โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ MT5 ที่ดีที่สุด 6 อันดับในประเทศไทย:

  • Exness - โบรกเกอร์ MT5 ที่ดีที่สุดในไทย
  • Pepperstone - โบรกเกอร์ MT5 ที่ดำเนินการคำสั่งเร็วที่สุด
  • Eightcap - โบรกเกอร์ MT5 กับตัวเลือกคริปโตที่หลากหลายที่สุด
  • IC Markets - โบรกเกอร์ MT5 ที่มีข้อเสนอบัญชีเทรดสเปรดต่ำ
  • Tickmill - ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
  • FBS - เทรดผ่าน MT5 โดยใช้เลเวอเรจสูง
โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ MT5
Broker Review Our Rating Regulation Raw
EUR/USD
Spread
Raw
GBP/USD
Spread
Raw
AUD/USD
Spread
Commissions
(USD Base)
Standard
EUR/USD
Spread
Standard
GBP/USD
Spread
Standard
AUD/USD
Spread
MetaTrader 4 MetaTrader 5 cTrader Execution Speed Minimum Deposit Currency Pairs Crypto CFDs Retail Leverage Prof. Leverage Visit Broker
88 FCA, CySEC, CMA
FSC, FSCA, FSA
0.0 0.2 0.2 - 0.9 1.1 0.9 $10 96+ 34+ Visit Site
98 ASIC, FCA
CySEC, SCB
0.10 0.30 0.20 $3.50 1.1 1.4 1.2 77ms $0 92 12+ 30:1 500:1 Visit Site
96 ASIC, SCB
FCA,CySEC
0.06 0.73 0.27 $3.50 1.0 1.0 1.2 143ms $250 (Raw)
$500 (Standard)
40+ 250+ 500:1 500:1 Visit Site
93 ASIC, FSA-S
CySEC
0.10 0.23 0.17 $3.50 0.62 0.83 0.77 134ms $0 61+ 18+ 30:1 500:1 Visit Site
64 FCA, CYSEC, DFSA, FSA-S, Labuan FSA 0.1 0.3 0.1 $2.00 1.6 1.6 1.6 125ms $100 60+ - 30:1 500:1 Visit Site
66 ASIC, CySEC
FSC, CIMA
- - - - 0.9 1.0 1.5 - $5 37 35 3000:1 3000:1 Visit Site
 

ใครคือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ MT5 ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ในระหว่างขั้นตอนการประเมินโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ของผม ผมจะมุ่งเน้นไปที่โบรกเกอร์ที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น เลเวอเรจสูง ค่าธรรมเนียมต่ำ มีเครื่องมือการเทรดฟอเร็กซ์ที่ทันสมัย และการสนับสนุนที่ดีเยี่ยม

ในบทความนี้ ผมจะเน้นไปที่การนำเสนอข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจการเทรดของคุณ มาดูกันว่าอะไรที่ทำให้ Exness, Pepperstone, IC Markets, Vantage, Tickmill และ FBS เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการใช้งานบน MetaTrader 5

1. Exness สุดยอดโบรกเกอร์สำหรับ MT5 ในภาพรวม

Exness

Forex Panel Score

49

Average Spread

EUR/USD = 0.9
GBP/USD = 1.1
AUD/USD = 0.9

Trading Platforms

Exness Trader App, Exness Terminal, MT4, MT5

Minimum Deposit

$10

ทำไมเราถึงแนะนำ

ผมชอบ Exness เพราะพวกเขารองรับการใช้งานกับในทุกประเภทบัญชีของพวกเขา บัญชี Zero มีจุดเด่นที่เสนอสเปรด 0 pip และใช้งานเครื่องมือการเทรดที่เป็นที่นิยมได้ ขณะที่บัญชี Pro, RAW และ Standard จะมีเงื่อนไขการเทรดที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้สามารถเข้าถึงผ่านแพลตฟอร์มการเทรดที่ทรงพลังของ MT5 ได้

เพื่อช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันการวิเคราะห์กราฟและการเทรดอัตโนมัติขั้นสูงของ MT5 ทาง Exness จึงส่งมอบเลเวอเรจไม่จำกัด สเปรดทองคำที่แคบ และการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ Algo ที่ใช้ Expert Advisors ของ MT5 ในการเทรด หรือเทรดเดอร์ที่ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูงด้วยตนเอง Exness ก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพของการใช้งาน MT5 ให้คุณอย่างเต็มความสามารถ

Pros & Cons

ข้อดี

  • บัญชีการเทรด 5 ประเภท รวมถึงบัญชีที่มีสเปรด 0
  • วิธีการฝากเงินกว่า 200 รูปแบบและสามารถถอนเงินได้ทันที
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมข้ามคืนสำหรับฟอเร็กซ์คู่หลักและทองคำ
  • ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดทองคำ
  • การสนับสนุนลูกค้าในภาษาไทย

ข้อเสีย

  • สเปรดของบัญชี Standard ค่อนข้างกว้าง
  • ฝากเงินขั้นต่ำ $500 สำหรับการใช้งาน copy trading
  • หมวดหมู่การศึกษายังมีจำกัด
  • การปกป้องยอดติดลบขึ้นอยู่กับกรณี

รายละเอียดของโบรกเกอร์

ประเภทของบัญชีและฟีเจอร์การใช้งาน

หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Exness ที่ผมเจอคือประเภทบัญชีที่สามารถใช้ในการเทรด

