ Trading Centre โดย Acuity ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม MT5/MT4 ซึ่งให้ไอเดียและการวิเคราะห์การเทรดที่ได้รับการวิจัยอย่างมืออาชีพ โดยเครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณสามารถคัดลอกใบสั่งซื้อ (ระดับการเข้า หยุดขาดทุน และระดับเป้าหมาย) เพื่อให้คุณสามารถติดตามสัญญาณได้อย่างแม่นยำ

ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มของคุณ เครื่องมือจะสแกนสินทรัพย์หลายประเภทเช่น หุ้น สกุลเงิน ดัชนี สกุลเงินดิจิทัล และสินค้าโภคภัณฑ์

การวิเคราะห์นั้นก็ถือว่าใช้ได้ จะมีการใช้ระดับการสนับสนุนและการต้านที่อาจเกิดขึ้นเพื่อหาโอกาสการเบรกเอาท์ โดยมีเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบสูงในอนาคตรองรับ ผมชอบที่สัญญาณการเทรดมาพร้อมกับ “ระดับความมั่นใจ” ที่ช่วยให้คุณเห็นภาพของความมั่นใจในไอเดียนั้น

Tickmill เครื่องมือการเทรด - Signal Centre