บัญชี Standard ของพวกเขามีความสามารถในการแข่งขัน โดยมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.2 pips (เฉลี่ย 0.9 pips) โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน ซึ่งต่ำกว่าที่ผมเห็นจากโบรกเกอร์อื่นๆ (เริ่มต้นที่ 0.6 pips)

ขณะที่ บัญชี Pro ต้องการเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่า $200 (เมื่อเทียบกับบัญชี Standard ที่ $10) แต่ให้สเปรดที่แคบลง เริ่มต้นที่ 0.1 pips (เฉลี่ย 0.6 pips) และมีการดำเนินการคำสั่งทันที

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากขึ้น คุณจะมีตัวเลือกพรีเมียมสองตัวเลือก บัญชี RAW ซึ่งมีสเปรด 0 pip พร้อมค่าคอมมิชชัน $3.50 ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม

แต่สำหรับผมแล้ว บัญชี Zero คือจุดเด่นจริงๆ โดยมีสเปรด 0 บนเครื่องมือที่เทรดมากที่สุด 30 ตัวและค่าคอมมิชชันเพียง $0.05 ต่อล็อตต่อฝั่ง สำหรับดัชนี และสำหรับคู่เงินหลัก ค่าคอมมิชชันอยู่ระหว่าง $3.50 ถึง $4.50 และอาจสูงกว่านี้สำหรับบางคู่เงินอื่นๆ

ซึ่งทั้งสองบัญชีนี้ต้องการเงินฝากขั้นต่ำ $200 นอกจากนี้ Exness ยังมีบัญชี Cent Standard สำหรับการเทรดไมโครล็อต บัญชีการเทรดสังคมสองบัญชี และบัญชีทดลองที่มีเงินเสมือน $10,000 สำหรับการฝึกเทรด

ทุกบัญชีสามารถใช้งานได้กับ MetaTrader 5 และแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น MT4, แอป Exness และเทอร์มินัลของ Exness คุณยังสามารถเลือกตัวเลือกที่ปราศจากสว็อป (swap-free) หากคุณเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามและต้องการเทรดให้สอดคล้องกับกฎหมายชะรียะ

การเทรดทองคำ

หากคุณกำลังมองหาสเปรดที่แข่งขันได้ซึ่งให้คุณได้เปรียบในการเทรดอัลกอริธึม Exness มอบข้อได้เปรียบที่น่าสนใจในทุกประเภทของ CFDs ของพวกเขา แม้ว่าการเสนอฟอเร็กซ์ของพวกเขาจะน่าประทับใจ (ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น) แต่พวกเขาก็มีการเทรดในตลาดอื่นๆ รวมถึงหุ้น, สกุลเงินดิจิทัล, ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์

สำหรับผมแล้ว การเทรดทองคำโดดเด่นเป็นพิเศษ โดยมีสเปรดกับ USD เฉลี่ยที่ 0.16 pips แต่คุณยังสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของทองคำเทียบกับยูโร, GBP, และ AUD ความยืดหยุ่นเดียวกันนี้ใช้กับการเทรดเงิน ซึ่งทำให้คุณสามารถกระจายกลยุทธ์โลหะมีค่าไปยังคู่เงินต่างๆ ได้

Exness ยังมีการครอบคลุมสินค้าโภคภัณฑ์ด้วยโลหะอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์พลังงาน คุณสามารถเข้าถึงการเลือกที่ครอบคลุมของโลหะ 6 ชนิด ตั้งแต่โลหะที่มีการเทรดมากที่สุดไปจนถึงโลหะอุตสาหกรรมพิเศษ สำหรับเทรดเดอร์พลังงาน พวกเขามีการเสนอการเทรดในสัญญาน้ำมันหลัก (WTI และ Brent) รวมถึงก๊าซธรรมชาติ

สินค้าโภคภัณฑ์สเปรดเฉลี่ยสินค้าโภคภัณฑ์สเปรดเฉลี่ย
XAGAUDm9.3XAUAUDm454
XAGEURm5.5XAUEURm329.2
XAGGBPm4.6XAUGBPm328
XAGUSDm4.2XAUUSDm0.16
XZNUSDm
Zinc
54.7XPBUSDm
Lead
57
XPTUSDm
Platinum
55.3XNIUSDm
Nickel
683.75
XPDUSDm
Palladium
165.1XCUUSDm
Copper
80.7
XNGUSDm
Natural Gas vs US Dolla
35.6USOILm
Crude Oil
1.7
UKOILm
Crude Oil Brent
9.8

ตัวเลือกเลเวอเรจจำนวนสูง

Exness มอบเลเวอเรจที่สามารถปรับแต่งได้ โดยมีอัตราส่วนตั้งแต่ 1:1 ถึง 1:ไม่จำกัด ยิ่งคุณมีเงินทุนในบัญชีเทรดมากเท่าไร อัตราส่วนเลเวอเรจที่คุณสามารถใช้ก็จะยิ่งต่ำลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะเลเวอเรจมีความเสี่ยง ดังนั้นการใช้เลเวอเรจสูง (เช่น 1:30 ขึ้นไป) จึงไม่เป็นที่แนะนำสำหรับที่พึ่งเริ่มต้นเทรด

ด้วยเหตุนี้ Exness จึงมีข้อจำกัดในการใช้งานฟังก์ชันเลเวอเรจ 1:ไม่จำกัด สำหรับผู้ใช้งาน โดยมีกฎการบริหารความเสี่ยงดังนี้:

  1. เงินทุนในบัญชีเทรดน้อยกว่า 1,000 USD
  2. คุณต้องปิดคำสั่งอย่างน้อย 10 คำสั่ง (ไม่รวมคำสั่งที่รอดำเนินการ) โดยมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 5 ล็อต (หรือ 500 เซ็นต์ล็อต)
  3. ต้องเป็นคู่เงินหลักหรือคู่เงินฟอเร็กซ์ที่รองลงมา หรือสินค้าโภคภัณฑ์โลหะ
เงินทุนเลเวอเรจ
USD 0 - 999.99
1:ไม่จำกัด (หากผ่านเกณฑ์)
1:2000 (ค่าเริ่มต้นใช้งาน)
USD 1 000 - 4 999.91:2000
USD 5 000 - 29 999.991:1000
USD 30 000 หรือมากกว่า1:500

2. Pepperstone โบรกเกอร์ MT5 ที่ดำเนินการคำสั่งเร็วที่สุด

Pepperstone

Forex Panel Score

98

Average Spread

EUR/USD = 0.1
GBP/USD = 0.3
AUD/USD = 0.2

Trading Platforms

MT4, MT5, cTrader, TradingView

Minimum Deposit

$0

ทำไมเราถึงแนะนำ

ผมได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากกับโบรกเกอร์ CFD อย่าง Pepperstone ในการใช้งาน MetaTrader 5 ผมพบว่าโบรกเกอร์ใช้เวลาในการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วมาก (77ms สำหรับคำสั่ง limit จากการทดสอบของผม)

นอกจากนี้พวกเขายังมีเครื่องมือการคัดลอกการเทรด (Signal Start และ Copy Trading) และสเปรดต่ำ (เริ่มต้นที่ 0 pips) ในบัญชี Razor ทำให้การเทรดคู่ฟอเร็กซ์ 93 คู่ของพวกเขามีความสะดวกและมีประสิทธิภาพ

ในฐานะโบรกเกอร์แบบ no-dealing-desk และได้รับการกำกับดูแลจาก 7 เขตอำนาจ รวมถึง FCA, ASIC, CySEC และ SCB ของไทย ทำให้ผมมีความเชื่อมั่นสูงใน Pepperstone และด้วยปริมาณการเทรดรายวัน US$12.55bn พวกเขาคือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผมไม่ใช่คนเดียวที่มีความเห็นเช่นนี้

Pros & Cons

ข้อดี

  • ความเร็วในการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วมาก
  • การเข้าถึงคู่สกุลเงิน 93 คู่
  • การเชื่อมต่อกับ MT4, MT5, cTrader และ TradingView
  • เครื่องมือการคัดลอกการเทรดที่มีประสิทธิภาพสูง

ข้อเสีย

  • ทรัพยากรการศึกษาจำกัด
  • ไม่มีการรับประกันการหยุดขาดทุน (Guaranteed Stop Loss)

รายละเอียดของโบรกเกอร์

ภาพรวมฟีเจอร์ของ Pepperstone

จากประสบการณ์ของผม Pepperstone มีบัญชีเทรดสองประเภทที่เหมาะกับสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน:

  1. บัญชี Standard: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น โดยบัญชีนี้มีสเปรดผันแปรเริ่มต้นที่ 1.0 pips และไม่มีค่าคอมมิชชัน
  2. บัญชี Razor: ออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูง และบัญชีนี้มี RAW Spread เริ่มต้นที่ 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชันเล็กน้อยเริ่มต้นที่ $3 ต่อล็อตต่อฝั่ง

ผมยังพบว่าแพลตฟอร์มการเทรดของพวกเขามีความยืดหยุ่นอย่างมาก เพราะ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader และ TradingView แต่ละตัวเสนอเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในกลยุทธ์การเทรดแต่ละประเภท

Pepperstone มักจะถูกเปรียบเทียบกับ AvaTrade ในเรื่องของข้อเสนอที่ครอบคลุมและการได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ ด้วยเครื่องมือการเทรดมากกว่า 1,200 รายการและเลเวอเรจสูงสุด 1:500 สำหรับลูกค้าระดับมืออาชีพ และการกำกับดูแลโดย ASIC ก็ส่งให้ Pepperstone กลายเป็นโบรกเกอร์ในใจใครหลายคนได้อย่างไม่ต้องสงสัย

และหากคุณชอบ Copy trade เหมือนผม คุณจะชื่นชอบการเชื่อมต่อระหว่าง MetaTrader 5 กับ Myfxbook และ DupliTrade ที่โบรกเกอร์มีให้อย่างแน่นอน

ความเร็วในการดำเนินการคำสั่งของ Pepperstone

เพื่อนร่วมงานของผม Ross Collins ได้ทดสอบโบรกเกอร์ 20 รายสำหรับความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง และจากการทดสอบของเขา Pepperstone ใช้เวลาการดำเนินการคำสั่ง limit ที่ 77 มิลลิวินาที และคำสั่ง market ที่ 100 มิลลิวินาที ซึ่งทำให้ Pepperstone เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด

แม้การทดสอบของเขาจะพบว่ายังมีโบรกเกอร์อื่นที่ทำได้ดีกว่า นั่นก็คือ BlackBull Markets และ Fusion Markets แต่เมื่อพิจารณาถึงความน่าประทับใจโดยรวมแล้ว ความแตกต่างของตัวเลขเวลาก็ยังค่อนข้างน้อยอยู่

ความเร็วนี้มาจากโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ซึ่งช่วยลดความล่าช้าและเพิ่มประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น เช่น FP Markets ผมพบว่า Pepperstone โดดเด่นกว่าในเรื่องของประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้ MQL5 สำหรับกลยุทธ์การทำงานอัตโนมัติ

ตารางความเร็วในการดำเนินการ
BrokerLimit Order SpeedMarket Order Speed
Pepperstone77100
Eightcap143139
BlackBull Markets7290
IC Markets134153
XM148184
FxPro151138

สำหรับเทรดเดอร์อย่างผมที่ต้องพึ่งพาการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็วเพื่อทำกไร การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วนี้ช่วยลดความเสี่ยงจาก slippage และช่วยให้สามารถเข้าจุดเข้าและจุดออกได้อย่างแม่นยำ

ตารางความเร็วในการดำเนินการ
BrokerLimit Order SpeedMarket Order Speed
Pepperstone77100
Eightcap143139
BlackBull Markets7290
IC Markets134153
XM148184
FxPro151138

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

ผมประทับใจกับการเลือกเครื่องมืออันหลากหลายจาก Pepperstone ซึ่งช่วยให้ผมสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายได้ และในแง่ผลิตภัณฑ์ พวกเขาเสนอฟอเร็กซ์กว่า 93 คู่สกุลเงิน พร้อมกับ 3 ดัชนีสกุลเงิน

แต่สิ่งที่ยกระดับประสบการณ์การเทรด MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์และการเทรดแบบกระจาย คือการครอบคลุมไปยังหุ้น ด้วย CFD หุ้น 1,200 ตัวจากตลาดหลักทั่วโลก และ ETFs มากกว่า 100 ตัว

ผลิตภัณฑ์ของ Pepperstone ไปไกลเกินกว่าฟอเร็กซ์ ผมสามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ (โลหะ 4 ชนิด, พลังงาน 4 ชนิด และสินค้าโภคภัณฑ์แบบอ่อน 16 ชนิด) นอกจากนี้ยังสามารถเปิดตำแหน่งในดัชนีทั่วโลกได้ถึง 23 ตัว และเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัล 26 สกุลพร้อมดัชนีคริปโต 3 ตัว (crypto10, crypto20 และ crypto30)

ตัวเลือกที่หลากหลายนี้ทำให้ผมสามารถกระจายพอร์ตและการป้องกันความเสี่ยงในสภาวะตลาดที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี

  • ฟอเร็กซ์: 93 คู่สกุลเงิน ครอบคลุมคู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง และคู่สกุล exotic และ 3 ดัชนีสกุลเงิน
  • สินค้าโภคภัณฑ์: โลหะ 4 ชนิด, พลังงาน 4 ชนิด และสินค้าโภคภัณฑ์แบบอ่อน 16 ชนิด
    ดัชนี: ดัชนี 23 ตัว
  • สกุลเงินดิจิทัล: เงินดิจิทัล 26 สกุล พร้อมดัชนีคริปโต 3 ตัว (crypto10, crypto20 และ crypto30)
  • หุ้น: CFD 1,200 รายการในหุ้นจากตลาดหลักทั่วโลก
  • ETFs มากกว่า 100 ตัว

3. Eightcap โบรกเกอร์ MT5 กับตัวเลือกคริปโตที่หลากหลายที่สุด

Eightcap

Forex Panel Score

75

Average Spread

EUR/USD = 0.6 GBP/USD = 0.3 AUD/USD = 0.2

Trading Platforms

MT4, MT5, TradingView, Capitalise.ai

Minimum Deposit

$100

ทำไมเราจึงแนะนำ

จากการทดสอบของผม ผมให้คะแนน Eightcap ที่ 75/100 เนื่องจากโบรกเกอร์ทำผลงานได้ดี ด้วยค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำในบัญชี Raw (เริ่มต้นจาก 0 pips) และเครื่องมือการเทรดที่ยอดเยี่ยมรวมถึง Capitalise.ai.

Eightcap ทำให้ผมประทับใจด้วยการเสนอสินทรัพย์คริปโตที่หลากหลายที่สุด รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 95 รายการ ซึ่งทำให้ Eightcap เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการเทรดคริปโตกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลและมีสเปรดที่แคบ

Pros & Cons

ข้อดี

  • คลังสินทรัพย์คริปโตที่หลากหลายที่สุด
  • เครื่องมืออัตโนมัติฟรีจาก Capitalise.ai
  • สเปรดแคบในบัญชี Raw เริ่มต้นจาก 0 pips

ข้อเสีย

  • ไม่มีการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
  • ต้องมีการฝากเงินขั้นต่ำ
  • ตลาดการเทรดนอกเหนือจากคริปโตค่อนข้างจำกัด

รายละเอียดของโบรกเกอร์

เทรดคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 95 สกุลบน MetaTrader 5

Eightcap เสนอการเข้าถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่หลากหลายที่สุดเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่ผมได้ทดสอบ โดยมีคริปโตมากกว่า 95 สกุลให้เลือกเทรดบน MetaTrader 5 โดยมีตลาดให้เลือกเทรดตั้งแต่ Bitcoin และ Ethereum ไปจนถึงเหรียญทางเลือก (altcoins) เช่น DOGE ซึ่งคุณสามารถวิเคราะห์และทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้หลากหลายทางอย่างที่ไม่มีโบรกเกอร์รายอื่นเสนอในแพลตฟอร์มของพวกเขา

โบรกเกอร์จำนวนคริปโตเคอร์เรนซีบน MT5
Eightcap95
Exness30
Pepperstone27
IC Markets18
Tickmill9
FBS5

หากคุณต้องการเทรดตลาดคริปโตในจำนวน 95 สกุลนี้ ผมพบว่า คุณสามารถเข้าถึงได้เฉพาะบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 เท่านั้น เนื่องจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ของ Eightcap (เช่น TradingView และ MT4) มีจำนวนตลาดให้เลือกน้อยกว่า

เหตุผลสำคัญที่ผมแนะนำ Eightcap หากคุณต้องการเทรดคริปโตคือ พวกเขาเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ดังนั้นเงินทุนของคุณจะได้รับการคุ้มครอง และเงื่อนไขการเทรดก็มีความปลอดภัย เมื่อเปรียบเทียบกับการเทรดผ่านการแลกเปลี่ยนคริปโตที่บางครั้งอาจไม่ถูกกำกับดูแลและอาจมีเงื่อนไขการเทรดที่ไม่เป็นมิตร การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในความเห็นของผม

ปรับใช้กลยุทธ์การเทรดของคุณโดยอัตโนมัติด้วย Capitalise.ai

ผมเคยอยากลองทำให้กลยุทธ์การเทรดของตัวเองใช้งานได้อย่างอัตโนมัติ แต่ไม่เคยมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมมาก่อน ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมสนใจ Capitalise.ai บน Eightcap คือเครื่องมือนี้ให้คุณสามารถพิมพ์กฎการเทรดของคุณลงในระบบ AI และมันจะทำให้กลยุทธ์การเทรดของคุณเป็นอัตโนมัติในไม่กี่นาทีโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยแม้แต่บรรทัดเดียว

ที่ดีที่สุดคือ หลังจากที่คุณตั้งค่าการทำงานอัตโนมัติเสร็จแล้ว คุณสามารถทดสอบกลยุทธ์นี้ผ่านการ backtest หรือจำลองการเทรดในบัญชีจำลองเพื่อรับข้อมูลในเวลาจริงและดูว่ามันทำงานอย่างไรโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง ผมพบว่าเครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์มากเพราะช่วยให้ผมได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลยุทธ์ และสามารถปรับแต่งมันให้ดียิ่งขึ้นก่อนที่จะนำไปใช้จริงในบัญชี MetaTrader 5 ของผม

เครื่องมือการเทรดขั้นสูงกับ Eightcap

 

4. IC Markets โบรกเกอร์ MT5 ที่มีข้อเสนอบัญชีเทรดสเปรดต่ำ

IC Markets

Forex Panel Score

85

Average Spread

EUR/USD = 0.02
GBP/USD = 0.23
AUD/USD = 0.03

Trading Platforms

MT4, MT5, cTrader, TradingView

Minimum Deposit

$200

ทำไมเราถึงแนะนำ IC Markets

ผมสามารถยืนยันได้ว่า IC Markets มีสเปรดที่แข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยผลการทดสอบของเราพบว่า บัญชีประเภท Standard ของพวกเขามีสเปรดเฉลี่ยเพียง 1.03 pips มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้มากกว่า 2250 รายการ และสามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 พร้อมบริการ VPS ฟรี และให้สภาพแวดล้อมการเทรดด้วย MT5 ที่ยอดเยี่ยม

IC Markets เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ในฐานะโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการทำธุรกรรมมูลค่า US$1.64 ล้านล้านต่อเดือนจากลูกค้ามากกว่า 200,000 ราย โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของพวกเขารองรับการทำธุรกรรมได้มากถึง 500,000 รายการต่อวัน (สองในสามเป็นการเทรดอัตโนมัติ) ผ่านผู้ให้บริการสภาพคล่องกว่า 25 ราย คะแนน

โบรกเกอร์นี้มีคะแนน TrustPilot อยู่ที่ 4.8/5 และให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง/7 วัน แสดงให้เห็นถึงคุณภาพการบริการของพวกเขา

Pros & Cons

ข้อดี

  • สเปรดต่ำ เริ่มต้นที่ 0.0 pips
  • บัญชีหลากหลายประเภท เพื่อรองรับสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน
  • เข้าถึงเครื่องมือการเทรดหลากหลาย
  • แพลตฟอร์มการเทรดขั้นสูง รวมถึง MT5

ข้อเสีย

  • กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ $200
  • ทรัพยากรการศึกษาที่จำกัดสำหรับผู้เริ่มต้น

รายละเอียดโบรกเกอร์

สเปรดต่ำ

หลังจากการวิเคราะห์สเปรดในตลาดฟอเร็กซ์อย่างละเอียด ผมมั่นใจในการประเมินของผมว่า IC Markets เสนอสเปรดที่ต่ำที่สุดในบัญชีประเภท Standard ในอุตสาหกรรมนี้ เพื่อนร่วมงานของผม Ross Collins ได้ทำการทดสอบโบรกเกอร์ 20 ราย โดยใช้แพลตฟอร์มการเทรด MT4 บัญชี Standard และทำการวัดผลในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในสองสัปดาห์

จากการตรวจสอบผลเฉลี่ยของสเปรด ผมพบว่า IC Markets มีสเปรดที่ดีที่สุด โดยมีค่าคงที่ไม่ว่าจะทดสอบด้วยคู่เงินใดก็ตาม IC Markets นำหน้าโดยมีค่าเฉลี่ยแค่ 0.73 pips สำหรับ EUR/USD, 0.82 pips สำหรับ AUD/USD และ 1.15 pips สำหรับ GBP/USD โบรกเกอร์ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ CMC Markets โดยมีสเปรด 0.80, 0.77 และ 1.08 pips ตามลำดับ

จากข้อมูลนี้และผลการทดสอบของเรา ผมเชื่อมั่นว่า IC Markets เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการบัญชีที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ข้อได้เปรียบของค่าสเปรดชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์กับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่ได้รับการทดสอบ

การทดสอบสเปรดมาตรฐาน โดย Ross Collins
0.73 0.82 1.15 1.09 1.00
1.21 1.24 1.50 1.55 1.60
1.06 1.00 1.86 1.55 1.75
1.16 1.34 1.49 1.55 1.70
1.34 1.69 1.78 2.00 1.82
1.59 2.49 2.10 1.87 2.28

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 12/01/2024

IC Markets เสนอสเปรดที่แคบยิ่งขึ้น เริ่มต้นที่ 0 pips แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นสำหรับการใช้บริการนี้
ในการทดสอบบัญชี RAW ของผม พบว่าโบรกเกอร์เฉลี่ยสเปรดเพียง 0.19 pips สำหรับ EUR/USD ซึ่งต่ำกว่าค่าสเปรดของบัญชี Standard ถึง 73% และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 0.27 pips (คำนวณจากการเฉลี่ยของโบรกเกอร์ทั้งหมดที่ Ross ทดสอบ)

นี่ทำให้บัญชี RAW เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการเทรดฟอเร็กซ์ แม้ว่าจะต้องเสียค่าคอมมิชชันที่ $3.50 ต่อการเทรด 1 ล็อตก็ตาม

การเปรียบเทียบสเปรด – บัญชี RAW

RAW Spreads Tested By Ross Collins
0.19 0.19 0.41 0.36 0.61
0.19 0.23 0.27 0.24 0.24
0.20 0.48 0.44 0.47 0.64
0.15 0.37 0.59 0.67 0.50
0.46 0.85 0.96 1.04 1.01
0.20 0.31 0.31 0.39 0.51

Avg. spreads are taken from each broker's website and updated monthly. Last update on 12/01/2024

สำหรับผมแล้ว ผมชอบบัญชี RAW เนื่องจากค่าธรรมเนียมมีความแน่นอนและสเปรดที่แคบกว่าทำให้ต้นทุนของผมไม่ขยายตัวมากเกินไปในช่วงเวลาที่มีความผันผวน นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องการขาดทุน (stop losses) เพราะสเปรดจะไม่ขยายตัวมากจนกระทบกับราคาซื้อ/ขาย และทำให้เราถูกออกจากการเทรดเร็วเกินไป

ลดต้นทุนการเทรดด้วยโปรแกรม RAW Trader Plus

ผมพบว่าโปรแกรม Raw Trader Plus มีระบบการคืนเงิน (rebate) ที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยลดค่าธรรมเนียมการเทรดในบัญชี RAW ได้อย่างมีนัยสำคัญ การคืนเงินเริ่มต้นที่ $1.50 และสูงสุดถึง $2.50 ต่อการเทรด 1 ล็อต ขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรดของคุณ ซึ่งสามารถลดต้นทุนการเทรดได้สูงสุดถึง 70%

พูดง่ายๆ คือ คุณสามารถเทรดด้วยค่าธรรมเนียมเพียงแค่ $1 ต่อการเทรด 1 ล็อต ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง (ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุดที่ผมเคยเห็น)

เพื่อให้มีสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรมนี้ คุณต้องเทรดขั้นต่ำ 100 ล็อตต่อเดือนเพื่อเป็นสมาชิกระดับ Tier-1 ซึ่งผมคิดว่าเป็นเป้าหมายที่ทำได้ง่ายสำหรับเทรดเดอร์รายวันและสเกลเปอร์ ที่ด้านล่างคือลิสต์ข้อเสนอของโบรกเกอร์เกี่ยวกับการคืนเงิน (rebates) และส่วนลดที่แต่ละ Tier มอบให้

โปรแกรมเงินคืน IC Markets สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

เครื่องมือการเทรดของ IC Markets

ผมพบว่า IC Markets มีเครื่องมือการเทรดที่หลากหลายซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์การเทรดของคุณได้อย่างดีเยี่ยม ได้แก่:

  • Virtual Private Server (VPS): สำหรับการเทรดที่รวดเร็วและราบรื่น เหมาะสำหรับการใช้งานกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ
  • MetaTrader 4 Advanced Tools: รวมเครื่องมือการเทรด 20 รายการที่ส่งเสริมการทำงานของ MT4 เช่น Mini Terminal, Correlation Trader และ Alarm Manager
  • IC Insights: การวิเคราะห์ตลาดที่จัดทำโดย TipRanks สำหรับ CFDs ของหุ้น
  • Trading Central: เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคระดับมืออาชีพ ที่ตรวจสอบตลาดทุกวันเพื่อค้นหาโอกาสทำกำไรในการเทรด ซึ่งคุณสามารถกดคัดลอกได้

5. Tickmill ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ

Tickmill

Forex Panel Score

64

Average Spread

EUR/USD = 0.1 GBP/USD = 0.3 AUD/USD = 0.10

Trading Platforms

MT4, MT5, TradingView, cTrader, BlackBull CopyTrader

Minimum Deposit

$0

ทำไมเราถึงแนะนำ

ในการทดสอบโบรกเกอร์ของผม ผมให้คะแนน Tickmill ที่ 74/100 หลังจากที่ได้รับความประทับใจจากต้นทุนการเทรดของพวกเขาที่เสนอ สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips พร้อมค่าธรรมเนียมที่ถูกเพียง $3.00 ต่อการเทรด 1 ล็อต นอกจากนี้ ผมยังพบว่าโบรกเกอร์นี้ให้การสนับสนุนลูกค้าด้วยเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการหากลยุทธ์การเทรดผ่าน Signal Centre และ Advanced Trading Toolkit

Tickmill ได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์มากกว่า 750,000 ราย และได้ดำเนินการเทรดกว่า 625 ล้านรายการนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2011 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประวัติการทำงานที่น่าพอใจสำหรับลูกค้า

Pros & Cons

ข้อดี

  • สเปรดที่แข่งขันได้ เริ่มต้นที่ 0.0 pips
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:500
  • รองรับกลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย รวมถึง scalping และ hedging
  • เสนอแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

ข้อเสีย

  • การสนับสนุนลูกค้ามีวันเวลาทำการที่จำกัด
  • จำนวนเครื่องมือการเทรดที่ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางราย
  • ทรัพยากรการศึกษาที่ยังไม่หลากหลายเท่าที่ควร

รายละเอียดของโบรกเกอร์

ค่าธรรมเนียมต่ำสุดบนบัญชี RAW

ในการทดสอบโบรกเกอร์ของผม ผมพบว่า ค่าธรรมเนียมของ Tickmill เป็นหนึ่งในค่าธรรมเนียมที่ถูกที่สุดในประเทศไทย โดยบัญชี RAW คิดค่าธรรมเนียมเพียง $3.00 ต่อการเทรด 1 ล็อต เมื่อเทียบกับบัญชี RAW จากโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ คุณจะประหยัดได้ถึง 15% ซึ่งเป็นการประหยัดที่มีนัยสำคัญสำหรับผลกำไรของคุณ โดยเฉพาะหากคุณเทรดในปริมาณมาก ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

โบรกเกอร์USD
Tickmill$3.00
Exness$3.50
Pepperstone$3.50
IC Markets$3.50

Tickmill สามารถทำเช่นนี้ได้เพราะพวกเขามีการดำเนินการแบบ ECN ซึ่งให้สเปรดที่แคบกว่า (เริ่มต้นที่ 0 pips) แต่โบรกเกอร์จะทำกำไรจากค่าธรรมเนียมแทน การใช้บัญชี RAW จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากไม่เพียงแต่ราคาถูกกว่า แต่ผมยังพบว่าความเร็วในการดำเนินการและเงื่อนไขการเทรดนั้นดีกว่าอีกด้วย

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับบัญชีของ Tickmill ผมได้สร้างตารางด้านล่างเพื่อแสดงมูลค่าในดอลลาร์ต่อการเทรด 1 ล็อตระหว่างบัญชีต่างๆ ดังที่เห็น บัญชี **RAW** ถูกกว่าบัญชี **Standard** มากกว่า 50% ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า และการประหยัดนี้จะสะสมไปอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเวลาผ่านไป

บัญชีค่าธรรมเนียมทั้งหมด(ปิด 1 ล็อตการเทรด)ค่าธรรมเนียมเฉลี่ย
(pips)
ค่าธรรมเนียมที่มีผล
(ค่าธรรมเนียม + สเปรด)
$ ต้นทุนต่อล็อต
(EUR/USD)
RAW$6.00
(0.60 pips)
0.150.75$7.50
StandardCommission Free1.601.60$16.00

เครื่องมือการเทรดที่ยอดเยี่ยมสำหรับ MetaTrader 5

ผมพบว่า Tickmill มีเครื่องมือการเทรดหลายตัวที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเทรดบน MetaTrader 5 ของคุณได้

หนึ่งในเครื่องมือหลักที่ Tickmill เสนอคือ Advanced Trading Toolkit ซึ่งมาพร้อมกับ 13 Expert Advisors ที่ช่วยในการจัดการการเทรด และ 15 ตัวบ่งชี้ใหม่สำหรับ MT5 ผมพบว่าเครื่องมือ High-Low และ Pivot Point เป็นอินดิเคเตอร์ที่ยอดเยี่ยมในการหาพื้นที่ในตลาดที่อาจจะทะลุขึ้นไปหรือมีการกลับตัว

Tickmill ยังมี Capitalise.ai ที่ช่วยให้คุณโปรแกรมกลยุทธ์การเทรดของคุณโดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ด ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องมือ backtesting และ deployment บน MT5 ผมไม่ค่อยเห็นโบรกเกอร์เสนอเครื่องมือเหล่านี้ ดังนั้นการใช้ Expert Advisor ผ่าน MT5 จึงเป็นโอกาสที่ดีหากคุณต้องการทำให้กลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ของคุณเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องเรียนรู้การเขียนโค้ด

ใช้ Capitalise.ai สำหรับการเทรดอัลกอริทึมกับ Tickmill

เครื่องมืออีกตัวที่ผมอยากจะพูดถึงคือ Signal Centre โดย Acuity ซึ่งจะทำการสแกนและค้นหาความคิดในการเทรด พร้อมกับระดับการเข้าซื้อ การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) และการตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit) บน MT5 หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นในการเทรด ผมคิดว่าเครื่องมือนี้จะเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากคุณสามารถใช้สัญญาณที่ได้รับเพื่อพัฒนาความเข้าใจในการวิเคราะห์และรับความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญได้

นอกจากนี้ยังมี อินดิเคเตอร์ ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณได้เช่นกัน

ตัวเลือกของตลาดหลากหลายพร้อมกับเลเวอเรจสูง

MetaTrader 5 คือตัวเลือกที่ทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์สูงสุด จากเครื่องมือการเงินกว่า 600 รายการของ Tickmill ซึ่งรวมถึงตลาดฟอเร็กซ์กว่า 60 ตลาด, หุ้นกว่า 500 ตัว, ดัชนี 20 ตัว, คริปโตเคอเรนซี 9 ตัว และสินค้าโภคภัณฑ์ 11 ตัว ในฐานะที่เป็นเทรดเดอร์ชาวไทย คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจสูงถึง 1:1000 ในตลาดฟอเร็กซ์ และ 1:200 ในตลาดคริปโตเคอเรนซีของ Tickmill ได้ด้วย

6. FBS เทรดผ่าน MT5 โดยใช้เลเวอเรจสูง

FBS

Forex Panel Score

60

Average Spread

EUR/USD = 0.9 GBP/USD = 0.1 AUD/USD = 0.15

Trading Platforms

FBS App, MT4, MT5

Minimum Deposit

$5

ทำไมเราถึงแนะนำ

ผมเลือก FBS เป็นโบรกเกอร์อันดับต้นๆ ที่น่าสนใจ เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงถึง 1:3000 สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุด ( Exness ) ถึง 1000 เท่า นอกจากนี้บัญชี Cent ของโบรกเกอร์ยังโดดเด่นมาก เพราะช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์การเทรดจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงขาดทุนสูง เนื่องจากขนาดการเทรดเริ่มต้นเพียง 10 หน่วย

คุณสามารถเพลิดเพลินกับ สเปรด แบบไม่มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 0.70 pips สำหรับคู่เงิน EUR/USD พร้อมกับการใช้เลเวอเรจสูงในตลาดกว่า 500 ตลาด ซึ่งครอบคลุมทั้งตลาดฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี

Pros & Cons

ข้อดี

  • เลเวอเรจสูงถึง 1:3000
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเปิด/ปิดตำแหน่ง
  • มีการป้องกันยอดติดลบเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม
  • มีวิธีการฝากและถอนเงินหลากหลายกว่า 200 วิธี
  • ให้บริการการถอนเงินทันที (Instant Withdrawals)

ข้อเสีย

  • พอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่จำกัด เน้นไปที่ CFD เป็นหลัก
  • ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าพร้อมให้บริการ 24/7 แต่สามารถติดต่อได้เพียงช่องทาง
  • อีเมล และ แชท
  • ทรัพยากรการศึกษาที่ควรขยายเพิ่มเติม

รายละเอียดของโบรกเกอร์

เทรดด้วยเลเวอเรจ 1:3000 บนคู่เงินหลัก

FBS เป็นโบรกเกอร์ที่มีเลเวอเรจสูงที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ไทยที่ผมได้ทดสอบ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเทรดด้วยเลเวอเรจสูงถึง 1:3000 บนคู่เงินฟอเร็กซ์ เมื่อมีเลเวอเรจสูงนี้ คุณสามารถควบคุมตำแหน่งขนาด 1 ล็อตบน EUR/USD ด้วยมาร์จิ้นเพียง $33 ทำให้การเทรดเป็นเรื่องที่สามารถเข้าถึงได้แม้คุณจะมียอดเงินเทรดเริ่มต้นที่ไม่สูง

อย่างไรก็ตาม ในการทดสอบโบรกเกอร์นี้ ผมพบว่าเลเวอเรจที่ FBS เสนอมีความผันผวนตามปริมาณการเทรดของคุณ โดยเลเวอเรจสูงสุดที่ 1:3000 จะให้กับบัญชีที่มียอดเงินในบัญชีระหว่าง $0-199 ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น แต่เมื่อยอดเงินในบัญชีของคุณเพิ่มขึ้น เลเวอเรจที่สามารถใช้ได้จะลดลง ตามภาพที่แสดงด้านล่างนี้

เทรดด้วยเลเวอเรจสูงสุด 1:3000 กับ FBS สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

บัญชี Cent ของ FBS สำหรับนักเทรดมือใหม่

สิ่งที่ผมชื่นชอบเกี่ยวกับ FBS คือการที่โบรกเกอร์นี้มีบัญชี Cent ซึ่งมีขนาดล็อตที่ลดลง ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการเปลี่ยนจากบัญชีทดลอง (Demo) ไปสู่บัญชีการเทรดจริง

บัญชี Cent ให้ขนาดล็อตที่ 1,000 หน่วย ซึ่งต่างจากบัญชี Standard ที่มีขนาดล็อต 100,000 หน่วย ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การเทรดจริงโดยไม่ต้องเผชิญกับการขาดทุนขนาดใหญ่ ผมเห็นว่าบัญชีประเภทนี้มีประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาความมั่นใจในการเทรด โดยที่ยังสามารถรับมือกับการขาดทุนเล็กน้อยได้ โดยเฉพาะหากคุณเทรดด้วย 0.01 ล็อต ซึ่งเท่ากับ 10 หน่วย บนบัญชี Cent

อย่างไรก็ตาม ผมพบว่า หากเลือกใช้บัญชี Cent เลเวอเรจที่คุณสามารถใช้ได้จะถูกจำกัดที่ 1:1000 แทนที่จะเป็น 1:3000 ที่มีในบัญชี Standard แต่ข้อดีของบัญชี Cent คือการมี สเปรดที่แคบ เริ่มต้นที่ 0.70 pips และการป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนเกินกว่าจำนวนเงินที่ฝากไว้ในบัญชี